เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
(มีชาวเรฟาอิมหลงเหลืออยู่น้อยมาก กษัตริย์โอกแห่งบาชานก็เป็นชาวเรฟาอิมคนหนึ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ เตียงของเขามีขนาดยาวเก้าศอก กว้างสี่ศอก ตอนนี้มันยังตั้งอยู่ที่เมืองรับบาห์ของชาวอัมโมนอยู่เลย) “ในตอนนั้นพวกเราได้ยึดเอาแผ่นดินนี้เป็นของพวกเรา เริ่มจากอาโรเออร์ซึ่งอยู่ในหุบเขาอารโนน เราได้มอบดินแดนครึ่งหนึ่งบนเขากิเลอาดและเมืองต่างๆของมัน ให้กับชาวรูเบนและชาวกาด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของกิเลอาดและบาชานทั้งหมดในอาณาจักรโอก เราได้มอบให้กับเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า” (แคว้นอารโกบทั้งหมด ทั้งส่วนของเมืองบาชานรวมเรียกว่าแผ่นดินของชาวเรฟาอิม ยาอีร์จากเผ่ามนัสเสห์ได้ยึดแคว้นอารโกบทั้งหมดไปจนถึงริมเขตแดนของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ แล้วยาอีร์ก็ได้ตั้งชื่อเมืองต่างๆเหล่านั้นตามชื่อของเขามาจนถึงทุกวันนี้) “เราได้มอบกิเลอาดให้มาคีร์ ส่วนชาวรูเบนและชาวกาด เราได้ให้ดินแดนตั้งแต่กิเลอาดลงไปถึงหุบเขาอารโนน ตรงกลางหุบเขาคือเส้นแบ่งแดน ขึ้นไปถึงแม่น้ำยับบอกซึ่งเป็นเส้นเขตแดนของชาวอัมโมน หุบเขาจอร์แดนและแม่น้ำจอร์แดนเองเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทางตะวันตก เริ่มจากทะเลสาบกาลิลี ลงไปจนถึงฝั่งตะวันออกของทะเลตาย ตรงก้นของหน้าผาปิสกาห์ ในตอนนั้นเราได้สั่งพวกท่านว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ยกแผ่นดินฝั่งนี้ให้พวกท่านเป็นเจ้าของ แต่ตอนนี้ให้พวกท่านนักรบผู้กล้าที่ถืออาวุธพร้อมมือ นำหน้าญาติพี่น้องชาวอิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปฝั่งโน้น เว้นแต่พวกเมียๆและลูกๆ รวมทั้งฝูงสัตว์ของพวกท่าน (เรารู้ว่าพวกท่านมีฝูงสัตว์มากมาย) ให้ยังคงอยู่ในเมืองต่างๆที่เราได้ยกให้กับพวกท่าน พวกท่านต้องช่วยญาติพี่น้องของพวกท่าน จนกว่าพวกเขาจะได้เป็นเจ้าของดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ได้ยกให้กับพวกเขา คือดินแดนที่อยู่ฝั่งโน้นของแม่น้ำจอร์แดน และให้ช่วยพวกเขาจนกว่าพระยาห์เวห์จะให้สันติสุขกับพวกเขา เหมือนกับที่พระองค์ให้กับพวกท่าน เมื่อถึงตอนนั้น พวกท่านจึงค่อยกลับมาดินแดนฝั่งนี้ที่เราได้ยกให้กับพวกท่าน’ ในตอนนั้นเราได้สั่งโยชูวาว่า ‘ท่านก็ได้เห็นกับตาแล้วว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ทำยังไงกับกษัตริย์สององค์นั้น พระองค์ก็จะทำอย่างนั้นกับอาณาจักรต่างๆที่ท่านกำลังจะบุกเข้าไปด้วย ไม่ต้องกลัวพวกมัน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะต่อสู้แทนท่าน’ ในตอนนั้นเราได้อ้อนวอนต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์เริ่มแสดงให้ข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วไม่ว่าในสวรรค์หรือบนโลก