เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ให้​เคารพ​พ่อแม่​ของ​เจ้า​ตาม​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ได้​สั่ง​เจ้า​ไว้ เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​มี​อายุ​ยืนยาว​และ​เจริญ​รุ่งเรือง​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เจ้า​กำลัง​ให้​กับ​เจ้านี้ เจ้า​ต้อง​ไม่​ฆ่า​คน เจ้า​ต้อง​ไม่​เป็น​ชู้ เจ้า​ต้อง​ไม่​ขโมย เจ้า​ต้อง​ไม่​เป็น​พยาน​เท็จ ปรัก​ปรำ​เพื่อน​บ้าน​ของ​เจ้า เจ้า​ต้อง​ไม่​อยาก​ได้​เมีย​ของ​เพื่อน​บ้าน เจ้า​ต้อง​ไม่​โลภ​อยาก​ได้​ของ​ของ​เพื่อน​บ้าน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​บ้าน ที่นา ทาส​ชายหญิง วัว หรือ​ลา หรือ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​ของ​ของ​เพื่อน​บ้าน​เจ้า’” โมเสส​พูด​อีก​ว่า “คำสั่ง​พวกนี้ พระยาห์เวห์​ได้​พูด​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​กับ​พวกท่าน​ทั้งหมด​ที่​มา​ประชุม​กัน​อยู่​ที่​ภูเขา พระองค์​พูด​จาก​ท่ามกลาง​ไฟ เมฆ​และ​หมอก​หนาทึบ หลัง​จาก​นั้น พระองค์​ก็​ไม่​พูด​อะไร​อีก​เลย พระองค์​ได้​เขียน​คำสั่งนี้​ไว้​บน​แผ่นหิน​สองแผ่น​และ​เอา​มา​ให้​กับ​เรา เมื่อ​พวกท่าน​ได้ยิน​เสียง​จาก​ความมืด ขณะ​ที่​ภูเขา​ลุกไหม้​เป็น​ไฟ พวกท่าน​ทั้งหลาย ที่​เป็น​หัวหน้า​เผ่า​และ​ผู้​อาวุโส ก็​ได้​เข้า​มา​หา​เรา และ​พวกท่าน​พูด​ว่า ‘ดูสิ พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเรา ได้​แสดง​สง่าราศี​และ​ความ​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์​ให้​พวกเรา​เห็น และ​พวกเรา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระองค์​ออก​มา​จาก​กลาง​ไฟ​ด้วย วันนี้​พวกเรา​ได้​เห็น​แล้ว​ว่า พระเจ้า​พูด​กับ​คน​ได้​โดย​ที่​คน​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ แล้ว​ทำไม​เรา​จะ​ต้อง​มา​เสี่ยง​กับ​ความตาย​ตอนนี้​ด้วย ไฟนี้​จะ​ต้อง​ทำลาย​พวกเรา​อย่าง​แน่นอน ถ้า​พวกเรา​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเรา​อีก เรา​จะ​ต้อง​ตาย เพราะ​มี​มนุษย์​คนไหน​บ้าง​ที่​เคย​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระเจ้า​เที่ยงแท้ จาก​ท่ามกลาง​ไฟ​เหมือน​พวกเรา แล้ว​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​อีก ไม่​มี​แน่ โมเสส ท่าน​เข้า​ไป​ใกล้ๆ​พระองค์​และ​ให้​ฟัง​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เรา​จะ​พูด แล้ว​ให้​มา​บอก​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เรา​บอก​ท่าน แล้ว​เรา​จะ​ฟัง​และ​ทำ​ตามนั้น’ พระยาห์เวห์​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​พวกท่าน​พูด​กับ​เรา พระองค์​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘เรา​ได้ยิน​คำพูด​ที่​ประชาชน​พวกนี้​พูด​กับ​เจ้า สิ่ง​ที่​พวกเขา​พูด​นั้น​ดี เรา​อยาก​ให้​พวกเขา​ทั้ง​หลาย​เกรง​กลัว​เรา และ​เชื่อฟัง​คำสั่ง​ทั้งหมด​ของ​เรา​เสมอ เพื่อ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี ทั้ง​กับ​ตัว​พวกเขา​เอง​และ​กับ​ลูกหลาน​ของ​พวกเขา​ตลอดไป ไป​บอก​พวกเขา​ว่า “กลับ​ไป​เต็นท์​ของ​พวกเจ้า​ได้แล้ว” แต่​เจ้า​อยู่​ที่นี่​กับ​เรา​ก่อน​และ​เรา​จะ​บอก​ถึง​คำสั่ง กฎ​และ​ข้อบังคับ​ทั้งหมด​กับ​เจ้า และ​เจ้า​จะ​ต้อง​เอา​ไป​สอน​พวกเขา เพื่อ​พวกเขา​จะ​ได้​เอา​ไป​ทำ​ใน​แผ่นดิน​ที่​เรา​จะ​ให้​พวกเขา​เป็น​เจ้าของ’ ดังนั้น พวกท่าน​ต้อง​ระวัง​ที่​จะ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​สั่ง​ท่านไว้ พวกท่าน​ต้อง​ไม่​หลง​ไป​ทางซ้าย​หรือ​ทางขวา พวกท่าน​ต้อง​เดิน​ตาม​ทาง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​สั่ง​ท่าน​ไว้ เพื่อ​พวกท่าน​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่​และ​เจริญ​รุ่งเรือง และ​มี​อายุ​ยืน​ยาว​ใน​แผ่นดิน​ที่​พวกท่าน​จะ​ได้​เป็น​เจ้าของนั้น

