ลูกา 22
22
ยูดาสผู้ทรยศ
1เมื่อเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ#22:1 อพยพ 12:1-51ซึ่งเรียกว่าเทศกาลปัสกาใกล้จะถึง 2บรรดามหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติกำลังหาทางกำจัดพระเยซูอย่างลับๆ เพราะกลัวผู้คน
3ซาตานก็เข้าไปสิงอยู่ในยูดาสอิสคาริโอทผู้เป็นหนึ่งในอัครทูตทั้งสิบสอง 4ยูดาสไปหาพวกมหาปุโรหิตและพวกนายทหารประจำพระวิหาร เพื่อปรึกษาดูว่าเขาจะมอบพระองค์ให้แก่พวกเขาได้อย่างไร 5เขาทั้งหลายยินดีและตกลงให้เงินแก่เขา 6ยูดาสยินยอม และรอโอกาสที่จะทรยศแล้วมอบพระเยซูให้แก่พวกเขาเมื่อไม่มีผู้คน
วันปัสกากับสาวก
7เมื่อถึงเทศกาลขนมปังไร้เชื้อซึ่งมีการสังเวยลูกแกะปัสกา 8พระเยซูให้เปโตรและยอห์นไปโดยกล่าวว่า “จงไปเตรียมอาหารวันปัสกาให้พวกเรารับประทานกันเถิด” 9เขาทั้งสองถามว่า “พระองค์ประสงค์จะให้พวกเราเตรียมไว้ที่ไหน” 10พระองค์ตอบว่า “ขณะที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง จะมีชายคนหนึ่งแบกโถน้ำมาพบเจ้า ถ้าเขาเข้าไปบ้านใดก็จงตามไปบ้านนั้น 11จงพูดกับเจ้าของบ้านว่า ‘อาจารย์ถามว่า ห้องรับรองที่เราจะรับประทานอาหารวันปัสกากับเหล่าสาวกของเราอยู่ที่ไหน’ 12เขาจะชี้ให้เจ้าเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว จงเตรียมไว้ที่นั่น” 13เขาทั้งสองก็ไปและพบตามสิ่งที่พระองค์ได้บอกพวกเขาไว้ เขาจึงเตรียมอาหารวันปัสกากัน
14เมื่อถึงเวลา พระเยซูและอัครทูตของพระองค์ก็เอนกายลงรับประทาน 15และพระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารวันปัสกาครั้งนี้กับเจ้า ก่อนที่เราจะทนทุกข์ทรมาน 16เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่รับประทานปัสกาอีกจนกว่าความหมายของปัสกาจะบรรลุผลในอาณาจักรของพระเจ้า” 17พระองค์หยิบถ้วย กล่าวขอบคุณพระเจ้าและกล่าวต่อไปว่า “จงเอาถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม 18เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง” 19ครั้นพระองค์หยิบขนมปังและกล่าวขอบคุณพระเจ้าแล้ว ก็บิเป็นชิ้น ยื่นให้แก่เหล่าสาวก พลางกล่าวว่า “นี่เป็นกายของเราซึ่งมอบไว้เพื่อพวกเจ้า จงปฏิบัติเช่นนี้เพื่อระลึกถึงเรา” 20ในทำนองเดียวกัน หลังจากอาหารเย็น พระองค์หยิบถ้วยพลางกล่าวว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราซึ่งได้หลั่งเพื่อพวกเจ้า 21แต่ดูเถิด มือของคนที่กำลังจะทรยศเราอยู่ด้วยกันกับมือของเราบนโต๊ะ 22เพราะว่าบุตรมนุษย์ก้าวไปสู่ทางที่ได้กำหนดไว้แล้ว วิบัติจะเกิดกับคนที่ทรยศท่าน” 23เขาทั้งหลายก็เริ่มถามกันและกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นคนที่จะกระทำการนี้
