1 โครินธ์ 7:1-40

1 โครินธ์ 7:1-40 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ตอนนี้​ผม​ขอ​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​พวกคุณ​เขียน​มาหา​ผม​ว่า “ดีแล้ว​ที่​ผู้ชาย​จะ​ไม่นอน​กับ​ภรรยา” แต่ เพราะ​มี​ความ​ผิดบาป​ทาง​เพศ​เกิดขึ้น​มากมาย ผู้ชาย​แต่ละ​คน​จึง​ควร​จะ​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ภรรยา และ​ผู้หญิง​แต่ละ​คน​ก็​ควร​จะ​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​สามี สามี​ควร​จะ​ให้​ความสุข​ทาง​เพศ​กับ​ภรรยา​ตาม​หน้าที่ ส่วน​ภรรยา​ควร​จะ​ให้​ความสุข​ทาง​เพศ​กับ​สามี​ตาม​หน้าที่​เหมือนกัน ร่างกาย​ของ​ภรรยา​ไม่​เป็น​ของ​เธอ​อีก​ต่อไป แต่​กลายเป็น​ของ​สามี ส่วน​ร่างกาย​ของ​สามี​ก็​ไม่​เป็น​ของ​เขา​อีก​ต่อไป แต่​กลายเป็น​ของ​ภรรยา อย่า​ปฏิเสธ​การ​มี​เพศ​สัมพันธ์​กันเลย นอกจาก​ทั้ง​สองคน​จะ​ตกลง​กัน​เป็น​การ​ชั่วคราว เพื่อ​คุณ​จะ​ได้​ทุ่มเท​ตัวเอง​ใน​การ​อธิษฐาน หลังจากนั้น​ก็​ค่อย​กลับ​มา​อยู่​ร่วมกัน​อีก เพื่อ​ซาตาน​จะ​ได้​ไม่​มา​ล่อลวง​คุณ​ให้​ไป​มี​เพศ​สัมพันธ์​กับ​ผู้อื่น​เพราะ​ขาด​การ​บังคับ​ตน เรื่อง​ที่​อยู่​ห่างกัน​ชั่วคราวนี้​ผม​ไม่ได้​สั่ง​ให้​ทำ​นะ​ครับ แต่​ถ้า​คุณ​อยาก​ทำ​ก็​ตามใจ ความจริง​แล้ว​ผม​อยาก​ให้​ทุกคน​เป็น​โสด​เหมือน​ผม แต่​อย่าง​ว่า​แหละ​ครับ พระเจ้า​ก็​ให้​พรสวรรค์​แต่ละ​คน​มา​ไม่​เหมือนกัน คนนี้​ได้​อย่างนี้ คนโน้น​ก็​ได้​อีก​อย่างหนึ่ง ตอนนี้​ขอ​พูด​กับ​คนโสด​และ​แม่ม่าย​ว่า ถ้า​พวกเขา​จะ​อยู่​เป็น​โสด​เหมือนกับ​ผม ก็​จะ​ดีกว่า​นะ แต่​ถ้า​เห็น​ว่า​ควบคุม​ตัวเอง​ไม่ได้ ก็​ให้​แต่งงาน​เสียเถอะ เพราะ​ทำ​อย่างนี้ ย่อม​ดีกว่า​ถูก​เผา​จน​เร่าร้อน​ไป​ด้วย​ราคะตัณหา ตอนนี้​ผม​ขอ​สั่ง​คน​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ว่า (ไม่ใช่​ผม​สั่ง​หรอก​แต่​เป็น​องค์​เจ้า​ชีวิต​ต่างหาก) ภรรยา​ต้อง​ไม่หย่า​จาก​สามี (แต่​ถ้า​เธอ​หย่า เธอ​ก็​ต้อง​อยู่​เป็น​โสด หรือ​ไม่​ก็​ให้​กลับ​ไป​คืนดี​กับ​สามี​ของ​เธอ) และ​สามี​ก็​จะ​ต้อง​ไม่หย่า​ภรรยา​เหมือนกัน ตอนนี้​ขอ​พูด​ถึง​คน​ที่​เหลือ​ว่า (ตรงนี้​ผม​พูด​เอง​นะครับ ไม่ใช่​องค์​เจ้า​ชีวิต​พูด) ถ้า​พี่น้อง​คน​ไหน​มี​ภรรยา​ที่​ไม่ได้​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์ และ​เธอ​ตกลงใจ​ที่​จะ​อยู่​กับ​เขา เขา​ก็​ต้อง​ไม่หย่า​กับ​เธอ ถ้า​หญิง​คนไหน​มี​สามี​ที่​ไม่ได้​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์ และ​เขา​ตกลงใจ​ที่​จะ​อยู่​กับ​เธอ เธอ​ก็​ต้อง​ไม่หย่า​กับ​เขา เพราะ​สามี​ที่​ไม่ได้​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​ก็​บริสุทธิ์​แล้ว เพราะ​ภรรยา​ของ​เขา​ที่​ไว้วางใจ ส่วน​ภรรยา​ที่​ไม่ได้​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​ก็​บริสุทธิ์​แล้ว เพราะ​สามี​ของ​เธอ​ที่​ไว้วางใจ ไม่​อย่างนั้น​ลูกๆ​ของ​พวกคุณ​จะ​สกปรก​ต่อหน้า​พระเจ้า แต่​ความจริง​ตอนนี้​ลูกๆ​ของ​พวกคุณ​ก็​เป็น​ของ​พระเจ้า​แล้ว แต่​ถ้า​คน​ที่​ไม่ได้​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​อยาก​จะ​หย่า ก็​ให้​เขา​หย่า​ไป พี่น้อง​ที่​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​คนนั้น​ก็​เป็น​อิสระ​แล้ว เพราะ​พระเจ้า​เรียก​ให้​พวกเรา​มา​อยู่​กัน​อย่าง​สงบสุข คน​ที่​เป็น​ภรรยา​ก็​ไม่ต้อง​ไป​รั้ง​เขา​ไว้​หรอก คุณ​แน่ใจ​หรือ​ว่า​คุณ​จะ​ช่วย​สามี​ที่​ไม่​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​ให้​รอด​ได้ คน​ที่​เป็น​สามี​ก็​เหมือนกัน คุณ​แน่ใจ​หรือ​ว่า​คุณ​จะ​ช่วย​ภรรยา​ที่​ไม่​ไว้วางใจ​ใน​พระคริสต์​ให้​รอด​ได้ แต่​อย่างไร​ก็ตาม องค์​เจ้า​ชีวิต​ได้​กำหนด​ให้​คุณ​อยู่​ใน​สภาพไหน​ก็​ให้​อยู่​ใน​สภาพนั้น​ตามที่​พระเจ้า​ได้​เรียก​มา นี่แหละ​เป็น​กฎ​ที่​ผม​สั่ง​ไว้​ใน​ทุกๆ​หมู่ประชุม ตอนที่​พระเจ้า​เรียกนั้น ถ้า​มีใคร​ทำ​พิธี​ขลิบ​มาแล้ว ก็​อย่า​ไป​เปลี่ยน​สภาพ​ให้​กลับ​มา​เหมือนเดิม​เลย หรือ​ถ้า​มี​ใคร​ที่​ยัง​ไม่ได้​ทำ​พิธี​ขลิบ ก็​อย่า​ไปทำ เพราะ​จะ​ทำ​หรือ​ไม่ทำ​พิธี​ขลิบ​ก็​ไม่ได้​สำคัญ​อะไร สิ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ทำ​ตาม​คำสั่ง​ของ​พระเจ้า ใคร​อยู่​ใน​สภาพไหน​ตอน​ที่​พระเจ้า​เรียก ก็​ให้​อยู่​ใน​สภาพนั้น ถ้า​เป็น​ทาส​อยู่​ก็​ไม่ต้อง​กลุ้มใจ แต่​ถ้า​มี​โอกาส​เป็น​อิสระ​ก็​ให้​ฉวย​เอา​ไว้ ตอน​ที่​องค์​เจ้า​ชีวิต​เรียกนั้น คน​ที่​เป็น​ทาส​ก็​กลายเป็น​คน​อิสระ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต ส่วน​คน​ที่​เป็น​อิสระ​ก็​กลาย​เป็น​ทาส​ของ​พระคริสต์ พระเจ้า​ซื้อ​พวกคุณ​มา​ใน​ราคา​แพง ดังนั้น​ก็​อย่า​เป็น​ทาส​ของ​มนุษย์​คนไหน​เลย พี่น้อง​ครับ พระเจ้า​เรียก​ให้​คุณ​มา​อยู่​ใน​สภาพไหน พวกคุณ​แต่ละ​คน​ก็​ควร​จะ​อยู่​ใน​สภาพนั้น​ต่อหน้า​พระเจ้า ตอนนี้​ขอ​พูด​ถึง​คน​ที่​ยัง​ไม่​แต่งงาน ผม​ไม่ได้​รับ​คำสั่ง​อะไร​จาก​องค์​เจ้า​ชีวิต​ใน​เรื่องนี้ แต่​ผม​อยาก​จะ​เสนอ​ความ​คิดเห็น​ของ​ผม​ใน​ฐานะ​คน​ที่​องค์​เจ้า​ชีวิต​ให้​ความ​เมตตา​กรุณา​จึง​ทำให้​เป็น​คน​ที่​ไว้ใจ​ได้ เนื่องจาก​ตอนนี้​เป็น​ช่วง​ที่​มี​ปัญหา​มาก ผม​เห็น​ว่า​คุณ​อยู่​เป็น​โสด​อย่าง​ที่​คุณ​เป็น​อยู่​เดี๋ยวนี้​ดีกว่า แต่​ถ้า​คุณ​หมั้น​กันแล้ว​ก็​อย่า​คิด​ที่​จะ​ถอนหมั้น​เธอ แต่​ถ้า​คุณ​ยัง​เป็น​โสด​อยู่​ก็​อย่าคิด​ที่​จะ​หา​ภรรยา แต่​ถ้า​คุณ​จะ​แต่งงาน​ก็​ไม่บาป​หรอก และ​ถ้า​หาก​หญิง​โสด​จะ​แต่งงาน​ก็​ไม่บาป​เหมือนกัน แต่​ขอเตือน​ว่า​คน​ที่​แต่งงาน​จะ​เจอ​กับ​ปัญหา​มากมาย​ใน​ชีวิต และ​ผม​ก็​ไม่อยาก​ให้​พวกคุณ​เจอ​กับ​ปัญหา​พวกนี้ พี่น้อง​ครับ ผม​กำลัง​พูด​ถึง​ว่า​เวลานั้น​สั้น​เหลือเกิน ต่อไปนี้​ให้​คน​ที่​มี​ภรรยา​แล้ว