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

‘จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนนาน และจะเป็นการดีต่อเจ้าในแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าประทานแก่เจ้า ‘ห้ามฆ่าคน ‘ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ‘ห้ามลักขโมย ‘ห้ามเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน ‘ห้ามโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน และห้ามละโมบบ้านของเพื่อนบ้าน ไร่นาของเขา หรือทาสของเขา หรือทาสีของเขา โคของเขา หรือลาของเขา หรือสิ่งใดๆ ซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน’ “พระยาห์เวห์ได้ตรัสพระวจนะเหล่านี้ด้วยพระสุรเสียงกึกก้องแก่ชุมนุมชนทั้งหมดของพวกท่านที่ภูเขา ออกมาจากท่ามกลางเพลิง เมฆ และความมืดครึ้มหนาทึบ และไม่ได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใดอีก แล้วพระองค์ทรงจารึกลงบนแผ่นศิลาสองแผ่นและประทานแก่ข้าพเจ้า “เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงออกมาจากท่ามกลางความมืด ขณะเมื่อภูเขานั้นมีเพลิงลุกอยู่ ท่านทั้งหลายเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า คือหัวหน้าเผ่าของท่านทั้งหมด และพวกผู้ใหญ่ของท่าน และท่านทั้งหลายกล่าวว่า ‘นี่แน่ะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงสำแดงพระสิริและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากท่ามกลางเพลิง ในวันนี้เราได้เห็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์ และมนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นทำไมเราจะต้องตาย? เพราะเพลิงยิ่งใหญ่นี้จะเผาผลาญเรา ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีก เราก็จะต้องตาย เพราะในบรรดามนุษย์ทั้งหลาย ใครเล่าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ตรัสออกมาจากท่ามกลางเพลิงอย่างที่เราได้ยิน และยังมีชีวิตอยู่ได้? ท่านจงเข้าไปใกล้ และฟังทุกสิ่งซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัส และนำพระวจนะที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสแก่ท่านนั้นมากล่าวแก่เรา และเราจะฟังและทำตาม’ “เมื่อท่านทั้งหลายพูดกับข้าพเจ้านั้น พระยาห์เวห์ทรงสดับเสียงถ้อยคำของท่าน และพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้ยินเสียงถ้อยคำของชนชาตินี้ซึ่งเขาพูดกับเจ้าแล้ว ซึ่งเขาพูดกับเจ้าเช่นนั้นก็ดีอยู่ โอ อยากให้พวกเขามีใจเช่นนี้อยู่เสมอ คือใจที่ยำเกรงเราและรักษาบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เพื่อจะเป็นการดีต่อพวกเขาตลอดชั่วลูกหลานของเขาเป็นนิตย์ จงไปบอกพวกเขาว่า “พวกเจ้าจงกลับไปเต็นท์ของตนทุกคนเถิด” แต่ตัวเจ้า จงยืนอยู่ที่นี่ใกล้เรา และเราจะบอกบัญญัติและกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นแก่เจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องสอนเขาทั้งหลายเพื่อเขาจะทำตามในแผ่นดินซึ่งเราให้เขายึดครองนั้น’ ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังที่จะทำตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชานั้น อย่าหันไปทางขวาหรือทางซ้ายเลย จงดำเนินตามวิถีทางทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่าน เพื่อท่านจะมีชีวิตอยู่และเพื่อจะเป็นการดีต่อท่าน และท่านจะมีชีวิตยืนนานอยู่ในแผ่นดินซึ่งท่านจะยึดครองนั้น

