กิจการ 10:1-48

กิจการ 10:1-48 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

และมีชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัสอาศัยอยู่ในเมืองซีซารียา เป็นนายร้อยในกองพันทหารที่เรียกว่ากองอิตาเลียน ท่านและครอบครัวเป็นคนเคร่งศาสนาและเกรงกลัวพระเจ้า ท่านให้ทานแก่ประชาชนอย่างมากมายและอ้อนวอนพระเจ้าอยู่เสมอ เวลาประมาณบ่ายสามโมง นายร้อยคนนั้นเห็นนิมิตชัดเจนว่ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้ามาหาตน และกล่าวว่า “โครเนลิอัส” โครเนลิอัสจ้องมองทูตองค์นั้นด้วยความตกใจกลัว และถามว่า “นี่หมายความถึงอะไร ท่านเจ้าข้า?” ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า “คำอธิษฐานและการให้ทานของท่านขึ้นไปถึงพระเจ้าเป็นเหตุให้พระองค์ทรงระลึกถึงท่านแล้ว บัดนี้จงใช้คนไปเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ท่านอาศัยอยู่กับซีโมนที่เป็นช่างฟอกหนัง บ้านของเขาอยู่ริมฝั่งทะเล” เมื่อทูตสวรรค์ที่พูดกับท่านจากไปแล้ว ท่านก็เรียกหาคนใช้สองคนกับทหารที่เคร่งศาสนาคนหนึ่งซึ่งเคยปรนนิบัติท่านเสมอ เมื่อโครเนลิอัสเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พวกเขาฟังแล้ว ท่านก็ใช้พวกเขาไปเมืองยัฟฟา วันรุ่งขึ้นเวลาประมาณเที่ยง ขณะที่คนกลุ่มนี้เดินทางใกล้จะถึงเมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบนหลังคาตึกเพื่ออธิษฐาน ขณะนั้นท่านหิวอยากจะรับประทานอาหาร และในระหว่างที่ยังจัดอาหารกันอยู่ เปโตรก็ตกอยู่ในภวังค์ และท่านเห็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง มีอะไรอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่ ซึ่งมุมทั้งสี่ถูกหย่อนลงมายังพื้นโลก ในนั้นมีสัตว์ทุกอย่าง ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนกในอากาศ แล้วมีพระสุรเสียงกล่าวกับท่านว่า “เปโตร จงลุกขึ้นฆ่ากิน” เปโตรจึงทูลว่า “ไม่ได้ องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าสิ่งไม่บริสุทธิ์หรือเป็นมลทินนั้น ข้าพระองค์ไม่เคยรับประทานเลย” แล้วมีพระสุรเสียงมาเป็นครั้งที่สองกล่าวกับท่านว่า “สิ่งที่พระเจ้าทรงชำระแล้ว เจ้าอย่าว่าเป็นสิ่งไม่บริสุทธิ์” สิ่งนี้ปรากฏถึงสามครั้ง แล้วถูกรับขึ้นไปในท้องฟ้าทันที เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิมิตที่เห็นนั้นว่ามีความหมายอย่างไร ในทันใดนั้น คนที่โครเนลิอัสใช้ไปนั้นก็มายืนอยู่หน้าประตูรั้วหลังจากถามหาจนพบตึกของซีโมน พวกเขาร้องถามว่าซีโมนที่เรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นี่หรือไม่? ขณะเปโตรตริตรองเรื่องนิมิตอยู่นั้น พระวิญญาณตรัสกับท่านว่า “นี่แน่ะ มีชายสามคนมาหาเจ้า จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับพวกเขาเถิด อย่าลังเลใจเลย เพราะว่าเราใช้พวกเขามา” เปโตรจึงลงไปหาคนเหล่านั้นกล่าวว่า “นี่แน่ะ ข้าพเจ้าคือคนที่พวกท่านตามหา พวกท่านมีธุระอะไรหรือ?” เขาทั้งหลายจึงตอบว่า “นายร้อยโครเนลิอัสเป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และเป็นคนมีชื่อเสียงดีในหมู่พวกยิว โครเนลิอัสผู้นี้ได้รับคำบอกจากทูตสวรรค์บริสุทธิ์ให้มาเชิญท่านไปบ้านเพื่อฟังถ้อยคำของท่าน” เปโตรจึงเชิญพวกเขาเข้าไปข้างในและให้พักอยู่ที่นั่น วันรุ่งขึ้นเปโตรลุกขึ้นไปกับพวกเขา และพี่น้องบางคนที่เมืองยัฟฟาก็ไปด้วย วันต่อมาเขาทั้งหลายไปถึงเมืองซีซารียา โครเนลิอัสกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ และเชิญญาติพี่น้องกับเพื่อนสนิทมาประชุมร่วมกัน เมื่อเปโตรมาถึง โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตรและทรุดตัวลงแทบเท้าท่าน เปโตรจึงประคองโครเนลิอัสให้ลุกขึ้นและกล่าวว่า “จงลุกขึ้นยืน ข้าพเจ้าก็เป็นเพียงมนุษย์เหมือนกัน” ระหว่างที่กำลังสนทนากัน เปโตรเข้าไปและเห็นคนจำนวนมากมาอยู่รวมกัน จึงกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “พวกท่านทราบแล้วว่า การที่คนยิวจะคบหาหรือเยี่ยมเยียนคนต่างชาติถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม แต่พระเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่ควรถือว่าคนหนึ่งคนใดไม่บริสุทธิ์หรือเป็นมลทิน เพราะเหตุนี้เมื่อท่านใช้คนไปเชิญข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงมาโดยไม่ขัด ข้าพเจ้าขอถามว่า ที่ท่านเชิญข้าพเจ้ามานี้มีจุดประสงค์อะไร?” โครเนลิอัสจึงตอบว่า “สี่วันที่แล้วขณะข้าพเจ้ากำลังอธิษฐานอยู่ในบ้านของข้าพเจ้าราวๆ ตอนนี้คือบ่ายสามโมง มีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า สวมเสื้อผ้ามันวาวระยิบระยับ คนนั้นกล่าวว่า ‘โครเนลิอัส พระเจ้าทรงระลึกถึงคำอธิษฐาน และการทำทานของท่านแล้ว เพราะฉะนั้นจงใช้คนไปเมืองยัฟฟาเชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ท่านอาศัยอยู่ในบ้านของซีโมนช่างฟอกหนังที่ริมฝั่งทะเล’ ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมาทันที การที่ท่านมาก็ดีแล้ว เวลานี้เราอยู่กันพร้อมหน้าเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเพื่อฟังสิ่งสารพัดที่พระองค์ตรัสสั่งท่านไว้” แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนในทุกชนชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์ เรื่องที่พระองค์ทรงฝากไว้กับพวกอิสราเอลคือการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องสันติสุขโดยทางพระเยซูคริสต์ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือคนทั้งหลาย พวกท่านก็รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดีย โดยเริ่มต้นที่แคว้นกาลิลีหลังจากยอห์นประกาศเรื่องบัพติศมานั้น คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ เราคือสักขีพยานของกิจการทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำในแคว้นยูเดียและในกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาฆ่าพระองค์โดยแขวนไว้ที่ต้นไม้ และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายและทรงให้ปรากฏ ไม่ใช่ให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ให้ปรากฏแก่เรา คือบรรดาสักขีพยานที่พระเจ้าทรงเลือกไว้แล้ว