อิสยาห์ 1
1
1นี่คือนิมิตของอิสยาห์ลูกชายของอามอส ที่เขาเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม เขาเห็นนิมิตนี้ในช่วงสมัยที่อุสซียาห์#1:1 อุสซียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในปี 767 ถึงประมาณปี 740 ก่อนพระเยซูมาเกิด โยธาม อาหัส#1:1 อาหัส เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในปี 735–727 ก่อนพระเยซูมาเกิด และเฮเซคียาห์#1:1 เฮเซคียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ในปี 715–687 ก่อนพระเยซูมาเกิด เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์
พระเจ้าต่อต้านคนของพระองค์
2ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ฟังให้ดี
เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า
“เราได้เลี้ยงดูลูกๆของเราและช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้น
แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา
3วัวยังรู้จักเจ้าของมัน
ลาก็ยังรู้จักที่ที่เจ้าของมันเลี้ยงอาหารมัน
แต่คนอิสราเอลไม่รู้จักเรา
คนของเราไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำให้กับเขา”
4ไง ไอ้ชนชาติที่บาปหนา
ไอ้พวกคนที่หนักอึ้งไปด้วยความเลวร้าย
ไอ้พวกลูกหลานที่ชอบทำชั่ว
ไอ้พวกลูกๆที่ชอบคดโกง
ไอ้พวกที่ทิ้งพระยาห์เวห์ไป
ไอ้พวกที่ดูถูกองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
ไอ้พวกที่หันหลังให้กับพระองค์
5ทำไมพวกเจ้าถึงหาเรื่องที่จะถูกเฆี่ยนตีอีก
ทำไมพวกเจ้าถึงยังคงกบฏต่อไป
ทั้งหัวก็ฟกช้ำไปหมด
ทั้งใจก็อ่อนเปลี้ยไปหมดแล้ว
6ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีอะไรดีเลย
ฟกช้ำดำเขียว และมีแผลสดๆเต็มไปหมด
พวกเขายังไม่ได้บีบหนองทำความสะอาด
หรือเอาผ้าพันแผลไว้
หรือใส่น้ำมันให้มันทุเลาลง
7แผ่นดินของพวกเจ้าถูกทำลาย
เมืองต่างๆถูกไฟเผา
คนต่างชาติได้กลืนกินแผ่นดินของพวกเจ้าไปต่อหน้าต่อตา
และมันก็ถูกทำลายไปเหมือนกับเมืองที่ถูกโค่นล้มลงโดยพวกคนต่างชาติ#1:7 ถูกโค่นล้มลงโดยพวกคนต่างชาติ ในที่นี้คงพูดถึงกองทัพอัสซีเรีย ที่บุกยูดาห์ ในปี 701 ก่อนพระเยซูมาเกิด
8มีแต่เยรูซาเล็ม#1:8 เยรูซาเล็ม หรือแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “นางสาวศิโยน” เท่านั้นที่เหลืออยู่
เหมือนกับเพิงที่โดดเดี่ยวอยู่ในสวนองุ่น
เหมือนที่พักที่โดดเดี่ยวอยู่ในไร่แตงกวา
เธอเป็นเมืองที่ถูกศัตรูโอบล้อม
9ถ้าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
ไม่เหลือผู้รอดชีวิตไว้บ้าง
พวกเราก็คงถูกทำลายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว
เหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์#1:9 เมืองโสโดมและโกโมราห์ เป็นสองเมืองที่พระเจ้าทำลายเพราะคนชั่วร้ายมาก ดูเพิ่มเติมได้จาก หนังสือปฐมกาล 19