ที่จะทำในสิ่งที่พระองค์ทำหรือแสดงฤทธิ์อำนาจได้เหมือนกับที่พระองค์แสดง ขอให้ข้าพเจ้าได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป เพื่อจะได้เห็นดินแดนที่ดีซึ่งอยู่ฝั่งโน้น ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นเนินเขาที่สวยงามและแคว้นเลบานอนด้วยเถิด’ แต่พระยาห์เวห์โกรธเรามาก ก็เพราะพวกท่านนี่แหละ และพระองค์ก็ไม่ฟังคำขอร้องของเรา พระองค์พูดกับเราว่า ‘พอแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้ให้ได้ยินอีก ขึ้นไปบนยอดเขาปิสกาห์และมองไปรอบๆทั้งทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก แต่เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป ให้คำแนะนำกับโยชูวา ทำให้เขากล้าหาญและเข้มแข็ง เพราะเขาจะเป็นคนนำประชาชนพวกนี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป และเขาจะพาพวกนั้นไปยึดเอาแผ่นดินที่เจ้าเห็นนั้น’ ดังนั้นพวกเราจึงอยู่ในหุบเขาตรงข้ามกับเบธเปโอร์
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
(ด้วยยังเหลืออยู่แต่โอกกษัตริย์แห่งบาชานซึ่งเป็นพวกเรฟาอิม นี่แน่ะ เตียงนอนของท่านทำด้วยเหล็ก เตียงนอนนั้นไม่ได้อยู่ที่เมืองรับบาห์ของคนอัมโมนหรือ ยาวถึงสี่เมตร กว้างเกือบสองเมตรตามมาตรฐานการวัด) “แผ่นดินนี้ที่พวกเรายึดครองได้เวลานั้น คือตั้งแต่อาโรเออร์ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำอารโนน และแดนเทือกเขากิเลอาดครึ่งหนึ่งกับเมืองในพื้นที่นั้น ข้าพเจ้าให้แก่เผ่ารูเบนและเผ่ากาด ส่วนกิเลอาดที่ยังเหลืออยู่กับบาชานทั้งหมด ซึ่งเป็นอาณาจักรของโอก คือดินแดนอารโกบทั้งหมด ข้าพเจ้าให้แก่เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า (บาชานทั้งหมดนั้นเรียกว่าดินแดนของพวกเรฟาอิม ยาอีร์บุตรเผ่ามนัสเสห์ตีได้ดินแดนอารโกบทั้งหมด คือเมืองบาชานจนถึงเขตแดนเมืองของชาวเกชูร์ และเมืองของชาวมาอาคาห์) และเรียกชื่อเมืองเหล่านั้นตามชื่อของตนว่า ฮาวโวทยาอีร์ จนถึงทุกวันนี้ เมืองกิเลอาดนั้นข้าพเจ้าให้แก่มาคีร์ ส่วนเผ่ารูเบนและเผ่ากาดนั้น ข้าพเจ้าให้ดินแดนตั้งแต่กิเลอาดถึงแม่น้ำอารโนน ถือเอากลางแม่น้ำเป็นเขตแดนเรื่อยมาถึงแม่น้ำยับบอก อันเป็นเขตแดนของคนอัมโมน ทั้งบริเวณที่ราบด้วย มีแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดนตั้งแต่ทะเลคินเนเรทจนถึงทะเลแห่งอาราบาห์ คือทะเลตาย ที่ราบแถบเนินเขาปิสกาห์ซึ่งอยู่ทิศตะวันออก “เวลานั้นข้าพเจ้าบัญชาท่านทั้งหลายว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงให้พวกท่านยึดครองแผ่นดินนี้ แต่ทหารพร้อมรบทั้งสิ้นของท่าน จงถืออาวุธยกข้ามไปก่อนคนอิสราเอลผู้เป็นพี่น้องของท่าน ส่วนภรรยา บุตรเล็กๆ กับฝูงปศุสัตว์ของท่าน(เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่แล้วว่า ท่านทั้งหลายมีฝูงปศุสัตว์จำนวนมาก) จงอยู่ในเขตเมืองที่ข้าพเจ้ายกให้พวกท่านนั้นก่อน จนกว่าพระยาห์เวห์จะประทานการหยุดพักแก่พี่น้องของท่าน