คือทรงปรากฏแก่เราที่กินและดื่มกับพระองค์หลังจากพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงสั่งให้เราประกาศกับคนทั้งหลาย และเป็นพยานว่า พระเจ้าทรงตั้งพระองค์เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย บรรดาผู้เผยพระวจนะก็เป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของพวกเขาโดยพระนามของพระองค์” ขณะเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาสถิตกับทุกคนที่ฟังพระวจนะนั้น บรรดาคนเข้าสุหนัตที่เชื่อแล้วซึ่งมาพร้อมกับเปโตรต่างประหลาดใจ เพราะว่าพระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่คนต่างชาติด้วย เพราะเขาทั้งหลายได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาต่างๆ และยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เปโตรจึงถามว่า “ใครจะห้ามคนเหล่านี้ที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนเราจากการรับบัพติศมาด้วยน้ำ?” เปโตรจึงสั่งให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ แล้วพวกเขาขอให้เปโตรพักอยู่กับพวกเขาอีกสักระยะหนึ่ง

กิจการ 10:1-48 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ที่เมืองซีซารียามีนายร้อยคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส อยู่ในกองทหารที่เรียกว่ากองอิตาลี เขากับทั้งครอบครัวของเขาเคร่งศาสนาและยำเกรงพระเจ้า เขาช่วยเหลือเจือจานผู้ขัดสนด้วยใจกว้างขวางและอธิษฐานต่อพระเจ้าอยู่เสมอ วันหนึ่งราวบ่ายสามโมงเขาได้รับนิมิตเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้าอย่างชัดเจน ทูตนั้นเข้ามาหาเขาและกล่าวว่า “โครเนลิอัสเอ๋ย!” โครเนลิอัสจ้องมองทูตนั้นด้วยความกลัวและถามว่า “ท่านเจ้าข้ามีอะไรหรือ?” ทูตสวรรค์ตอบว่า “คำอธิษฐานของท่านและสิ่งที่ท่านเจือจานแก่ผู้ยากไร้นั้นขึ้นไปเป็นเครื่องบูชาให้ระลึกถึงต่อหน้าพระเจ้าแล้ว บัดนี้จงส่งคนไปยังเมืองยัฟฟาแล้วรับตัวชายชื่อซีโมนที่เรียกกันว่าเปโตรมาเถิด เขาพักอยู่กับซีโมนช่างฟอกหนังซึ่งบ้านอยู่ริมทะเล” เมื่อทูตสวรรค์ที่มาบอกนั้นไปแล้วโครเนลิอัสจึงเรียกบ่าวสองคนกับทหารรับใช้คนหนึ่งซึ่งเป็นคนเคร่งศาสนามา แล้วเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟังและส่งพวกเขาไปยัฟฟา วันรุ่งขึ้นราวเที่ยงวันขณะที่คนพวกนั้นกำลังเดินทางมาจนเกือบจะถึงเมืองนั้นแล้ว เปโตรขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่ออธิษฐาน เขาหิวและอยากจะได้อะไรมารับประทาน ระหว่างที่คนกำลังเตรียมอาหารอยู่เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์ เขาเห็นฟ้าสวรรค์เปิดออก มีสิ่งหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่หย่อนลงมาบนโลกทั้งสี่มุม ในนั้นมีสัตว์สี่เท้าสารพัดชนิดตลอดจนสัตว์เลื้อยคลานของแผ่นดินโลกและนกในอากาศ แล้วมีเสียงหนึ่งบอกเขาว่า “เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้นฆ่ากินเถิด” เปโตรตอบว่า “ไม่ได้พระเจ้าข้า! ข้าพระองค์ไม่เคยรับประทานสิ่งที่เป็นมลทินหรือไม่สะอาดเลย” เสียงนั้นพูดกับเขาเป็นครั้งที่สองว่า “อย่าเรียกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงชำระแล้วว่าเป็นมลทิน” เป็นเช่นนี้ถึงสามครั้ง ทันใดนั้นผ้าผืนนั้นก็ถูกรับขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ ขณะที่เปโตรกำลังฉงนสนเท่ห์เกี่ยวกับความหมายของนิมิตนี้ คนที่โครเนลิอัสส่งมาก็พบบ้านของซีโมนและมายืนอยู่ที่ประตู แล้วร้องถามว่าซีโมนที่เรียกกันว่าเปโตรอยู่ที่นี่หรือไม่ ฝ่ายเปโตรกำลังครุ่นคิดเรื่องนิมิตนั้นพระวิญญาณก็ตรัสกับเขาว่า “ซีโมนเอ๋ย ชายสามคนกำลังตามหาท่านอยู่ ฉะนั้นจงลุกขึ้นลงไปข้างล่าง อย่าลังเลที่จะไปกับพวกเขาเพราะเราส่งเขามา” เปโตรจึงลงมาบอกชายเหล่านั้นว่า “ข้าพเจ้าคือคนที่ท่านถามหาอยู่ พวกท่านมาทำไมหรือ?” พวกเขาตอบว่า “พวกเรามาจากนายร้อยโครเนลิอัส เขาเป็นผู้ชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เป็นที่เคารพนับถือของชาวยิวทั้งปวง ทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ได้บอกนายร้อยให้มาเชิญท่านไปที่บ้านเพื่อจะได้ฟังสิ่งที่ท่านกล่าว” แล้วเปโตรจึงเชิญคนเหล่านั้นเข้ามาเป็นแขกพักค้างคืนในบ้านของเขา วันรุ่งขึ้นเปโตรก็ออกเดินทางไปกับพวกเขาและมีพี่น้องบางคนจากเมืองยัฟฟาไปด้วย วันต่อมาเปโตรก็มาถึงเมืองซีซารียา โครเนลิอัสกำลังคอยต้อนรับพวกเขาอยู่และได้เชิญญาติตลอดจนเพื่อนสนิทมาชุมนุมกัน พอเปโตรเข้าไปในบ้านโครเนลิอัสก็ออกมาพบและหมอบลงแทบเท้าด้วยความยำเกรง แต่เปโตรรั้งเขาให้ลุกขึ้นพร้อมทั้งกล่าวว่า “ยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าเองก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง” เปโตรสนทนาพลางเดินเข้าไปข้างในและพบคนมากมายชุมนุมกันอยู่ จึงกล่าวกับพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายย่อมทราบดีว่าเป็นการขัดบทบัญญัติของเราที่ชาวยิวจะคบหาหรือเยี่ยมเยียนคนต่างชาติ แต่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าว่าไม่ควรเรียกใครว่าเป็นมลทินหรือไม่สะอาด ฉะนั้นเมื่อมีคนไปเชิญข้าพเจ้าก็มาโดยไม่คัดค้านประการใด ขอถามว่าเหตุใดจึงไปเชิญข้าพเจ้ามา?” โครเนลิอัสตอบว่า “เมื่อสี่วันก่อนข้าพเจ้าอธิษฐานอยู่ในบ้านราวๆ ตอนนี้คือบ่ายสามโมง ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งสวมชุดเป็นประกายวาววับมายืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า และกล่าวว่า ‘โครเนลิอัสเอ๋ย พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของท่านและระลึกถึงสิ่งที่ท่านได้เจือจานแก่คนยากไร้แล้ว จงส่งคนไปเมืองยัฟฟาแล้วรับตัวซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมาเถิด เขาเป็นแขกพักอยู่ในบ้านของซีโมนช่างฟอกหนังซึ่งอยู่ริมทะเล’ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงส่งคนไปเชิญท่านมาทันทีและท่านก็เมตตามาแล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่พร้อมหน้ากันต่อหน้าพระเจ้าเพื่อรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้ท่านกล่าวแก่เรา” แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้ามิได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง แต่ทรงรับคนจากทุกชาติที่ยำเกรงพระองค์และทำสิ่งที่ถูกต้อง ท่านย่อมทราบเรื่องราวที่พระเจ้าทรงมีไปถึงประชากรอิสราเอลซึ่งเป็นการแจ้งข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขโดยทางพระเยซูคริสต์ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนทั้งปวง ท่านย่อมทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดียเริ่มตั้งแต่ในแคว้นกาลิลีภายหลังบัพติศมาที่ยอห์นประกาศ คือที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งพระเยซูแห่งนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพ และที่พระองค์เสด็จไปทั่ว ทรงทำความดีและรักษาคนทั้งปวงที่ตกอยู่ใต้อำนาจของมารเพราะพระเจ้าสถิตกับพระองค์ “พวกข้าพเจ้าเป็นพยานถึงสิ่งสารพัดที่พระองค์ทรงกระทำในดินแดนของชาวยิวและในกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาฆ่าพระองค์โดยแขวนพระองค์บนต้นไม้ แต่ในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายและให้พระองค์ปรากฏแก่สายตาของผู้คน ไม่ใช่ทุกคนได้เห็นพระองค์ มีแต่พยานทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้เท่านั้นที่เห็น คือพวกข้าพเจ้าซึ่งได้กินดื่มกับพระองค์หลังจากที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงบัญชาพวกข้าพเจ้าให้ประกาศแก่คนทั้งปวงและเป็นพยานว่าพระองค์คือผู้ที่พระเจ้าทรงตั้งให้เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย ผู้เผยพระวจนะทั้งปวงล้วนยืนยันเกี่ยวกับพระองค์ว่า ทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้รับการอภัยบาปโดยทางพระนามของพระองค์” ขณะเปโตรยังกล่าวถ้อยคำเหล่านี้อยู่พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาเหนือคนทั้งปวงที่ได้ยินเรื่องราวนี้ เหล่าผู้เชื่อที่เข้าสุหนัตแล้วซึ่งมากับเปโตรพากันประหลาดใจที่พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเป็นของประทานแก่คนต่างชาติด้วย เพราะพวกเขาได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาแปลกๆ และสรรเสริญพระเจ้า แล้วเปโตรกล่าวว่า “ใครจะห้ามคนเหล่านี้ไม่ให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ? พวกเขาได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่นเดียวกับเราแล้ว” ดังนั้นเปโตรจึงสั่งให้คนเหล่านั้นรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ จากนั้นพวกเขาเชิญเปโตรให้พักอยู่ด้วยสองสามวัน

กิจการ 10:1-48 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ที่​เมือง​ซีซารียา​มี​นาย​ร้อย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โครเนลิอัส เป็น​ผู้​คุม​กอง​ร้อย​ที่​มี​ชื่อ​เรียกว่า “กอง​ทหาร​ชาว​อิตาลี” เขา​เป็น​คน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​มาก ทั้ง​เขา​และ​ครอบครัว​ต่าง​ก็​เคารพ​ยำเกรง​พระเจ้า เขา​บริจาค​ช่วยเหลือ​คน​จน และ​อธิษฐาน​ต่อ​พระเจ้า​อยู่​เสมอ ตอนนั้น​เวลา​บ่าย​สาม​โมง โครเนลิอัส​ได้​เห็น​นิมิต​อย่าง​ชัดเจน คือ​เขา​เห็น​ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​ของ​พระเจ้า​เข้า​มา​พูด​กับ​เขา​ว่า “โครเนลิอัส” โครเนลิอัส​มอง​ทูตสวรรค์​ด้วย​ความ​เกรง​กลัว และ​ถาม​ว่า “อะไร​หรือ​ครับ​ท่าน” ทูตสวรรค์​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “พระเจ้า​ได้ยิน​คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ​แล้ว และ​ชอบ​ใจ​ที่​คุณ​ได้​บริจาค​ช่วยเหลือ​คน​จน ตอนนี้​ให้​ส่ง​คน​ไป​ที่​เมือง​ยัฟฟา ไป​พา​ชาย​ชื่อ​ซีโมน​ที่​คน​เรียกว่า​เปโตร​มาหา​คุณ เขา​พัก​อยู่​กับ​ช่าง​ฟอก​หนัง​ชื่อ​ซีโมน บ้าน​อยู่​ริม​ทะเล” เมื่อ​ทูตสวรรค์​พูด​กับ​โครเนลิอัส​แล้ว​ก็​จาก​ไป โครเนลิอัส​จึง​เรียก​คน​ใช้​ใน​บ้าน​มา​สอง​คน พร้อม​กับ​ทหาร​คน​สนิท​ที่​เคร่ง​ศาสนา​มา​คน​หนึ่ง และ​เขา​ก็​ได้​เล่า​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​ทั้งหมด​ให้​พวก​เขา​ฟัง จาก​นั้น​ก็​ส่ง​พวก​เขา​ไป​เมือง​ยัฟฟา วัน​ต่อมา​ขณะ​ที่​คน​พวกนี้​กำลัง​เดิน​ทาง​ใกล้​ถึง​เมือง​ยัฟฟา เป็น​เวลา​เดียว​กับ​ที่​เปโตร​ได้​ขึ้น​ไป​อธิษฐาน​บน​ดาดฟ้า ตอน​ใกล้​เที่ยง​วัน เขา​เริ่ม​หิว​และ​อยาก​กิน​อาหาร ขณะ​ที่​คน​ใน​บ้าน​กำลัง​เตรียม​อาหาร​อยู่​นั้น เปโตร​ก็​เคลิ้ม​หลับ​ไป เขา​เห็น​ท้องฟ้า​เปิด และ​เห็น​สิ่ง​ที่​ดู​เหมือน​กับ​ผ้า​ผืน​ใหญ่​ลอย​ลง​มา ผ้า​ผืน​นั้น​ถูก​ยึด​ไว้​ทั้ง​สี่​มุม​และ​หย่อน​ลง​มา​ที่​พื้น​โลก ใน​นั้น​มี​สัตว์​ทุก​ชนิด ทั้ง​สัตว์​เลื้อย​คลาน​และ​นก และ​มี​เสียง​พูด​ว่า “เปโตร ลุก​ขึ้น​มา​ฆ่า​สัตว์​พวกนี้​กิน​สิ” เปโตร​ตอบ​ว่า “ไม่​ได้​หรอก​ครับ​องค์​เจ้า​ชีวิต เพราะ​ผม​ไม่​เคย​กิน​สิ่ง​พวกนี้​ที่​เป็น​ของ​ต้อง​ห้าม​หรือ​แปดเปื้อน​ตาม​กฎ​ของ​โมเสส” เสียง​นั้น​ก็​พูด​อีก​ครั้ง​ว่า “ของ​อะไร​ที่​พระเจ้า​ทำ​ให้​สะอาด​แล้ว เจ้า​ไม่​ควร​ถือ​ว่า​มัน​ไม่​สะอาด” เหตุการณ์นี้​เกิด​ขึ้น​ถึง​สาม​ครั้ง แล้ว​ของ​ทั้งหมด​ก็​ถูก​นำ​กลับ​ขึ้น​ไป​บน​ท้องฟ้า​ทันที เปโตร​กำลัง​งงงวย​ว่า​นิมิต​ที่​เห็น​นี้​หมายถึง​อะไร พอดี​คน​ที่​โครเนลิอัส​ส่ง​มา​ก็​กำลัง​ยืน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู และ​ถาม​หา​บ้าน​ของ​ซีโมน ชาย​กลุ่ม​นั้น​ร้อง​ถาม​ว่า “ซีโมน​ที่​คน​เรียกว่า​เปโตร​พัก​อยู่​ที่​นี่​หรือ​เปล่า​ครับ” พระวิญญาณ​พูด​กับ​เปโตร​ที่​ยัง​คิดถึง​เรื่อง​นิมิต​อยู่​ว่า “ฟัง​สิ มี​ชาย​สาม​คน​มา​ถาม​หา​เจ้า​อยู่ ลุก​ขึ้น ลง​ไป​ข้าง​ล่าง​เถอะ และ​ให้​ไป​กับ​พวก​เขา​โดย​ไม่​ต้อง​ลังเล​อะ​ไร​เลย เพราะ​เรา​เป็น​คน​เรียก​ให้​พวก​เขา​มา​เอง” แล้ว​เปโตร​ก็​ลง​ไป​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ผม​เอง​ที่​พวก​คุณ​ตาม​หา มี​ธุระ​อะไร​หรือ” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “นาย​ร้อย​โครเนลิอัส เป็น​คน​ส่ง​พวก​เรา​มา เขา​เป็น​คนดี แล้ว​เขา​เคารพ​ยำเกรง​พระเจ้า ชาว​ยิว​ยกย่อง​นับถือ​เขา​ทุก​คน ทูตสวรรค์​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​บอก​ให้​เขา​มา​เชิญ​ท่าน​ไป​ที่​บ้าน