10ไอ้พวกผู้นำของโสโดม ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ไว้
ไอ้ชาวเมืองโกโมราห์ ให้ฟังคำสอนของพระเจ้าของเราให้ดี
11พระยาห์เวห์พูดว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงยังเอาเครื่องบูชามากมายพวกนี้มาถวายให้กับเรา
เราได้รับอย่างเหลือเฟือแล้ว
ทั้งพวกแกะตัวผู้ที่เผาบูชาทั้งตัว และไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้จนอ้วนพี
เราไม่ชื่นชอบกับเลือดของพวกวัวผู้ ลูกแกะหรือแพะผู้
12เมื่อพวกเจ้าเข้ามาอยู่ต่อหน้าเรา
ใครเรียกให้พวกเจ้าเอาสัตว์มากมายพวกนี้มาเหยียบย่ำลานวิหารของเรา
13หยุดเอาเครื่องถวายที่ไร้สาระพวกนี้มาอีก
เราสะอิดสะเอียนเครื่องหอมที่เจ้าเผาให้กับเรา
เราทนไม่ไหวแล้วต่อเทศกาลข้างขึ้น#1:13 เทศกาลข้างขึ้น เป็นวันแรกของเดือนใหม่ของคนยิว เป็นวันสำคัญทางศาสนา วันหยุดทางศาสนา และการเรียกประชุมต่างๆของพวกเจ้า
การประชุมทางศาสนาพวกนี้ผสมไปด้วยความบาป
14ใจของเราเกลียดเทศกาลข้างขึ้นและเทศกาลอื่นๆของพวกเจ้า
พวกมันได้กลายเป็นภาระหนักให้กับเรา เราแบกมันไว้จนเหนื่อยแล้ว
15เมื่อเจ้ากางมือออกอธิษฐาน เราจะปิดตาของเรา
ถึงแม้เจ้าจะอธิษฐานมากมายขนาดไหน เราก็จะไม่ฟัง เพราะมือของเจ้าเปื้อนเลือด
16ล้างตัวเองและทำตัวเองให้สะอาดซะ
เอาสิ่งชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำนั้นไปให้พ้น เอามันไปให้ไกลจากสายตาเรา หยุดทำชั่วซะ
17ฝึกทำดี
ให้ความยุติธรรมกับคนอื่น
ช่วยกู้พวกที่ถูกกดขี่ข่มเหง
ปกป้องสิทธิให้กับเด็กกำพร้า
สู้คดีให้กับแม่ม่าย
18พระยาห์เวห์พูดว่า มาสู้ความกันเถอะ
ถึงแม้พวกบาปของเจ้าจะแดงสด พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนหิมะได้
ถึงแม้บาปพวกนั้นของเจ้าจะแดงเข้ม พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนขนแกะได้
19ถ้าพวกเจ้าจะยินยอมและเชื่อฟัง
เจ้าก็จะได้กินสิ่งดีๆจากแผ่นดินนี้
20แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมและกบฏ
เจ้าก็จะถูกศัตรูฆ่าฟัน
เพราะพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไปแล้ว”
เยรูซาเล็มไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า
21เมืองที่เคยสัตย์ซื่อได้กลายเป็นโสเภณีไปแล้ว
เมืองเยรูซาเล็ม เคยเต็มไปด้วยความยุติธรรม
ความดีเคยพักอยู่ที่นั่น
แต่เดี๋ยวนี้ กลับกลายเป็นที่พักของพวกฆาตกรไปแล้ว
22เงินของเจ้าได้กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว
เหล้าองุ่นของเจ้าก็ได้ผสมน้ำเจือจางไปแล้ว
23พวกผู้นำของเจ้าเป็นพวกกบฏที่ไปคบหากับพวกหัวขโมย
พวกเขาทุกคนรักสินบนและวิ่งตามของกำนัล
พวกเขาไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับพวกเด็กกำพร้าพ่อและไม่ยอมฟังคดีความของแม่ม่าย
24ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ทรงอำนาจของอิสราเอล พูดว่า
