1 เธสะโลนิกา 3:1-5
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เพราะเหตุนั้นเมื่อทนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว จึงเห็นว่าเราควรอยู่ที่กรุงเอเธนส์แต่ลำพัง และให้ทิโมธีน้องของเรา ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในเรื่องข่าวประเสริฐของพระคริสต์ ไปหาพวกท่าน เพื่อจะได้หนุนความเชื่อของท่าน และชูใจพวกท่าน เพื่อจะได้ไม่มีใครหวั่นไหวด้วยการยากลำบากเหล่านี้ ท่านเองก็รู้แล้วว่าการนั้นยังอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเรา เมื่อเราอยู่กับท่านทั้งหลาย ก็ได้บอกท่านไว้ก่อนแล้วว่า เราจะต้องทนการยากลำบาก แล้วก็เป็นจริงอย่างนั้น ตามที่ท่านรู้ เพราะเหตุนี้ เมื่อข้าพเจ้าทนต่อไปอีกไม่ได้ จึงใช้คนไปเพื่อจะได้ทราบถึงความเชื่อของท่าน เกรงว่าผู้ทดลองนั้นจะทดลองท่านสักประการหนึ่ง แล้วงานที่เราตรากตรำมาจะเป็นงานเปล่าประโยชน์ไป
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เหตุฉะนั้นเมื่อเราทนอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว จึงเห็นชอบที่จะให้เขาปล่อยเราไว้ที่กรุงเอเธนส์แต่ลำพัง และได้ให้ทิโมธีน้องของเรา ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ในเรื่องข่าวประเสริฐของพระคริสต์ไปหาพวกท่าน เพื่อจะได้ตั้งพวกท่านไว้ให้มั่นคงในเรื่องความเชื่อของท่าน และเพื่อจะได้ชูใจพวกท่าน เพื่อจะได้ไม่มีใครหวั่นไหวด้วยการยากลำบากเหล่านี้ ท่านเองก็รู้แล้วว่า เราถูกทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับการนั้น ด้วยว่าเมื่อเราได้อยู่กับท่านทั้งหลาย เราได้บอกท่านไว้ก่อนแล้วว่า เราจะต้องทนการยากลำบาก แล้วก็เป็นจริงอย่างนั้น ตามที่ท่านก็รู้อยู่แล้ว เพราะเหตุนี้ เมื่อข้าพเจ้าอดทนต่อไปอีกไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงได้ใช้คนไปเพื่อจะได้รู้ถึงความเชื่อของท่าน เกรงว่าผู้ทดลองนั้นได้ทดลองท่านด้วยประการหนึ่งประการใด แล้วงานที่เราตรากตรำมาจะเป็นงานเปล่าประโยชน์ไป
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในที่สุดเมื่อพวกเราทนคอยฟังข่าวจากคุณไม่ไหวแล้ว พวกเราเต็มใจที่จะอยู่ในเอเธนส์ตามลำพัง แล้วส่งน้องทิโมธี เพื่อนที่ร่วมทำงานของพระเจ้าในการประกาศข่าวดีของพระคริสต์ มาหาคุณ เพื่อช่วยคุณให้ยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ และไว้วางใจในพระเจ้าต่อไป จะได้ไม่มีใครหวั่นไหวไปกับการข่มเหงที่เจออยู่ในตอนนี้ เพราะพวกคุณรู้อยู่แล้วว่า พระเจ้าได้กำหนดให้เราต้องเจอกับการข่มเหงพวกนี้อยู่แล้ว ความจริงแล้ว ตอนที่พวกเราอยู่กับคุณนั้น เราได้เตือนว่าคุณจะต้องเจอกับการข่มเหงมากมาย และมันก็เป็นจริงตามนั้นอย่างที่คุณรู้อยู่แล้ว เพราะอย่างนั้น เมื่อผมทนคอยต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็เลยส่งทิโมธีให้มาดูว่า ความเชื่อของคุณเป็นอย่างไร กลัวว่าซาตานจอมยั่วยวนอาจจะมายั่วยวนคุณให้หลงไปแล้ว ทำให้งานที่เราลงแรงกันไปนั้นสูญเปล่า
