เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เมื่อท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านกำลังจะหลงหายไป อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องจับส่งคืนไปให้กับเพื่อนบ้านท่าน แต่ถ้าเจ้าของสัตว์นั้นอยู่ห่างไกลจากท่านหรือท่านไม่รู้ว่าเป็นของใคร ก็ให้ท่านเก็บสัตว์นั้นไว้ก่อน จนกว่าเพื่อนบ้านคนนั้นจะออกมาตามหา ท่านถึงค่อยคืนสัตว์นั้นให้กับเขาไป ให้ท่านทำแบบเดียวกันนี้กับลา กับเสื้อผ้าและกับของอื่นๆที่เพื่อนบ้านของท่านทำหายและท่านไปพบเข้า อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ที่ถนน อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่านต้องเข้าไปช่วยยกมันขึ้นด้วยกันกับเจ้าของมัน ผู้หญิงต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าของผู้ชาย และผู้ชายต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าผู้หญิง เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านขยะแขยงทุกคนที่ทำอย่างนั้น ถ้าท่านกำลังเดินอยู่ และพบรังนกบนต้นไม้หรือตกอยู่บนพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่นกอยู่ในนั้น และแม่นกกำลังกกลูกหรือไข่ของมันอยู่ ท่านต้องไม่จับทั้งแม่และลูกของมัน ท่านอาจจะเก็บลูกของมันไว้ได้ แต่ต้องปล่อยแม่ของมันไป เพื่อทุกอย่างจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะมีอายุยืนยาว เมื่อท่านสร้างบ้านใหม่ ต้องก่ออิฐกันตกรอบดาดฟ้า ท่านจะได้ไม่มีความผิดที่ทำให้คนตกลงมาตาย เมื่อท่านทำไร่องุ่น ท่านต้องไม่ปลูกพืชอื่นแซม ไม่อย่างนั้นทั้งพืชที่ปลูกแซมและผลองุ่นจากไร่นั้นจะกลายเป็นสมบัติของพระเจ้า ถูกส่งไปยังสถานที่นมัสการพระองค์ เมื่อท่านไถดิน ท่านต้องไม่เอาวัวและลามาไถพร้อมๆกัน ท่านต้องไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์และลินินเข้าด้วยกัน ท่านต้องทำพู่ ห้อยที่ชายเสื้อคลุมทั้งสี่ด้านของท่าน ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับหญิงคนหนึ่ง และมีเพศสัมพันธ์กับนาง แล้วเกิดเกลียดนางขึ้นมา เขากล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสมและพูดให้นางเสียหายว่า “ผมได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่อผมมีเพศสัมพันธ์กับนาง ผมพบว่านางไม่บริสุทธิ์” พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้จะต้องหาข้อพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ มาให้กับพวกผู้นำของเมืองนั้นที่ประตูเมือง พ่อของหญิงสาวคนนั้นต้องพูดกับพวกผู้นำว่า “ผมได้ยกลูกสาวให้กับชายคนนี้เป็นเมีย ตอนนี้เขาเกลียดนางแล้ว และดูสิ เขายังกล่าวหาว่านางทำตัวไม่เหมาะสม โดยบอกว่า ‘ผมพบว่าลูกสาวของท่านไม่บริสุทธิ์ นี่คือข้อพิสูจน์ว่าลูกสาวของผมเป็นสาวบริสุทธิ์’” แล้วเขาต้องกางผ้า ผืนนั้นออกต่อหน้าพวกผู้นำของเมืองนั้น