“ทีนี้ล่ะ ศัตรูของเราจะไม่ก่อปัญหาให้กับเราอีกแล้ว เพราะเราจะลงโทษพวกมันให้หมด
25เราจะโจมตีเจ้า เราจะหลอมละลายเจ้า
และเราจะขจัดสิ่งเจือปนออกไปจากเจ้าให้หมด
26แล้วเราจะให้พวกผู้พิพากษาที่ซื่อสัตย์กับเจ้าอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับที่เจ้าเคยมี
และให้ที่ปรึกษาที่ดีกับเจ้าเหมือนที่เจ้าเคยมีในตอนแรก
และหลังจากนั้น เจ้าจะถูกเรียกว่า ‘เมืองที่ทำตามใจพระเจ้า เมืองแห่งความซื่อสัตย์’”
27ศิโยนจะได้รับการไถ่ให้เป็นอิสระด้วยความยุติธรรม
และคนเหล่านั้นที่หันกลับมาหาพระยาห์เวห์ก็จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระด้วยการทำตามใจพระเจ้า
28แต่พวกที่กบฏและพวกคนบาปก็จะถูกขยี้ไปพร้อมๆกัน
และคนพวกนั้นที่ได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ก็จะตาย
29เพราะพวกเจ้าจะได้รับความอับอายเรื่องต้นโอ๊กศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าอยากได้นักหนานั้น
และพวกเจ้าจะต้องอับอายขายหน้ากับพวกสวนพิเศษที่พวกเจ้าบูชานั้น
30เพราะเจ้าจะเป็นเหมือนต้นโอ๊กที่มีใบเหี่ยวเฉา
และเป็นสวนที่ไม่มีน้ำ
31คนที่เข้มแข็งก็จะกลายเป็นเศษไม้จุดไฟ และงานของเขาจะเป็นเหมือนประกายไฟ
ทั้งสองอย่างก็จะไหม้ไปด้วยกันและจะไม่มีใครดับไฟนั้นได้
ที่ได้เลือกล่าสุด:
อิสยาห์ 1: THA-ERV
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
Bible League International
อิสยาห์ 1
1
1นี่คือนิมิตของอิสยาห์ลูกชายของอามอส ที่เขาเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม เขาเห็นนิมิตนี้ในช่วงสมัยที่อุสซียาห์#1:1 อุสซียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในปี 767 ถึงประมาณปี 740 ก่อนพระเยซูมาเกิด โยธาม อาหัส#1:1 อาหัส เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ในปี 735–727 ก่อนพระเยซูมาเกิด และเฮเซคียาห์#1:1 เฮเซคียาห์ เป็นกษัตริย์ของยูดาห์ในปี 715–687 ก่อนพระเยซูมาเกิด เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์
พระเจ้าต่อต้านคนของพระองค์
2ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ฟังให้ดี
เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า
“เราได้เลี้ยงดูลูกๆของเราและช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้น
แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา
3วัวยังรู้จักเจ้าของมัน
ลาก็ยังรู้จักที่ที่เจ้าของมันเลี้ยงอาหารมัน
แต่คนอิสราเอลไม่รู้จักเรา
คนของเราไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำให้กับเขา”
4ไง ไอ้ชนชาติที่บาปหนา
ไอ้พวกคนที่หนักอึ้งไปด้วยความเลวร้าย
ไอ้พวกลูกหลานที่ชอบทำชั่ว
ไอ้พวกลูกๆที่ชอบคดโกง
ไอ้พวกที่ทิ้งพระยาห์เวห์ไป
ไอ้พวกที่ดูถูกองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
