ปัญญาจารย์ 7:5-29

ปัญญาจารย์ 7:5-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ฟังคำตำหนิของคนฉลาด ดีกว่าฟังคนโง่ร้องเพลงสรรเสริญเยินยอ เสียงหัวเราะของคนโง่ ก็เหมือนเสียงแตกปะทุของหนามในไฟใต้หม้อ นี่ก็อนิจจัง เมื่อคนฉลาดกดขี่ผู้อื่น เขาก็ทำตัวเหมือนคนโง่ และเมื่อรับสินบน ก็ทำให้ชีวิตเสื่อมทราม ตอนจบดีกว่าตอนเริ่ม ความอดทนอดกลั้นดีกว่าความหยิ่งจองหอง อย่าปล่อยให้ใจของเจ้าโกรธเร็ว เพราะความโกรธอยู่ในใจของคนโง่ อย่าถามว่า “ทำไมสมัยก่อนดีกว่าเดี๋ยวนี้?” เพราะนั่นไม่ใช่คำถามที่ฉลาดเลย สติปัญญาเป็นสิ่งดีเช่นเดียวกับมรดก เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เห็นตะวัน สติปัญญาเป็นที่พักพิง เช่นเดียวกับเงิน แต่ข้อได้เปรียบของความรู้ก็คือ สติปัญญาสงวนชีวิตของผู้มีปัญญาไว้ จงพิเคราะห์ดูพระราชกิจของพระเจ้า สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำให้คด ใครจะเหยียดให้ตรงได้? จงสุขใจในยามดี แต่เมื่อถึงยามทุกข์ยากก็จงใคร่ครวญ พระเจ้าทรงบันดาลทั้งยามดีและยามร้าย มนุษย์จึงไม่สามารถรู้อะไรเลยเกี่ยวกับอนาคตของตน ในชีวิตอนิจจังนั้น ข้าพเจ้าเห็นทั้งสองสิ่งนี้มาแล้ว คนชอบธรรมต้องพินาศทั้งๆ ที่ชอบธรรม และคนชั่วร้ายอายุยืนทั้งๆ ที่ชั่วร้าย อย่าเป็นคนชอบธรรมเกินไป และอย่าฉลาดเกินไป จะทำลายตัวเองทำไม? อย่าชั่วร้ายเกินไป และอย่าโง่เง่าเต่าตุ่น เรื่องอะไรจะต้องตายก่อนกำหนด? เป็นการดีที่จะยึดสิ่งหนึ่งไว้ และไม่ปล่อยให้อีกสิ่งหลุดมือไป ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าจะหลีกเลี่ยงเรื่องสุดโต่งทั้งหมดนี้ไปได้ สติปัญญาทำให้คนฉลาดมีอำนาจ มากยิ่งกว่าผู้ครอบครองสิบคนที่ครองเมือง ไม่มีสักคนเดียวในโลกนี้ที่ดีพร้อม ที่ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและไม่เคยทำบาปเลย อย่าใส่ใจทุกถ้อยคำที่ใครๆ พูดกัน มิฉะนั้นท่านอาจได้ยินคนใช้ของท่านเองแช่งด่าท่าน เพราะท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่า ตัวท่านเองแช่งด่าคนอื่นหลายครั้ง ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าทดสอบด้วยสติปัญญาแล้ว และข้าพเจ้ากล่าวว่า “เราตั้งใจจะเป็นคนฉลาด” แต่มันก็เกินไขว่คว้า สติปัญญาจะเป็นอะไรก็ตามแต่ มันช่างไกลลิบลับและลึกซึ้งนัก ใครเล่าจะค้นพบได้? ข้าพเจ้าจึงมุ่งหาความเข้าใจ พินิจพิเคราะห์และเสาะหาสติปัญญากับมูลเหตุของสิ่งต่างๆ และพยายามเข้าใจความโง่เขลาของความชั่ว และความบ้าบอของความโฉดเขลา ข้าพเจ้าพบว่าสิ่งที่ขมขื่นยิ่งกว่าความตาย ก็คือผู้หญิงซึ่งเป็นกับดัก ใจของนางเป็นบ่วงแร้ว มือของนางคือโซ่ตรวน ผู้ที่พระเจ้าโปรดปรานจะรอดพ้นจากนาง