แล้วพวกผู้นำของเมืองนั้นต้องเอาตัวชายคนนั้นมาเฆี่ยนตี พวกเขาต้องปรับชายคนนั้นเป็นเงินหนึ่งกิโลกรัม และนำเงินนั้นไปให้กับพ่อของหญิงสาวคนนั้น เพราะชายคนนั้นได้ทำลายชื่อเสียงของหญิงบริสุทธิ์ของอิสราเอล นางจะยังคงเป็นเมียเขาต่อไปและเขาจะหย่าขาดจากนางไม่ได้ตลอดชีวิต แต่ถ้าเป็นจริงตามที่กล่าวหา และไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ พวกผู้นำต้องนำตัวนางไปที่ประตูบ้านของพ่อนาง และพวกผู้ชายในเมืองนั้นก็จะเอาหินขว้างนางจนตาย เพราะนางได้ทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูในอิสราเอล ด้วยการทำตัวเหมือนหญิงโสเภณีในบ้านพ่อของนาง เมื่อทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางคนของท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“เมื่อท่านเห็นโคหรือแกะของพี่น้องของท่านหลงไป อย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้พี่น้องของท่าน ถ้าเขาไม่ได้อยู่ใกล้ท่าน หรือท่านไม่รู้จักเขา จงนำสัตว์นั้นมาไว้ที่บ้านของท่านและให้อยู่กับท่านจนพี่น้องมาเที่ยวหา แล้วท่านจงมอบคืนให้เขาไป เช่นเดียวกับลาของพี่น้องท่าน ก็ให้ทำเหมือนกัน และเช่นเดียวกับเสื้อผ้าของพี่น้องท่าน ก็เหมือนกัน และทุกสิ่งของพี่น้องที่หายไปและที่ท่านพบเข้า ท่านจงคืนให้แก่เขา ท่านจะนิ่งเฉยเสีย ไม่ช่วยเขาไม่ได้ ถ้าท่านเห็นลาหรือโคของพี่น้องล้มลงตามทาง อย่านิ่งเฉยเสีย ท่านจงช่วยเขาพยุงสัตว์เหล่านั้นขึ้นอีก “ห้ามผู้หญิงใช้เครื่องแต่งกายของผู้ชาย และห้ามผู้ชายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของผู้หญิง เพราะทุกคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ก็เป็นที่พึงรังเกียจแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน “เมื่อท่านเผอิญไปพบรังนกตามทาง บนต้นไม้ใดๆ หรือบนพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่และแม่นกกกอยู่บนลูกนกหรือไข่นั้น ห้ามเอาแม่นกไปพร้อมกับลูกนก จงปล่อยแม่นกไปเสีย แต่ลูกนกนั้นท่านจะเอาไปเป็นของท่านก็ได้ เพื่อจะเป็นการดีต่อท่าน และท่านจะมีอายุยืนนาน “เมื่อท่านสร้างบ้านใหม่ จงก่อขอบขึ้นกันไว้ที่ดาดฟ้าหลังคา เพื่อท่านจะไม่ทำให้โลหิตตกบนบ้านของท่าน เพราะมีคนตกลงมาจากหลังคา “ห้ามเอาเมล็ดพืชสองชนิดหว่านลงในสวนองุ่นของท่าน เกรงว่าจะต้องมอบถวายผลทั้งหมดนั้น คือทั้งพืชผลที่ท่านหว่านและผลองุ่นของสวนนั้น ห้ามเอาโคและลาเข้าเทียมไถด้วยกัน ห้ามสวมเครื่องแต่งกายที่ทอด้วยขนสัตว์ปนด้ายป่าน “ท่านจงทำพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของชายเสื้อคลุมของท่านซึ่งท่านใช้คลุมตัว “ถ้าชายใดได้ภรรยาและได้เข้าหานาง แล้วเกิดเกลียดชังนาง และกล่าวหานางว่าประพฤติตัวเสื่อมเสีย ทำให้นางเสียชื่อเสียง โดยกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้ารับหญิงนี้มาเป็นภรรยา เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปหานางก็เห็นว่านางไม่ได้เป็นพรหมจารี’ ให้บิดาของหญิงสาวนั้นและมารดาของนาง นำหลักฐานที่แสดงว่าหญิงนั้นเป็นพรหมจารีมาให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นที่ประตูเมือง และบิดาของหญิงสาวนั้นจะบอกกับพวกผู้ใหญ่ว่า ‘ข้าพเจ้าได้ยกลูกสาวของข้าพเจ้าให้เป็นภรรยาชายคนนี้ แต่เขากลับเกลียดชังนาง ดูสิ ชายผู้นี้หาเหตุกล่าวติเตียนว่า “ข้าพเจ้าไม่พบหลักฐานการเป็นหญิงพรหมจารีในบุตรสาวของท่าน” แต่นี่คือหลักฐานว่า ลูกสาวของข้าพเจ้าเป็นหญิงพรหมจารี’ แล้วเขาจะคลี่เครื่องแต่งกายนั้นออกต่อหน้าพวกผู้ใหญ่ของเมือง ให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจับชายคนนั้นมาเฆี่ยน และปรับเงินเขาหนึ่งร้อยเชเขล และมอบเงินนั้นให้แก่บิดาของหญิงสาว เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีอิสราเอลคนหนึ่งเสียชื่อเสียง หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าร้างไม่ได้เลยตลอดชีวิตของเขา แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นความจริงและไม่พบหลักฐานของหญิงพรหมจารีที่หญิงสาวนั้น พวกเขาจะพาหญิงสาวนั้นออกมานอกประตูบ้านบิดาของเธอ แล้วพวกผู้ชายของเมืองนั้นจะเอาหินขว้างเธอให้ตาย เพราะเธอได้ทำความโง่เขลาในอิสราเอล คือเป็นหญิงโสเภณีในบ้านของบิดา ดังนั้นท่านจะกำจัดความชั่วออกจากท่ามกลางท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
“เมื่อท่านทั้งหลายเห็นวัวหรือแกะของพี่น้องของท่านหลงมาอย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้พี่น้องของท่าน ถ้าบ้านเขาอยู่ไม่ใกล้ หรือท่านไม่รู้จักตัวเขา จงนำสัตว์นั้นมาไว้ที่บ้านของท่านและให้อยู่กับท่านจนพี่น้องมาเที่ยวหา แล้วท่านจงมอบคืนให้เขาไป ลาของพี่น้องท่านก็จงคืนให้เหมือนกัน เสื้อผ้าของพี่น้องท่านก็จงคืนให้เหมือนกัน สิ่งใดของพี่น้องที่หายไป และที่ท่านพบเข้าท่านจงคืนให้เหมือนกัน ท่านอย่านิ่งเฉยเสีย ถ้าท่านเห็นลาหรือวัวของพี่น้องล้มอยู่ตามทาง อย่านิ่งเฉยเสีย ท่านจงช่วยพยุงสัตว์เหล่านั้นขึ้นอีก อย่าให้ผู้หญิงสวมใส่สิ่งที่เป็นของผู้ชาย และอย่าให้ผู้ชายคนใดคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าของผู้หญิง เพราะทุกคนที่กระทำเช่นนั้นก็เป็นที่สะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าท่านเผอิญไปพบรังนกอยู่ตามทาง บนต้นไม้หรือพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่และแม่นกกกอยู่บนลูกนกหรือไข่นั้น ท่านอย่าเอาแม่นกกับลูกนกไป ท่านจงปล่อยแม่นกไปเสีย แต่ลูกนกนั้นท่านจะเอาไปเป็นของท่านก็ได้ เพื่อท่านจะไปดีมาดี และท่านจะมีอายุยืนนาน เมื่อท่านก่อเรือนใหม่ จงก่อขอบขึ้นกันไว้ที่ดาดฟ้าหลังคา เพื่อท่านจะมิได้นำโทษเนื่องด้วยโลหิตตกมาสู่เรือนนั้น เพราะมีคนพลัดตกลงมาจากหลังคาตาย อย่าเอาเมล็ดพืชสองชนิดหว่านลงในสวนองุ่นของท่าน