ไอ้พวกที่หันหลังให้กับพระองค์
5ทำไมพวกเจ้าถึงหาเรื่องที่จะถูกเฆี่ยนตีอีก
ทำไมพวกเจ้าถึงยังคงกบฏต่อไป
ทั้งหัวก็ฟกช้ำไปหมด
ทั้งใจก็อ่อนเปลี้ยไปหมดแล้ว
6ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีอะไรดีเลย
ฟกช้ำดำเขียว และมีแผลสดๆเต็มไปหมด
พวกเขายังไม่ได้บีบหนองทำความสะอาด
หรือเอาผ้าพันแผลไว้
หรือใส่น้ำมันให้มันทุเลาลง
7แผ่นดินของพวกเจ้าถูกทำลาย
เมืองต่างๆถูกไฟเผา
คนต่างชาติได้กลืนกินแผ่นดินของพวกเจ้าไปต่อหน้าต่อตา
และมันก็ถูกทำลายไปเหมือนกับเมืองที่ถูกโค่นล้มลงโดยพวกคนต่างชาติ#1:7 ถูกโค่นล้มลงโดยพวกคนต่างชาติ ในที่นี้คงพูดถึงกองทัพอัสซีเรีย ที่บุกยูดาห์ ในปี 701 ก่อนพระเยซูมาเกิด
8มีแต่เยรูซาเล็ม#1:8 เยรูซาเล็ม หรือแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “นางสาวศิโยน” เท่านั้นที่เหลืออยู่
เหมือนกับเพิงที่โดดเดี่ยวอยู่ในสวนองุ่น
เหมือนที่พักที่โดดเดี่ยวอยู่ในไร่แตงกวา
เธอเป็นเมืองที่ถูกศัตรูโอบล้อม
9ถ้าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
ไม่เหลือผู้รอดชีวิตไว้บ้าง
พวกเราก็คงถูกทำลายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว
เหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์#1:9 เมืองโสโดมและโกโมราห์ เป็นสองเมืองที่พระเจ้าทำลายเพราะคนชั่วร้ายมาก ดูเพิ่มเติมได้จาก หนังสือปฐมกาล 19
10ไอ้พวกผู้นำของโสโดม ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ไว้
ไอ้ชาวเมืองโกโมราห์ ให้ฟังคำสอนของพระเจ้าของเราให้ดี
11พระยาห์เวห์พูดว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงยังเอาเครื่องบูชามากมายพวกนี้มาถวายให้กับเรา
เราได้รับอย่างเหลือเฟือแล้ว
ทั้งพวกแกะตัวผู้ที่เผาบูชาทั้งตัว และไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้จนอ้วนพี
เราไม่ชื่นชอบกับเลือดของพวกวัวผู้ ลูกแกะหรือแพะผู้
12เมื่อพวกเจ้าเข้ามาอยู่ต่อหน้าเรา
ใครเรียกให้พวกเจ้าเอาสัตว์มากมายพวกนี้มาเหยียบย่ำลานวิหารของเรา
13หยุดเอาเครื่องถวายที่ไร้สาระพวกนี้มาอีก
เราสะอิดสะเอียนเครื่องหอมที่เจ้าเผาให้กับเรา
เราทนไม่ไหวแล้วต่อเทศกาลข้างขึ้น#1:13 เทศกาลข้างขึ้น เป็นวันแรกของเดือนใหม่ของคนยิว เป็นวันสำคัญทางศาสนา วันหยุดทางศาสนา และการเรียกประชุมต่างๆของพวกเจ้า
การประชุมทางศาสนาพวกนี้ผสมไปด้วยความบาป
14ใจของเราเกลียดเทศกาลข้างขึ้นและเทศกาลอื่นๆของพวกเจ้า
พวกมันได้กลายเป็นภาระหนักให้กับเรา เราแบกมันไว้จนเหนื่อยแล้ว
15เมื่อเจ้ากางมือออกอธิษฐาน เราจะปิดตาของเรา
ถึงแม้เจ้าจะอธิษฐานมากมายขนาดไหน เราก็จะไม่ฟัง เพราะมือของเจ้าเปื้อนเลือด
16ล้างตัวเองและทำตัวเองให้สะอาดซะ
เอาสิ่งชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำนั้นไปให้พ้น เอามันไปให้ไกลจากสายตาเรา หยุดทำชั่วซะ