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

จงให้​เกียรติ​แก่​บิ​ดามารดาของเจ้า ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมี​ชี​วิตยืนนาน และเจ้าจะไปดี​มาด​ีในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าประทานให้​แก่​เจ้า อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน อย่าอยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้าน และอย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน คือไร่นาของเขา หรือทาสทาสีของเขา หรือวัว ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน’ พระวจนะเหล่านี้พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่ชุ​มนุ​มชนทั้งปวงของท่านที่​ภูเขา ออกมาจากท่ามกลางเพลิง เมฆและความมืดคลุ้มหนาทึบ ด้วยพระสุรเสียงอันดัง และมิ​ได้​ทรงเพิ่มเติ​มสิ​่งใดอีก และพระองค์ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาสองแผ่นและประทานแก่​ข้าพเจ้า ต่อมาเมื่อท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงออกมาจากท่ามกลางความมืดนั้น (ขณะเมื่อภูเขานั้​นม​ี​เพล​ิงลุกอยู่) ท่านทั้งหลายเข้ามาใกล้​ข้าพเจ้า คือหัวหน้าตระกูลของท่านทั้งหมด และพวกผู้​ใหญ่​ของท่าน และท่านทั้งหลายกล่าวว่า ‘​ดู​เถิด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ทรงสำแดงสง่าราศีและความใหญ่ยิ่งของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากท่ามกลางเพลิง ในวันนี้เราได้​เห​็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์ และมนุษย์ยังคงชีวิตอยู่​ได้ ฉะนั้นบัดนี้เราทั้งหลายจะต้องตายเสียทำไม เพราะเพลิงใหญ่ยิ่งนี้จะเผาผลาญเรา ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราอีก เราก็จะต้องตาย เพราะในบรรดามนุษย์ทั้งหลายใครเล่า ผู้​ได้​ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ตรัสออกมาจากท่ามกลางเพลิงอย่างที่เราได้ยินและยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่​ได้ ท่านจงเข้าไปใกล้ และฟังทุกสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัส และนำพระวจนะทั้งสิ้​นที​่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัสแก่ท่านนั้นมากล่าวแก่เราทั้งหลาย และเราทั้งหลายจะฟังและกระทำตาม’ เมื่อท่านทั้งหลายพู​ดก​ับข้าพเจ้านั้น พระเยโฮวาห์ทรงสดับเสียงแห่งถ้อยคำของท่านทั้งหลาย และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้ยินเสียงแห่งถ้อยคำของชนชาติซึ่งเขาพู​ดก​ับเจ้าแล้ว สารพัดซึ่งเขาพู​ดก​ับเจ้าเช่นนั้​นก​็​ดี​อยู่ โอ อยากให้​มี​จิ​ตใจเช่นนี้​อยู่​เสมอไปหนอ คือที่จะยำเกรงเราและรักษาบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของเรา เขาทั้งหลายก็จะสุขเจริญอยู่ตลอดชั่วลูกหลานของเขาเป็นนิตย์ จงกลับไปบอกแก่เขาว่า “​เจ้​าจงกลับไปเต็นท์ของเจ้าทุกคนเถิด” แต่​ตัวเจ้าจงยืนอยู่​ที่นี่​ใกล้​เรา และเราจะบอกข้​อบ​ัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์และคำตัดสินทั้งสิ้นแก่​เจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องสอนเขาทั้งหลายเพื่อเขาทั้งหลายจะกระทำตามในแผ่นดินซึ่งเราให้เขายึดครองนั้น’ เหตุ​ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังที่จะกระทำดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายได้ทรงบัญชาไว้​นั้น ท่านทั้งหลายอย่าหันไปทางขวามือหรือทางซ้ายเลย ท่านจงดำเนินตามวิถีทางทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ เพื่อท่านจะมี​ชี​วิตอยู่และเพื่อท่านจะไปดี​มาด​ี และมี​ชี​วิตยืนนานอยู่ในแผ่นดินซึ่งท่านจะยึดครองนั้น”