เกรงว่าทั้งพืชผลที่ท่านหว่านและผลองุ่นของสวนนั้นเป็นมลทิน ท่านอย่าเอาวัวและลาเข้าเทียมไถด้วยกัน ท่านอย่าสวมเครื่องแต่งกายที่ทอด้วยขนสัตว์ปนด้วยป่าน ท่านจงทำพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของชายเสื้อคลุมของท่าน ซึ่งท่านใช้คลุมตัว ถ้าชายคนใดได้ภรรยา และได้สมสู่อยู่กับนาง แล้วเกิดเกลียดชังนาง และหาเหตุว่าหญิงนั้นประพฤติสิ่งน่าอาย กระทำให้ชื่อเสียงของนางเสียหาย โดยกล่าวว่า ‘ข้ารับหญิงคนนี้มาเป็นภรรยา ครั้นข้าเข้าสมสู่กับนางก็เห็นว่านางมิได้เป็นพรหมจารี’ บิดาของหญิงสาวคนนั้นและมารดาจะต้องนำของสำคัญอันเป็นพยานว่า หญิงนั้นเป็นพรหมจารีมาให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นที่ประตูเมือง และบิดาของหญิงสาวนั้นจะบอกกับพวกผู้ใหญ่ว่า ‘ข้าได้ยกลูกสาวของข้าให้เป็นภรรยาชายคนนี้ และเขากลับเกลียดชัง ดูเถิด ชายผู้นี้หาเหตุกล่าวติเตียนว่า “ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าบุตรสาวของท่านเป็นพรหมจารีเลย” นี่แหละเป็นของสำคัญว่าลูกสาวของข้าเป็นหญิงพรหมจารี’ แล้วเขาจะคลี่ผ้านั้นออกต่อหน้าพวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นให้เป็นพยาน ให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจับชายคนนั้นมาเฆี่ยน และปรับเขาเป็นเงินหนึ่งร้อยเชเขล และมอบเงินนั้นให้แก่บิดาของหญิงสาว เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีอิสราเอลคนหนึ่งเสียชื่อ หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าร้างไม่ได้เลยตลอดชีวิต แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นความจริง และหาของสำคัญอันเป็นพยานว่า หญิงนั้นเป็นพรหมจารีสำหรับหญิงสาวนั้นไม่ได้ เขาจะพาหญิงสาวนั้นออกมานอกประตูเรือนบิดาของเธอ แล้วพวกผู้ชายในเมืองของเธอจะเอาหินขว้างเธอให้ตาย เพราะเธอได้กระทำความโง่เขลาในอิสราเอล คือเป็นหญิงโสเภณีในเรือนของบิดา ดังนี้แหละท่านจะกำจัดความชั่วออกจากท่ามกลางท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<เมื่อท่านทั้งหลายเห็นวัวหรือแกะของพี่น้อง ของท่านหลงมาอย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้พี่น้องของท่าน ถ้าบ้านเขาอยู่ไม่ใกล้ หรือท่านไม่รู้จักตัวเขา จงนำสัตว์นั้นมาไว้ที่บ้าน ของท่านและให้อยู่กับท่านจนพี่น้องมาเที่ยวหา แล้วท่านจงมอบคืนให้เขาไป ลาของพี่น้องท่านก็จงคืนให้เหมือนกัน เสื้อผ้าของพี่น้องท่านก็จงคืนให้เหมือนกัน สิ่งใดของพี่น้องที่หายไป และที่ท่านพบเข้าท่านจงคืนให้แก่เขา ท่านอย่านิ่งเฉยเสียไม่ช่วยเขา ถ้าท่านเห็นลาหรือวัวของพี่น้องล้มอยู่ตามทาง อย่านิ่งเฉยเสียท่านจงช่วยพยุงสัตว์เหล่านั้นขึ้นอีก <<อย่าให้ผู้หญิงใช้เครื่องแต่งกายของผู้ชาย และอย่าให้ผู้ชายแต่งกายด้วยเครื่องของผู้หญิง เพราะผู้ใดกระทำสิ่งเหล่านี้ก็เป็นที่พึง รังเกียจแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน <<ถ้าท่านเผอิญไปพบรังนกอยู่ตามทาง บนต้นไม้หรือพื้นดิน มีลูกนกหรือไข่และแม่นกกกอยู่บนลูกนกหรือไข่นั้น ท่านอย่าเอาแม่นกกับลูกนกไป ท่านจงปล่อยแม่นกไปเสีย แต่ลูกนกนั้นท่านจะเอาไปเป็นของท่านก็ได้ เพื่อท่านจะได้รับความจำเริญ และท่านจะมีอายุยืนนาน <<เมื่อท่านก่อเรือนใหม่ จงก่อขอบขึ้นกันไว้ที่ดาดฟ้าหลังคา เพื่อท่านจะมิได้นำโทษมาสู่เรือนนั้นเพราะมีคนพลัดตกลง มาจากหลังคาตาย <<อย่าเอาเมล็ดพืชสองชนิดหว่านลงในสวนองุ่นของท่าน เกรงว่าผลทั้งหมดนั้นจะต้องมอบให้แก่สถานนมัสการ คือทั้งพืชผลที่ท่านหว่านและผลองุ่นของสวนนั้น ท่านอย่าเอาวัวและลาเข้าเทียมไถด้วยกัน ท่านอย่าสวมเครื่องแต่งกายที่ทอด้วยขนสัตว์ปน ด้ายป่าน <<ท่านจงทำพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของชายเสื้อคลุมของท่าน ซึ่งท่านใช้คลุมตัว <<ถ้าชายคนใดได้ภรรยา และได้สมสู่อยู่กับนาง แล้วเกิดเกลียดชังนาง และหาเหตุว่าหญิงนั้นประพฤติสิ่งน่าอาย กระทำให้ชื่อเสียงของนางเสียหาย โดยกล่าวว่า <ข้ารับหญิงคนนี้มาเป็นภรรยา ครั้นข้าเข้าสมสู่กับนางก็เห็นว่า นางไม่มีเครื่องหมายของหญิงพรหมจารี> บิดาของหญิงสาวคนนั้นและมารดาจะต้องนำของสำคัญ อันเป็นพยานว่าหญิงนั้นเป็นพรหมจารีมาให้พวกผู้ใหญ่ของ เมืองนั้นที่ประตูเมือง และบิดาของหญิงสาวนั้นจะบอกกับพวกผู้ใหญ่ว่า <ข้าได้ยกลูกสาวของข้าให้เป็นภรรยาชายคนนี้ และเขากลับเกลียดชัง นี่แหละชายผู้นี้หาเหตุกล่าวติเตียนว่า <<ข้าพเจ้าไม่เห็นว่า บุตรสาวของท่านมีเครื่องหมายของหญิงพรหมจารีเลย>> นี่แหละเป็นของสำคัญว่า ลูกสาวของข้าเป็นหญิงพรหมจารี> แล้วเขาจะคลี่เครื่องแต่งกายนั้นออก ต่อหน้าพวกผู้ใหญ่ให้เป็นพยาน ให้พวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจับชายคนนั้นมาเฆี่ยน และปรับเขาหนึ่งร้อยเชเขล และมอบเงินนั้นให้แก่บิดาของหญิงสาว เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีอิสราเอลคนหนึ่งเสียชื่อ หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าร้างไม่ได้เลยตลอดชีวิต แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นความจริงและหาเครื่องหมายของหญิง พรหมจารีที่หญิงสาวนั้นไม่ได้ เขาจะพาหญิงสาวนั้นออกมานอกประตูเรือนบิดาของเธอ แล้วชาวเมืองจะเอาหินขว้างเธอให้ตาย เพราะเธอได้กระทำความโง่เขลาในอิสราเอล คือเป็นหญิงโสเภณีในเรือนของบิดา ดังนี้แหละท่านจะกำจัดความชั่วออกจากท่ามกลางท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
