เอเฟซัส 4:21-32

เอเฟซัส 4:21-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

จริงๆ​แล้ว คุณ​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​ของ​พระองค์​และ​ได้รับ​คำสอน​เกี่ยวกับ​พระองค์ สิ่ง​ที่​คุณ​เรียนรู้​มา​นั้น​สอดคล้อง​กับ​ความจริง​ที่​พระเจ้า​ได้​เปิดเผย​ใน​พระเยซู คำสอน​นั้น​บอก​ให้​พวกคุณ​กำจัด​ตัวตน​เก่าๆ​ที่​ถูก​ตัณหา​ชักนำ​ให้​หลง​และ​เสื่อมไป คำสอน​นั้น​ยัง​สอน​ให้​คุณ​ยอม​ให้​พระเจ้า​สร้าง​ความคิด​และ​จิตใจ​ของ​คุณ​ขึ้น​มา​ใหม่ คำสอน​นี้​ยัง​บอก​อีกว่า​ให้​สวม​คนใหม่​นั้น​ที่​พระเจ้า​สร้าง​ขึ้นมา​เป็น​เหมือน​พระองค์ เพื่อ​จะได้​มี​ชีวิต​ที่​พระเจ้า​ชอบใจ เป็น​ชีวิต​ที่​บริสุทธิ์ ตาม​ความจริง​ที่​เรา​สอนนั้น ถ้า​อย่างนั้น ให้​เลิก​พูด​โกหก​ซะ “ให้​ต่างคน​ต่างพูด​ความจริง​ต่อ​เพื่อน​ของตน” เพราะ​พวกเรา​เป็น​อวัยวะ​ใน​ร่างกาย​เดียวกัน “ถ้า​โกรธ ก็​อย่า​ทำ​บาป” ควร​กำจัด​ความโกรธ​นั้น​ให้​หมดไป​ก่อน​ดวง​อาทิตย์​ตกดิน อย่า​เปิด​โอกาส​ให้​มาร​เอาชนะ​พวกคุณ​ได้ คน​ที่​เคย​ขโมย​มาก่อน ก็​ให้​เลิก​ขโมย​ซะ แล้ว​หันมา​ทำงาน ใช้​มือ​ทำ​สิ่ง​ที่มี​ประโยชน์ เพื่อ​จะได้​มี​สิ่งของ​ไว้​แจก​คน​ที่​ขัดสน อย่า​พูด​คำ​หยาบคาย​เลย แต่​ให้​พูด​ใน​สิ่ง​ที่​ดี เพื่อ​จะ​ได้​ให้​กำลังใจ​กับ​คน​ที่​ต้องการ เพื่อ​มัน​จะ​ได้​เป็น​ประโยชน์​กับ​คน​ที่​ได้ยิน อย่า​ทำให้​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า​เสียใจ พระเจ้า​ได้​เอา​พระวิญญาณ​นี้​มา​ประทับตรา​พวกคุณ​ไว้ เพื่อ​แสดงว่า​คุณ​เป็น​ของ​พระเจ้า และ​เพื่อ​รับรอง​ว่า​พระเจ้า​จะ​ปลดปล่อย​ให้​คุณ​เป็น​อิสระ​ใน​วันนั้น กำจัด​สิ่ง​เหล่านี้​ให้​หมดสิ้น​ไป​จาก​หมู่​พวกคุณ คือ​ความ​ขมขื่น​ทั้งหมด ความ​โกรธแค้น การ​ทะเลาะ​วิวาท และ​การ​ใส่ร้าย​ป้ายสี รวมถึง​ความชั่ว​ทุกชนิด ให้​เมตตา​ต่อกัน เห็นอก​เห็นใจ​กัน และ​อภัย​ให้กัน​และ​กัน​เหมือนกับ​ที่​พระเจ้า​ได้​อภัย​ให้กับ​คุณ​ผ่านทาง​พระคริสต์

เอเฟซัส 4:21-32 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พวกท่านเคยฟังเรื่องของพระองค์แล้วอย่างแน่นอน และเคยได้รับการสอนเรื่องพระองค์ตามสัจธรรมที่อยู่ในพระเยซูแล้ว คือได้รับการสอนให้ทิ้งตัวเก่าของพวกท่านที่คู่กับการประพฤติแบบเดิม ซึ่งถูกตัณหาล่อลวงทำให้พินาศไป และให้วิญญาณและจิตใจของพวกท่านได้รับการเปลี่ยนใหม่ และรับการสอนให้สวมสภาพใหม่ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นตามแบบของพระเจ้าในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ดังนั้นจงละทิ้งความเท็จ “ให้พวกท่านแต่ละคนพูดความจริงกับเพื่อนบ้านของตน” เพราะเราต่างเป็นอวัยวะของกันและกัน “จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป” อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่ อย่าให้โอกาสแก่มาร คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีกต่อไป แต่จงใช้มือ [ของตน]ตรากตรำทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรแจกจ่ายให้คนที่มีความจำเป็น อย่าให้คำเลวร้ายออกจากปากของท่านทั้งหลาย แต่จงกล่าวคำดีๆ ที่เสริมสร้างและที่เหมาะกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยิน และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย ด้วยพระวิญญาณนั้นท่านได้รับการประทับตราไว้สำหรับวันที่จะได้รับการไถ่ จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์