แต่คนบาปต้องติดกับของนาง ปัญญาจารย์กล่าวว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าค้นพบสิ่งนี้คือ “การนำเอาสิ่งหนึ่งมาปะติดปะต่อกับอีกสิ่งเพื่อหามูลเหตุ ขณะที่หาอยู่แต่ยังไม่พบ ข้าพเจ้าก็พบว่าในพันคนจะมีผู้ชายซื่อตรงคนหนึ่ง แต่ไม่มีผู้หญิงซื่อตรงสักคน ข้าพเจ้าพบแต่เพียงว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้ซื่อตรง แต่มนุษย์สรรหากลอุบายต่างๆ นานา”

ปัญญาจารย์ 7:5-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ฟัง​คนฉลาด​ต่อว่า​ก็​ยัง​ดีกว่า ฟัง​เพลง​ที่​คนโง่​ร้อง เพราะ​เสียง​หัวเราะ​ของ​คนโง่​ก็​เหมือน​เสียงแตก​ของ​หนาม​ที่​ติดไฟ​อยู่​ใต้​หม้อ นี่​ก็​เป็น​สิ่ง​ไม่เที่ยง​เหมือนกัน การ​กดขี่​ข่มเหง​สามารถ​ทำ​ให้​คนฉลาด​กลาย​เป็น​คนโง่ และ​สินบน​ก็​ทำ​ให้​ใจ​คดโกง ทำ​จนจบ​ย่อม​ดีกว่า​แค่​เริ่มต้น ใจ​อดทน​ย่อม​ดีกว่า​ใจ​หยิ่งยโส อย่าให้​จิตใจ​ของคุณ​โกรธง่าย เพราะ​ความ​โกรธ​นั้น​อยู่​ใน​อก​ของ​คนโง่ อย่า​ถาม​ว่า “ทำไม​คืนวัน​เก่าๆ​ถึง​ดีกว่า​ทุกวันนี้” ไม่ฉลาด​เลย​ที่​ถาม​อย่างนั้น สติปัญญา​นั้น​ดี​เหมือนกับ​มรดก และ​เป็น​ประโยชน์​แก่​คน​ที่​เห็น​ดวง​อาทิตย์ เพราะ​ว่า​สติปัญญา​ปกป้อง​คนได้ ก็​เหมือนกับ​เงินทอง​สามารถ​ปกป้อง​คนได้ ประโยชน์​ของ​ความรู้​และ​สติปัญญา​คือ​รักษา​ชีวิต​ของ​เจ้าของ​มัน ให้​เห็น​และ​ยอมรับ​สิ่ง​ต่างๆ​ที่​พระองค์​ทำ สิ่ง​ที่​พระเจ้า​บิด​ให้งอ​จะ​มีใคร​ทำ​ให้​มันตรง​ได้หรือ ใน​วัน​ที่​ดีๆ​ก็​ให้​สนุก​กับมัน ส่วน​ใน​วัน​ที่​แย่ๆ​ก็​ให้​คิด​ใคร่ครวญ​ว่า​ทั้ง​สองวัน​นี้​เป็น​วัน​ที่​พระเจ้า​สร้างไว้ เพื่อ​มนุษย์​จะได้​เดา​ไม่ถูก​ว่า​จะ​เกิด​อะไรขึ้น​กับเขา​ใน​อนาคต ใน​วันคืน​ที่​ไม่เที่ยง​ของเรา​นั้น เรา​ก็​ได้เห็น​มาแล้ว​ทุกอย่าง มี​คนดี​ที่​ต้อง​ย่อยยับ​ไป แม้​เขา​จะ​เป็น​คนดี และ​มี​คนเลว​ที่​มี​อายุ​ยืนยาว แม้​เขา​จะ​ชั่วช้า อย่า​เป็น​คนดี​เกินเหตุ​และ​อย่า​ฉลาด​แสนรู้​เกินไป เรื่อง​อะไร​คุณ​จะ​ต้อง​ทำลาย​ตัวเอง​ด้วย อย่า​ชั่ว​เกินไป และ​อย่าโง่​เกินไป เรื่อง​อะไร​คุณ​จะ​ต้อง​มา​ตาย​ก่อนเวลา ยึด​ข้างหนึ่ง​ไว้​ก็ดี​และ​อย่า​ปล่อย​อีก​ข้างหนึ่ง​ไป คน​ที่​ยำเกรง​พระเจ้า​จะ​เดิน​สายกลาง สติปัญญา​ทำ​ให้​คนหนึ่ง​เข้มแข็ง​กว่า​เจ้าหน้าที่​ปกครอง​เมือง​สิบคน แต่​ถึง​อย่างไร​ก็ตาม ก็​ไม่มี​ใคร​หรอก​ใน​โลกนี้​ที่​แสน​จะ​เป็น​คนดี ทำ​แต่​ความดี​ไม่เคย​ทำบาป​เลย อีก​อย่างหนึ่ง​คุณ​อย่า​ไป​สนใจ​คำพูด​ของ​คนอื่น​ทุกคำ เพราะ​กลัว​ว่า​คุณ​อาจจะ​ได้ยิน​ทาส​ของคุณ​ต่อว่า​คุณ​ใน​ทาง​เสียๆ​หายๆ​ได้ คุณ​ก็​รู้​อยู่​แก่ใจ​ดี​ว่า คุณเอง​ก็​เคย​ว่า​คนอื่น​เสียๆ​หายๆ​หลาย​ครั้ง