หากท่านเห็นวัวหรือแกะของเพื่อนบ้านหลงมา อย่านิ่งดูดาย จงนำมันกลับไปคืนเจ้าของ หากเจ้าของอยู่ไกลหรือท่านไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ จงพามันไปที่บ้านของท่าน และดูแลมันจนกว่าเจ้าของจะมาถามหา จึงคืนมันให้เขา ไม่ว่าจะเป็นลา เสื้อผ้า หรือสิ่งใดๆ ของเขาที่สูญหาย อย่านิ่งดูดาย เมื่อท่านเห็นลาหรือวัวของเพื่อนบ้านล้มอยู่ตามทาง อย่านิ่งดูดาย จงเข้าไปช่วยเหลือให้มันยืนขึ้นได้อีก สตรีอย่าสวมเครื่องแต่งกายของบุรุษและบุรุษก็อย่าสวมเครื่องแต่งกายของสตรี เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงรังเกียจผู้ที่ทำเช่นนั้น หากพบรังนกริมทาง หรือบนต้นไม้ หรือที่พื้น และมีแม่นกกกไข่หรือลูกของมัน อย่าจับทั้งแม่นกและลูกนก ท่านอาจจับลูกนกไว้ แต่จงปล่อยแม่นกไป เพื่อประโยชน์สุขของท่าน และเพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาว เมื่อสร้างบ้านใหม่ จงก่อขอบรอบหลังคาเพื่อท่านจะไม่นำความผิดมาสู่บ้านของท่านเนื่องจากมีคนพลัดตกลงมาตาย อย่าหว่านเมล็ดพืชสองชนิดปนกันในสวนองุ่นของท่าน หากท่านทำ ทั้งผลองุ่นและพืชพันธุ์นั้นจะเป็นมลทิน อย่าเอาวัวกับลาเข้าเทียมแอกด้วยกัน อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอจากด้ายขนสัตว์ปนด้ายลินิน ท่านจงเย็บพู่ห้อยไว้ที่มุมทั้งสี่ของเสื้อคลุม หากชายใดแต่งงานและหลังจากที่หลับนอนกับภรรยาแล้วไม่ชอบนาง จึงทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยพูดให้ร้ายว่า “ข้าพเจ้าแต่งงานกับหญิงนี้ แต่เมื่อเข้าหานาง กลับไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ว่านางเป็นสาวพรหมจารี” บิดามารดาของหญิงนั้นต้องนำข้อพิสูจน์พรหมจารีของนางมาให้ผู้อาวุโสประจำเมืองพิจารณาที่ประตูเมือง ผู้เป็นบิดาจะกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสว่า “ข้าพเจ้ายกบุตรสาวให้เป็นภรรยาของชายผู้นี้ แต่เขาไม่ชอบนาง และตอนนี้เขามาพูดให้นางเสื่อมเสียว่า ‘ข้าพเจ้าพบว่า ลูกสาวของท่านไม่ใช่สาวพรหมจารี’ แต่นี่เป็นข้อพิสูจน์ความเป็นพรหมจารีของบุตรสาวของข้าพเจ้า” แล้วคลี่ผ้าออกให้คณะผู้อาวุโสของเมืองนั้นดู ผู้อาวุโสจะนำชายผู้นั้นมาลงโทษ และปรับเขาเป็นเงินหนัก 100 เชเขล มอบให้แก่บิดาของหญิงนั้น เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีชาวอิสราเอลเสียชื่อเสียง นางยังคงเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่ากับนางไม่ได้ตลอดชีวิต แต่หากคำกล่าวหาเป็นความจริง และไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าหญิงนั้นเป็นสาวพรหมจารี นางจะถูกนำตัวไปที่ประตูบ้านของบิดา และให้ชาวเมืองนั้นเอาหินขว้างนางให้ตาย นางได้ทำสิ่งที่น่าละอายในอิสราเอลโดยปล่อยตัวให้ผู้ชายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ออกเรือน ท่านจะต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-21 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ถ้าท่านเห็นโคหรือแกะของพี่น้องของท่านหลงทางก็อย่าเพิกเฉย แต่จงนำมันกลับไปให้พี่น้องของท่าน และถ้าเขาอยู่ไกลจากท่าน หรือถ้าท่านไม่รู้จักเขา ท่านก็จงนำมันไปไว้ที่บ้านท่านจนกว่าเจ้าของจะตามหา แล้วท่านจงคืนให้เขาไป