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<< <จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของ เจ้า ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนนาน และเจ้าจะไปดีมาดีในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของเจ้าประทานให้แก่เจ้า << <อย่าฆ่าคน << <อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา << <อย่าลัก ทรัพย์ << <อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน << <อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน และอย่าอยากได้บ้านของเพื่อนคือไร่นา ทาส ทาสี วัว ลา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน> <<พระวจนะเหล่านี้พระเจ้า ได้ตรัสแก่ชุมนุมชนทั้งปวงของท่านที่ภูเขา ออกมาจากท่ามกลางเพลิงเมฆ และความมืดคลุ้มหนาทึบ ด้วยพระสุรเสียงอันดัง และมิได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใดอีก และพระองค์ทรงจารึกไว้บน แผ่นศิลาสองแผ่นและประทานแก่ข้าพเจ้า <<เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงออกมาจากความมืด ขณะเมื่อภูเขานั้นมีเพลิงลุกอยู่ ท่านทั้งหลายเข้ามาหาข้าพเจ้า คือหัวหน้าเผ่าของท่านทั้งหมด และพวกผู้ใหญ่ของท่าน และท่านทั้งหลายกล่าวว่า <ดูเถิด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ทรงสำแดง พระสิริและความใหญ่ยิ่งของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากท่ามกลางเพลิง ในวันนี้เราได้เห็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์ และมนุษย์ยังคงชีวิตอยู่ได้ เหตุฉะนี้เราทั้งหลายจะต้องตายเสียทำไม เพราะเพลิงใหญ่ยิ่งนี้จะเผาผลาญเรา ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราอีก เราก็จะต้องตาย เพราะในบรรดามนุษย์ทั้งหลาย ใครเล่าผู้ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ตรัส ออกมาจากท่ามกลางเพลิงอย่างที่เราได้ยิน และยังมีชีวิตอยู่ได้ ท่านจงเข้าไปใกล้ และฟังทุกสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัส และนำพระวจนะที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัส แก่ท่านนั้นมากล่าวแก่เราทั้งหลาย และเราทั้งหลายจะฟังและกระทำตาม> <<เมื่อท่านทั้งหลายพูดกับข้าพเจ้านั้น พระเจ้าทรงทราบถ้อยคำของท่านทั้งหลาย และพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <เราได้ยินถ้อยคำของชนชาติซึ่งเขาพูดกับเจ้าแล้ว ซึ่งเขาพูดกับเจ้าเช่นนั้นก็ดีอยู่ โอ อยากให้มีจิตใจเช่นนี้อยู่เสมอไปหนอ คือที่จะยำเกรงเราและรักษาบัญญัติทั้งสิ้นของเรา เขาทั้งหลายก็จะสุขเจริญอยู่ตลอดชั่วลูกหลานของเขาเป็นนิตย์ จงกลับไปบอกแก่เขาว่า <<เจ้าจงกลับไปเต็นท์ของเจ้าทุกคนเถิด>> แต่ตัวเจ้า จงยืนอยู่ที่นี่ใกล้เรา และเราจะบอกข้อบัญญัติและกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นแก่เจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องสอนเขาทั้งหลายเพื่อเขาทั้งหลายจะกระทำตาม ในแผ่นดินซึ่งเราให้เขายึดครองนั้น> เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังที่จะกระทำดังที่ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายได้ทรงบัญชาไว้นั้น ท่านทั้งหลายอย่าหันไปทางขวามือหรือทางซ้ายเลย ท่านจงดำเนินตามวิถีทางทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้เพื่อท่านจะมี ชีวิตอยู่และเพื่อท่านจะไปดีมาดี และมีชีวิตยืนนานอยู่ในแผ่นดินซึ่งท่านจะยึดครองนั้น

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้าตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนยาวและอยู่เย็นเป็นสุขในดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังยกให้เจ้า “อย่าฆ่าคน “อย่าล่วงประเวณี “อย่าลักขโมย “อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน “อย่าโลภอยากได้ภรรยาของผู้อื่น หรืออยากได้บ้านหรือที่ดิน ทาสชายหญิง วัวหรือลา หรือสิ่งใดๆ ที่เป็นของเพื่อนบ้าน” ทั้งหมดนี้คือบทบัญญัติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังออกมาจากไฟ เมฆ และความมืดมิดแก่พวกท่านทั้งหมดบนภูเขา และพระองค์ไม่ได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใด จากนั้นพระองค์ทรงจารึกบทบัญญัติไว้บนศิลาสองแผ่นและประทานแก่ข้าพเจ้า เมื่อพวกท่านได้ยินพระสุรเสียงจากความมืดทึบ ขณะที่ภูเขามีไฟลุกโชน บรรดาหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสของพวกท่านมาหาข้าพเจ้า และพวกเขากล่าวว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงสำแดงพระเกียรติสิริและพระบารมีของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงจากเปลวไฟ วันนี้เราได้เห็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์และมนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ แต่บัดนี้ทำไมเราจะต้องมาตายเล่า? เปลวไฟอันน่ากลัวนี้คงเผาเราเป็นจุลทีเดียว เราจะต้องตายแน่หากเราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราต่อไป มนุษย์คนใดหนอสามารถได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ตรัสจากเปลวไฟเหมือนที่เราได้ยินแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่? ท่านจงเข้าไปใกล้และฟังทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสเถิด แล้วกลับมาบอกเราถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสแก่ท่าน เราจะฟังและปฏิบัติตาม” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินสิ่งที่ท่านพูดกับข้าพเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราได้ยินสิ่งที่คนเหล่านี้พูดกับเจ้าแล้ว ทุกอย่างที่พวกเขาพูดนั้นดีแล้ว เราอยากให้เขามีจิตใจเช่นนี้เสมอไปคือยำเกรงเราและปฏิบัติตามคำบัญชาทั้งปวงของเรา เพื่อทุกอย่างจะเป็นผลดีสำหรับเขาและลูกหลานตลอดไป! “จงไปบอกพวกเขาให้กลับไปยังเต็นท์ของตน ส่วนเจ้าจงอยู่กับเราที่นี่ เพื่อเราจะมอบคำบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติทั้งปวงแก่เจ้า เจ้าจงสั่งสอนเขาให้ปฏิบัติตามในดินแดนที่เรากำลังยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขา” ฉะนั้นจงใส่ใจทำตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ อย่าออกนอกลู่นอกทาง จงดำเนินชีวิตตามแนวทางทั้งปวงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ เพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาวและเจริญรุ่งเรืองในดินแดนซึ่งท่านจะเข้ายึดครอง

เฉลยธรรมบัญญัติ 5:16-33 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