เอเฟซัส 4:21-32 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ถ้าแม้​ท่านได้ฟังเรื่องพระองค์ และได้รับการสอนโดยพระองค์ตามความจริงซึ่​งม​ี​อยู่​ในพระเยซู​แล้ว ท่านจงทิ้งมนุษย์​เก​่าของท่านซึ่งคู่กับวิถี​ชี​วิตเดิ​มน​ั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปตามตัณหาอันเป็​นที​่​หลอกลวง และจงให้​จิ​ตใจของท่านเปลี่ยนใหม่ และให้ท่านสวมมนุษย์​ใหม่​ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริ​สุทธิ​์​ที่แท้​จริง เหตุ​ฉะนั้นท่านจงเลิกพู​ดม​ุสาเสีย และ ‘จงต่างคนต่างพูดความจริ​งก​ับเพื่อนบ้าน’ เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน ‘โกรธก็โกรธเถิด แต่​อย่าทำบาป’ อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ และอย่าให้โอกาสแก่พญามาร คนที​่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่​จงใช้มือทำงานที่​ดี​ๆกว่า เพื่อจะได้​มี​อะไรๆแจกให้​แก่​คนที​่​ขัดสน อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่​จงกล่าวคำที่​ดี และเป็นประโยชน์​ให้​เก​ิดความจำเริญเพื่อจะได้เป็นคุณแก่​คนที​่​ได้​ยินได้​ฟัง และอย่าทำให้พระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ของพระเจ้าเสียพระทัย เพราะโดยพระวิญญาณนั้นท่านได้​ถู​กประทับตราหมายท่านไว้จนถึงวั​นที​่ทรงไถ่​ให้​รอด จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง อยู่​ห่างไกลจากท่านเถิด และท่านจงเมตตาต่​อก​ัน มี​ใจเอ็นดู​ต่อกัน และอภัยโทษให้กันเหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้​ท่าน เพราะเห็นแก่พระคริสต์

เอเฟซัส 4:21-32 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ถ้าแม้ท่านได้ฟังเรื่องพระองค์ และได้เรียนรู้เรื่องพระองค์ตามสัจธรรม ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูแล้ว ท่านจงทิ้งตัวเก่าของท่าน ซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตายตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง และจงให้วิญญาณจิตของท่านเปลี่ยนใหม่ และให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ จงพูดความจริงต่อกัน เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ และอย่าให้โอกาสแก่มาร คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดีและเป็นประโยชน์ให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย เพราะโดยพระวิญญาณนั้นท่านได้ถูกประทับตราหมายท่านไว้ เพื่อวันที่จะทรงไถ่ให้รอด จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดให้ร้าย กับการคิดปองร้ายทุกอย่างอยู่ห่างไกลจากท่านเถิด และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กัน เหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ท่านในพระคริสต์นั้น