เรื่อง​ที่​พูด​มานี้ เรา​ได้​ทดสอบ​ด้วย​สติปัญญา​แล้ว เรา​เคย​พูด​ว่า เรา​จะ​เป็น​คนฉลาด แต่​ความ​ฉลาด​ยัง​อยู่​ห่างไกล​จากเรา ทุกสิ่ง​ที่​เกิดขึ้น​นั้น มัน​เกิน​ความ​เข้าใจ​ของ​มนุษย์ และ​มัน​ลึกล้ำ​เกิน​กว่า​ที่​มนุษย์​จะ​ค้นพบ เรา​ตั้งใจ​ที่​จะ​เรียนรู้ ตรวจสอบ​และ​แสวงหา​สติปัญญา​และ​เหตุผล และ​เรา​ตั้งใจ​ที่​จะ​เรียนรู้​ว่า​ความ​ชั่วร้าย​เป็น​เรื่อง​โง่​บัดซบ และ​ความ​โง่เขลา​เป็น​เรื่อง​บ้า เรา​พบว่า​ผู้หญิง​ที่​เป็น​กับดัก​นั้น แย่​ยิ่งกว่า​ความตาย​เสียอีก เธอ​มี​หัวใจ​เป็น​ตาข่าย​และ​มือ​เป็น​โซ่​มัด คน​ที่​พระเจ้า​ชอบใจ​จะ​หนีพ้น​จาก​เธอ ส่วน​คน​ที่​ไม่เอาไหน จะ​ถูก​เธอ​จับไว้ ดู​เสียสิ นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​ค้นพบ อาจารย์​พูด​ว่า​อย่างนั้น เรา​ได้​เอา​เรื่องหนึ่ง​มา​ปะติด​ปะต่อ​เข้า​กับ​อีก​เรื่องหนึ่ง​เพื่อ​หา​คำตอบ เรา​ได้​ทุ่ม​สุดชีวิต​หาแล้ว​หาอีก แต่​ก็​ไม่พบ​คำตอบ แต่​เรา​ได้​พบ​ชาย​ผู้​มี​สติปัญญา​หนึ่ง​ใน​พันคน​แล้ว แต่​ไม่พบ​ผู้หญิง​สักคน​ใน​พันคน​นั้น นี่แหละ คือ​สิ่งเดียว​ที่​เราพบ คือ พระเจ้า​ได้​สร้าง​มนุษย์​ให้​เป็น​คนดี แต่​พวกเขา​กลับ​เหลี่ยม​จัด

ปัญญาจารย์ 7:5-29 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ฟังคำตำหนิของคนที่มีปัญญา ยังดีกว่าฟังเพลงของคนเขลา เสียงเรียวหนามไหม้แตกอยู่ใต้หม้ออย่างไร เสียงหัวเราะของคนเขลาก็เป็นอย่างนั้น นี่ก็อนิจจังด้วย แท้จริงการกดขี่ข่มเหงทำให้ผู้มีปัญญาโง่ไป และสินบนก็ทำลายสามัญสำนึกเสีย เบื้องปลายของสิ่งใดๆ ก็ดีกว่าเบื้องต้นของสิ่งนั้นๆ จิตใจที่อดกลั้นก็ดีกว่าจิตใจที่อหังการ อย่าให้จิตใจของเจ้าโกรธเร็ว เพราะความโกรธฝังอยู่ในทรวงอกของคนเขลา อย่าว่า “ทำไมอดีตดีกว่าปัจจุบัน?” เพราะที่เจ้าถามเช่นนั้นไม่ได้ถามด้วยใช้ปัญญา ปัญญาดีกว่ามรดก และเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้เห็นดวงตะวัน เพราะว่า ปัญญาเป็นเครื่องป้องกันเช่นเดียวกับที่เงินเป็นเครื่องป้องกัน แต่ประโยชน์ของความเข้าใจคือ ปัญญาให้ชีวิตแก่ผู้เป็นเจ้าของปัญญานั้น จงพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้า สิ่งที่พระเจ้าทรงทำให้คด ใครจะเหยียดให้ตรงได้เล่า? ในเวลาที่ได้รับสิ่งดีๆ ก็จงชื่นชมยินดี แต่ในเวลาที่ได้รับสิ่งร้ายๆ ก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะค้นไม่พบว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรตามเขามาในภายหลัง ข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นในชีวิตอนิจจังของข้าพเจ้าคือ มีคนชอบธรรมพินาศในความชอบธรรมของเขา