24เหล่าสาวกได้ถกเถียงกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด 25พระเยซูกล่าวว่า “เหล่ากษัตริย์ของบรรดาคนนอกมีสิทธิอำนาจในการปกครองเหนือผู้คน และพวกที่แสดงอำนาจเรียกตนว่าเป็นผู้อุปถัมภ์ 26แต่ว่าพวกเจ้าไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพวกเจ้าควรเป็นอย่างผู้ที่เยาว์ที่สุด และเป็นผู้ที่ปกครองที่มีน้ำใจรับใช้ 27ใครจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือผู้ที่รับใช้ มิใช่ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือ แต่ว่าเราเป็นอย่างผู้รับใช้ในท่ามกลางพวกเจ้า
28เจ้าเป็นพวกที่ยืนเคียงข้างเราเวลาที่เราเผชิญความลำบาก 29เรามอบหมายอาณาจักรให้แก่เจ้าดังที่พระบิดาของเราได้มอบหมายให้แก่เรา 30เพื่อว่าเจ้าจะได้กินและดื่มที่โต๊ะในอาณาจักรของเรา และนั่งบนบัลลังก์ตัดสินความ 12 เผ่าของอิสราเอล
31ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ซาตานได้เรียกร้องที่จะฝัดร่อนพวกเจ้าเหมือนฝัดข้าวสาลี 32แต่เราได้อธิษฐานให้เจ้า เพื่อว่าความเชื่อจะได้คงอยู่ และเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ก็จงให้กำลังใจพวกพี่น้องเถิด” 33เปโตรตอบว่า “พระองค์ท่าน ข้าพเจ้าพร้อมที่จะไปทุกแห่งกับพระองค์ไม่ว่าที่คุมขังหรือความตายก็ตาม” 34พระเยซูตอบว่า “เปโตร เราขอบอกเจ้าว่า ก่อนไก่จะขันในวันนี้ เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา”
35แล้วพระเยซูถามพวกเขาว่า “เวลาที่เราส่งเจ้าออกไปโดยไม่มีถุงเงิน ย่าม หรือรองเท้า เจ้าขัดสนอะไรบ้างหรือเปล่า” เขาตอบว่า “เปล่าเลย” 36พระองค์กล่าวกับสาวกว่า “แต่เวลานี้ถ้าเจ้ามีถุงเงินก็เอาไปด้วย ย่ามก็เช่นกัน และถ้าเจ้าไม่มีดาบก็จงขายเสื้อตัวนอกเพื่อเอาไปซื้อดาบ 37มีบันทึกไว้ว่า ‘พระองค์ถูกนับอยู่ในพวกคนล่วงละเมิด’#22:37 อิสยาห์ 53:12 และเราขอบอกเจ้าว่าสิ่งที่กล่าวไว้จะต้องเป็นไปตามนั้น ใช่แล้ว สิ่งใดที่ได้มีบันทึกไว้เกี่ยวกับเรากำลังจะสำเร็จลุล่วงอย่างบริบูรณ์” 38พวกสาวกพูดว่า “พระองค์ท่าน นี่แน่ะมีดาบ 2 เล่ม” พระองค์ตอบว่า “นั่นก็พอแล้ว”
พระเยซูอธิษฐานที่ภูเขามะกอก
39พระเยซูไปยังภูเขามะกอกตามเคย เหล่าสาวกก็ติดตามพระองค์ไปด้วย 40เมื่อถึงที่นั่นแล้ว พระองค์กล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงอธิษฐานขอว่า เจ้าจะพ้นจากสิ่งยั่วยุ” 41พระองค์เดินเลยพวกเขาไปได้ไกลประมาณขว้างก้อนหินตก และคุกเข่าลงอธิษฐาน 42“พระบิดา ถ้าพระองค์ประสงค์ โปรดเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด” 43ทูตสวรรค์องค์หนึ่งจากสวรรค์มาปรากฏแก่พระองค์ และช่วยให้มีกำลังใจดีขึ้น 44พระเยซูปวดร้าวทุกข์ใจยิ่งนัก