จง​ให้​เกียรติ​บิดา​มารดา​ของ​เจ้า​ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เจ้า​บัญชา​ไว้ เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​มี​ชีวิต​ยืนยาว และ​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เจ้า​มอบ​ให้​แก่​เจ้า อย่า​ฆ่า​คน อย่า​ผิด​ประเวณี อย่า​ขโมย อย่า​เป็น​พยาน​เท็จ​กล่าว​หา​เพื่อน​บ้าน​ของ​เจ้า อย่า​โลภ​อยาก​ได้​ภรรยา​ของ​เพื่อน​บ้าน​เจ้า หรือ​โลภ​อยาก​ได้​บ้าน​เรือน​ของ​เพื่อน​บ้าน หรือ​ไร่​นา ผู้​รับใช้​ชาย​และ​หญิง​ของ​เขา โค​หรือ​ลา​ของ​เขา หรือ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​ของ​เพื่อน​บ้าน​ของ​เจ้า’ นี่​คือ​พระ​บัญญัติ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประกาศ​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​แก่​ที่​ประชุม​ทั้ง​หมด​ที่​ภูเขา จาก​ใจกลาง​เพลิง หมอก​เมฆ​และ​ความ​มืดมิด พระ​องค์​ไม่​ได้​กล่าว​ยิ่ง​ไป​กว่า​นั้น แล้ว​พระ​องค์​เขียน​ไว้​บน​ศิลา 2 แผ่น​มอบ​ให้​กับ​เรา เมื่อ​ท่าน​ได้ยิน​เสียง​จาก​ความ​มืด และ​ภูเขา​ก็​ลุก​เป็น​ไฟ ท่าน​และ​บรรดา​หัวหน้า​ประจำ​เผ่า​และ​หัวหน้า​ชั้น​ผู้ใหญ่​ของ​ท่าน​จึง​เข้า​มา​ใกล้​เรา แล้ว​พวก​ท่าน​พูด​ว่า ‘พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา​ได้​ให้​พวก​เรา​เห็น​พระ​บารมี​และ​ความ​ยิ่งใหญ่​ของ​พระ​องค์​แล้ว และ​เรา​ก็​ได้ยิน​เสียง​พระ​องค์​จาก​ใจกลาง​เพลิง วัน​นี้​เรา​เห็น​พระ​เจ้า​กล่าว​กับ​มนุษย์​และ​มนุษย์​ก็​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ได้ ใน​เวลา​นี้​ทำไม​พวก​เรา​จะ​ต้อง​เสี่ยง​กับ​ความ​ตาย​เล่า เพลิงไฟ​ขนาด​ใหญ่​เช่น​นี้​จะ​ทำ​ให้​พวก​เรา​ไม่​รอด​แน่ ถ้า​หาก​ว่า​เรา​ได้ยิน​เสียง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา​อีก เรา​จะ​ต้อง​ตาย​อย่าง​แน่นอน มี​มนุษย์​ใด​บ้าง​ที่​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​ดำรง​อยู่​พูด​จาก​เพลิงไฟ​อย่าง​ที่​พวก​เรา​ได้ยิน​และ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ได้ ขอ​ให้​ท่าน​เป็น​ผู้​ไป​ใกล้ๆ เถิด ฟัง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา​จะ​กล่าว แล้ว​ท่าน​มา​บอก​ให้​พวก​เรา​ฟัง​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา​บอก​กับ​ท่าน​ใน​ทุก​เรื่อง พวก​เรา​จะ​ฟัง​และ​ปฏิบัติ​ตาม’ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​ท่าน​พูด​กับ​เรา พระ​องค์​จึง​กล่าว​กับ​เรา​ว่า ‘เรา​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​ประชาชน​พวก​นี้​พูด​กับ​เจ้า ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​พูด​มา​นั้น​ถูกต้อง​ที​เดียว ถ้า​ใจ​ของ​พวก​เขา​เป็น​เช่น​นั้น​ได้​เสมอ​ไป​ก็​ดี​นะ เกรง​กลัว​เรา​และ​รักษา​บัญญัติ​ของ​เรา​ทุก​ข้อ เพื่อ​ว่า​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​สำหรับ​พวก​เขา​และ​ลูก​หลาน​ของ​เขา​ไป​ตลอด​กาล เจ้า​จง​ไป​บอก​พวก​เขา​ให้​กลับ​ไป​ยัง​กระโจม​ของ​ตน แต่​เจ้า​จง​ยืน​อยู่​ที่​นี่​กับ​เรา แล้ว​เรา​จะ​บอก​เจ้า​เรื่อง​บัญญัติ กฎ​เกณฑ์ และ​คำ​บัญชา​ทั้ง​สิ้น​ที่​เจ้า​ควร​จะ​สอน​พวก​เขา เพื่อ​ให้​เขา​ปฏิบัติ​ตาม​ใน​แผ่นดิน​ที่​เรา​มอบ​ให้​เขา​เพื่อ​ยึดครอง’ ฉะนั้น​พวก​ท่าน​จง​ระมัด​ระวัง​ปฏิบัติ​ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​บัญชา​ให้​ท่าน​กระทำ อย่า​หันเห​ไป​จาก​การ​ปฏิบัติ​ตาม​กฎ​บัญญัติ ท่าน​ควร​ปฏิบัติ​ตาม​วิถี​ทาง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ได้​บัญชา​ไว้ เพื่อ​จะ​ได้​มี​ชีวิต​อยู่ และ​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​สำหรับ​ท่าน และ​จะ​มี​อายุ​ยืน​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ที่​ท่าน​จะ​ยึดครอง