และมีคนอธรรมมีชีวิตยืนยาวในการอธรรมของเขา อย่าทำตัวชอบธรรมเกินไป และอย่าอวดฉลาด เหตุใดเจ้าจะทำลายตัวเองเสียเล่า? อย่าอธรรมเกินไป และอย่าทำตัวเป็นคนเขลา ทำไมเจ้าจะไปตายก่อนเวลาของเจ้าเล่า? เป็นการดีที่เจ้าจะยึดถือคำเตือนนี้ไว้ เออ และไม่ปล่อยมือจากอีกคำเตือนหนึ่ง เพราะว่าผู้เกรงกลัวพระเจ้าจะพ้นจากทั้งสองเรื่อง ปัญญาให้กำลังแก่คนมีปัญญา มากกว่าผู้ครอบครองสิบคนที่อยู่ในเมือง แน่ทีเดียวไม่มีคนชอบธรรมสักคนเดียวบนแผ่นดินโลก ที่ทำแต่ความดี และไม่เคยทำบาปเลย อย่าสนใจฟังทุกถ้อยคำที่คนกล่าว เพื่อเจ้าจะไม่ได้ยินทาสของเจ้าแช่งด่าเจ้า เพราะเจ้าก็รู้อยู่แก่ใจของเจ้าว่า ตัวเจ้าเองได้แช่งด่าคนอื่นหลายครั้งเหมือนกัน ข้าพเจ้าพิสูจน์ทั้งหมดนี้ด้วยใช้ปัญญา ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะมีปัญญา” แต่ปัญญานั้นกลับอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า สิ่งที่เป็นอยู่ก็อยู่ไกล และลึกล้ำเหลือเกิน ใครจะค้นพบได้? ข้าพเจ้าตั้งใจหันกลับมาเรียนรู้ สำรวจและแสวงหาปัญญา และต้นเหตุของสิ่งต่างๆ และเรียนรู้ความอธรรม ความโง่ ความเขลา และความบ้าบอ ข้าพเจ้าได้พบอีกสิ่งหนึ่งซึ่งขมขื่นยิ่งกว่าความตายคือ ผู้หญิงซึ่งมีใจเป็นบ่วงแร้วและตาข่าย มือของนางเป็นโซ่ตรวน คนที่พระเจ้าพอพระทัยจะหนีพ้นนาง แต่คนบาปจะถูกผู้หญิงคนนั้นจับเอาไป ปัญญาจารย์กล่าวว่า ดูเถิด ข้าพเจ้าพบดังต่อไปนี้ เมื่อเอาสิ่งหนึ่งมาเพิ่มเข้าไปในอีกสิ่งหนึ่งจะได้ข้อสรุป สิ่งซึ่งข้าพเจ้าทุ่มตัวหาแล้วหาอีก แต่ข้าพเจ้าหาไม่พบคือ ในมนุษย์พันคนจะพบแต่เพียงคนเดียว และคนเดียวที่พบนั้นไม่เคยเป็นผู้หญิงเลย ดูเถิด สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าพบคือ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นคนเที่ยงธรรม แต่เขาทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆ ออกมา

ปัญญาจารย์ 7:5-29 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฟังคำตำหนิของคนที่​มีสติ​ปัญญายั​งด​ีกว่าให้คนฟังเพลงของคนเขลา มี​เสียงแตกของเรียวหนามอยู่​ใต้​หม้อฉันใด เสียงหัวเราะของคนเขลาก็​ฉันนั้น นี่​ก็​อนิจจั​งด​้วย แท้​จร​ิงการบีบบังคับกระทำให้​ผู้​มีสติ​ปัญญาโง่​ไป และสินบนก็กระทำให้ความเข้าใจเสียไป เบื้องปลายแห่งสิ่งใดๆก็​ดี​กว่าเบื้องต้นแห่งสิ่งนั้นๆ มี​ใจอดกลั้​นก​็​ดี​กว่ามีใจอหังการ อย่าให้ใจของเจ้าโกรธเร็ว เพราะความโกรธมีประจำอยู่ในทรวงอกของคนเขลา อย่าว่า “อะไรหนอเป็นเหตุ​ให้​กาลก่อนดีกว่ากาลบัดนี้” เพราะที่​เจ้​าไต่ถามนั้นไม่​ได้​ถามด้วยสติ​ปัญญา สติ​ปัญญาประกอบกับมรดกก็เป็นของดี การนั้นเป็นประโยชน์​แก่​คนที​่​ได้​เห​็นดวงตะวัน