ดังที่ประทานแก่ท่านแล้ว จนพวกเขาจะยึดครองแผ่นดิน ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขาที่ฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน แล้วพวกท่านแต่ละคนจึงจะกลับมายังที่อยู่ของตน ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้แก่ท่านแล้ว’ เวลานั้นข้าพเจ้าสั่งโยชูวาว่า ‘นัยน์ตาของท่านได้เห็นทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงทำกับกษัตริย์ทั้งสองนั้นแล้ว ดังนั้นพระยาห์เวห์จะทรงทำกับอาณาจักรทั้งสิ้นซึ่งท่านจะข้ามไปอยู่เช่นเดียวกัน ท่านทั้งหลายอย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงสู้รบเพื่อท่านทั้งหลาย’ “เวลานั้นข้าพเจ้าอ้อนวอนพระยาห์เวห์ว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย พระองค์เพิ่งทรงสำแดงความยิ่งใหญ่และพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะมีพระเจ้าองค์ไหนเล่าในสวรรค์ หรือในแผ่นดินโลกที่ทรงสามารถทำกิจการต่างๆ และการอิทธิฤทธิ์เหมือนพระองค์ทรงกระทำ ขอทรงอนุญาตให้ข้าพระองค์ข้ามไปดูแผ่นดินดีที่อยู่ฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน ดูแดนเทือกเขางดงามและเลบานอนด้วย’ แต่พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธต่อข้าพเจ้า เพราะพวกท่านเป็นเหตุ พระองค์จึงไม่ทรงฟังข้าพเจ้า และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘พอแล้ว เจ้าอย่าพูดเรื่องนี้กับเราอีกต่อไป เจ้าจงขึ้นไปถึงยอดปิสกาห์และมองดูทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก แลดูแผ่นดินนั้นด้วยนัยน์ตาของเจ้า เพราะเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ แต่เจ้าจงกำชับโยชูวา จงหนุนใจและเสริมกำลังเขาให้เข้มแข็ง เพราะเขาจะต้องนำหน้าชนชาตินี้ข้ามไป และจะทรงให้เขาเข้ายึดครองแผ่นดินที่เจ้ามองเห็นนั้น’ ฉะนั้นพวกเราจึงยับยั้งอยู่ในหุบเขาตรงข้ามกับเบธเปโอร์
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ด้วยยังเหลืออยู่แต่โอกกษัตริย์เมืองบาชานซึ่งเป็นพวกมนุษย์ยักษ์ ดูเถิด เตียงนอนของท่านทำด้วยเหล็ก เตียงนอนนั้นไม่อยู่ที่เมืองรับบาห์แห่งคนอัมโมนดอกหรือ ยาวตั้งเก้าศอก กว้างสี่ศอกขนาดศอกคนเรา แผ่นดินนี้ที่เรายึดครองได้ครั้งนั้น คือตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ริมลุ่มแม่น้ำอารโนน และแดนเทือกเขากิเลอาดครึ่งหนึ่ง กับหัวเมืองทั้งหลายเหล่านั้น เราก็ได้ให้แก่คนรูเบนและคนกาด ส่วนกิเลอาดที่ยังเหลืออยู่กับเมืองบาชานทั้งหมด ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของโอก คือดินแดนอารโกบทั้งหมด เราก็ได้ให้ไว้กับครึ่งหนึ่งของคนตระกูลมนัสเสห์ ทั้งหมดเมืองบาชานนั้นเรียกว่าดินแดนของพวกมนุษย์ยักษ์ ยาอีร์คนมนัสเสห์ก็ตีได้ดินแดนอารโกบทั้งหมด จนถึงเขตแดนเมืองชาวเกชูร์ และเมืองมาอาคาห์ และได้เรียกชื่อเมืองเหล่านั้นตามชื่อของตนว่า บาชานฮาโวทยาอีร์ จนถึงทุกวันนี้ เมืองกิเลอาดนั้นเราให้แก่มาคีร์ แก่คนรูเบนและคนกาดนั้นเราให้ตำบลตั้งแต่กิเลอาดถึงลุ่มแม่น้ำอารโนน ถือเอากลางลุ่มน้ำเป็นแดนเรื่อยมาถึงแม่น้ำยับบอกอันเป็นแดนของคนอัมโมน ทั้งแถบที่ราบด้วย มีแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน ตั้งแต่ทะเลคินเนเรทจนถึงทะเลแห่งที่ราบ คือทะเลเค็ม ที่อัชโดดปิสกาห์ ซึ่งอยู่ทิศตะวันออก ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้บัญชาท่านทั้งหลายว่า ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้ท่านทั้งหลายยึดครองแผ่นดินนี้ ทแกล้วทหารทั้งสิ้นของท่าน จงถืออาวุธยกข้ามไปก่อนคนอิสราเอลผู้เป็นพี่น้องของท่าน แต่ภรรยาของท่าน บุตรเล็กๆทั้งหลายของท่านกับฝูงสัตว์ของท่าน (เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่แล้วว่า ท่านทั้งหลายมีฝูงสัตว์เป็นอันมาก) จงอยู่ในเขตเมืองที่เรายกให้นั้นก่อน กว่าพระเยโฮวาห์จะโปรดให้พี่น้องของท่านได้หยุดพักเหมือนได้ประทานแก่ท่านแล้ว จนเขาทั้งหลายจะยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขาที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นแล้ว ท่านทั้งหลายต่างจึงจะกลับมายังที่อยู่ของตน ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้แก่ท่านทั้งหลาย’ ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้สั่งโยชูวาว่า ‘นัยน์ตาของท่านได้เห็นบรรดากิจการซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงกระทำแก่กษัตริย์ทั้งสองนั้นแล้ว ดังนั้นพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำแก่อาณาจักรทั้งปวงซึ่งท่านจะข้ามไปอยู่เช่นเดียวกัน ท่านอย่าได้กลัวเขาเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์นั้นทรงสู้รบเพื่อท่าน’ ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้อ้อนวอนพระเยโฮวาห์ว่า ‘โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า พระองค์เพิ่งทรงสำแดงอานุภาพและฤทธิ์พระหัตถ์ของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะมีพระเจ้าองค์ไหนเล่าในสวรรค์หรือในแผ่นดินโลกซึ่งสามารถกระทำตามการสำคัญ และการอิทธิฤทธิ์ดังพระองค์ได้ ขอพระองค์ทรงโปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์ข้ามไปดูแผ่นดินอันดีที่อยู่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ดูแดนเทือกเขางดงามและเลบานอนด้วย’ แต่พระเยโฮวาห์ได้พระพิโรธต่อข้าพเจ้า เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระองค์จึงมิได้ทรงโปรดฟังข้าพเจ้า และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘พอแล้ว เจ้าอย่าได้พูดกับเราด้วยเรื่องนี้ต่อไปเลย เจ้าจงขึ้นไปถึงยอดเขาปิสกาห์ และเพ่งตาของเจ้าดูทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก และดูแผ่นดินนั้นด้วยนัยน์ตาของเจ้า เพราะเจ้าจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไปไม่ได้เลย แต่เจ้าจงกำชับโยชูวา จงสนับสนุนและชูใจของเขาให้เข้มแข็ง เพราะเขาจะต้องนำหน้าชนชาตินี้ข้ามไป และจะให้เขาทั้งหลายเข้าถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินที่เจ้าแลเห็นนั้น’ ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงยับยั้งอยู่ในหุบเขาตรงหน้าเบธเปโอร์”