เอเฟซัส 4:21-32 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แน่ทีเดียวท่านได้ฟังเรื่องของพระองค์และรับคำสอนในพระองค์ตามความจริงซึ่งอยู่ในพระเยซู เกี่ยวกับวิถีชีวิตเดิมนั้น ท่านได้รับการสอนให้ทิ้งตัวตนเก่าของท่านซึ่งกำลังถูกทำให้เสื่อมโทรมไปโดยตัณหาอันล่อลวงของมัน เพื่อรับการสร้างท่าทีความคิดจิตใจขึ้นใหม่ และเพื่อสวมตัวตนใหม่ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างขึ้นให้เป็นเหมือนพระองค์ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายต้องทิ้งสิ่งจอมปลอมและพูดความจริงต่อเพื่อนบ้านของตน เพราะเราทั้งปวงล้วนเป็นอวัยวะในกายเดียวกัน “ในยามโกรธ ท่านอย่าทำบาป” อย่าให้ถึงดวงอาทิตย์ตกแล้วท่านยังโกรธอยู่ และอย่าให้โอกาสแก่มาร ผู้ที่เคยลักขโมยก็อย่าลักขโมยอีก แต่จงทำงาน ใช้มือของตนทำสิ่งที่มีประโยชน์ เผื่อจะมีอะไรแบ่งปันให้คนขัดสน อย่าหลุดปากเอ่ยสิ่งที่ไม่สมควร แต่จงกล่าววาจาอันเป็นประโยชน์เพื่อเสริมสร้างผู้อื่นขึ้นตามความจำเป็นของเขา จะได้เป็นผลดีแก่ผู้ฟัง และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย โดยพระวิญญาณนี้ท่านได้รับการประทับตราแล้วสำหรับวันแห่งการทรงไถ่ให้รอด จงขจัดความขมขื่นทั้งสิ้น ความเกรี้ยวกราด และความโกรธแค้น การทะเลาะและการใส่ร้ายป้ายสี พร้อมทั้งการมุ่งร้ายทุกรูปแบบ จงเมตตาและสงสาร เห็นใจกันและกัน ให้อภัยต่อกันเหมือนที่พระเจ้าทรงอภัยแก่ท่านในพระคริสต์

เอเฟซัส 4:21-32 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ถ้า​ท่าน​ได้ยิน​เรื่อง​ของ​พระ​องค์​อย่าง​แท้​จริง และ​ได้​รับ​การ​สอน​ตาม​ความ​จริง​ซึ่ง​มี​ใน​พระ​เยซู ท่าน​ก็​จง​เลิก​จาก​การ​ดำเนิน​ชีวิต​เก่า ซึ่ง​ท่าน​เคย​ประพฤติ​ตาม​แรง​ดึงดูด​ของ​กิเลส​ซึ่ง​กำลัง​ทำลาย​ตัว​ท่าน​อยู่ และ​จง​ปรับ​เปลี่ยน​ความ​คิด​ของ​ท่าน​เสีย​ใหม่ จง​รับ​ชีวิต​ใหม่​ซึ่ง​ถูก​สร้าง​ให้​เป็น​เหมือน​ของ​พระ​เจ้า​ใน​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​บริสุทธิ์​ที่​แท้​จริง ฉะนั้น ทุก​ท่าน​ควร​ละ​จาก​ความ​เท็จ และ​จง​พูด​ความ​จริง​กับ​เพื่อน​บ้าน​ของ​ตน เพราะ​เรา​เป็น​ส่วน​ของ​กาย​เดียว​กัน “จะ​โกรธ​ก็​โกรธ​ได้ แต่​อย่า​กระทำ​บาป” พอ​สิ้น​แสง​ตะวัน​แล้ว​ก็​อย่า​ได้​เก็บ​ความ​โกรธ​ไว้​เลย อย่า​ปล่อย​โอกาส​ให้​แก่​พญามาร ใคร​ที่​เป็น​ขโมย​ก็​อย่า​ขโมย​อีก​ต่อ​ไป ต้อง​ทำ​งาน ทำ​สิ่ง​ที่​เป็น​ประโยชน์​ด้วย​มือ​ของ​เขา​เอง เพื่อ​จะ​ได้​มี​พอ​ที่​จะ​แบ่งปัน​ให้​แก่​คน​ที่​ขัดสน​ได้ อย่า​ให้​วาจา​หยาบ​คาย​หลุด​ออก​จาก​ปาก​ท่าน แต่​จง​กล่าว​คำ​ที่​ดี​เท่า​นั้น​เพื่อ​เป็น​การ​เสริมสร้าง​อย่าง​ที่​ควร​จะ​เป็น เพื่อ​เป็น​คุณ​ประโยชน์​แก่​ผู้​ได้ยิน อย่า​ทำ​ให้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​เศร้า​ใจ ท่าน​ได้​รับ​ตรา​ประทับ​แล้ว​โดย​พระ​วิญญาณ​เพื่อ​วัน​แห่ง​การ​ไถ่ จง​เลิก​ให้​ได้​จาก​ความ​ขมขื่น ความ​เกรี้ยวกราด ความ​โกรธ การ​เอ็ดตะโร​ตะโกน​ใส่​กัน การ​ใส่​ร้าย และ​การ​ปองร้าย​ใน​ทุก​ประการ และ​จง​มี​ใจ​กรุณา​ต่อ​กัน มี​ใจ​สงสาร ยก​โทษ​ให้​กัน​และ​กัน เหมือน​กับ​ที่​พระ​เจ้า​ได้​ยก​โทษ​ให้​แก่​ท่าน​โดย​ผ่าน​พระ​คริสต์