ทำ​เหมือนกับ​ยัง​ไม่มี คน​ที่​โศกเศร้า​ทำ​เหมือนกับ​ไม่​โศกเศร้า คน​ที่​ร่าเริง​ทำ​เหมือนกับ​ไม่​ร่าเริง คน​ที่​ซื้อ​ของ​มา​ทำ​เหมือนกับ​ไม่​ได้​เป็น​เจ้าของ​อะไรเลย คน​ที่​ใช้​สิ่งของ​ใน​โลกนี้​โดย​ไม่​ลุ่มหลง​โลก เพราะ​โลก​ใน​ปัจจุบันนี้​กำลัง​จะ​ผ่าน​พ้น​ไป ผม​ไม่​อยาก​ให้​คุณ​กังวล​อะไร ดูสิ ชาย​โสด​ก็​สนใจ​เรื่อง​ต่างๆ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต คือ​คิด​แต่ว่า​จะ​เอาใจ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ได้​อย่างไร แต่​ชาย​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ก็​จะ​สนใจ​แต่​เรื่อง​ของ​โลกนี้ คือ​คิด​แต่​ว่า​จะ​เอาใจ​ภรรยา​ได้​อย่างไร ความ​สนใจ​ของ​เขา​จึง​ถูก​แบ่ง​ออก​สอง​ทาง หญิง​โสด​หรือ​หญิง​ที่​ยัง​ไม่เคย​แต่งงาน​ก็​จะ​สนใจ​เรื่อง​ต่างๆ​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต เพื่อ​นาง​จะ​ได้​บริสุทธิ์​ทั้ง​กาย​และ​ใจ ส่วน​หญิง​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ก็​จะ​สนใจ​แต่​เรื่อง​ของ​โลกนี้ คือ​คิด​แต่​ว่า​จะ​เอาใจ​สามี​ได้​อย่างไร ที่​ผม​พูด​อย่างนี้​ก็​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คุณเอง ไม่ใช่​เอา​ห่วง​มา​คล้องคอ​คุณ แต่​อยาก​จะ​ให้​คุณ​ใช้ชีวิต​ที่​ถูกต้อง คือ​มี​ใจ​จดจ่อ​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต​โดย​ไม่​ถูก​แย่ง​ความ​สนใจ​ไป ถ้า​ผู้ชาย​คนไหน​คิดว่า​เขา​ทำ​ตัว​ไม่เหมาะสม​กับ​คู่หมั้น​ของเขา เพราะ​ทน​ต่อ​กิเลส​ของ​ตัวเอง​ไม่ไหว และ​เขา​คิดว่า​ควร​แต่ง​ก็​ให้​เขา​ทำ​ตามที่​เขา​อยาก​ทำ เพราะ​มัน​ไม่ผิด​หรอก​ที่​เขา​จะ​แต่งงาน​กัน แต่​คน​ที่​มี​จิตใจ​แน่วแน่ ไม่​อยู่​ภายใต้​ความ​กดดัน​อะไร เขา​ก็​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ตัดสิน​เรื่องนี้​เอง และ​ถ้า​เขา​ตัดสินใจ​ที่​จะ​ไม่​แต่ง​กับ​คู่หมั้น​ของ​เขา เขา​ก็​ทำ​ถูกต้อง​แล้ว ดังนั้น​คน​ที่​แต่งงาน​กับ​คู่หมั้น​ของ​เขา​ก็ดี​แล้ว แต่​คน​ที่​ไม่​แต่งงาน​กับ​คู่หมั้น​ของ​เขา​ก็​ดีกว่า ผู้หญิง​จะ​ผูกมัด​กับ​สามี​ของ​นาง​ไป​ตลอดชีวิต​ของ​เขา เมื่อ​สามี​ตาย​นาง​ก็​เป็น​อิสระ อยาก​จะ​ไป​แต่งงาน​กับ​ใคร​ก็​แต่ง​ได้ แต่​ต้อง​เป็น​คน​ที่​มี​ความ​ไว้วางใจ​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต​เท่านั้น แต่​ใน​ความคิด​ของ​ผม ถ้า​นาง​ไม่​แต่งงาน​อีก นาง​จะ​มี​เกียรติ​มากกว่า และ​ผม​คิด​ว่า​พระวิญญาณ​ของ​พระเจ้า​อยู่​กับ​ผม​เมื่อ​ผม​พูด​อย่างนี้

1 โครินธ์ 7:1-40 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เกี่ยวกับเรื่องที่พวกท่านเขียนมานั้น “การที่ผู้ชายไม่แตะต้องผู้หญิงเลยก็ดีแล้ว” แต่เพราะเหตุการล่วงประเวณี ผู้ชายแต่ละคนควรมีภรรยาเป็นของตน และผู้หญิงแต่ละคนควรมีสามีเป็นของตน สามีพึงสัมพันธ์กับภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงสัมพันธ์กับสามีตามควรเช่นเดียวกัน ภรรยาไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่สามีมีอำนาจเหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกันสามีไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่ภรรยามีอำนาจเหนือร่างกายของสามี อย่าปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาเว้นแต่ได้ตกลงกันเป็นการชั่วคราว เพื่ออุทิศตัวในการอธิษฐาน แล้วจึงค่อยมามีความสัมพันธ์กันอีก เพื่อไม่ให้ซาตานล่อลวงให้ทำผิดเพราะตัวอดไม่ได้ ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เป็นการอนุญาต ไม่ใช่สั่ง ข้าพเจ้าต้องการให้ทุกคนเป็นเหมือนข้าพเจ้า แต่ว่าแต่ละคนก็ได้รับของประทานของตัวเองจากพระเจ้า คนหนึ่งได้รับอย่างนี้ และอีกคนหนึ่งได้รับอย่างนั้น ข้าพเจ้าขอกล่าวกับพวกที่ไม่แต่งงานและพวกแม่ม่ายว่า การที่พวกเขาจะอยู่เหมือนข้าพเจ้าก็ดีแล้ว แต่ถ้าควบคุมตัวไม่อยู่ ก็จงแต่งงานเสียเถิด เพราะว่าแต่งงานเสียก็ดีกว่ามีใจเร่าร้อนด้วยกามราคะ ส่วนคนที่แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้าขอสั่ง ไม่ใช่ข้าพเจ้าสั่งเอง แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า อย่าให้ภรรยาแยกจากสามี แต่ถ้านางแยกจากสามีแล้ว ก็อย่าให้นางแต่งงานใหม่ หรือไม่ก็ให้นางคืนดีกับสามี และอย่าให้สามีหย่าภรรยาเลย ข้าพเจ้าขอกล่าวกับพวกที่เหลือ ข้าพเจ้าเองกล่าว (องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ตรัส) ว่า ถ้าพี่น้องคนไหนมีภรรยาที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ และนางพอใจจะอยู่กับสามี ก็ไม่ให้สามีหย่านาง ถ้าหญิงคนไหนมีสามีที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ และสามีพอใจจะอยู่กับนาง ก็ไม่ให้นางหย่าสามีนั้น เพราะว่าสามีที่ไม่เชื่อนั้นได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ทางภรรยา และภรรยาที่ไม่เชื่อก็ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ทางสามี มิฉะนั้นลูกๆ ของพวกท่านก็เป็นมลทิน แต่บัดนี้เด็กเหล่านั้นบริสุทธิ์ แต่ถ้าคนที่ไม่เชื่อจะแยกจากไป ก็ให้เขาแยกจากไปเถิด ในกรณีนี้ไม่จำเป็นที่พี่น้องชายหญิงต้องถูกผูกมัด เพราะว่าพระเจ้าทรงเรียกเราให้อยู่อย่างสันติ ท่านผู้เป็นภรรยา ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านจะช่วยสามีให้รอดไม่ได้? ท่านผู้เป็นสามี ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านจะช่วยภรรยาให้รอดไม่ได้? อย่างไรก็ตาม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดสภาพแต่ละคนมาอย่างไร และพระเจ้าทรงเรียกแต่ละคนในสภาพอย่างไร ก็ให้เขาดำเนินต่อไปอย่างนั้น ข้าพเจ้าสั่งคริสตจักรทั้งหมดให้ทำเช่นนี้ มีชายคนไหนที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขาได้เข้าสุหนัตแล้ว