พระองค์จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานมากยิ่งขึ้น เหงื่อของพระองค์เป็นดุจโลหิตหยาดหยดลงดิน 45เมื่อพระเยซูลุกขึ้นหลังจากที่ได้อธิษฐาน พระองค์ก็เดินมาหาเหล่าสาวก และพบว่าพวกเขากำลังนอนหลับกันด้วยความเศร้า 46พระองค์ถามว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงนอนหลับกัน ลุกขึ้นและอธิษฐานเถิดว่าพวกเจ้าจะไม่ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ”
พระเยซูถูกจับกุม
47พระองค์ยังกล่าวไม่ทันขาดคำ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา และยูดาสหนึ่งในสาวกทั้งสิบสองก็กำลังเดินนำหน้ามา เขาเข้ามาใกล้เพื่อจูบแก้มพระองค์ 48พระเยซูถามเขาว่า “ยูดาสเอ๋ย เจ้ากำลังทรยศบุตรมนุษย์ด้วยการจูบแก้มหรือ” 49เมื่อพวกที่อยู่ด้วยกันกับพระเยซูเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงพูดขึ้นว่า “พระองค์ท่าน จะให้พวกเราเอาดาบฟันพวกเขาดีไหม” 50คนหนึ่งในพวกเขาก็ฟันหูขวาของผู้รับใช้หัวหน้ามหาปุโรหิตขาด 51แต่พระเยซูตอบว่า “พอเสียทีเถิด” พระองค์แตะหูของชายคนนั้น แล้วรักษาให้หาย 52แล้วพระเยซูกล่าวกับพวกมหาปุโรหิต นายทหารประจำพระวิหาร และพวกผู้ใหญ่ ซึ่งมาจับกุมพระองค์ว่า “พวกท่านเอาดาบและไม้ตะบองแล้วพากันมาจับกุมเรา เหมือนกับว่าเราเป็นโจรอย่างนั้นหรือ 53ทุกวันเราเคยอยู่กับท่านในบริเวณพระวิหาร ท่านก็ไม่ได้จับกุมเรา แต่นี่เป็นเวลาของท่านเมื่อความมืดครอบครอง”
เปโตรปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระเยซู
54เขาทั้งหลายจับกุมพระองค์เพื่อนำไปยังบ้านของหัวหน้ามหาปุโรหิต เปโตรก็ได้ติดตามไปอยู่ห่างๆ 55แต่เมื่อเขาทั้งหลายได้ก่อไฟที่กลางลานบ้านและนั่งลงด้วยกันแล้ว เปโตรก็นั่งกับพวกเขา 56สาวใช้คนหนึ่งเห็นเปโตรนั่งอยู่ที่นั่น เธอก็อาศัยแสงไฟมองดูเขาอย่างใกล้ชิดและพูดว่า “ชายคนนี้อยู่ด้วยกันกับเยซู” 57แต่เขาปฏิเสธว่า “หญิงเอ๋ย เราไม่รู้จักท่าน” 58ไม่นานหลังจากนั้น อีกคนก็เห็นเขาจึงพูดว่า “ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกเขาด้วย” เปโตรตอบว่า “ท่านเอ๋ย ไม่ใช่เรา” 59ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา อีกคนยืนยันว่า “แน่แล้ว ชายคนนี้อยู่ด้วยกันกับเยซู ด้วยว่าเขาเป็นชาวกาลิลี” 60เปโตรตอบว่า “ท่านเอ๋ย เราไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ไก่ก็ขัน 61พระเยซูเจ้าหันและมองตรงไปยังเปโตร แล้วเปโตรก็นึกถึงคำซึ่งพระเยซูเจ้าได้กล่าวไว้กับเขาว่า “ก่อนไก่จะขันในวันนี้ เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา” 62เปโตรจึงออกไปข้างนอกแล้วร้องไห้ด้วยความปวดร้าวใจยิ่งนัก
63ฝ่ายคนที่คุมพระเยซูได้เริ่มเยาะเย้ยและโบยตีพระองค์ 64เขาเหล่านั้นเอาผ้าปิดตาพระองค์และถามว่า “จงพยากรณ์ซิว่าใครเป็นคนตบตีท่าน” 65และพวกเขาได้กล่าววาจาดูหมิ่นต่างๆ นานา
ปีลาตและเฮโรดสอบสวนพระเยซู
66ครั้นรุ่งเช้าคณะผู้ใหญ่ของประชาชน รวมทั้งพวกมหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติได้ประชุมร่วมกัน และพระเยซูถูกนำไปยังศาสนสภา#22:66 ศาสนสภา สภานี้เป็นศาลสูงสุดของชาวยิว มีสมาชิก 70 คนซึ่งประกอบด้วยปุโรหิต อาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ ฟาริสี และสะดูสี 67เขาพูดว่า “ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ ก็จงบอกพวกเราเถิด” พระเยซูตอบว่า “ถ้าเราบอกท่าน ท่านก็จะไม่เชื่อเรา 68และถ้าเราถามท่าน ท่านก็จะไม่ตอบเรา 69แต่ว่าตั้งแต่นี้ไปบุตรมนุษย์จะนั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้มีอานุภาพ” 70เขาทั้งปวงถามกันว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นบุตรของพระเจ้าหรือ” พระองค์ตอบว่า “ท่านพูดถูกต้องแล้วที่ว่าเราเป็น” 71แล้วเขาทั้งหลายพูดว่า “ทำไมเราจะต้องมีคำยืนยันต่อไปอีก พวกเราได้ยินจากปากของเขาเองแล้ว”
ที่ได้เลือกล่าสุด:
ลูกา 22: NTV
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
New Thai Version Foundation
ลูกา 22
22
ยูดาสผู้ทรยศ
1เมื่อเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ#22:1 อพยพ 12:1-51ซึ่งเรียกว่าเทศกาลปัสกาใกล้จะถึง 2บรรดามหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติกำลังหาทางกำจัดพระเยซูอย่างลับๆ เพราะกลัวผู้คน
3ซาตานก็เข้าไปสิงอยู่ในยูดาสอิสคาริโอทผู้เป็นหนึ่งในอัครทูตทั้งสิบสอง 4ยูดาสไปหาพวกมหาปุโรหิตและพวกนายทหารประจำพระวิหาร เพื่อปรึกษาดูว่าเขาจะมอบพระองค์ให้แก่พวกเขาได้อย่างไร 5เขาทั้งหลายยินดีและตกลงให้เงินแก่เขา 6ยูดาสยินยอม และรอโอกาสที่จะทรยศแล้วมอบพระเยซูให้แก่พวกเขาเมื่อไม่มีผู้คน
วันปัสกากับสาวก
7เมื่อถึงเทศกาลขนมปังไร้เชื้อซึ่งมีการสังเวยลูกแกะปัสกา 8พระเยซูให้เปโตรและยอห์นไปโดยกล่าวว่า “จงไปเตรียมอาหารวันปัสกาให้พวกเรารับประทานกันเถิด” 9เขาทั้งสองถามว่า “พระองค์ประสงค์จะให้พวกเราเตรียมไว้ที่ไหน” 10พระองค์ตอบว่า “ขณะที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง จะมีชายคนหนึ่งแบกโถน้ำมาพบเจ้า ถ้าเขาเข้าไปบ้านใดก็จงตามไปบ้านนั้น 11จงพูดกับเจ้าของบ้านว่า ‘อาจารย์ถามว่า ห้องรับรองที่เราจะรับประทานอาหารวันปัสกากับเหล่าสาวกของเราอยู่ที่ไหน’ 12เขาจะชี้ให้เจ้าเห็นห้องใหญ่ชั้นบนที่ตกแต่งไว้แล้ว จงเตรียมไว้ที่นั่น” 13เขาทั้งสองก็ไปและพบตามสิ่งที่พระองค์ได้บอกพวกเขาไว้ เขาจึงเตรียมอาหารวันปัสกากัน