เงินเป็นเครื่องป้องกันฉันใด สติ​ปัญญาก็เป็นเครื่องป้องกันฉันนั้น และผลประโยชน์ของความรู้ คือสติปัญญาย่​อมร​ักษาชีวิตของผู้​ที่​มีสติ​ปัญญานั้น จงพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้า สิ​่งใดๆที่​พระองค์​ทรงกระทำให้คดอยู่​แล้ว ใครจะเหยียดสิ่งนั้นๆให้ตรงได้​เล่า ในวันแห่งความเจริญก็จงชื่นชมยินดี แต่​ในวันแห่งความทุกข์ยากก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้​มี​ทั้งสองอย่าง เพื่​อมนุษย์​จะไม่ค้นได้ว่าเมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรมา ข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นในชีวิ​ตอน​ิจจังของข้าพเจ้า คือคนชอบธรรมพินาศในความชอบธรรมของตัว และมีคนชั่วร้ายมี​ชี​วิตยืนยาวในการกระทำชั่ว อย่าเป็นคนชอบธรรมเกินไป และอย่าฉลาดเกินตัว เหตุ​ใดเจ้าจะทำตัวให้พินาศเสียเล่า อย่าชั่วมากนัก หรืออย่าเป็นคนเขลา ทำไมเจ้าจะไปตายเสี​ยก​่อนถึงวาระของเจ้าเล่า ก็ดี​อยู่​แล​้​วท​ี่​เจ้​าจะยึดถือสิ่งเหล่านี้​ไว้ เออ เจ้​าอย่าแบมือปล่อยสิ่งนั้นให้หลุดลอยเสียที​เดียว เพราะว่าผู้​ที่​เกรงกลัวพระเจ้าจะพ้นจากบรรดาสิ่งที่​กล​่าวมานี้ สติ​ปัญญาเป็นกำลังแก่คนฉลาดดีกว่าผู้​มี​อำนาจใหญ่โตสิบคนที่​อยู่​ในเมือง แน่​ที​เดียวไม่​มี​คนชอบธรรมสักคนเดียวบนแผ่นดินโลก ที่​ได้​ประพฤติ​ล้วนแต่​ความดี และไม่กระทำบาปเลย อย่าสนใจฟังบรรดาถ้อยคำที่ใครๆกล่าว เกรงว่าเจ้าจะได้ยินทาสของเจ้าแช่​งด​่าตัวเจ้า ด้วยว่าเจ้าก็​แจ​้งอยู่กับใจของเจ้าเองหลายครั้งหลายหนแล้​วว​่า ตัวเจ้าเองได้​แช่​งด​่าคนอื่นเหมือนกัน บรรดาข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้าได้ชันสูตรดูด้วยใช้​สติ​ปัญญาแล้ว ข้าพเจ้าว่า “ข้าพเจ้าจะได้​ปัญญา​” แต่​ปัญญานั้นกลั​บอย​ู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า สิ​่งที่​อยู่​ไกลและลึ​กล​้ำเหลือเกิน ใครผู้ใดจะค้นออกมาได้ ใจข้าพเจ้าหวนกลับมาเรียนรู้และเสาะแสวงหาสติ​ปัญญา และมูลเหตุของสิ่งต่างๆ เพื่อให้​รู้​ความชั่วร้ายแห่งความเขลา คือความเขลาและความบ้าบอ ข้าพเจ้าได้พบอีกสิ่งหนึ่งซึ่งขมขื่นยิ่งกว่าความตาย คือผู้หญิงที่​มี​ใจเป็นบ่วงแร้วและข่าย มือของนางเป็นโซ่​ตรวน คนใดเป็นคนที่พอพระทัยพระเจ้า คนนั้นจะหนีพ้นนาง แต่​คนบาปจะถูกผู้หญิงคนนั้นจับเอาไป ปัญญาจารย์​กล่าวว่า ดู​เถิด ข้าพเจ้าพบดังต่อไปนี้ โดยเอาเรื่องหนึ่งมาประดิษฐ์​ติ​ดต่อเข้ากับอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อหามูลเหตุ ซึ่งจิตใจของข้าพเจ้ายังกำลังหาแล้วหาอีก แต่​ข้าพเจ้าหาได้พบปะไม่ ในชายพันคนจะพบชายจริงสักคนหนึ่ง แต่​จะหาหญิงแท้สักคนหนึ่งในจำนวนพันคนก็หาไม่​พบ ดู​เถิด ข้าพเจ้าพบแต่ความนี้​ต่างหาก คือพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์​ให้​เป็นคนเที่ยงธรรม แต่​มนุษย์​ทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆออกมา

ปัญญาจารย์ 7:5-29 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฟังคำตำหนิของคนที่มีสติปัญญา ยังดีกว่าฟังเพลงของคนเขลา มีเสียงแตกของเรียวหนามอยู่ใต้หม้อฉันใด เสียงหัวเราะของคนเขลาก็ฉันนั้น นี่ก็อนิจจังด้วย แท้จริงการกดขี่ข่มเหงกระทำให้ผู้มีสติปัญญาโง่ไป และสินบนก็กระทำให้ความเข้าใจเสียไป เบื้องปลายแห่งสิ่งใดๆก็ดีกว่าเบื้องต้นแห่งสิ่งนั้นๆ มีใจอดกลั้นก็ดีกว่ามีใจอหังการ อย่าให้ใจของเจ้าโกรธเร็ว เพราะความโกรธมีประจำอยู่ในทรวงอกของคนเขลา อย่าว่า <<อะไรหนอเป็นเหตุให้กาลก่อนดีกว่ากาลบัดนี้>> เพราะที่เจ้าไต่ถามนั้นไม่ได้ถามด้วยสติปัญญา สติปัญญาประกอบกับมรดกก็เป็นของดี เป็นประโยชน์แก่คนที่ได้เห็นดวงตะวัน เงินเป็นเครื่องป้องกันฉันใด สติปัญญาก็เป็นเครื่องป้องกันฉันนั้น และผลประโยชน์ของความรู้ คือสติปัญญา ย่อมรักษาชีวิตของผู้ที่มีสติปัญญานั้น จงพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้า สิ่งใดๆที่พระองค์ทรงกระทำให้คดอยู่แล้ว ใครจะเหยียดสิ่งนั้นๆให้ตรงได้เล่า เมื่อเวลามีความเจริญก็จงชื่นชมยินดี แต่เมื่อถึงเวลาอับจนก็จงพินิจพิจารณา พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งสองอย่าง เพื่อมนุษย์จะไม่ค้นได้ว่า เมื่อเขาล่วงไปแล้วจะมีอะไรมา ข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นในชีวิตอนิจจังของข้าพเจ้า คือคนชอบธรรมพินาศในความชอบธรรมของตัว และมีคนอธรรมมีชีวิตยืนยาวในการกระทำชั่ว อย่าเป็นคนชอบธรรมเกินไป และอย่าฉลาดเกินตัว เหตุใดเจ้าจะทำตัวให้พินาศเสียเล่า อย่าอธรรมมากนัก หรืออย่าเป็นคนเขลา ทำไมเจ้าจะไปตายเสียก่อนถึงวาระของเจ้าเล่า ก็ดีอยู่แล้วที่เจ้าจะยึดถือสิ่งเหล่านี้ไว้ เออ เจ้าอย่าแบมือปล่อยสิ่งนั้นให้หลุดลอยเสียทีเดียว เพราะว่าผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าจะพ้นจากบรรดาสิ่ง ที่กล่าวมานี้ สติปัญญาเป็นกำลังแก่คนฉลาดดีกว่าผู้ครอบครอง สิบคนที่อยู่ในเมือง แน่ทีเดียวไม่มีคนชอบธรรมสักคนเดียวบนแผ่นดินโลก ที่ได้ประพฤติล้วนแต่ความดี และไม่กระทำบาปเลย อย่าสนใจฟังบรรดาถ้อยคำที่ใครๆกล่าว เกรงว่าเจ้าจะได้ยินทาสของเจ้าแช่งด่าตัวเจ้า ด้วยว่าเจ้าก็แจ้งอยู่กับใจของเจ้าเอง หลายครั้งหลายหนแล้วว่า ตัวเจ้าเองได้แช่งด่าคนอื่นเหมือนกัน บรรดาข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้า ได้ชันสูตรดูด้วยใช้สติปัญญาแล้ว ข้าพเจ้าว่า <<ข้าพเจ้าจะได้ปัญญา>> แต่ปัญญานั้นกลับอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า สิ่งที่เป็นอยู่ก็อยู่ไกล และที่ลึกก็ลึกล้ำเหลือเกิน ใครผู้ใดจะค้นออกมาได้ ใจข้าพเจ้าหวนกลับมาเรียนรู้และเสาะกับแสวงหา สติปัญญา และมูลเหตุของสิ่งต่างๆ เพื่อให้รู้ว่าความอธรรมเป็นความเขลา และความเขลาเป็นความบ้าบอ ข้าพเจ้าได้พบอีกสิ่งหนึ่งซึ่งขมขื่นยิ่งกว่าความตาย คือผู้หญิงที่มีใจเป็นบ่วงแร้วและข่าย มือของนางเป็นโซ่ตรวน คนใดเป็นคนที่พอพระทัยพระเจ้าคนนั้นจะหนีพ้นนาง แต่คนบาปจะถูกผู้หญิงคนนั้นจับเอาไป ปัญญาจารย์กล่าวว่า ดูเถิด ข้าพเจ้าพบดังต่อไปนี้ โดยเอาเรื่องหนึ่งมาประดิษฐ์ติดต่อเข้ากับอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อหามูลเหตุ ซึ่งจิตใจของข้าพเจ้ายังกำลังหาแล้วหาอีก แต่ข้าพเจ้าหาได้พบปะไม่ ในชายพันคนจะพบชายจริง สักคนหนึ่ง แต่จะหาหญิงแท้สักคนหนึ่งในจำนวนพันคนก็หาไม่พบ ดูเถิด ข้าพเจ้าพบแต่ความนี้ต่างหาก คือพระเจ้าทรง สร้างมนุษย์ให้เป็นคนเที่ยงธรรม แต่มนุษย์ทั้งหลายได้ค้นคว้ากลอุบายต่างๆออกมา

ปัญญาจารย์ 7:5-29 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

การ​ได้ยิน​คำ​ตำหนิ​ติเตียน​ของ​ผู้​มี​สติ​ปัญญา​ดี​กว่า การ​ได้ยิน​เพลง​ของ​ผู้​โง่​เขลา เสียง​กิ่ง​ไม้​หนาม​ที่​ลุก​ไหม้​อยู่​ใต้​หม้อ​เป็น​อย่างไร เสียง​ของ​คน​โง่​เขลา​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น นี่​ก็​ไร้​ค่า ผู้​มี​สติ​ปัญญา​ที่​กดขี่​ข่มเหง​เป็น​ประหนึ่ง​ผู้​โง่​เขลา และ​การ​รับ​สินบน​ทำให้​เขา​ขาด​ความ​เที่ยงธรรม ขั้น​สุด​ท้าย​ของ​สิ่ง​หนึ่ง​ดี​กว่า​ขั้น​เริ่มต้น และ​จิต​วิญญาณ​ที่​มี​ความ​อดทน​ดี​กว่า​จิต​วิญญาณ​ที่​หยิ่ง​ยโส อย่า​โกรธ​ง่าย เพราะ​ความ​โกรธ​จะ​เกาะ​อยู่​ใน​ทรวง​อก​ของ​คน​โง่​เขลา อย่า​พูด​ว่า “ทำไม​สมัย​ก่อน​ดี​กว่า​สมัย​นี้” เพราะ​ว่า​คำ​ถาม​นี้​ไม่​ได้​มา​จาก​สติ​ปัญญา สติ​ปัญญา​ประเสริฐ​ประหนึ่ง​มรดก และ​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​ผู้​คน​ทั้ง​หลาย​ใน​โลก การ​ทะนุถนอม​สติ​ปัญญา เปรียบ​เสมือน​การ​เก็บ​รักษา​เงิน เรา​ทราบ​ได้​ว่า​สติ​ปัญญา​มี​คุณ​ประโยชน์​ที่​ยั่งยืน​คือ ผู้​ที่​ครอบครอง​สติ​ปัญญา​ไว้​ได้​จะ​สามารถ​รักษา​ชีวิต​ของ​ตน​ได้ จง​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​พระ​เจ้า​ได้​กระทำ สิ่ง​ที่​พระ​องค์​ได้​ทำ​ให้​คด​แล้ว ใคร​สามารถ​ทำ​ให้​ตรง​ได้​เล่า เมื่อ​ประสบ​กับ​สิ่ง​ดีๆ ก็​จง​ยินดี​เถิด แต่​เมื่อ​ประสบ​กับ​ความ​ลำบาก ก็​จง​คิด​เถิด​ว่า พระ​เจ้า​เป็น​ผู้​ทำ​ทั้ง​สอง​สิ่ง มนุษย์​จะ​พบ​ว่า​หลัง​จาก​เขา​แล้ว ก็​ไม่​มี​สิ่ง​ใด​อีก ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​ทุก​สิ่ง​ใน​ชีวิต​อัน​ไร้​ค่า​ของ​ข้าพเจ้า​แล้ว ชาย​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​เสีย​ชีวิต​ขณะ​กระทำ​สิ่ง​ชอบธรรม และ​คน​ชั่ว​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป​ขณะ​กระทำ​ความ​ชั่ว อย่า​มั่น​ใจ​ว่า​ท่าน​เป็น​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​นัก และ​อย่า​ทำ​ตน​เป็น​ผู้​มี​สติ​ปัญญา​นัก ทำไม​ท่าน​จึง​อยาก​ทำลาย​ตัว​เอง​เล่า อย่า​ปล่อย​ให้​ตน​กระทำ​ความ​ชั่ว และ​อย่า​เป็น​คน​โง่​เขลา​เช่น​กัน ทำไม​ท่าน​จึง​อยาก​ตาย​ก่อน​กำหนด​เล่า ท่าน​ควร​กระทำ​ตาม​ข้อ​แรก และ​ไม่​ละเลย​ข้อ​ที่​สอง เพราะ​คน​ที่​เกรง​กลัว​พระ​เจ้า จะ​มี​ผล​สำเร็จ​ได้​จาก​ทั้ง​สอง​ข้อ สติ​ปัญญา​ให้​อานุภาพ​แก่​ผู้​เรือง​ปัญญา มาก​กว่า​ผู้​สำเร็จ​ราชการ 10 คน​ใน​เมือง มั่น​ใจ​ได้​เลย​ว่า ใน​โลก​นี้​ไม่​มี​ผู้​มี​ความ​ชอบธรรม​สักคน​ที่​กระทำ​แต่​ความ​ดี และ​ไม่​เคย​กระทำ​บาป อย่า​ใส่ใจ​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​มนุษย์​พูด ท่าน​อาจ​จะ​ได้ยิน​ผู้​รับใช้​ของ​ท่าน​สาป​แช่ง​ท่าน​ก็​ได้ ท่าน​รู้​อยู่​แก่​ใจ​ว่า มี​หลาย​ครั้ง​ที่​ท่าน​เอง​ก็​สาป​แช่ง​ผู้​อื่น​เช่น​กัน เรื่อง​ต่างๆ ที่​ได้​กล่าว​มา​นี้ ข้าพเจ้า​ใช้​สติ​ปัญญา​ทดสอบ​ดู​แล้ว ข้าพเจ้า​คิด​ใน​ใจ​ว่า “ข้าพเจ้า​จะ​ใช้​สติ​ปัญญา​หา​คำ​ตอบ” แต่​ก็​เกิน​กำลัง​ข้าพเจ้า คือ​ไกล​เกิน​เอื้อม และ​ลึก​ล้ำ​ยิ่ง​นัก ใคร​จะ​ทราบ​ได้ ข้าพเจ้า​อุทิศ​ตน​เพื่อ​เรียน​รู้ ค้น​คว้า และ​เพื่อ​เสาะหา​สติ​ปัญญา​และ​คำ​อธิบาย​จาก​สิ่ง​ต่างๆ ที่​เป็น​อยู่ และ​เพื่อ​เรียน​รู้​ถึง​ความ​เลวร้าย​ของ​ความ​ไร้​สาระ และ​ความ​โง่​เขลา​ของ​ความ​ขาด​สติ​ยั้ง​คิด ข้าพเจ้า​พบ​บาง​สิ่ง​ที่​ขม​กว่า​ความ​ตาย คือ​ใจ​ของ​หญิง​ที่​เป็น​เสมือน​บ่วงแร้ว​และ​กับดัก และ​นาง​มี​มือ​ที่​เป็น​เสมือน​โซ่​จองจำ ชาย​ที่​ทำให้​พระ​เจ้า​พอใจ​จะ​หลุด​พ้น​จาก​นาง​ได้ แต่​คน​บาป​จะ​ถูก​นาง​จับ​ตัว​ไว้ ปัญญาจารย์​กล่าว​ว่า ดู​เถิด นี่​คือ​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​ค้น​พบ​ทีละ​เล็ก​ทีละ​น้อย เพื่อ​ให้​ได้​คำ​อธิบาย​มา ซึ่ง​ความ​คิด​ของ​ข้าพเจ้า​เสาะ​หา​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก แต่​ข้าพเจ้า​ก็​ยัง​ไม่​พบ มี​ชาย​ผู้​เดียว​จาก 1,000 คน​ที่​ข้าพเจ้า​พบ แต่​สำหรับ​ผู้​หญิง​ใน​จำนวน​ทั้ง​หมด ข้าพเจ้า​ยัง​ไม่​พบ​เลย ดู​เถิด สิ่ง​เดียว​ที่​ข้าพเจ้า​พบ​คือ พระ​เจ้า​สร้าง​มนุษย์​ให้​มี​ความ​ชอบธรรม แต่​มนุษย์​กลับ​เสาะหา​กล​วิธี​มากมาย