ก็อย่าให้เขาลบรอยนั้นเสีย หรือมีชายคนไหนที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขาไม่ได้เข้าสุหนัต ก็อย่าให้เขาเข้าสุหนัต การเข้าสุหนัตหรือไม่นั้นไม่สำคัญอะไร แต่การถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้านั้นสำคัญ ให้แต่ละคนอยู่ตามสภาพที่เป็นอยู่ในเวลาที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น พระเจ้าทรงเรียกท่านเมื่อยังเป็นทาสอยู่หรือ? อย่าเป็นห่วงเลย แต่ถ้าท่านสามารถเป็นไทได้ ก็จงใช้สิทธิ์นั้น เพราะว่าผู้ใดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียก เมื่อยังเป็นทาส ผู้นั้นเป็นเสรีชนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในทำนองเดียวกันคนที่ได้รับการทรงเรียกเมื่อเป็นไท คนนั้นเป็นทาสของพระคริสต์ พระเจ้าทรงซื้อพวกท่านด้วยราคาสูง อย่าเป็นทาสของมนุษย์เลย พี่น้องทั้งหลาย แต่ละคนได้รับการทรงเรียกในสภาพใด ก็ให้อยู่ในสภาพนั้นกับพระเจ้า เรื่องบรรดาคนโสดนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้รับพระบัญชาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็ขอออกความเห็น ในฐานะที่เป็นคนไว้ใจได้ด้วยพระเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุความทุกข์ยากที่ใกล้จะมาถึง ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ทุกคนจะอยู่อย่างที่เขาเป็นอยู่ ท่านผูกพันกับภรรยาแล้วใช่ไหม? อย่าหาทางทิ้งภรรยาเลย ท่านยังไม่มีภรรยาใช่ไหม? อย่าหาภรรยาเลย ถ้าท่านจะแต่งงานก็ไม่ได้ทำผิด และถ้าหญิงพรหมจารีจะแต่งงานก็ไม่ได้ทำผิด แต่คนเหล่านี้จะมีความยากลำบากในชีวิต และข้าพเจ้าอยากจะกันพวกท่านไว้จากความยากลำบากนั้น พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลากำหนดก็สั้นมากแล้ว ตั้งแต่นี้ไปให้พวกที่มีภรรยาดำเนินชีวิตเหมือนกับไม่มีภรรยา พวกที่เศร้าโศก เหมือนกับไม่ได้เศร้าโศก พวกที่ชื่นชมยินดี เหมือนกับไม่ได้ชื่นชมยินดี บรรดาคนที่ซื้อ ก็เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเลย และพวกที่ใช้ของโลกนี้ ก็เหมือนกับว่าไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เพราะระบอบของโลกนี้กำลังล่วงไป ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านพ้นจากความพะวง ชายที่ไม่แต่งงานก็ห่วงใยในสิ่งที่เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะให้เป็นที่พอพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่คนที่แต่งงานก็พะวงในสิ่งที่เป็นของโลกนี้ เพื่อจะให้เป็นที่พอใจของภรรยา เป็นการสองฝักสองฝ่าย หญิงที่ไม่แต่งงาน และหญิงพรหมจารี ก็ห่วงใยในสิ่งที่เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเธอจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ทั้งกายและจิตวิญญาณ แต่หญิงที่แต่งงานแล้วก็พะวงในสิ่งที่เป็นของโลกนี้ เพื่อจะให้เป็นที่พอใจของสามี ข้าพเจ้าพูดอย่างนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลาย ไม่ใช่จะเอาบ่วงคล้องท่าน แต่เพื่อชีวิตที่เหมาะสม และเพื่อให้การอุทิศตัวต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ถูกจำกัด แต่ถ้าชายใดคิดว่าไม่อาจจะปฏิบัติอย่างสมควรต่อคู่หมั้นของเขา มีความรักร้อนแรง และต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ให้เขาทำตามความต้องการ คือให้เขาแต่งงานเสียเพราะไม่เป็นความผิด แต่ถ้าชายใดตั้งใจแน่วแน่ และเห็นว่าไม่มีความจำเป็น และเขามีอำนาจเหนือความอยากของตนเอง และตัดสินใจว่าจะให้หญิงนั้นเป็นคู่หมั้นของเขาต่อไป เขาก็ทำดีแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่แต่งงานกับคู่หมั้นของตนก็ทำดีอยู่ แต่ผู้ที่ไม่แต่งงานก็ทำดีกว่า ตราบใดที่สามียังมีชีวิตอยู่ ภรรยาต้องผูกพันกับเขา ถ้าสามีตายไป นางก็เป็นอิสระที่จะแต่งงานกับชายใดก็ได้ตามความต้องการ แต่ต้องเป็นผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ตามความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้านางอยู่คนเดียวจะเป็นสุขกว่า และข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเองก็มีพระวิญญาณของพระเจ้าด้วย

1 โครินธ์ 7:1-40 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เรื่องที่พวกท่านเขียนมานั้นขอตอบว่า การที่ผู้ชายไม่ข้องแวะกับผู้หญิงเลยก็ดีแล้ว แต่เพื่อป้องกันการล่วงประเวณี ผู้ชายทุกคนควรมีภรรยาเป็นของตน และผู้หญิงทุกคนมีสามีเป็นของตน สามีพึงประพฤติต่อภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงประพฤติต่อสามีตามควรเช่นเดียวกัน ภรรยาไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่สามีมีอำนาจเหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกันสามีไม่มีอำนาจเหนือร่างกายของตน แต่ภรรยามีอำนาจเหนือร่างกายของสามี อย่าปฏิเสธการอยู่ร่วมกันเว้นแต่ได้ตกลงกันเป็นการชั่วคราว เพื่ออุทิศตัวในการอธิษฐาน แล้วจึงค่อยมาอยู่ร่วมกันอีก เพื่อมิให้ซาตานชักจูงให้ทำผิดเพราะตัวอดไม่ได้ ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เป็นการอนุญาต ไม่ใช่เป็นการสั่ง ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะให้ทุกคนเป็นเหมือนข้าพเจ้า แต่ทุกคนก็ได้รับของประทานจากพระเจ้าเหมาะกับตัว คนหนึ่งได้รับอย่างนี้ และอีกคนหนึ่งได้รับอย่างนั้น ข้าพเจ้าขอกล่าวแก่คนที่ยังเป็นโสดและพวกแม่ม่ายว่า การที่เขาจะอยู่เหมือนข้าพเจ้าก็ดีแล้ว แต่ถ้าเขายั้งใจไม่อยู่ ก็จงแต่งงานเสียเถิด เพราะแต่งงานเสียก็ดีกว่ามีใจเร่าร้อนด้วยกามราคะ ส่วนคนที่แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้าขอสั่ง มิใช่ข้าพเจ้าสั่งเอง แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า อย่าให้ภรรยาทิ้งสามี แต่ถ้านางทิ้งสามีไป อย่าให้นางไปมีสามีใหม่ หรือไม่ก็ให้นางกลับมาคืนดีกับสามีเก่า และขออย่าให้สามีหย่าร้างภรรยาเลย ข้าพเจ้าขอกล่าวแก่คนอื่นๆนอกจากคนพวกนี้ (องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ตรัส) ว่า ถ้าพี่น้องคนใดมีภรรยาที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ และนางพอใจที่จะอยู่กับสามี สามีก็ไม่ควรหย่านาง ถ้าหญิงคนใดมีสามีที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ และสามีพอใจที่จะอยู่กับนาง นางก็ไม่ควรหย่าสามีนั้นเลย เพราะว่าสามีที่ไม่เชื่อในพระคริสต์นั้น ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ทางภรรยา และภรรยาที่ไม่เชื่อในพระคริสต์ ก็ได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์ทางสามี มิฉะนั้นลูกของท่านก็เป็นมลทิน แต่บัดนี้เด็กเหล่านั้นก็บริสุทธิ์ แต่ถ้าคนที่ไม่เชื่อในพระคริสต์จะแยกไป ก็จงให้เขาไปเถิด เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นที่พี่น้องชายหญิงจะผูกมัดให้จำใจอยู่ด้วยกัน เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงเรียกเราให้อยู่อย่างสงบ ดูก่อนท่านผู้เป็นภรรยา ไฉนท่านจะรู้ได้ว่าท่านจะช่วยสามีให้รอดได้หรือไม่ ดูก่อนท่านผู้เป็นสามี ไฉนท่านจะรู้ได้ว่าท่านจะช่วยภรรยาให้รอดได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานฐานะแก่แต่ละคนอย่างไร เมื่อพระเจ้าได้ทรงเรียกให้เขามาแล้ว ก็ให้เขาดำรงอยู่ในฐานะนั้น ข้าพเจ้าขอสั่งให้คริสตจักรทั้งหมดทำตามดังนั้น มีชายคนใดที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขาได้รับรอยเข้าสุหนัตแล้วหรือ อย่าให้เขาลบรอยนั้นเสีย หรือมีชายคนใด ที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขามิได้เข้าสุหนัตหรือ อย่าให้เขาเข้าสุหนัตเลย การที่เข้าหรือไม่เข้าสุหนัตไม่สำคัญอะไร แต่การประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้านั้นสำคัญ ให้ทุกคนอยู่ในฐานะที่เขาอยู่ เมื่อพระเจ้าทรงเรียกนั้น พระเจ้าทรงเรียกท่านเมื่อยังเป็นทาสอยู่หรือ ก็ไม่เป็นไร จริงอยู่ ถ้าท่านจะสามารถไถ่ตัวออกได้ ก็ควรไถ่ดีกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ดีผู้ใดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียก เมื่อยังเป็นทาสอยู่ ผู้นั้นเป็นเสรีชนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ฝ่ายคนที่รับการทรงเรียกเมื่อเป็นเสรีชน คนนั้นเป็นทาสของพระคริสต์ พระเจ้าทรงซื้อท่านด้วยราคาสูง อย่าเข้าเป็นทาสของมนุษย์เลย ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ท่านทุกคนดำรงอยู่ในฐานะอันใด เมื่อพระเจ้าทรงเรียก ก็ให้ผู้นั้นอยู่กับพระเจ้าในฐานะนั้น เรื่องคนโสดนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้รับพระบัญชาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็ขอออกความเห็น ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับพระกรุณาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นผู้ที่ไว้ใจได้ เพราะเหตุความยากลำบากที่จะมาถึงอยู่ในเวลานี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกคนควรจะอยู่อย่างที่เขาเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ ท่านมีภรรยาแล้วหรือ อย่าหาช่องที่จะทิ้งภรรยาเลย ท่านเป็นคนตัวเปล่าหรือ อย่าหาภรรยาเลย ถ้าท่านจะแต่งงานก็ไม่มีความผิด และถ้าหญิงสาวพรหมจารีจะแต่งงานก็ไม่มีความผิด แต่คนที่แต่งงานนั้นคงจะต้องยุ่งยากลำบากใจ แต่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะให้ท่านพ้นจากความยุ่งยากนั้น พี่น้องทั้งหลายข้าพเจ้าหมายความว่า ยุคนี้ก็สั้นมากแล้ว ตั้งแต่นี้ไปให้คนเหล่านั้นที่มีภรรยาดำเนินชีวิต เหมือนกับไม่มีภรรยา และให้คนที่เศร้าโศกดำเนินชีวิตเหมือนกับมิได้เศร้าโศก และผู้ที่ชื่นชมยินดี ดำเนินชีวิตเหมือนกับมิได้ชื่นชมยินดี และผู้ที่ซื้อก็ให้ดำเนินชีวิต เหมือนกับว่าเขาไม่มีกรรมสิทธิ์เหนืออะไรเลย และคนที่ใช้ของโลกนี้ให้ดำเนินชีวิต เหมือนกับมิได้ใช้อย่างเต็มที่เลยเพราะระบอบของโลกนี้กำลังล่วงไป ข้าพเจ้าอยากให้ท่านพ้นจากความสาละวนวุ่นวาย ฝ่ายคนที่ไม่มีภรรยาก็สาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่คนที่มีภรรยาแล้วก็สาละวนในการงานของโลกนี้ เพื่อจะทำสิ่งที่พอใจของภรรยา เป็นการสองฝักสองฝ่าย ฝ่ายหญิงที่ไม่มีสามี และสาวพรหมจารีนั้น ก็สาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ทั้งกายและจิตใจ แต่หญิงที่มีสามีแล้วก็สาละวนในการงานของโลกนี้ เพื่อจะทำสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจของสามี ข้าพเจ้าว่าอย่างนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของท่าน มิใช่จะเอาบ่วงบาศคล้องท่าน แต่เพื่อความเป็นระเบียบ ให้ท่านปฏิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยปราศจากใจสองฝักสองฝ่าย แต่ถ้าชายใดมีคู่หมั้นเป็นสาวพรหมจารี และรู้สึกว่าตนจะปฏิบัติต่อคู่หมั้นอย่างสมควรไม่ได้ มีความรักร้อนแรง และต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ให้เขาทำตามปรารถนา คือให้เขาแต่งงานเสีย ไม่มีความผิดอันใด แต่ถ้าชายใดตั้งใจแน่วแน่ และเห็นว่าไม่มีความจำเป็น และเขาบังคับใจตนเองได้ และตั้งใจว่าจะให้หญิงนั้นเป็นคู่หมั้นต่อไป เขาก็กระทำดีแล้ว เหตุฉะนั้นคนใดที่แต่งงานกับคู่หมั้นของตนก็ทำดีอยู่ แต่ผู้ที่ไม่แต่งงานก็ทำดีกว่า ตราบใดที่สามียังมีชีวิตอยู่ ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามี ถ้าสามีตาย นางก็เป็นอิสระจะแต่งงานกับชายใดก็ได้ตามใจ แต่ต้องแต่งงานกับผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ตามความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่า ถ้านางอยู่คนเดียวจะเป็นสุขกว่า และข้าพเจ้าคิดว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่ฝ่ายข้าพเจ้าด้วย