จงทำเช่นเดียวกับลาและเสื้อผ้าของพี่น้อง หรืออะไรก็ตามที่เขาทำหายและท่านพบเข้า ท่านอย่าทำเพิกเฉยโดยไม่ช่วยเขาเลย ถ้าท่านเห็นว่าลาหรือโคของพี่น้องของท่านล้มลงอยู่ที่ถนน ก็อย่าเพิกเฉยเสีย ท่านจงช่วยสัตว์ของเขาให้ลุกขึ้น อย่าให้ผู้หญิงใส่เครื่องแต่งกายของชาย และอย่าให้ผู้ชายใส่เครื่องแต่งกายของหญิง เพราะใครก็ตามที่กระทำสิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ถ้าท่านบังเอิญพบรังนกบนต้นไม้หรือพื้นดิน มีแม่นกกำลังกกลูกหรือกกไข่อยู่ ท่านก็อย่าเอาแม่นกและลูกของมันไป จงปล่อยแม่นกไป ส่วนลูกนกนั้นท่านจะเอาไปก็ได้ เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะมีชีวิตยืนยาว เวลาท่านสร้างบ้าน จงก่อขอบกั้นไว้บนดาดฟ้า ท่านจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ หากมีใครพลัดตกดาดฟ้าตาย อย่าหว่านเมล็ดพืชชนิดใดลงในสวนองุ่นของท่าน เพราะผลที่จะได้รับ คือทั้งผลจากเมล็ดพืชและผลจากสวนองุ่นจะไม่บริสุทธิ์ อย่าใช้โคและลาเทียมไถด้วยกัน อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์ปนกับด้ายป่าน ท่านจงทำพู่ห้อยที่มุมทั้งสี่ของชายเสื้อคลุมที่ท่านใช้คลุมตัว ถ้าชายใดได้ภรรยา มีเพศสัมพันธ์กับเธอแล้วก็เกลียดชังเธอ และกล่าวหาเธอถึงการกระทำอันน่าอับอาย ทำให้ชื่อเธอเสียหายว่า ‘ข้าพเจ้ารับหญิงคนนี้ไว้ เมื่อข้องเกี่ยวกับเธอแล้วข้าพเจ้าจึงรู้ว่าเธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์’ บิดามารดาของหญิงสาวจะนำข้อพิสูจน์ว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์มาให้บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมือง ณ ประตูเมือง บิดาของหญิงสาวจะพูดกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ว่า ‘ข้าพเจ้าได้ยกลูกสาวให้เป็นภรรยาของชายคนนี้ แล้วเขาเกลียดชังเธอ ดูเถิด เขากล่าวหาเธอถึงการกระทำอันน่าอับอายว่า “ข้าพเจ้าเห็นว่าบุตรสาวของท่านไม่ใช่สาวบริสุทธิ์” นี่คือข้อพิสูจน์ความเป็นสาวบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าพเจ้า’ แล้วบิดามารดาก็คลี่ผ้าให้บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองดู บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจะจับตัวชายคนนั้นมาเฆี่ยน และปรับเขา 100 เชเขล แล้วมอบให้แก่บิดาของหญิงสาว เพราะเขาได้ทำให้ชื่อของหญิงพรหมจารีของอิสราเอลมัวหมอง และเธอจะยังคงเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าร้างจากเธอไม่ได้จนชั่วชีวิตของเขา แต่หากว่าข้อกล่าวหาเป็นจริง และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ เขาจะต้องพาหญิงสาวคนนั้นไปที่ประตูบ้านของบิดาของเธอ แล้วพวกผู้ชายจะใช้ก้อนหินขว้างเธอจนตาย เพราะเธอมีความประพฤติน่าอับอายในอิสราเอลโดยทำตนเป็นหญิงแพศยาในบ้านบิดาของเธอเอง ดังนั้นท่านจงกำจัดคนชั่วร้ายออกไปจากพวกท่าน