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เหตุฉะนั้นเมื่อเราทนอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เราจึงเห็นชอบที่จะถูกปล่อยไว้ที่กรุงเอเธนส์ตามลำพัง และได้ให้ทิโมธีน้องชายของเรา ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และเป็นเพื่อนร่วมงานของเราในเรื่องข่าวประเสริฐของพระคริสต์ไปหาพวกท่าน เพื่อจะได้ตั้งพวกท่านไว้ให้มั่นคง และเพื่อจะได้ปลอบประโลมใจพวกท่านในเรื่องความเชื่อของท่าน เพื่อจะได้ไม่มีใครหวั่นไหวด้วยการยากลำบากเหล่านี้ ท่านเองก็รู้แล้วว่า เราถูกทรงกำหนดไว้แล้วสำหรับการนั้น ด้วยว่าเมื่อเราได้อยู่กับท่านทั้งหลาย เราได้บอกท่านไว้ก่อนแล้วว่า เราจะต้องทนการยากลำบาก แล้วก็เป็นจริงอย่างนั้น ตามที่ท่านก็รู้อยู่แล้ว เพราะเหตุนี้ เมื่อข้าพเจ้าอดทนต่อไปอีกไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงได้ใช้คนไปเพื่อจะได้รู้ถึงความเชื่อของท่าน เกรงว่าผู้ทดลองนั้นได้ทดลองท่านด้วยประการหนึ่งประการใด แล้วงานของเราก็จะเป็นการเสียเปล่า
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดังนั้นเมื่อเราทนต่อไปไม่ไหว จึงเห็นควรให้ปล่อยเราไว้ที่กรุงเอเธนส์ตามลำพัง และเราได้ส่งทิโมธีผู้เป็นน้องของเรา และเป็นเพื่อนร่วมรับใช้พระเจ้า ในการเผยแพร่ข่าวประเสริฐของพระคริสต์ มาให้กำลังใจท่านให้เข้มแข็งขึ้นในความเชื่อ เพื่อจะไม่มีใครสั่นคลอนไปกับการกดขี่ข่มเหงเหล่านี้ ท่านย่อมทราบดีว่าพวกเราถูกกำหนดไว้แล้วเพื่อการนั้น อันที่จริงเมื่อเราอยู่กับท่าน เราพร่ำบอกท่านไว้แล้วว่าเราจะถูกกดขี่ข่มเหง แล้วก็เป็นจริงตามนั้นดังที่ท่านทราบดีอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เมื่อข้าพเจ้าทนคอยต่อไปอีกไม่ได้จึงส่งคนมาดูความเชื่อของท่าน ข้าพเจ้ากลัวว่าซาตานอาจจะล่อลวงท่านในทางใดทางหนึ่งเข้าแล้ว และความพยายามของเราก็อาจจะสูญเปล่า
1 เธสะโลนิกา 3:1-5 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ดังนั้นเมื่อพวกเราทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงคิดกันว่า ข้าพเจ้าอยู่ต่อที่เมืองเอเธนส์ตามลำพังเป็นดีที่สุด แล้วพวกเราก็ให้ทิโมธีผู้เป็นน้องชาย และเป็นผู้ร่วมงานรับใช้พระเจ้าด้วยกันกับเราในการประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์มา เพื่อให้กำลังใจและปลอบประโลมท่านในความเชื่อ เพื่อจะได้ไม่มีใครหวั่นไหวต่อความยากลำบากทั้งปวง ท่านเองก็ทราบแล้วว่า พวกเราได้รับมอบหมายให้เผชิญสิ่งเหล่านี้ ความจริงแล้วเวลาที่พวกเราอยู่กับท่าน เราได้บอกล่วงหน้าเสมอว่าเราจะต้องถูกกดขี่ข่มเหง และก็เกิดขึ้นแล้วตามที่ท่านก็ทราบดี ด้วยเหตุนี้ เมื่อข้าพเจ้าทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ข้าพเจ้าให้ทิโมธีไปดูว่าความเชื่อของท่านเป็นอย่างไร โดยเกรงว่าพญามารผู้ยั่วยุอาจจะยั่วยุท่านเข้าแล้ว และความอุตสาหะของพวกเราจะไร้ประโยชน์