1 โครินธ์ 7:1-40 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ส่วนเรื่องที่ท่านเขียนมานั้น เป็นการดีที่ผู้ชายจะไม่แต่งงาน แต่เพราะมีการผิดศีลธรรมเกิดขึ้นอย่างมาก ผู้ชายแต่ละคนก็ควรมีภรรยาของตนเอง และผู้หญิงแต่ละคนก็ควรมีสามีของตนเอง สามีควรทำหน้าที่สามีต่อภรรยาของตนอย่างสมบูรณ์ และเช่นกันภรรยาก็ควรทำหน้าที่ภรรยาต่อสามีของตนอย่างสมบูรณ์ด้วย ร่างกายของภรรยาไม่ได้เป็นของนางคนเดียว แต่เป็นของสามีด้วย ในทำนองเดียวกันร่างกายของสามีไม่ได้เป็นของเขาคนเดียว แต่เป็นของภรรยาด้วย อย่าปฏิเสธการอยู่ร่วมกัน เว้นแต่เห็นพ้องกันเป็นการชั่วคราวเพื่ออุทิศตนในการอธิษฐาน จากนั้นจึงมาอยู่ร่วมกันอีก เพื่อซาตานจะไม่ล่อลวงท่านให้ทำผิดเนื่องจากขาดการควบคุมตนเอง ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ในเชิงอนุญาต ไม่ใช่คำสั่ง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ทุกคนเป็นเหมือนข้าพเจ้า แต่ของประทานที่แต่ละคนได้รับจากพระเจ้านั้นต่างกัน คนหนึ่งมีของประทานนี้ อีกคนหนึ่งมีของประทานนั้น สำหรับคนโสดและผู้ที่เป็นม่าย ข้าพเจ้าขอบอกว่าเป็นการดีแล้วที่จะไม่แต่งงานเหมือนกับข้าพเจ้า แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ พวกเขาก็ควรแต่งงานเพราะแต่งงานไปก็ยังดีกว่าถูกเผาเร่าร้อนด้วยราคะ สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้าขอสั่ง (ไม่ใช่ข้าพเจ้าสั่งเอง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาไว้) ว่าภรรยาอย่าแยกจากสามีของนาง แต่ถ้านางทำเช่นนั้น นางต้องไม่แต่งงานอีก หรือไม่ก็ต้องกลับมาคืนดีกับสามีของนาง และสามีอย่าได้หย่าร้างภรรยาของตนเลย สำหรับคนอื่นๆ นอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอบอกว่า (ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส) หากพี่น้องคนใดมีภรรยาที่ไม่ใช่ผู้เชื่อ และนางเต็มใจจะอยู่กับสามี เขาต้องไม่หย่าร้างกับนาง และหากฝ่ายหญิงมีสามีที่ไม่ใช่ผู้เชื่อและเขาเต็มใจจะอยู่กับนาง นางจะต้องไม่หย่าร้างจากเขา เพราะสามีที่ไม่เชื่อได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้วผ่านทางภรรยา และภรรยาที่ไม่เชื่อได้รับการทรงชำระให้บริสุทธิ์แล้วผ่านทางสามีที่เชื่อ มิฉะนั้นลูกๆ จะเป็นมลทิน แต่นี่พวกเขาบริสุทธิ์ แต่ถ้าฝ่ายที่ไม่เชื่อแยกตัวไป ก็ปล่อยเขาไปเถิด ในกรณีเช่นนั้นฝ่ายที่เชื่อทั้งชายและหญิงจะไม่ถูกผูกมัด พระเจ้าทรงเรียกเราให้อยู่อย่างสงบสุข ท่านผู้เป็นภรรยาจะรู้ได้อย่างไรว่าจะช่วยให้สามีรอดได้หรือไม่? หรือท่านผู้เป็นสามีจะรู้ได้อย่างไรว่าจะช่วยให้ภรรยารอดได้หรือไม่? อย่างไรก็ตามแต่ละคนควรจะคงสถานภาพที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบหมายและที่พระเจ้าได้ทรงเรียกเขา นี่เป็นกฎที่ข้าพเจ้าวางไว้ในคริสตจักรทั้งปวง ถ้าชายคนใดได้รับการทรงเรียกเมื่อเขาเข้าสุหนัตแล้ว เขาก็ไม่ควรลบล้างการเข้าสุหนัต ถ้าชายคนใดได้รับการทรงเรียกเมื่อเขายังไม่ได้เข้าสุหนัต เขาก็ไม่ควรเข้าสุหนัต ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัต แต่อยู่ที่การรักษาพระบัญชาของพระเจ้า แต่ละคนควรจะคงสถานะที่เขาอยู่เมื่อพระเจ้าทรงเรียก ถ้าท่านได้รับการทรงเรียกเมื่อท่านเป็นทาสอยู่ ก็อย่าให้สิ่งนี้รบกวนท่าน แต่ถ้าท่านสามารถไถ่ตัวเป็นอิสระได้ก็จงทำเถิด เพราะผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกเมื่อเขายังเป็นทาสอยู่ก็เป็นเสรีชนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในทำนองเดียวกันคนที่เป็นไทขณะที่ได้รับการทรงเรียกก็เป็นทาสของพระคริสต์ พระองค์ทรงซื้อท่านในราคาสูง อย่าเป็นทาสของมนุษย์เลย พี่น้องทั้งหลาย ในเมื่อแต่ละคนต้องรับผิดชอบต่อพระเจ้า เขาก็ควรคงอยู่ในสถานะที่พระเจ้าได้ทรงเรียก เกี่ยวกับผู้ที่เป็นพรหมจารีนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้รับพระบัญชาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ขอวินิจฉัยในฐานะของผู้ซึ่งได้รับพระเมตตาของพระเจ้าให้เป็นผู้ที่ไว้ใจได้ เนื่องจากวิกฤติการณ์ในปัจจุบัน ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นการดีที่ท่านจะคงอยู่อย่างที่เป็นอยู่ ท่านแต่งงานแล้วหรือ? ก็อย่าหาทางหย่าร้างเลย ท่านยังไม่ได้แต่งงานหรือ? ก็อย่าเสาะหาภรรยาเลย แต่ถ้าท่านจะแต่งงานก็ไม่บาป และถ้าหญิงพรหมจารีจะแต่งงานก็ไม่บาป แต่คนที่แต่งงานแล้วจะเผชิญความยุ่งยากหลายอย่างในชีวิตนี้ และข้าพเจ้าประสงค์จะให้ท่านพ้นจากสิ่งนี้ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลาก็เหลือน้อยแล้ว ตั้งแต่นี้ไปคนที่มีภรรยาแล้วควรดำเนินชีวิตเสมือนไม่มี ผู้ที่ทุกข์โศกเสมือนไม่ได้ทุกข์โศก ผู้ที่มีความสุขเสมือนไม่มีความสุข ผู้ที่ซื้อเสมือนไม่ได้เป็นเจ้าของ ผู้ที่ใช้สิ่งต่างๆ ของโลกเสมือนไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ เพราะโลกนี้อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันกำลังจะผ่านพ้นไป ข้าพเจ้าอยากให้ท่านพ้นจากความพะวักพะวน คนที่ไม่แต่งงานก็สาละวนอยู่กับการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า มุ่งให้องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย ส่วนคนที่แต่งงานแล้วก็สาละวนอยู่กับเรื่องของโลกนี้ มุ่งให้ภรรยาพอใจ และความสนใจของเขาก็แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ส่วนหญิงที่ไม่แต่งงานหรือสาวพรหมจารีก็สาละวนอยู่กับการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า มุ่งที่จะอุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งกายและจิตวิญญาณ ส่วนหญิงที่แต่งงานแล้วก็สาละวนอยู่กับการงานของโลกนี้ มุ่งให้สามีพอใจ ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อเป็นผลดีแก่ท่านเอง ไม่ใช่เพื่อควบคุมจำกัดท่าน แต่เพื่อท่านจะได้ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้อง ด้วยการอุทิศตนเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยปราศจากใจสองฝักสองฝ่าย หากผู้ใดคิดว่าตนปฏิบัติต่อคู่หมั้นสาวพรหมจารีอย่างไม่เหมาะสม และถ้านางอายุมากขึ้นทุกที และเขารู้สึกว่าตนเองควรแต่งงาน เขาก็ควรทำตามที่ต้องการ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดบาป พวกเขาควรจะแต่งงานกัน แต่ชายผู้ที่ตั้งใจแน่วแน่ไม่ถูกผลักดัน แต่ควบคุมความตั้งใจของตนเองได้และตัดสินใจที่จะไม่แต่งงาน เขาก็ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ดังนั้นแล้วคนที่แต่งงานกับคู่หมั้นสาวพรหมจารีก็ทำถูก แต่คนที่ไม่แต่งงานก็ทำดียิ่งกว่า ตราบใดที่สามียังมีชีวิตอยู่ ภรรยาต้องอยู่กับสามี แต่หากสามีตาย นางจะแต่งงานกับใครก็ได้ตามใจปรารถนา แต่ต้องเป็นผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า ตามความเห็นของข้าพเจ้า นางอยู่คนเดียวจะเป็นสุขกว่า และข้าพเจ้าคิดว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงอยู่กับข้าพเจ้าด้วยในการกล่าวเช่นนี้

1 โครินธ์ 7:1-40 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แล​้วเรื่องที่พวกท่านเขียนมาถึงข้าพเจ้านั้น ขอตอบว่า การที่​ผู้​ชายไม่​ยุ​่งเกี่ยวกับผู้หญิงเลยก็​ดี​แล้ว แต่​เพื่อป้องกันการล่วงประเวณี ผู้​ชายทุกคนควรมีภรรยาเป็นของตนและผู้หญิงทุกคนมี​สามี​เป็นของตน สามี​พึงประพฤติต่อภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงประพฤติต่อสามีตามควรเช่นเดียวกัน ภรรยาไม่​มี​อำนาจเหนือร่างกายของตน แต่​สามี​มี​อำนาจเหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกันสามี​ไม่มี​อำนาจเหนือร่างกายของตน แต่​ภรรยามีอำนาจเหนือร่างกายของสามี อย่าปฏิเสธการอยู่ร่วมกันเว้นแต่​ได้​ตกลงกันเป็นการชั่วคราว เพื่​ออ​ุทิศตัวในการถืออดอาหารและการอธิษฐาน แล​้วจึงค่อยมาอยู่ร่วมกั​นอ​ีก เพื่​อม​ิ​ให้​ซาตานชักจูงให้​ทำผิด เพราะตัวอดไม่​ได้ ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้โดยได้รั​บอน​ุญาต มิใช่​เป็นพระบัญชา ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะให้​ทุ​กคนเป็นเหมือนข้าพเจ้า แต่​ทุ​กคนก็​ได้​รับของประทานจากพระเจ้าเหมาะกับตัว คนหนึ่งได้รั​บอย​่างนี้ และอีกคนหนึ่งได้รั​บอย​่างนั้น เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าขอกล่าวแก่​คนที​่ยังเป็นโสดและพวกแม่ม่ายว่า การที่เขาจะอยู่เหมือนข้าพเจ้าก็​ดี​แล้ว แต่​ถ้าเขายั้งใจไม่​ได้​ก็​จงแต่งงานเสียเถิด เพราะแต่งงานเสี​ยก​็​ดี​กว่ามีใจเร่าร้อนด้วยกามราคะ ส่วนคนที่​แต่​งงานแล้วข้าพเจ้าขอสั่ง มิใช่​ข้าพเจ้าสั่งเอง แต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า อย่าให้ภรรยาทิ้งสามี แต่​ถ้านางทิ้งสามีไปอย่าให้นางไปมี​สามี​ใหม่ หรือไม่​ก็​ให้​นางกลับมาคืนดีกับสามี​เก่า และขออย่าให้​สามี​หย่าร้างภรรยาเลย ข้าพเจ้าขอกล่าวแก่คนอื่นๆนอกจากพวกนี้ (​องค์​พระผู้เป็นเจ้ามิ​ได้​ตรัส​) ว่า ถ้าพี่น้องคนใดมีภรรยาที่​ไม่​เชื่อและนางพอใจที่จะอยู่กับสามี สามี​ก็​ไม่​ควรหย่านาง ถ้าหญิงคนใดมี​สามี​ที่​ไม่​เชื่อและสามีพอใจที่จะอยู่กับนาง นางก็​ไม่​ควรหย่าสามีนั้นเลย ด้วยว่าสามี​ที่​ไม่​เชื่อนั้นได้รับการทรงชำระให้​บริสุทธิ์​ทางภรรยา และภรรยาที่​ไม่​เชื่​อก​็​ได้​รับการทรงชำระให้​บริสุทธิ์​ทางสามี มิ​ฉะนั้นลูกของท่านก็เป็นมลทิน แต่​บัดนี้​ลูกเหล่านั้​นก​็​บริสุทธิ์ แต่​ถ้าคนที่​ไม่​เชื่อจะแยกไป ก็​จงให้เขาไปเถิด เรื่องเช่นนี้​ไม่​จำเป็​นที​่​พี่​น้องชายหญิงจะผูกมัดให้จำใจอยู่​ด้วยกัน เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงเรียกเราให้​อยู่​อย่างสงบ โอ ท่านผู้เป็นภรรยา ไฉนท่านจะรู้​ได้​ว่าท่านจะช่วยสามี​ให้​รอดได้​หรือไม่ โอ ท่านผู้เป็นสามี ไฉนท่านจะรู้​ได้​ว่าท่านจะช่วยภรรยาให้รอดได้​หรือไม่ แต่​ตามที่​พระเจ้าได้ทรงประทานฐานะแก่​แต่​ละคนอย่างไร เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเรียกให้เขามาแล้ว ก็​ให้​เขาดำรงอยู่ในฐานะนั้น ข้าพเจ้าขอสั่งให้คริสตจักรทั้งหมดทำตามดังนั้น มี​ชายคนใดที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขาได้รั​บพิธ​ี​เข​้าสุ​หน​ัตแล้วหรือ อย่าให้เขากลับเป็นเหมือนคนที่​ไม่ได้​เข้าสุหนัต หรื​อม​ีชายคนใดที่พระเจ้าทรงเรียกเมื่อเขามิ​ได้​เข​้าสุ​หน​ัตหรือ อย่าให้เขาเข้าสุ​หน​ัตเลย การเข้าสุ​หน​ัตไม่สำคัญอะไร และการไม่​เข​้าสุ​หน​ัตไม่สำคัญอะไร แต่​การรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเจ้านั้นสำคัญ ให้​ทุ​กคนอยู่ในฐานะที่เขาอยู่เมื่อพระเจ้าทรงเรียกนั้น พระเจ้าทรงเรียกท่านเมื่อยังเป็นทาสอยู่​หรือ ก็​อย่ากระวนกระวายเพราะการเป็นทาสนั้น แต่​ถ้าท่านสามารถไถ่ตัวออกได้​ก็​ควรไถ่​ดีกว่า เพราะผู้ใดที่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกเมื่อยังเป็นทาสอยู่ ผู้​นั้นเป็นเสรีชนขององค์​พระผู้เป็นเจ้า เช่นเดียวกันคนที่รับการทรงเรียกเมื่อเป็นเสรี​ชน คนนั้นเป็นผู้​รับใช้​ของพระคริสต์ พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้​แล​้วตามราคา อย่าเข้าเป็นทาสของมนุษย์​เลย พี่​น้องทั้งหลาย ท่านทุกคนดำรงอยู่ในฐานะอันใดเมื่อพระเจ้าทรงเรี​ยก ก็​ให้​ผู้​นั้นอยู่กับพระเจ้าในฐานะนั้น แล​้วเรื่องหญิงสาวพรหมจารี​นั้น ข้าพเจ้าไม่​ได้​รับพระบัญชาจากองค์​พระผู้เป็นเจ้า แต่​ข้าพเจ้าก็ขอออกความเห็นในฐานะที่เป็นผู้​ได้​รับพระเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นผู้​ที่​ไว้ใจได้ ฉะนั้นเพราะเหตุความยากลำบากที่​มี​อยู่​ในเวลานี้ ข้าพเจ้าเห็​นว​่า