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
(ด้วยยังเหลืออยู่แต่โอกกษัตริย์เมืองบาชานซึ่งเป็นพวกเรฟาอิม ดูเถิด เตียงนอนของท่านทำด้วยเหล็ก เตียงนอนนั้นไม่อยู่ที่เมืองรับบาห์แห่งคนอัมโมนดอกหรือ ยาวตั้งเก้าศอก กว้างสี่ศอกขนาดศอกคนเรา) <<แผ่นดินนี้ที่เราตีได้ครั้งนั้น คือตั้งแต่อาโรเออร์ซึ่งอยู่ริมลุ่มน้ำอารโนน และแดนเทือกเขากิเลอาดกึ่งหนึ่งกับหัวเมืองทั้งหลายเหล่านั้น เราก็ได้ให้แก่เผ่ารูเบนและเผ่ากาด ส่วนกิเลอาดที่ยังเหลืออยู่กับเมืองบาชานทั้งหมด ซึ่งเป็นแผ่นดินของโอก คือดินแดนอารโกบทั้งหมด เราก็ได้ให้ไว้กับครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์ (ทั้งหมดเมืองบาชานนั้นเรียกว่าดินแดนของพวกเรฟาอิม ยาอีร์คนเผ่ามนัสเสห์ก็ตีได้ดินแดนอารโกบทั้งหมด คือเมืองบาชาน จนถึงเขตแดนเมืองชาวเกชูร์ และเมืองตระกูลมาอาคาห์) และได้เรียกชื่อเมืองเหล่านั้นตามชื่อของตนว่า ฮาวโวทยาอีร์ จนถึงทุกวันนี้ เมืองกิเลอาดนั้นเราให้แก่มาคีร์ แก่เผ่ารูเบนและกาดนั้นเราให้ตำบลตั้งแต่กิเลอาด ถึงลุ่มน้ำอารโนน ถือเอากลางลุ่มน้ำเป็นแดนเรื่อยมาถึงแม่น้ำยับบอก อันเป็นแดนของคนอัมโมน ทั้งแถบอาราบาห์ด้วย มีแม่น้ำจอร์แดนเป็นพรมแดนตั้งแต่ทะเลคินเนเรท จนถึงทะเลแห่งอาราบาห์ คือทะเลเค็ม ที่ราบแถบเนินเขาปิสกาห์ซึ่งอยู่ทิศตะวันออก <<ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้บัญชาท่านทั้งหลายว่า <พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้ ท่านทั้งหลายยึดครองแผ่นดินนี้ ทแกล้วทหารทั้งสิ้นของท่าน จงถืออาวุธยกข้ามไปก่อนคนอิสราเอลผู้เป็นพี่น้องของท่าน แต่ภรรยาของท่าน บุตรเล็กๆทั้งหลายของท่าน กับฝูงสัตว์ของท่าน (เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่แล้วว่า ท่านทั้งหลายมีฝูงสัตว์เป็นอันมาก) จงอยู่ในเขตเมืองที่เรายกให้นั้นก่อน กว่าพระเจ้าจะโปรดให้พี่น้องของ ท่านได้หยุดพักเหมือนได้ประทานแก่ท่านแล้ว จนเขาทั้งหลายจะยึดครองแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขา ที่ฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน แล้วท่านทั้งหลายต่างจึงจะกลับมายังที่อยู่ของตน ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้แก่ท่านทั้งหลาย> ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้สั่งโยชูวาว่า <นัยน์ตาของท่านได้เห็นบรรดากิจการซึ่งพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านทั้งหลายได้ทรงกระทำแก่กษัตริย์ทั้งสองนั้นแล้ว ดังนั้นพระเจ้าจะทรงกระทำแก่เมืองทั้งปวงซึ่งท่าน