14เมื่อถึงเวลา พระเยซูและอัครทูตของพระองค์ก็เอนกายลงรับประทาน 15และพระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะรับประทานอาหารวันปัสกาครั้งนี้กับเจ้า ก่อนที่เราจะทนทุกข์ทรมาน 16เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่รับประทานปัสกาอีกจนกว่าความหมายของปัสกาจะบรรลุผลในอาณาจักรของพระเจ้า” 17พระองค์หยิบถ้วย กล่าวขอบคุณพระเจ้าและกล่าวต่อไปว่า “จงเอาถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่ม 18เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีกจนกว่าอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง” 19ครั้นพระองค์หยิบขนมปังและกล่าวขอบคุณพระเจ้าแล้ว ก็บิเป็นชิ้น ยื่นให้แก่เหล่าสาวก พลางกล่าวว่า “นี่เป็นกายของเราซึ่งมอบไว้เพื่อพวกเจ้า จงปฏิบัติเช่นนี้เพื่อระลึกถึงเรา” 20ในทำนองเดียวกัน หลังจากอาหารเย็น พระองค์หยิบถ้วยพลางกล่าวว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราซึ่งได้หลั่งเพื่อพวกเจ้า 21แต่ดูเถิด มือของคนที่กำลังจะทรยศเราอยู่ด้วยกันกับมือของเราบนโต๊ะ 22เพราะว่าบุตรมนุษย์ก้าวไปสู่ทางที่ได้กำหนดไว้แล้ว วิบัติจะเกิดกับคนที่ทรยศท่าน” 23เขาทั้งหลายก็เริ่มถามกันและกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นคนที่จะกระทำการนี้
24เหล่าสาวกได้ถกเถียงกันว่าคนใดในพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด 25พระเยซูกล่าวว่า “เหล่ากษัตริย์ของบรรดาคนนอกมีสิทธิอำนาจในการปกครองเหนือผู้คน และพวกที่แสดงอำนาจเรียกตนว่าเป็นผู้อุปถัมภ์ 26แต่ว่าพวกเจ้าไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพวกเจ้าควรเป็นอย่างผู้ที่เยาว์ที่สุด และเป็นผู้ที่ปกครองที่มีน้ำใจรับใช้ 27ใครจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือผู้ที่รับใช้ มิใช่ผู้ที่เอนกายลงรับประทานหรือ แต่ว่าเราเป็นอย่างผู้รับใช้ในท่ามกลางพวกเจ้า
28เจ้าเป็นพวกที่ยืนเคียงข้างเราเวลาที่เราเผชิญความลำบาก 29เรามอบหมายอาณาจักรให้แก่เจ้าดังที่พระบิดาของเราได้มอบหมายให้แก่เรา 30เพื่อว่าเจ้าจะได้กินและดื่มที่โต๊ะในอาณาจักรของเรา และนั่งบนบัลลังก์ตัดสินความ 12 เผ่าของอิสราเอล
31ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ซาตานได้เรียกร้องที่จะฝัดร่อนพวกเจ้าเหมือนฝัดข้าวสาลี 32แต่เราได้อธิษฐานให้เจ้า เพื่อว่าความเชื่อจะได้คงอยู่ และเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ก็จงให้กำลังใจพวกพี่น้องเถิด” 33เปโตรตอบว่า “พระองค์ท่าน ข้าพเจ้าพร้อมที่จะไปทุกแห่งกับพระองค์ไม่ว่าที่คุมขังหรือความตายก็ตาม” 34พระเยซูตอบว่า “เปโตร เราขอบอกเจ้าว่า ก่อนไก่จะขันในวันนี้ เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา”