ทุ​กคนควรจะอยู่อย่างที่เขาอยู่​เดี๋ยวนี้ ท่านมีภรรยาแล้วหรือ อย่าหาช่องที่จะหย่าภรรยาเลย ท่านหย่าจากภรรยาแล้วหรือ อย่าหาภรรยาเลย ถ้าท่านจะแต่งงานก็​ไม่มี​ความผิด และถ้าหญิงสาวพรหมจารีจะแต่งงานก็​ไม่มี​ความผิด แต่​คนที​่​แต่​งงานนั้นคงจะต้องยุ่งยากลำบากในฝ่ายเนื้อหนัง แต่​ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะให้ท่านพ้นจากความยุ่งยากนั้น พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่ายุ​คน​ี้​ก็​สั้นมากแล้ว ตั้งแต่​นี้​ไปให้คนเหล่านั้​นที​่​มี​ภรรยาดำเนินชีวิตเหมือนกับไม่​มี​ภรรยา และให้​คนที​่เศร้าโศกเป็นเหมือนกับมิ​ได้​เศร้าโศก และผู้​ที่​ชื่นชมยินดี​ให้​ได้​เป็นเหมือนกับมิ​ได้​ชื่นชมยินดี และผู้​ที่​ซื้​อก​็​ให้​ดำเนินชีวิตเหมือนกับว่าเขาไม่​มีกรรมสิทธิ์​เหนืออะไรเลย และคนที่​ใช้​ของโลกนี้​ให้​เป็นเหมือนกับมิ​ได้​ใช้​อย่างเต็มที่​เลย เพราะความนิยมของโลกนี้กำลังล่วงไป ข้าพเจ้าอยากให้ท่านพ้นจากความสาละวนวุ่นวาย ฝ่ายคนที่​ไม่มี​ภรรยาก็สาละวนในการงานขององค์​พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะทำสิ่งซึ่งเป็​นที​่พอพระทัยองค์​พระผู้เป็นเจ้า แต่​คนที​่​มี​ภรรยาแล้​วก​็สาละวนในการงานของโลกนี้เพื่อจะทำสิ่งที่พอใจของภรรยา มี​ความแตกต่างกันด้วยระหว่างภรรยาและสาวพรหมจารี หญิงที่ยังไม่​แต่​งงานก็สาละวนในการงานขององค์​พระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะได้เป็นคนบริ​สุทธิ​์ทั้งกายและจิตใจ แต่​หญิงที่​มี​สามี​แล้วก็​สาละวนในการงานของโลกนี้เพื่อจะทำสิ่งซึ่งเป็​นที​่พอใจของสามี ข้าพเจ้าว่าอย่างนี้​ก็​เพื่อเป็นประโยชน์ของท่าน มิใช่​จะเอาบ่วงบาศคล้องท่านแต่เพื่อความเป็นระเบียบ ให้​ท่านปฏิบั​ติ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าโดยปราศจากใจสองฝักสองฝ่าย แต่​ถ้าชายใดคิดว่าเขาปฏิบั​ติ​ต่อสาวพรหมจารีของเขาอย่างสมควรไม่​ได้ และถ้าหญิงนั้​นม​ี​อายุ​ผ่านวัยหนุ่มสาวแล้ว และต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่​งก​็​ให้​เขาทำตามปรารถนา จงให้เขาแต่งงานเสีย เขาไม่​ได้​ทำผิดสิ่งใด แต่​ชายใดที่ตั้งใจแน่วแน่และเห็​นว​่าไม่​มีความจำเป็น แต่​เขาบังคับใจตนเองได้ และตั้งใจว่าจะให้หญิงนั้นเป็นพรหมจารี​ต่อไป เขาก็กระทำดี​แล้ว เหตุ​ฉะนั้นผู้ใดที่​ให้​หญิงนั้นแต่งงานก็​ทำดี​อยู่ แต่​ผู้​ที่​ไม่​ให้​แต่​งงานก็​ทำดี​กว่า ตราบใดที่​สามี​ยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่ ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามี​ตามกฎหมาย แต่​ถ้าสามี​ตาย นางก็เป็​นอ​ิสระจะแต่งงานกับชายใดก็​ได้​ตามใจ ในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่​ตามความเห็นของข้าพเจ้าก็​เห​็​นว​่าถ้านางอยู่คนเดียวจะเป็นสุขกว่า และข้าพเจ้าคิดว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่ฝ่ายข้าพเจ้าด้วย

1 โครินธ์ 7:1-40 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ส่วน​เรื่อง​ที่​พวก​ท่าน​เขียน​มา​ว่า “ผู้​ชาย​ไม่​มี​ความ​สัมพันธ์​กับ​ผู้​หญิง​ย่อม​ดี​กว่า” แต่​เพราะ​มี​การ​ยั่วยุ​ให้​ประพฤติ​ผิด​ทาง​เพศ ชาย​แต่​ละ​คน​ควร​มี​ภรรยา​เป็น​ของ​ตน​เอง และ​หญิง​แต่​ละ​คน​ควร​มี​สามี​เป็น​ของ​ตน​เอง สามี​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​ภรรยา​อย่าง​สมควร​ตาม​หน้าที่ ส่วน​ภรรยา​ก็​เช่น​กัน ร่างกาย​ของ​ภรรยา​ไม่​ได้​เป็น​ของ​นาง​เพียง​ผู้​เดียว แต่​เป็น​ของ​สามี​ด้วย ร่างกาย​ของ​สามี​ไม่​ได้​เป็น​ของ​เขา​เพียง​ผู้​เดียว แต่​เป็น​ของ​ภรรยา​ด้วย​เช่น​กัน อย่า​ปฏิเสธ​กัน​และ​กัน​เว้น​แต่​มี​การ​ตกลง​กัน​ก่อน เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​อุทิศ​เวลา​สำหรับ​การ​อธิษฐาน ครั้น​แล้ว​ก็​มา​อยู่​ร่วม​กัน​อีก เพื่อ​ซาตาน​จะ​ได้​ไม่​อาจ​ยั่วยุ​ท่าน​ได้​ใน​ยาม​ที่​ท่าน​ควบคุม​ตน​เอง​ไม่​ได้ ข้าพเจ้า​กล่าว​เช่น​นี้​เพื่อ​เป็น​การ​อนุญาต ไม่​ใช่​การ​สั่ง ข้าพเจ้า​ปรารถนา​ที่​จะ​ให้​ทุก​คน​เป็น​เหมือน​ข้าพเจ้า แต่​ทุก​คน​ได้​รับ​ของ​ประทาน​จาก​พระ​เจ้า​ต่าง​กัน คน​หนึ่ง​ได้​รับ​อย่าง​หนึ่ง ใน​ขณะ​ที่​อีก​คน​หนึ่ง​ได้​รับ​อีก​อย่าง​หนึ่ง สำหรับ​คน​ที่​ยัง​ไม่​แต่งงาน​และ​พวก​แม่ม่าย ข้าพเจ้า​ขอ​กล่าว​ว่า​พวก​เขา​ไม่​แต่งงาน​จะ​ดี​กว่า เหมือน​อย่าง​ที่​ข้าพเจ้า​เป็น แต่​ถ้า​พวก​เขา​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ตน​เอง​ได้ ก็​ควร​แต่งงาน เพราะ​ว่า​แต่งงาน​เสีย​จะ​ดี​กว่า​ปล่อย​ให้​กาม​ราคะ​เผา​ใจ​ให้​รุ่มร้อน สำหรับ​ผู้​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ข้าพเจ้า​ขอ​สั่ง​ว่า (ไม่​ใช่​ข้าพเจ้า แต่​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า) ภรรยา​ต้อง​ไม่​แยก​ไป​จาก​สามี แต่​ถ้า​นาง​แยก​จาก​ไป นาง​ต้อง​ไม่​แต่งงาน​ใหม่ มิฉะนั้น​ต้อง​กลับ​มา​คืน​ดี​กับ​สามี และ​สามี​ต้อง​ไม่​หย่าร้าง​ภรรยา สำหรับ​คน​อื่น ข้าพเจ้า​ขอ​กล่าว​ว่า (เป็น​ข้าพเจ้า​เอง ไม่​ใช่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า) ถ้า​พี่​น้อง​คน​ใด​มี​ภรรยา​ผู้​ไม่​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์ แต่​ตั้งใจ​จะ​อยู่​กับ​สามี สามี​ต้อง​ไม่​หย่าร้าง​นาง และ​ถ้า​หญิง​คน​ใด​มี​สามี​ผู้​ไม่​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์ แต่​ตั้งใจ​จะ​อยู่​กับ​นาง นาง​ต้อง​ไม่​หย่าร้าง​สามี เพราะ​ว่า​สามี​ที่​ไม่​เชื่อ​ได้​รับ​การ​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์​ทาง​ภรรยา​แล้ว และ​ภรรยา​ที่​ไม่​เชื่อ​ได้​รับ​การ​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์​ทาง​สามี​ผู้​มี​ความ​เชื่อ มิฉะนั้น​ลูก​ของ​ท่าน​จะ​มี​มลทิน