จะข้ามไปอยู่เช่นเดียวกัน ท่านทั้งหลายอย่าได้กลัวเขาเลย เพราะ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์นั้นทรงสู้รบเพื่อท่านทั้งหลาย> <<ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้อ้อนวอนพระเจ้าว่า <ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้า พระองค์เพิ่งทรงสำแดงอานุภาพและ ฤทธิ์พระหัตถ์ของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะมีพระเจ้าองค์ไหนเล่าในสวรรค์ ในแผ่นดินโลกซึ่งอาจกระทำตามการสำคัญ และการอิทธิฤทธิ์ดังพระองค์ได้ ขอพระองค์ทรงโปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์ ข้ามไปดูแผ่นดินอันดีที่อยู่ฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน ดูแดนเทือกเขางดงามและเลบานอนด้วย> แต่พระเจ้าได้พิโรธต่อข้าพเจ้า เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระองค์จึงมิได้ทรงโปรดและพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <พอแล้วเจ้าอย่าได้พูดกับเราด้วยเรื่องนี้ต่อไปเลย เจ้าจงขึ้นไปถึงยอดปิสกาห์และเพ่งตาของเจ้า ดูทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก แลดูแผ่นดินนั้นด้วยนัยน์ตาของเจ้า เพราะเจ้าจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน นี้ไปไม่ได้เลย แต่เจ้าจงกำชับโยชูวา จงสนับสนุนและชูใจของเขาให้เข้มแข็ง เพราะเขาจะต้องนำหน้าชนชาตินี้ข้ามไป และจะให้เขาทั้งหลายเข้าถือกรรมสิทธิ์ใน แผ่นดินที่เจ้าแลเห็นนั้น> ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงยับยั้งอยู่ ในหุบเขาตรงหน้าเบธเปโอร์
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
(กษัตริย์โอกแห่งบาชานผู้นี้เป็นเรฟาอิมคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เตียงเหล็กของเขายาว 9 ศอกและกว้าง 4 ศอก เตียงนี้ยังอยู่ที่รับบาห์ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งของชาวอัมโมน) ข้าพเจ้ายกดินแดนที่ยึดมาได้ในครั้งนั้นให้แก่เผ่ารูเบนและเผ่ากาด คือตั้งแต่อาโรเออร์ริมโกรกธารอารโนน ครึ่งหนึ่งของแดนเทือกเขากิเลอาดและหัวเมืองต่างๆ ส่วนดินแดนกิเลอาดที่เหลือและดินแดนบาชานทั้งหมดซึ่งเดิมเป็นอาณาจักรของกษัตริย์โอกมอบให้แก่เผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า (อารโกบในบาชานนี้เคยได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งเรฟาอิม ยาอีร์ซึ่งเป็นวงศ์วานของมนัสเสห์ครอบครองภูมิภาคอารโกบทั้งหมดจนจดชายแดนของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ ดินแดนบาชานได้ชื่อตามเขาจึงเรียกกันว่า ฮัฟโวทยาอีร์ มาจนถึงทุกวันนี้) ข้าพเจ้ายกดินแดนกิเลอาดให้มาคีร์ ส่วนเผ่ารูเบนและเผ่ากาด ข้าพเจ้ายกดินแดนจากกิเลอาดลงไปจดโกรกธารอารโนน (ถือเอาตอนกลางของโกรกธารเป็นพรมแดน) เรื่อยมาถึงแม่น้ำยับบอกซึ่งเป็นพรมแดนของชาวอัมโมน พรมแดนด้านตะวันตกคือแม่น้ำจอร์แดนในอาราบาห์จากคินเนเรทจดทะเลแห่งอาราบาห์ (คือทะเลเกลือ) ใต้ลาดเขาปิสกาห์ ครั้งนั้นข้าพเจ้าสั่งเผ่ารูเบน เผ่ากาด และเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ประทานดินแดนฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนให้ท่านยึดครอง แต่ชายฉกรรจ์ทุกคนในพวกท่าน จงจับอาวุธออกรบ นำหน้าพี่น้องอิสราเอลข้ามแม่น้ำไป ส่วนภรรยาของท่าน ลูกๆ และฝูงสัตว์ (ข้าพเจ้าทราบอยู่ว่าท่านมีฝูงสัตว์ใหญ่โต) ให้พักอยู่ในเมืองที่ข้าพเจ้ายกให้ ตราบจนองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พี่น้องได้พักสงบเหมือนพวกท่าน และได้ยึดครองดินแดนซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านประทานให้ที่อีกฟากของแม่น้ำจอร์แดน เมื่อนั้นพวกท่านแต่ละคนจึงกลับสู่ดินแดนที่ข้าพเจ้ามอบให้ท่านเป็นกรรมสิทธิ์” ครั้งนั้นข้าพเจ้ากำชับโยชูวาว่า “ท่านก็ได้เห็นกับตาแล้วถึงสิ่งทั้งปวงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำแก่กษัตริย์ทั้งสองนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำอย่างเดียวกันต่ออาณาจักรทั้งปวงที่ฟากข้างโน้นซึ่งท่านกำลังมุ่งไป อย่ากลัวพวกเขา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเองจะทรงต่อสู้เพื่อท่าน” ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้ทูลอ้อนวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์ทรงเริ่มสำแดงความยิ่งใหญ่และฤทธิ์อำนาจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว เพราะมีพระเจ้าใดเล่าทั่วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกที่ได้กระทำการยิ่งใหญ่เกรียงไกรเสมอเหมือนพระองค์? ขอโปรดให้ข้าพระองค์ได้ไปเห็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน คือแดนเทือกเขาอันงดงามนั้นกับเทือกเขาเลบานอน” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธข้าพเจ้าเพราะพวกท่านและไม่ทรงฟังข้าพเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาว่า “พอแล้ว เลิกพูดเรื่องนี้เสียที จงขึ้นไปบนยอดเขาปิสกาห์และมองไปให้ทั่วทุกทิศ จงมองดูแผ่นดินนั้นให้เต็มตาของเจ้า เพราะเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป แต่จงมอบหมายงานให้โยชูวา จงให้กำลังใจเขาและช่วยให้เขาเข้มแข็งขึ้น เพราะเขาจะนำประชากรข้ามไปครอบครองดินแดนที่เจ้าจะเห็น” ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงยังคงพักอยู่ในหุบเขาใกล้เบธเปโอร์
เฉลยธรรมบัญญัติ 3:11-29 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