เพื่อ​จะ​ได้​ฟัง​เรื่อง​ที่​ท่าน​จะ​เล่า” เปโตร​ก็​เลย​ชวน​ชาย​ทั้ง​สาม​พัก​ที่​บ้าน วัน​รุ่งขึ้น เปโตร​ได้​จัด​ของ​และ​ไป​กับ​พวก​เขา มี​พี่น้อง​บางคน​จาก​เมือง​ยัฟฟา​ตาม​ไป​ด้วย ถัด​มา​อีก​วัน​หนึ่ง​พวกเขา​ก็​มา​ถึง​เมือง​ซีซารียา ขณะ​นั้น​โครเนลิอัส​กำลัง​คอย​พวก​เขา​อยู่ เขา​เชิญ​ญาติ​พี่น้อง​และ​เพื่อน​สนิท​มา​ด้วย เมื่อ​โครเนลิอัส​เห็น​เปโตร​เดิน​เข้า​มา​ใน​บ้าน เขา​ก็​ก้ม​ลง​กราบ​ที่​เท้า​ของ​เปโตร แต่​เปโตร​พยุง​เขา​ขึ้น​และ​พูด​ว่า “ลุกขึ้น​เถิด ผม​ก็​เป็น​แค่​คน​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​เท่านั้น” ตอน​ที่​เปโตร​พูด​กับ​โครเนลิอัส เขา​ก็​เดิน​เข้า​ไป​ข้าง​ใน และ​พบ​กับ​กลุ่ม​คน​ที่​มา​รวม​กัน​อยู่​ที่​นั่น​มาก​มาย เปโตร​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “คุณ​ก็​รู้​ว่า มัน​ผิด​กฎ​นะ ที่​คน​ยิว​จะ​ไป​คบค้า​สมาคม​หรือ​มา​เยี่ยม​เยียน​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว แต่​พระเจ้า​ได้​แสดง​ให้​ผม​เห็น​ว่า ไม่​ควร​จะ​เรียก​ใคร​ว่า​คน​ต้อง​ห้าม หรือ​ไม่​สะอาด ดังนั้น​พอ​มี​คน​ไป​เชิญ​ผม​มา ผม​ก็​ไม่​ได้​คัดค้าน​อะไร แต่​ผม​ขอ​ถาม​หน่อย​ว่า คุณ​เชิญ​ผม​มา​ทำไม” โครเนลิอัส​จึง​ตอบ​ว่า “เมื่อ​สี่​วัน​ก่อน เวลานี้​ตอน​บ่าย​สาม​โมง ผม​กำลัง​อธิษฐาน​อยู่​ใน​บ้าน จู่ๆ​ก็​มี​ชาย​คน​หนึ่ง​สวม​เสื้อผ้า​แพรวพราว​มา​ยืน​อยู่​ตรง​หน้า เขา​พูด​ว่า ‘โครเนลิอัส พระเจ้า​ได้ยิน​คำ​อธิษฐาน​ของ​เจ้า​แล้ว และ​สิ่งของ​ที่​เจ้า​บริจาค​ช่วยเหลือ​คน​จน​นั้น ก็​ทำ​ให้​พระเจ้า​นึกถึง​เจ้า ให้​เจ้า​ส่ง​คน​ไป​เมือง​ยัฟฟา เพื่อ​เชิญ​ซีโมน​ที่​คน​เรียกว่า​เปโตร​มา​ที่​นี่ เขา​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง ที่​ติด​ทะเล​นั้น’ ผม​จึง​ส่ง​คน​ไป​เชิญ​ท่าน​มา​ทันที และ​ท่าน​ก็​กรุณา​มาก​ที่​มา ตอนนี้​พวก​เรา​ก็​ได้​อยู่​กัน​พร้อม​แล้ว​ที่​นี่​ต่อหน้า​พระเจ้า เพื่อ​ฟัง​ทุก​สิ่ง​ที่​องค์​เจ้า​ชีวิต​สั่ง​ให้​ท่าน​พูด” เปโตร​จึง​เริ่ม​พูด​ว่า “ตอนนี้​ผม​เข้าใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง​แล้ว​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ได้​ลำเอียง พระองค์​ยอมรับ​คน​ทุก​ชาติ​ที่​เคารพ​ยำเกรง​พระองค์ และ​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พระองค์ คุณ​รู้​ถึง​พระคำ​ที่​พระเจ้า​ได้​มอบ​ให้​กับ​ชาว​อิสราเอล ที่​พูด​ถึง​ข่าวดี​แห่ง​สันติภาพ​ที่​ผ่าน​มา​ทาง​พระเยซู​ผู้​เป็น​พระคริสต์ผู้​เป็น​องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​มนุษย์​ทุก​คน คุณ​รู้​ถึง​เหตุการณ์​ยิ่งใหญ่​ที่​เกิด​ขึ้น​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย เริ่ม​ตั้งแต่​แคว้น​กาลิลี​หลังจาก​ที่​ยอห์น​ได้​ประกาศ​เรื่อง​การ​ทำ​พิธี​จุ่มน้ำ คุณ​รู้​เรื่อง​เกี่ยวกับ​พระเยซู​ชาว​นาซาเร็ธ​ว่า​พระเจ้า​เจิม​พระองค์​ด้วย​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​ด้วย​ฤทธิ์​อำนาจ​อย่างไร และ​พระเยซู​ได้​ทำ​สิ่ง​ดีๆ​ไป​ทั่ว และ​รักษา​ทุก​คน​ที่​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​ของ​มารร้าย ที่​พระองค์​ทำ​ได้​ก็​เพราะ​พระองค์​มี​พระเจ้า​อยู่​ด้วย เรา​ก็​ได้​เห็น​และ​เป็น​พยาน​ถึง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​พระองค์​ทำ​ใน​ดินแดน​ของ​ชาว​ยิว​และ​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม พวก​เขา​ฆ่า​พระองค์​โดย​จับ​ไป​ตรึง​บน​ไม้​กางเขน แต่​พระเจ้า​ทำ​ให้​พระองค์​ฟื้น​จาก​ความตาย​ใน​วัน​ที่​สาม และ​ให้​พระองค์​มา​ปรากฏ​ตัว​ให้​เห็น แต่​ไม่​ใช่​กับ​คน​ยิว​ทุก​คน พระองค์​ปรากฏ​ตัว​เฉพาะ​กับ​คน​ที่​พระเจ้า​ได้​เลือก​ไว้​ก่อน​หน้านี้​ที่​จะ​ให้​มา​เป็น​พยาน​เท่านั้น พยาน​พวกนี้​ก็​คือ​พวก​เรา​ที่​ได้​กิน​และ​ดื่ม​กับ​พระองค์​หลังจาก​ที่​พระองค์​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ความ​ตาย​แล้ว พระเยซู​สั่ง​ให้​พวก​เรา​ออก​ไป​ประกาศ​กับ​คน​ทั่ว​ไป และ​เป็น​พยาน​ว่า พระองค์​เป็น​คน​นั้น​ที่​พระเจ้า​ได้​แต่งตั้ง​ไว้​ให้​เป็น​ผู้​ตัดสิน​ทั้ง​คน​เป็น​และ​คน​ตาย พวก​ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า​ทุก​คน​ต่าง​เป็น​พยาน​ให้​พระองค์​ว่า พระเยซู​จะ​ยกโทษ​บาป​ให้​กับ​ทุก​คน​ที่​ไว้วางใจ​ใน​พระองค์” ขณะ​ที่​เปโตร​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​ก็​ลง​มา​อยู่​กับ​ทุก​คน​ที่​ได้​ฟัง​พระคำ​ของ​พระเจ้า พวก​ยิว​ที่​เชื่อ​ใน​พระเยซู​ที่​มา​กับ​เปโตร​ต่าง​พา​กัน​ประหลาดใจ เพราะ​พระเจ้า​ได้​เท​ของขวัญ​แห่ง​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​ให้​กับ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว​ด้วย เพราะ​พวก​เขา​ได้ยิน​คน​ที่​ไม่​ใช่​ยิว​พวกนี้​พูด​ภาษา​ที่​ไม่​รู้จัก และ​ยกย่อง​สรรเสริญ​พระเจ้า เปโตร​พูด​ขึ้น​ว่า “ใคร​จะ​ห้าม​คน​พวกนี้ ไม่​ให้​เข้า​พิธี​จุ่มน้ำ​ได้​ล่ะ ใน​เมื่อ​พวก​เขา​ก็​ได้รับ​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​เหมือน​กับ​พวก​เรา” เปโตร​จึง​สั่ง​ให้​พวก​เขา​เข้า​พิธี​จุ่มน้ำ​ใน​นาม​ของ​พระเยซู​ผู้​เป็น​พระคริสต์ จาก​นั้น​พวก​เขา​ก็​ได้​ชวน​ให้​เปโตร​พัก​อยู่​กับ​พวก​เขา​อีก​สอง​สาม​วัน