แต่​เท่า​ที่​เป็น​อยู่​ลูกๆ นั้น​ก็​บริสุทธิ์ แต่​ถ้า​คู่ครอง​ที่​ไม่​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์​แยก​จาก​ไป ก็​ปล่อย​ให้​เขา​ไป ชาย​หรือ​หญิง​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์ ไม่​มี​ข้อ​ผูกมัด​ให้​จำใจ​อยู่​ด้วย​กัน เพราะ​พระ​เจ้า​ได้​เรียก​เรา​ให้​อยู่​อย่าง​สันติ ผู้​เป็น​ภรรยา ท่าน​ทราบ​ได้​อย่างไร​ว่า​ท่าน​จะ​ช่วย​สามี​ให้​รอด​พ้น​ได้​หรือ​ไม่ หรือ​ผู้​เป็น​สามี ท่าน​ทราบ​ได้​อย่างไร​ว่า ท่าน​จะ​ช่วย​ภรรยา​ให้​รอด​พ้น​ได้​หรือ​ไม่ อย่างไร​ก็​ดี ท่าน​แต่​ละ​คน​ควร​ดำรง​ชีวิต​ของ​ตน​ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กำหนด​ไว้ และ​ตาม​ที่​พระ​เจ้า​เรียก​ท่าน นี่​ก็​เป็น​กฎ​ของ​ข้าพเจ้า​สำหรับ​ทุก​คริสตจักร มี​ชาย​ใด​บ้าง​ไหม​ที่​ได้​เข้า​สุหนัต​แล้ว เวลา​ที่​พระ​เจ้า​เรียก​เขา ถ้า​เข้า​แล้ว​ก็​ไม่​ควร​เลิก มี​ชาย​ใด​บ้าง​ไหม​ที่​ยัง​ไม่​ได้​เข้า​สุหนัต เวลา​ที่​พระ​เจ้า​เรียก​เขา ก็​ไม่​ต้อง​ให้​เขา​เข้า การ​เข้า​สุหนัต​หรือ​ไม่​นั้น​ไม่​สำคัญ​เลย สิ่ง​สำคัญ​คือ​การ​ปฏิบัติ​ตาม​พระ​บัญญัติ​ของ​พระ​เจ้า ทุก​คน​ควร​ดำรง​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​อยู่​เมื่อ​พระ​เจ้า​เรียก เมื่อ​พระ​เจ้า​เรียก​ท่าน ท่าน​เป็น​ทาส​อยู่​หรือ ถ้า​เป็น​ก็​ไม่​ต้อง​กังวล​ใจ แต่​ถ้า​หาก​สามารถ​เป็น​อิสระ​ได้​ก็​เป็น​เถิด ด้วย​ว่า​คน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เรียก แม้​จะ​เป็น​ทาส​อยู่ ก็​นับ​ว่า​เป็น​อิสระชน​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ใน​ทำนอง​เดียว​กัน​คือ​อิสระชน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เรียก ก็​เป็น​ทาส​ของ​พระ​คริสต์ พระ​เจ้า​ได้​ซื้อ​ท่าน​ไว้​แล้ว​ใน​ราคา​สูง ดังนั้น​อย่า​เป็น​ทาส​ของ​มนุษย์ พี่​น้อง​แต่​ละ​คน​จง​ดำรง​ตน​ตาม​ฐานะ​ที่​เป็น​อยู่​เวลา​ที่​พระ​เจ้า​เรียก ส่วน​เรื่อง​พรหมจารี ไม่​มี​คำ​สั่ง​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แต่​ตาม​ความ​เห็น​ของ​ข้าพเจ้า​ที่​ไว้​วางใจ​ได้​ด้วย​พระ​เมตตา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ข้าพเจ้า​ลง​ความ​เห็น​ตาม​ความ​ทุกข์​ใน​ขณะ​นี้​ว่า ท่าน​อยู่​อย่าง​ที่​เป็น​อยู่​นี้​ก็​ดี​แล้ว ท่าน​แต่งงาน​แล้ว​หรือ ไม่​ต้อง​ดิ้นรน​หย่าร้าง​หรอก ท่าน​ยัง​ไม่​ได้​แต่งงาน​หรือ ก็​อย่า​เสาะหา​คู่​เลย แต่​หาก​ว่า​ท่าน​แต่งงาน​ก็​ไม่​นับ​ว่า​ทำ​บาป แม้​ว่า​พรหมจาริณี​แต่งงาน เธอ​ก็​ไม่​ได้​ทำ​บาป แต่​พวก​ที่​แต่งงาน​จะ​เผชิญ​ความ​ยุ่งยาก​ใน​ชีวิต​นี้ และ​ข้าพเจ้า​พยายาม​ช่วย​ให้​ท่าน​หลุด​พ้น​จาก​ความ​ยุ่งยาก​ดัง​กล่าว พี่​น้อง​เอ๋ย ข้าพเจ้า​หมาย​ความ​ว่า​เวลา​มี​น้อย ตั้งแต่​นี้​ไป​บรรดา​ผู้​มี​ภรรยา​ควร​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​ไม่​มี​ภรรยา บรรดา​ผู้​เศร้าโศก​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​กับ​ไม่​เศร้าโศก บรรดา​ผู้​ชื่นชม​ยินดี​ดำเนิน​ชีวิต​เหมือน​กับ​ไม่​ชื่นชม​ยินดี บรรดา​ผู้​ซื้อ​ก็​เหมือน​ไม่​ได้​สิ่ง​นั้น​มา​เป็น​ของ​ตน​เอง บรรดา​ผู้​ใช้​สิ่ง​ของ​ใน​โลก​ก็​เหมือน​กับ​ไม่​ได้​ใช้​อย่าง​เต็ม​ที่ เพราะ​ตาม​แบบ​ที่​เป็น​อยู่​ของ​โลก​นี้​กำลัง​จะ​สูญสิ้น​ไป ข้าพเจ้า​อยาก​จะ​ให้​ท่าน​พ้น​จาก​ความ​ห่วงใย ชาย​ที่​ไม่​ได้​แต่งงาน​มี​ความ​ห่วงใย​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​จึง​จะ​เป็น​ที่​พอใจ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แต่​คน​ที่​แต่งงาน​แล้ว​ก็​จะ​ห่วงใย​ใน​เรื่อง​ของ​โลก​นี้​ว่า เขา​จะ​เอาใจ​ภรรยา​ได้​อย่างไร​บ้าง เขา​ก็​ต้อง​แบ่ง​ความ​สนใจ​ออก​ไป หญิง​ที่​ไม่​ได้​แต่งงาน​หรือ​เป็น​พรหมจาริณี​จะ​มี​ความ​ห่วงใย​ใน​เรื่อง​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า เธอ​จะ​อุทิศ​ตน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ด้วย​ความ​บริสุทธิ์​ทั้ง​กาย​และ​วิญญาณ​ได้​อย่างไร แต่​หญิง​ที่​แต่งงาน​จะ​ห่วงใย​ใน​เรื่อง​ของ​โลก​นี้​ว่า นาง​จะ​เอาใจ​สามี​ได้​อย่างไร​บ้าง ข้าพเจ้า​กล่าว​มา​นี้​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ท่าน​เอง ไม่​ใช่​เป็น​บ่วงบาศ​คล้อง​ท่าน​ไว้ แต่​ให้​ท่าน​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ทาง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​การ​อุทิศ​ตน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า โดย​ไม่​ต้อง​แบ่ง​ความ​สนใจ ถ้า​ชาย​ใด​คิด​ว่า​เขา​ไม่​ปฏิบัติ​ตน​อัน​สมควร​ต่อ​พรหมจาริณี​ที่​หมั้น​ไว้ ถ้า​เขา​ควบคุม​ความ​รุ่มร้อน​ใน​กาม​ราคะ​ไม่​ได้ ก็​ต้อง​เป็น​ไป​ตาม​นี้ คือ​ปล่อย​ให้​เขา​แต่งงาน​ได้​ตาม​ใจ​ปรารถนา ไม่​นับ​ว่า​เป็น​การ​ทำ​บาป และ​ให้​เขา​แต่งงาน​กัน​เสีย แต่​ถ้า​ชาย​ใด​มั่นใจ​และ​เห็น​ว่า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​แต่งงาน เขา​บังคับ​ใจ​ตน​เอง​ได้ และ​ตัดสิน​ใจ​ให้​คู่หมั้น​ของ​ตน​เป็น​พรหมจาริณี​อยู่​คง​เดิม เขา​ก็​กระทำ​ถูก​ต้อง​ดี​แล้ว ฉะนั้น​คน​ที่​แต่งงาน​กับ​พรหมจาริณี​กระทำ​ดี​แล้ว แต่​คน​ที่​ไม่​แต่งงาน​กับ​เธอ​กระทำ​ดี​ยิ่ง​กว่า ภรรยา​มี​ข้อ​ผูกมัด​อยู่​กับ​สามี ตราบ​เท่า​ที่​เขา​มี​ชีวิต​อยู่ แต่​ถ้า​สิ้น​สามี​แล้ว นาง​มี​อิสระ​ที่​จะ​แต่งงาน​กับ​คน​ที่​นาง​ต้องการ​ได้ แต่​เขา​ต้อง​เป็น​ผู้​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ตาม​ความ​เห็น​ของ​ข้าพเจ้า​แล้ว นาง​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​กว่า​ถ้า​ไม่​แต่งงาน​อีก และ​ข้าพเจ้า​คิด​ว่า​ข้าพเจ้า​มี​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​เจ้า​เช่น​กัน