35แล้วพระเยซูถามพวกเขาว่า “เวลาที่เราส่งเจ้าออกไปโดยไม่มีถุงเงิน ย่าม หรือรองเท้า เจ้าขัดสนอะไรบ้างหรือเปล่า” เขาตอบว่า “เปล่าเลย” 36พระองค์กล่าวกับสาวกว่า “แต่เวลานี้ถ้าเจ้ามีถุงเงินก็เอาไปด้วย ย่ามก็เช่นกัน และถ้าเจ้าไม่มีดาบก็จงขายเสื้อตัวนอกเพื่อเอาไปซื้อดาบ 37มีบันทึกไว้ว่า ‘พระองค์ถูกนับอยู่ในพวกคนล่วงละเมิด’#22:37 อิสยาห์ 53:12 และเราขอบอกเจ้าว่าสิ่งที่กล่าวไว้จะต้องเป็นไปตามนั้น ใช่แล้ว สิ่งใดที่ได้มีบันทึกไว้เกี่ยวกับเรากำลังจะสำเร็จลุล่วงอย่างบริบูรณ์” 38พวกสาวกพูดว่า “พระองค์ท่าน นี่แน่ะมีดาบ 2 เล่ม” พระองค์ตอบว่า “นั่นก็พอแล้ว”
พระเยซูอธิษฐานที่ภูเขามะกอก
39พระเยซูไปยังภูเขามะกอกตามเคย เหล่าสาวกก็ติดตามพระองค์ไปด้วย 40เมื่อถึงที่นั่นแล้ว พระองค์กล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “จงอธิษฐานขอว่า เจ้าจะพ้นจากสิ่งยั่วยุ” 41พระองค์เดินเลยพวกเขาไปได้ไกลประมาณขว้างก้อนหินตก และคุกเข่าลงอธิษฐาน 42“พระบิดา ถ้าพระองค์ประสงค์ โปรดเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด” 43ทูตสวรรค์องค์หนึ่งจากสวรรค์มาปรากฏแก่พระองค์ และช่วยให้มีกำลังใจดีขึ้น 44พระเยซูปวดร้าวทุกข์ใจยิ่งนัก พระองค์จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานมากยิ่งขึ้น เหงื่อของพระองค์เป็นดุจโลหิตหยาดหยดลงดิน 45เมื่อพระเยซูลุกขึ้นหลังจากที่ได้อธิษฐาน พระองค์ก็เดินมาหาเหล่าสาวก และพบว่าพวกเขากำลังนอนหลับกันด้วยความเศร้า 46พระองค์ถามว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงนอนหลับกัน ลุกขึ้นและอธิษฐานเถิดว่าพวกเจ้าจะไม่ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ”
พระเยซูถูกจับกุม
47พระองค์ยังกล่าวไม่ทันขาดคำ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา และยูดาสหนึ่งในสาวกทั้งสิบสองก็กำลังเดินนำหน้ามา เขาเข้ามาใกล้เพื่อจูบแก้มพระองค์ 48พระเยซูถามเขาว่า “ยูดาสเอ๋ย เจ้ากำลังทรยศบุตรมนุษย์ด้วยการจูบแก้มหรือ” 49เมื่อพวกที่อยู่ด้วยกันกับพระเยซูเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงพูดขึ้นว่า “พระองค์ท่าน จะให้พวกเราเอาดาบฟันพวกเขาดีไหม” 50คนหนึ่งในพวกเขาก็ฟันหูขวาของผู้รับใช้หัวหน้ามหาปุโรหิตขาด 51แต่พระเยซูตอบว่า “พอเสียทีเถิด” พระองค์แตะหูของชายคนนั้น แล้วรักษาให้หาย 52แล้วพระเยซูกล่าวกับพวกมหาปุโรหิต นายทหารประจำพระวิหาร และพวกผู้ใหญ่ ซึ่งมาจับกุมพระองค์ว่า “พวกท่านเอาดาบและไม้ตะบองแล้วพากันมาจับกุมเรา เหมือนกับว่าเราเป็นโจรอย่างนั้นหรือ 53ทุกวันเราเคยอยู่กับท่านในบริเวณพระวิหาร ท่านก็ไม่ได้จับกุมเรา แต่นี่เป็นเวลาของท่านเมื่อความมืดครอบครอง”
เปโตรปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระเยซู
54เขาทั้งหลายจับกุมพระองค์เพื่อนำไปยังบ้านของหัวหน้ามหาปุโรหิต เปโตรก็ได้ติดตามไปอยู่ห่างๆ 55แต่เมื่อเขาทั้งหลายได้ก่อไฟที่กลางลานบ้านและนั่งลงด้วยกันแล้ว เปโตรก็นั่งกับพวกเขา 56สาวใช้คนหนึ่งเห็นเปโตรนั่งอยู่ที่นั่น เธอก็อาศัยแสงไฟมองดูเขาอย่างใกล้ชิดและพูดว่า “ชายคนนี้อยู่ด้วยกันกับเยซู” 57แต่เขาปฏิเสธว่า “หญิงเอ๋ย เราไม่รู้จักท่าน” 58ไม่นานหลังจากนั้น อีกคนก็เห็นเขาจึงพูดว่า “ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกเขาด้วย” เปโตรตอบว่า “ท่านเอ๋ย ไม่ใช่เรา” 59ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา อีกคนยืนยันว่า “แน่แล้ว ชายคนนี้อยู่ด้วยกันกับเยซู ด้วยว่าเขาเป็นชาวกาลิลี” 60เปโตรตอบว่า “ท่านเอ๋ย เราไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ไก่ก็ขัน 61พระเยซูเจ้าหันและมองตรงไปยังเปโตร แล้วเปโตรก็นึกถึงคำซึ่งพระเยซูเจ้าได้กล่าวไว้กับเขาว่า “ก่อนไก่จะขันในวันนี้ เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา” 62เปโตรจึงออกไปข้างนอกแล้วร้องไห้ด้วยความปวดร้าวใจยิ่งนัก
63ฝ่ายคนที่คุมพระเยซูได้เริ่มเยาะเย้ยและโบยตีพระองค์ 64เขาเหล่านั้นเอาผ้าปิดตาพระองค์และถามว่า “จงพยากรณ์ซิว่าใครเป็นคนตบตีท่าน” 65และพวกเขาได้กล่าววาจาดูหมิ่นต่างๆ นานา
ปีลาตและเฮโรดสอบสวนพระเยซู
66ครั้นรุ่งเช้าคณะผู้ใหญ่ของประชาชน รวมทั้งพวกมหาปุโรหิตและอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติได้ประชุมร่วมกัน และพระเยซูถูกนำไปยังศาสนสภา#22:66 ศาสนสภา สภานี้เป็นศาลสูงสุดของชาวยิว มีสมาชิก 70 คนซึ่งประกอบด้วยปุโรหิต อาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ ฟาริสี และสะดูสี 67เขาพูดว่า “ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ ก็จงบอกพวกเราเถิด” พระเยซูตอบว่า “ถ้าเราบอกท่าน ท่านก็จะไม่เชื่อเรา 68และถ้าเราถามท่าน ท่านก็จะไม่ตอบเรา 69แต่ว่าตั้งแต่นี้ไปบุตรมนุษย์จะนั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้มีอานุภาพ” 70เขาทั้งปวงถามกันว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านเป็นบุตรของพระเจ้าหรือ” พระองค์ตอบว่า “ท่านพูดถูกต้องแล้วที่ว่าเราเป็น” 71แล้วเขาทั้งหลายพูดว่า “ทำไมเราจะต้องมีคำยืนยันต่อไปอีก พวกเราได้ยินจากปากของเขาเองแล้ว”
ที่ได้เลือกล่าสุด:
:
เน้นข้อความ
แบ่งปัน
คัดลอก
ต้องการเน้นข้อความที่บันทึกไว้ตลอดทั้งอุปกรณ์ของคุณหรือไม่? ลงทะเบียน หรือลงชื่อเข้าใช้
New Thai Version Foundation