17ฝึกทำดี
ให้ความยุติธรรมกับคนอื่น
ช่วยกู้พวกที่ถูกกดขี่ข่มเหง
ปกป้องสิทธิให้กับเด็กกำพร้า
สู้คดีให้กับแม่ม่าย
18พระยาห์เวห์พูดว่า มาสู้ความกันเถอะ
ถึงแม้พวกบาปของเจ้าจะแดงสด พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนหิมะได้
ถึงแม้บาปพวกนั้นของเจ้าจะแดงเข้ม พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนขนแกะได้
19ถ้าพวกเจ้าจะยินยอมและเชื่อฟัง
เจ้าก็จะได้กินสิ่งดีๆจากแผ่นดินนี้
20แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมและกบฏ
เจ้าก็จะถูกศัตรูฆ่าฟัน
เพราะพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไปแล้ว”
เยรูซาเล็มไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า
21เมืองที่เคยสัตย์ซื่อได้กลายเป็นโสเภณีไปแล้ว
เมืองเยรูซาเล็ม เคยเต็มไปด้วยความยุติธรรม
ความดีเคยพักอยู่ที่นั่น
แต่เดี๋ยวนี้ กลับกลายเป็นที่พักของพวกฆาตกรไปแล้ว
22เงินของเจ้าได้กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว
เหล้าองุ่นของเจ้าก็ได้ผสมน้ำเจือจางไปแล้ว
23พวกผู้นำของเจ้าเป็นพวกกบฏที่ไปคบหากับพวกหัวขโมย
พวกเขาทุกคนรักสินบนและวิ่งตามของกำนัล
พวกเขาไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับพวกเด็กกำพร้าพ่อและไม่ยอมฟังคดีความของแม่ม่าย
24ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ทรงอำนาจของอิสราเอล พูดว่า
“ทีนี้ล่ะ ศัตรูของเราจะไม่ก่อปัญหาให้กับเราอีกแล้ว เพราะเราจะลงโทษพวกมันให้หมด
25เราจะโจมตีเจ้า เราจะหลอมละลายเจ้า
และเราจะขจัดสิ่งเจือปนออกไปจากเจ้าให้หมด
26แล้วเราจะให้พวกผู้พิพากษาที่ซื่อสัตย์กับเจ้าอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับที่เจ้าเคยมี
และให้ที่ปรึกษาที่ดีกับเจ้าเหมือนที่เจ้าเคยมีในตอนแรก
และหลังจากนั้น เจ้าจะถูกเรียกว่า ‘เมืองที่ทำตามใจพระเจ้า เมืองแห่งความซื่อสัตย์’”
27ศิโยนจะได้รับการไถ่ให้เป็นอิสระด้วยความยุติธรรม
และคนเหล่านั้นที่หันกลับมาหาพระยาห์เวห์ก็จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระด้วยการทำตามใจพระเจ้า
28แต่พวกที่กบฏและพวกคนบาปก็จะถูกขยี้ไปพร้อมๆกัน
และคนพวกนั้นที่ได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ก็จะตาย
29เพราะพวกเจ้าจะได้รับความอับอายเรื่องต้นโอ๊กศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าอยากได้นักหนานั้น
และพวกเจ้าจะต้องอับอายขายหน้ากับพวกสวนพิเศษที่พวกเจ้าบูชานั้น
30เพราะเจ้าจะเป็นเหมือนต้นโอ๊กที่มีใบเหี่ยวเฉา
และเป็นสวนที่ไม่มีน้ำ
31คนที่เข้มแข็งก็จะกลายเป็นเศษไม้จุดไฟ และงานของเขาจะเป็นเหมือนประกายไฟ
ทั้งสองอย่างก็จะไหม้ไปด้วยกันและจะไม่มีใครดับไฟนั้นได้
ที่ได้เลือกล่าสุด:
:
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
Bible League International