กิจการ 10:1-48 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ยั​งม​ีชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส อาศัยอยู่ในเมืองซีซารี​ยา เป็นนายร้อยอยู่ในกองทหารที่เรียกว่ากองอิตาเลีย เป็นคนมี​ศร​ัทธามาก คือท่านและทั้งครอบครัวเป็นคนยำเกรงพระเจ้า ท่านเคยให้ทานมากมายแก่​ประชาชน และอธิษฐานต่อพระเจ้าเสมอ เวลาประมาณบ่ายสามโมงนายร้อยนั้นเห็นนิ​มิ​ตแจ่มกระจ่าง คือเห็นทูตสวรรค์​องค์​หน​ึ่งของพระเจ้า เข​้ามาหาท่านและกล่าวแก่ท่านว่า “โครเนลิอัสเอ๋ย” และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดู​ทูตสวรรค์​องค์​นั้นด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า “​นี่​เป็นประการใด พระองค์​เจ้าข้า​” ทูตสวรรค์​จึงตอบท่านว่า “คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้​ขึ้นไปเป็​นที​่ระลึกถึงจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าแล้ว บัดนี้​จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟาเชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา เปโตรอาศัยอยู่กับคนหนึ่งชื่อซีโมนเป็นช่างฟอกหนัง บ้านของเขาอยู่ริมฝั่งทะเล เปโตรจะบอกท่านว่าท่านควรจะทำอะไร” ครั้นทูตสวรรค์​ที่​ได้​พู​ดก​ับโครเนลิอัสไปแล้ว ท่านได้เรียกคนใช้สองคนกับทหารคนหนึ่งซึ่งเป็นคนมี​ศร​ัทธามาก ที่​เคยปรนนิบั​ติ​ท่านเสมอ และเมื่อโครเนลิอัสได้เล่าเหตุ​การณ์​ทั้งปวงให้คนเหล่านั้นฟังแล้ว ท่านจึงใช้เขาไปยังเมืองยัฟฟา วั​นร​ุ่งขึ้นคนเหล่านั้นกำลังเดินทางไปใกล้เมืองยัฟฟาแล้ว ประมาณเวลาเที่ยงวันเปโตรก็ขึ้นไปบนหลังคาบ้านเพื่อจะอธิษฐาน ก็​หิวอยากจะรับประทานอาหาร แต่​ในระหว่างที่เขายังจัดอาหารอยู่ เปโตรได้เคลิ้มไป และได้​เห​็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง มี​ภาชนะอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่ ผูกติ​ดก​ันทั้งสี่​มุ​มหย่อนลงมายังพื้นโลก ในนั้​นม​ี​สัตว์​ทุ​กอย่างที่​อยู่​บนแผ่นดิน คือสัตว์​สี​่​เท้า สัตว์ป่า สัตว์​เลื้อยคลานและนกที่​อยู่​ในท้องฟ้า มี​พระสุรเสียงมาว่าแก่ท่านว่า “เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้นฆ่ากินเถิด” ฝ่ายเปโตรจึงทูลว่า “​มิได้ พระองค์​เจ้าข้า เพราะว่าสิ่งซึ่งเป็นของต้องห้ามหรือของมลทินนั้น ข้าพระองค์​ไม่​เคยได้รับประทานเลย” แล​้วจึ​งม​ีพระสุรเสียงอีกเป็​นคร​ั้งที่สองว่าแก่ท่านว่า “ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้ว อย่าว่าเป็นของต้องห้าม” เห​็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล​้วสิ่งนั้​นก​็​ถู​กร​ับขึ้นไปอีกในท้องฟ้า เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิ​มิ​ตที่​เห​็นนั้​นว​่ามีความหมายอย่างไร ดู​เถิด คนที​่โครเนลิอัสใช้ไปนั้น เมื่อถามหาและพบบ้านของซีโมนแล้​วก​็​มาย​ืนอยู่​หน​้าประตู​รั้ว และร้องถามว่า ซี​โมนที่เรียกว่าเปโตรอยู่​ที่​นั่นหรือไม่ เมื่อเปโตรตริตรองเรื่องนิ​มิ​ตน​ั้น พระวิญญาณก็ตรัสกั​บท​่านว่า “​ดู​เถิด ชายสามคนตามหาเจ้า จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับเขาเถิด อย่าลังเลใจเลย เพราะว่าเราได้​ใช้​เขามา” เปโตรจึงลงไปหาคนเหล่านั้นซึ่งโครเนลิอัสได้​ใช้​มากล่าวว่า “​ดู​เถิด ข้าพเจ้าเป็นคนที่ท่านมาหานั้น ท่านมาธุระอะไร” เขาจึงตอบว่า “นายร้อยโครเนลิอัส เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และเป็นคนมีชื่อเสียงดีในบรรดาชาวยิว โครเนลิอั​สผ​ู้นั้นได้รับคำเตือนจากพระเจ้าโดยผ่านทูตสวรรค์​บริสุทธิ์ ให้​มาเชิญท่านไปที่บ้านเพื่อจะฟังถ้อยคำของท่าน” เปโตรจึงเชิญเขาให้​เข​้ามาหยุดพักอยู่​ที่นั่น วั​นร​ุ่งขึ้นเปโตรก็ไปกับเขาและพวกพี่น้องบางคนที่เมืองยัฟฟาก็ไปด้วย ล่วงมาอีกวันหนึ่งเขาก็ไปถึงเมืองซีซารี​ยา โครเนลิอัสกำลังคอยรับรองอยู่ และเชิญญาติ​พี่​น้องกับเพื่อนสนิทให้มาประชุมกันอยู่​แล้ว ครั้นเปโตรเข้าไป โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตร และหมอบที่​เท​้ากราบไหว้​ท่าน ฝ่ายเปโตรจึงจับตัวโครเนลิอัสให้​ลุ​กขึ้นและกล่าวว่า “จงยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นแต่​มนุษย์​เหมือนกัน​” เมื่อกำลังสนทนากันอยู่ เปโตรจึงเข้าไปแลเห็นคนเป็​นอ​ันมากมาพร้อมกัน จึงกล่าวแก่คนเหล่านั้​นว​่า “ท่านทั้งหลายทราบแล้​วว​่า คนชาติยิ​วน​ั้นจะคบให้​สน​ิทกับคนต่างชาติหรือเข้าเยี่​ยมก​็เป็​นที​่​พระราชบัญญัติ​ห้ามไว้ แต่​พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้​วว​่า ไม่​ควรเรียกคนหนึ่งคนใดว่าเป็​นที​่ห้ามหรือมลทิน เหตุ​ฉะนั้น เมื่อท่านใช้คนไปเรียกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็มาโดยไม่​ขัด ข้าพเจ้าจึงขอถามว่าท่านเรียกข้าพเจ้ามาด้วยประสงค์​อะไร​” โครเนลิอัสจึงตอบว่า “​สี​่วันมาแล้ว ข้าพเจ้ากำลังถืออดอาหารอยู่จนถึงเวลานี้ และประมาณเวลาบ่ายสามโมงข้าพเจ้าได้อธิษฐานอยู่ในบ้านของข้าพเจ้า ดู​เถิด มี​ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าสวมเสื้​อม​ันระยับ ผู้​นั้นได้​กล่าวว่า ‘โครเนลิอัสเอ๋ย คำอธิษฐานของท่านนั้นทรงสดับฟังแล้ว และทานของท่านนั้​นก​็เป็​นที​่ระลึกถึงในสายพระเนตรของพระเจ้าแล้ว เหตุ​ฉะนั้น จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ผู้​นั้นอาศัยอยู่ในบ้านของซีโมนช่างฟอกหนังที่​ฝั่งทะเล ผู้​นั้นเมื่อมาถึงแล้วจะกล่าวแก่​ท่าน​’ ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมาทั​นที ที่​ท่านมาก็​ดี​แล้ว บัดนี้​พวกข้าพเจ้าจึงอยู่​พร​้อมกันต่อพระพักตร์​พระเจ้า เพื่อจะฟังสิ่งสารพัดซึ่งพระเจ้าได้ตรั​สส​ั่งท่านไว้” ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้​วว​่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้​ใด แต่​คนใดๆในทุกชาติ​ที่​เกรงกลัวพระองค์และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็​นที​่ชอบพระทัยพระองค์ พระดำรัสที่พระเจ้าได้ทรงฝากไว้กับชนชาติ​อิสราเอล คือการประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขโดยพระเยซู​คริสต์ (​ผู้​เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนทั้งปวง) ข้าพเจ้ากล่าวว่า พระดำรั​สน​ั้นท่านทั้งหลายก็​รู้ คือเรื่องที่​ได้​เล่ากันตั้งแต่ต้​นที​่​แคว​้นกาลิลี ไปจนตลอดทั่วแคว้นยูเดีย ภายหลังการบัพติศมาที่ยอห์นได้ประกาศนั้น คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธว่า พระเจ้าได้ทรงเจิมพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และพระเยซูเสด็จไปกระทำคุณประโยชน์และรักษาบรรดาคนซึ่งถูกพญามารเบียดเบียน ด้วยว่าพระเจ้าได้ทรงสถิ​ตก​ับพระองค์ เราทั้งหลายเป็นพยานถึ​งก​ิจการทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงกระทำในแผ่นดินของชนชาติยิวและในกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์​นั้นเขาได้ฆ่าและแขวนไว้​ที่​ต้นไม้ ในวั​นที​่สามพระเจ้าได้ทรงให้​พระองค์​คืนพระชนม์และทรงให้​ปรากฏ มิใช่​ทรงให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่​ทรงปรากฏแก่​เหล่​าพวกพยานซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกไว้​แต่ก่อน คือทรงปรากฏแก่พวกเราที่​ได้​รับประทานและดื่มกับพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคืนพระชนม์​แล้ว พระองค์​ทรงสั่งให้เราทั้งหลายประกาศแก่คนทั้งปวง และเป็นพยานว่าพระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์​ไว้​เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย ศาสดาพยากรณ์​ทั้งหลายย่อมเป็นพยานถึงพระองค์​ว่า ผู้​ใดที่เชื่อถือในพระองค์นั้นจะได้รับการทรงยกความผิดบาปของเขา เพราะพระนามของพระองค์” เมื่อเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริ​สุทธิ​์​ก็​เสด็จลงมาสถิ​ตก​ับคนทั้งปวงที่ฟังพระวจนะนั้น ฝ่ายพวกที่​ได้​เข​้าสุ​หน​ัตซึ่งเชื่อถือแล้ว คือคนที่​มาด​้วยกั​นก​ับเปโตรก็​ประหลาดใจ เพราะว่าของประทานแห่งพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์​ได้​ลงมาบนคนต่างชาติ​ด้วย เพราะเขาได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาต่างๆและยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เปโตรจึงย้อนถามว่า “ใครอาจจะห้ามคนเหล่านี้​ที่​ได้​รับพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์เหมือนเรา โดยมิ​ให้​เขารับบัพติศมาด้วยน้ำได้” เปโตรจึงสั่งให้เขารับบัพติศมาในพระนามขององค์​พระผู้เป็นเจ้า และเขาทั้งหลายได้​ขอให้​เปโตรยับยั้งอยู่กับเขาอีกสองสามวัน

กิจการ 10:1-48 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ยังมีชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส อาศัยอยู่ในเมืองซีซารียา เป็นนายร้อยอยู่ในกองทหารที่เรียกว่า กองอิตาเลีย ทั้งท่านและครอบครัวเป็นคนยำเกรงพระเจ้า ท่านเคยให้ทานมากมายแก่ประชาชน และอธิษฐานพระเจ้าเสมอ เวลาประมาณบ่ายสามโมง นายร้อยนั้นเห็นนิมิตแจ่มกระจ่าง คือเห็นทูตองค์หนึ่งของพระเจ้าเข้ามาหาตนกล่าวว่า <<โครเนลิอัสเอ๋ย>> และเมื่อโครเนลิอัสเขม้นดูทูตองค์นั้น ด้วยความตกใจกลัว จึงถามว่า <<นี่เป็นประการใด พระเจ้าข้า>> ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า <<คำอธิษฐานและทานของท่านนั้น ได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว บัดนี้จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา เปโตรอาศัยอยู่กับคนหนึ่งชื่อซีโมนเป็นช่างฟอกหนัง ตึกของเขาอยู่ริมฝั่งทะเล>> ครั้นทูตสวรรค์ที่พูดกับท่านไปแล้ว ท่านได้เรียกคนใช้สองคนกับทหารคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้า ที่เคยปรนนิบัติท่านเสมอ และเมื่อโครเนลิอัสได้เล่าเหตุการณ์ทั้งปวงให้คนเหล่านั้นฟังแล้ว ท่านจึงใช้เขาไปยังเมืองยัฟฟา วันรุ่งขึ้นคนเหล่านั้นกำลังเดินทางไปใกล้เมืองยัฟฟา แล้วประมาณเวลาเที่ยงวัน เปโตรก็ขึ้นไปบนหลังคาตึกเพื่อจะอธิษฐาน ก็หิวอยากจะรับประทานอาหาร แต่ในระหว่างที่เขายังจัดอาหารอยู่ เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์ และได้เห็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง มีอะไรอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่ ทั้งสี่มุมหย่อนลงมายังพื้นโลก ในนั้นมีสัตว์ทุกอย่าง คือสัตว์ที่เดิน ที่เลื้อยคลาน และที่บิน มีพระสุรเสียงมาว่าแก่ท่านว่า <<เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้นฆ่ากินเถิด>> ฝ่ายเปโตรจึงทูลว่า <<มิได้ พระเจ้าข้า เพราะว่าสิ่งซึ่งเป็นของต้องห้าม หรือของมลทินนั้น ข้าพระองค์ไม่เคยรับประทานเลย>> แล้วจึงมีพระสุรเสียงเป็นครั้งที่สองว่าแก่ท่านว่า <<ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้วอย่าว่าเป็นของต้องห้าม>> เห็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล้วสิ่งนั้นก็ถูกรับขึ้นไปในนภากาศทันที เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิมิตที่เห็นนั้นว่ามีความหมายอย่างไร ดูเถิด คนที่โครเนลิอัสใช้ไปนั้น เมื่อถามหา และพบตึกของซีโมนแล้ว ก็มายืนอยู่หน้าประตูรั้ว และร้องถามว่า ซีโมนที่เรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นั่นหรือไม่ เมื่อเปโตรตริตรองเรื่องนิมิตนั้น พระวิญญาณก็ตรัสกับท่านว่า <<ดูเถิด ชายสามคนมาหาเจ้า จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับเขาเถิด อย่าลังเลใจเลย เพราะว่าเราได้ใช้เขามา>> เปโตรจึงลงไปหาคนเหล่านั้นกล่าวว่า <<นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเป็นคนที่ท่านมาหานั้น ท่านมาธุระอะไร>> เขาจึงตอบว่า <<นายร้อยโครเนลิอัส เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และเป็นคนมีชื่อเสียงดีในหมู่พวกยิว โครเนลิอัสผู้นั้นได้รับคำเตือนจากทูตสวรรค์บริสุทธิ์ ให้มาเชิญท่านไปที่บ้านเพื่อจะฟังถ้อยคำของท่าน>> เปโตรจึงเชิญเขาให้เข้ามาหยุดพักอยู่ที่นั่น วันรุ่งขึ้นเปโตรก็ลุกขึ้นไปกับเขา และพวกพี่น้องบางคนที่เมืองยัฟฟาก็ไปด้วย ล่วงมาอีกวันหนึ่งเขาก็ไปถึงเมืองซีซารียา โครเนลิอัสกำลังคอยรับรองอยู่ และเชิญญาติพี่น้องกับเพื่อนสนิทให้มาประชุมกันอยู่แล้ว ครั้นเปโตรเข้าไป โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตรและหมอบที่เท้ากราบไหว้ท่าน ฝ่ายเปโตรจึงจับตัวโครเนลิอัสให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า <<จงยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นแต่มนุษย์เหมือนกัน>> เมื่อกำลังสนทนากันอยู่ เปโตรจึงเข้าไป แลเห็นคนเป็นอันมากมาพร้อมกัน จึงกล่าวแก่คนเหล่านั้นว่า <<ท่านทั้งหลายทราบแล้วว่า คนชาติยิวนั้นจะคบให้สนิทกับคนต่างชาติ หรือเข้าเยี่ยมก็เป็นที่ห้าม แต่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่ควรเรียกคนหนึ่งคนใดว่าเป็นที่ห้ามหรือมลทิน เหตุฉะนั้นเมื่อท่านใช้คนไปเชิญข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็มาโดยไม่ขัด ข้าพเจ้าขอถามว่า ท่านเชิญข้าพเจ้ามาด้วยประสงค์อะไร>> โครเนลิอัสจึงตอบว่า <<สี่วันมาแล้วข้าพเจ้าได้อธิษฐานอยู่ในตึกของข้าพเจ้า ราวเวลานี้เอง คือบ่ายสามโมง มีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าสวมเสื้อมันระยับ ผู้นั้นได้กล่าวว่า <โครเนลิอัสเอ๋ย คำอธิษฐานของท่านนั้นพระเจ้าทรงสดับฟังแล้ว และทานของท่านนั้นก็เป็นเหตุให้พระเจ้าทรงระลึกถึง เหตุฉะนั้นจงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ท่านอาศัยอยู่ในตึกของซีโมนช่างฟอกหนังที่ฝั่งทะเล> ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมาทันที ที่ท่านมาก็ดีแล้ว บัดนี้พวกข้าพเจ้าอยู่พร้อมกันต่อพระพักตร์พระเจ้า เพื่อจะฟังสิ่งสารพัด ซึ่งพระองค์ได้ตรัสสั่งท่านไว้>> ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวว่า <<ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด แต่คนใดๆในทุกชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์ เรื่องที่พระองค์ได้ทรงฝากไว้กับพวกอิสราเอล คือทรงประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขโดยพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนทั้งปวง เรื่องนั้นท่านทั้งหลายก็รู้ คือเรื่องที่ได้เล่ากันตั้งแต่ต้น ที่แคว้นกาลิลีไปจนตลอดทั่วแคว้นยูเดีย ภายหลังการบัพติศมาที่ยอห์นได้ประกาศนั้น คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และพระเยซูเสด็จไปกระทำคุณประโยชน์ และรักษาบรรดาคนซึ่งถูกมารเบียดเบียน เพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตกับพระองค์ เราทั้งหลายเป็นพยานถึงกิจการทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ในแคว้นยูเดียและในกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์นั้นเขาได้ฆ่าโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้ ในวันที่สาม พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์คืนพระชนม์และทรงให้ปรากฏ มิใช่ทรงให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ทรงปรากฏแก่เราพวกพยานซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกไว้แต่ก่อน คือทรงปรากฏแก่พวกเราที่ได้รับประทานและดื่มกับพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคืนพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงสั่งให้เราทั้งหลายประกาศแก่คนทั้งปวง และเป็นพยานว่า พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย ผู้เผยพระวจนะทั้งหลายย่อมเป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกๆคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของเขา เพราะพระนามของพระองค์>> เมื่อเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับคนทั้งปวงที่ฟังพระวจนะนั้น ฝ่ายพวกที่ได้เข้าสุหนัตซึ่งเชื่อถือในพระเยซูเจ้า คือที่มาด้วยกันกับเปโตรก็ประหลาดใจ เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้ลงมาบนคนต่างชาติด้วย เพราะเขาได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาต่างๆ และยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เปโตรจึงย้อนถามว่า <<ใครอาจจะห้ามคนเหล่านี้ที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนเรา โดยมิให้เขารับบัพติศมาด้วยน้ำได้>> เปโตรจึงสั่งให้เขารับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์ และเขาทั้งหลายได้ขอให้เปโตรยับยั้งอยู่กับเขาอีกสองสามวัน

กิจการ 10:1-48 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ที่​เมือง​ซีซารียา​มี​ชาย​นาย​ร้อย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โครเนลิอัส สังกัด​ทหาร​ใน​กอง​อิตาเลียน ทั้ง​ท่าน​และ​ครอบครัว​เป็น​คน​ที่​เชื่อ​และ​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า​มาก ท่าน​ให้​ทาน​จำนวน​มาก​แก่​ผู้​ยากไร้​และ​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​เจ้า​เป็น​ประจำ วัน​หนึ่ง​ประมาณ​เวลา​บ่าย 3 โมง​ท่าน​เห็น​ภาพ​นิมิต​อย่าง​ชัดเจน คือ​ทูต​สวรรค์​องค์​หนึ่ง​ของ​พระ​เจ้า​มา​หา และ​กล่าว​ว่า “โครเนลิอัส” โครเนลิอัส​จ้อง​ดู​ทูต​สวรรค์​ด้วย​ความ​กลัว แล้ว​ถาม​ออก​ไป​ว่า “ท่าน​มี​อะไร​หรือ” ทูต​สวรรค์​จึง​กล่าว​ว่า “คำ​อธิษฐาน​และ​ทาน​ที่​ท่าน​ให้​แก่​คน​ยากจน​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ดั่ง​ของ​ถวาย​ที่​เตือน​ความ​ทรงจำ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​เจ้า จง​ส่ง​คน​ไป​ยัง​เมือง​ยัฟฟา เพื่อ​นำ​ซีโมน​หรือ​ที่​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เปโตร​มา​ที่​นี่ ขณะ​นี้​ท่าน​พัก​อยู่​กับ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง​ซึ่ง​มี​บ้าน​อยู่​ติด​กับ​ทะเล” เมื่อ​ทูต​สวรรค์​ที่​พูด​กับ​ท่าน​จาก​ไป​แล้ว โครเนลิอัส​จึง​เรียก​คน​รับใช้ 2 คน​กับ​ทหาร​รับ​ใช้​ซึ่ง​เชื่อ​ใน​พระ​เจ้า​มาก​มา​พบ ท่าน​เล่า​เรื่อง​ที่​เกิด​ขึ้น​ทั้ง​หมด​ให้​พวก​เขา​ฟัง แล้ว​ใช้​ให้​ไป​ยัง​เมือง​ยัฟฟา ประมาณ​เที่ยง​ของ​วัน​รุ่ง​ขึ้น ขณะ​ที่​คน​ของ​โครเนลิอัส​ได้​เดิน​ทาง​ใกล้​จะ​ถึง​ตัว​เมือง​แล้ว เปโตร​ขึ้น​ไป​บน​ดาดฟ้า​เพื่อ​จะ​อธิษฐาน ท่าน​บังเกิด​ความ​หิว​และ​ใคร่​จะ​รับ​ประทาน​อาหาร ขณะ​ที่​คน​เตรียม​อาหาร​อยู่ ท่าน​ก็​ตก​อยู่​ใน​ภวังค์ เห็น​สวรรค์​เปิด​ออก และ​มี​สิ่ง​หนึ่ง​เหมือน​ผ้า​ผืน​ใหญ่ ซึ่ง​ทั้ง 4 มุม​หย่อน​วาง​ลง​บน​พื้น​โลก ใน​นั้น​มี​สัตว์​สี่​เท้า​ทุก​ชนิด พวก​สัตว์​เลื้อยคลาน และ​พวก​นก​ใน​อากาศ​ก็​เช่น​กัน แล้ว​มี​เสียง​หนึ่ง​บอก​ท่าน​ว่า “เปโตร จง​ลุก​ขึ้น​เถิด ฆ่า​และ​กิน​เสีย” เปโตร​ตอบ​ว่า “ไม่​ได้​หรอก พระ​องค์​ท่าน ข้าพเจ้า​ไม่​เคย​รับ​ประทาน​สิ่ง​ที่​ไม่​บริสุทธิ์​หรือ​มี​มลทิน” เสียง​นั้น​กล่าว​กับ​เปโตร​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​ว่า “สิ่ง​ที่​พระ​เจ้า​ได้​ทำ​ให้​สะอาด​แล้ว ก็​อย่า​เรียก​ว่า​ไม่​บริสุทธิ์” หลัง​จาก​ที่​เกิด​ขึ้น 3 ครั้ง​แล้ว ผืน​ผ้า​นั้น​ก็​หาย​กลับ​ขึ้น​ไป​ใน​สวรรค์ ขณะ​ที่​เปโตร​กำลัง​คิด​สงสัย​เรื่อง​ภาพ​นิมิต​ที่​ปรากฏ ชาย​ทั้ง​สาม​ที่​โครเนลิอัส​ส่ง​มา ก็​พบ​บ้าน​ของ​ซีโมน​และ​หยุด​อยู่​ที่​หน้า​ประตู แล้ว​ตะโกน​ถาม​ว่า​ซีโมน​ที่​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เปโตร กำลัง​พัก​อยู่​ที่​นั่น​หรือ​ไม่ ขณะ​ที่​เปโตร​ยัง​ครวญ​คิด​เรื่อง​ภาพ​นิมิต​ที่​ท่าน​ได้​เห็น พระ​วิญญาณ​กล่าว​กับ​ท่าน​ว่า “ซีโมน​เอ๋ย ชาย 3 คน​กำลัง​ตาม​หา​เจ้า ฉะนั้น​จง​ลง​ไป​ข้าง​ล่าง อย่า​ลังเล​ที่​จะ​ไป​กับ​พวก​เขา เพราะ​ว่า​เรา​ส่ง​เขา​มา” แล้ว​เปโตร​ก็​ได้​ลง​ไป​หา​ชาย​เหล่า​นั้น​และ​พูด​ว่า “ข้าพเจ้า​เป็น​คน​ที่​ท่าน​กำลัง​ตาม​หา ท่าน​มา​ด้วย​ธุระ​อะไร​กัน” เขา​เหล่า​นั้น​ตอบ​ว่า “นาย​ร้อย​โครเนลิอัส​ส่ง​พวก​เรา​มา ท่าน​เป็น​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​และ​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า ทั้ง​ยัง​เป็น​ที่​นับถือ​ทั่ว​ไป​ใน​บรรดา​ชน​ชาติ​ยิว ทูต​สวรรค์​ผู้​บริสุทธิ์​องค์​หนึ่ง​ได้​บอก​ให้​โครเนลิอัส​เชิญ​ท่าน​ไป​ที่​บ้าน เพื่อ​จะ​ฟัง​ถ้อยคำ​ของ​ท่าน” แล้ว​เปโตร​จึง​เชิญ​ให้​ชาย​เหล่า​นั้น​เข้า​มา​พัก​ใน​บ้าน วัน​รุ่ง​ขึ้น​เปโตร​จึง​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พวก​เขา โดย​พี่​น้อง​บาง​คน​จาก​เมือง​ยัฟฟา​ก็​ตาม​ไป​ด้วย วัน​ต่อ​มา​ก็​ถึง​เมือง​ซีซารียา และ​พบ​ว่า​โครเนลิอัส​กำลัง​รอ​พวก​เขา​อยู่​พร้อม​กับ​บรรดา​ญาติ​และ​เพื่อน​สนิท​ที่​ได้​เชิญ​มา เมื่อ​เปโตร​เข้า​ไป​ใน​บ้าน โครเนลิอัส​ก็​มา​ต้อนรับ และ​หมอบ​ลง​แทบ​เท้า​เพื่อ​แสดง​ความ​เคารพ เปโตร​ให้​ท่าน​ลุก​ขึ้น​และ​พูด​ว่า “จง​ลุก​ขึ้น​เถิด ข้าพเจ้า​เอง​ก็​เป็น​เพียง​มนุษย์​เช่น​กัน” ขณะ​ที่​สนทนา​กัน​อยู่ เปโตร​ก็​เข้า​ไป​ข้าง​ใน พบ​ว่า​ผู้​คน​กลุ่ม​ใหญ่​กำลัง​ชุมนุม​กัน​อยู่ ท่าน​กล่าว​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​ว่า “ท่าน​ก็​ทราบ​ว่า เป็น​การ​ผิด​กฎ​ของ​พวก​เรา​ชาว​ยิว​ที่​จะ​ติดต่อ​หรือ​เยี่ยม​เยียน​คนนอก แต่​พระ​เจ้า​ได้​แสดง​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า ข้าพเจ้า​ไม่​ควร​เรียก​คน​หนึ่ง​คน​ใด​ว่า​ไม่​บริสุทธิ์​หรือ​มี​มลทิน ดังนั้น​เมื่อ​มี​คน​เรียก​ข้าพเจ้า​มา และ​ข้าพเจ้า​ก็​มา​โดย​มิ​ได้​ขัดขืน ข้าพเจ้า​ขอ​ถาม​ว่า​ทำไม​ท่าน​จึง​ตาม​ตัว​ข้าพเจ้า​มา” โครเนลิอัส​ตอบ​ว่า “4 วัน​มา​แล้ว​ขณะ​ที่​ข้าพเจ้า​กำลัง​อธิษฐาน​อยู่​ใน​บ้าน​เวลา​บ่าย 3 โมง ราวๆ เวลา​นี้ ใน​ทันใด​นั้น ก็​มี​ชาย​ผู้​หนึ่ง​สวม​เสื้อ​ผ้า​เปล่ง​ประกาย​ยืน​อยู่​ตรง​หน้า​ข้าพเจ้า และ​กล่าว​ว่า ‘โครเนลิอัส​เอ๋ย พระ​เจ้า​ได้ยิน​คำ​อธิษฐาน​ของ​ท่าน และ​ระลึก​ถึง​ทาน​ที่​ท่าน​ได้​ให้​แก่​คน​ยากไร้ จง​ส่ง​คน​ไป​เมือง​ยัฟฟา ตาม​ตัว​ซีโมน​หรือ​ที่​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เปโตร​ให้​มา​หา​ท่าน เขา​กำลัง​พัก​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง​ซึ่ง​อยู่​ติด​กับ​ทะเล’ ดังนั้น​ข้าพเจ้า​จึง​ให้​คน​ไป​ตาม​ท่าน​มา​ทันที​และ​ก็​น่า​ยินดี​ที่​ท่าน​มา พวก​เรา​ทุกคน​อยู่​เบื้อง​หน้า​พระ​เจ้า เพื่อ​ที่​จะ​ฟัง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​เอ่ย​สั่ง​ท่าน​ไว้” แล้ว​เปโตร​เริ่ม​พูด​ขึ้น​ว่า “ข้าพเจ้า​รู้​แน่​แก่​ใจ​แล้ว​ว่า เป็น​ความ​จริง​เพียง​ไร​ที่​พระ​เจ้า​ไม่​ลำเอียง แต่​พระ​องค์​รับ​คน​จาก​ทุกๆ ชาติ​ที่​ยำเกรง​พระ​องค์​และ​กระทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง ท่าน​ก็​ทราบ​ถึง​คำกล่าว​ซึ่ง​พระ​องค์​ได้​ให้​ไว้​กับ​ชน​ชาติ​อิสราเอล คือ​การ​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​แห่ง​สันติสุข​โดย​ผ่าน​พระ​เยซู​คริสต์ พระ​องค์​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​คน​ทั้ง​ปวง พวก​ท่าน​ทราบ​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ทั่ว​ทั้ง​แคว้น​ยูเดีย โดย​เริ่ม​จาก​แคว้น​กาลิลี หลัง​จาก​เรื่อง​บัพติศมา​ที่​ยอห์น​ได้​ประกาศ ท่าน​ทราบ​ว่า พระ​เจ้า​ได้​เจิม​พระ​เยซู​แห่ง​เมือง​นาซาเร็ธ​ด้วย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​และ​อานุภาพ​อย่างไร และ​พระ​องค์​ได้​ไป​ตาม​ที่​ต่างๆ เพื่อ​กระทำ​สิ่ง​ดี​งาม และ​รักษา​ทุกคน​ที่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พญามาร​ให้​หาย​ขาด เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​สถิต​กับ​พระ​องค์ พวก​เรา​เป็น​พยาน​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​องค์​กระทำ ทั้ง​ใน​บ้าน​เมือง​ของ​ชาว​ยิว​รวม​ถึง​เมือง​เยรูซาเล็ม​ด้วย พวก​เขา​ฆ่า​พระ​องค์​โดย​ตรึง​ไว้​บน​ไม้​กางเขน แต่​ว่า​พระ​เจ้า​ได้​ให้​พระ​องค์​ฟื้น​คืน​ชีวิต​ใน​วัน​ที่​สาม และ​ให้​ผู้​คน​ได้​เห็น​พระ​องค์ พระ​องค์​มิ​ได้​ปรากฏ​แก่​ทุกคน แต่​ปรากฏ​แก่​พวก​พยาน​ที่​พระ​เจ้า​ได้​เลือก​ไว้​แล้ว คือ​พวก​เรา​ซึ่ง​ได้​รับ​ประทาน​และ​ดื่ม​กับ​พระ​องค์ หลัง​จาก​ที่​พระ​องค์​ได้​ฟื้น​คืน​ชีวิต​จาก​ความ​ตาย พระ​องค์​สั่ง​ให้​พวก​เรา​ประกาศ​แก่​ผู้​คน และ​ยืนยัน​ว่า​พระ​องค์​เป็น​ผู้​ที่​พระ​เจ้า​ได้​มอบ​หมาย ให้​เป็น​ผู้​พิพากษา​ทั้ง​คน​เป็น​และ​คน​ตาย ผู้​เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ทุก​ท่าน​เป็น​พยาน​ถึง​พระ​องค์​ว่า ทุกคน​ที่​เชื่อ​ใน​พระ​องค์ ย่อม​ได้​รับ​การ​ยกโทษ​บาป​โดย​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์” ขณะ​ที่​เปโตร​กำลัง​พูด​ถึง​สิ่ง​เหล่า​นี้​อยู่ พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ก็​ลง​มา​สถิต​กับ​ทุกคน​ที่​ฟัง​เรื่อง​ที่​ประกาศ ผู้​ที่​เชื่อ​ทั้ง​ปวง​ซึ่ง​ได้​เข้า​สุหนัต​และ​มา​กับ​เปโตร ล้วน​แปลก​ใจ​ว่า พระ​เจ้า​ได้​หลั่ง​ของ​ประทาน​แห่ง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ให้​แม้​แต่​บรรดา​คนนอก ที่​ทราบ​ก็​เพราะ​ได้ยิน​คน​เหล่า​นั้น​พูด​ภาษา​ที่​ตน​ไม่​รู้จัก และ​พา​กัน​สรรเสริญ​พระ​เจ้า ครั้น​แล้ว​เปโตร​ก็​พูด​ว่า “มี​ใคร​บ้าง​ไหม​ที่​อาจ​จะ​ห้าม​ผู้​คน​เหล่า​นี้​ไม่​ให้​รับ​บัพติศมา​ด้วย​น้ำ พวก​เขา​ได้​รับ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​เหมือน​กับ​พวก​เรา​แล้ว” และ​ท่าน​ก็​สั่ง​ให้​พวก​เขา​รับ​บัพติศมา​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ ครั้น​แล้ว​คน​เหล่า​นั้น​ขอ​ให้​เปโตร​อยู่​ด้วย​กัน​กับ​เขา​อีก​สอง​สาม​วัน