(โอกกษัตริย์แห่งบาชานเท่านั้นที่เหลือเป็นท่านสุดท้ายของชาวเรฟา ดูเถิด หีบที่ใช้เก็บร่างของท่านหล่อด้วยเหล็ก หีบใบนั้นไม่ได้อยู่ที่เมืองรับบาห์ของชาวอัมโมนหรอกหรือ ขนาดมาตรฐานคือ ยาว 9 ศอก กว้าง 4 ศอก) ในเวลานั้น เมื่อเรายึดที่ดินเป็นเจ้าของ เรายกอาณาเขตให้แก่ชาวรูเบนและชาวกาดโดยเริ่มจากเมืองอาโรเออร์ซึ่งอยู่ที่ข้างลุ่มน้ำอาร์โนน และครึ่งหนึ่งของแถบภูเขาในแคว้นกิเลอาดซึ่งมีเมืองต่างๆ รวมอยู่ด้วย ส่วนที่เหลือของแคว้นกิเลอาด บาชานทั้งแคว้น อาณาจักรของโอกคืออาร์โกบทั้งแคว้น เรายกให้ครึ่งเผ่าของมนัสเสห์ (เรียกบาชานทั้งแคว้นว่าดินแดนของเรฟา ยาอีร์จากเผ่ามนัสเสห์รับแคว้นอาร์โกบทั้งแคว้นไปคือแคว้นบาชาน ไกลจนถึงสุดชายแดนเกชูร์และมาอาคาห์ เขาตั้งชื่อของเขาเองคือฮาวโวทยาอีร์แทนชื่อบาชานมาจนถึงทุกวันนี้) เรายกกิเลอาดให้มาคีร์ สำหรับชาวรูเบนและชาวกาดเรายกอาณาเขตจากกิเลอาดคือตั้งแต่กลางลุ่มน้ำอาร์โนนเป็นชายแดนจนจรดแม่น้ำยับบอกสุดชายแดนของชาวอัมโมน ชายแดนด้านตะวันตกที่แม่น้ำจอร์แดนในอาราบาห์ จากทะเลสาบคินเนเรทจรดทะเลอาราบาห์คือทะเลเกลือ ด้านตะวันออกจรดที่เชิงเขาปิสกาห์ แล้วเราสั่งพวกท่านในเวลานั้นว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้มอบดินแดนนี้ให้ท่านยึดครอง จงให้บรรดานักรบพร้อมอาวุธข้ามแม่น้ำล่วงหน้าไปก่อนพี่น้องของท่านซึ่งเป็นชาวอิสราเอล แต่ให้ภรรยา เด็กเล็ก และฝูงปศุสัตว์ (เรารู้ว่าท่านมีฝูงปศุสัตว์อยู่มากมาย) อยู่ในเมืองซึ่งเราแบ่งยกให้ จนกว่าพระผู้เป็นเจ้าจะให้พี่น้องของท่านได้หยุดพักเหมือนที่พระองค์ให้แก่พวกท่าน และให้พวกเขายึดดินแดนอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนอันเป็นที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่พวกเขา จากนั้นพวกท่านทุกคนจะกลับไปครอบครองสิ่งที่เราได้ยกให้’ ในเวลานั้นเราสั่งโยชูวาว่า ‘พวกท่านได้เห็นทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกระทำต่อกษัตริย์ทั้งสองนั้นด้วยตาของท่านเองแล้ว พระผู้เป็นเจ้าจะกระทำเช่นเดียวกันต่ออาณาจักรทุกแห่งที่ท่านจะเข้าไปบุกรุก พวกท่านอย่ากลัวอาณาจักรเหล่านั้นเลย เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นผู้ต่อสู้ให้ท่านเอง’ ในครั้งนั้นเราวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์เริ่มแสดงให้ผู้รับใช้ของพระองค์เห็นความยิ่งใหญ่และอานุภาพของพระองค์ จะมีเทพเจ้าใดในสวรรค์หรือในโลกที่สามารถกระทำการเยี่ยงนี้หรือมีอานุภาพทำการใดเทียบเท่ากับพระองค์ได้เล่า โปรดให้ข้าพเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปดูแผ่นดินอันอุดมที่อีกฟากเถิด บริเวณแถบภูเขาอันงดงามที่นั่นและที่เลบานอน’ แต่เป็นเพราะพวกท่าน พระผู้เป็นเจ้าจึงโกรธเราจนไม่ฟังเรา และพระองค์กล่าวกับเราว่า ‘พอที อย่าพูดเรื่องนี้กับเราอีก เจ้าจงขึ้นไปยังยอดเขาปิสกาห์ แล้วกวาดสายตาดูให้รอบทั้งทางทิศเหนือและทิศใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ใช้ตาเจ้ามองดูให้ดี เพราะเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป แต่จงมอบหมายหน้าที่แก่โยชูวา จงให้กำลังใจเขา และช่วยให้เขาเข้มแข็ง เพราะเขาจะนำชนชาตินี้ข้ามไป และจะให้พวกเขาได้เป็นเจ้าของแผ่นดินที่เจ้าเห็นอยู่นี้’ ดังนั้นพวกเราจึงพักอยู่ที่หุบเขาตรงข้ามกับเมืองเบธเปโอร์