ปฐมกาล 23:1-20
ปฐมกาล 23:1-20 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ซาราห์มีอายุ 127 ปี ซาราห์มีอายุเพียงนี้ แล้วซาราห์ก็สิ้นชีวิตที่เมืองคีริยาทอารบา (คือเฮโบรน) ในดินแดนคานาอัน อับราฮัมไว้ทุกข์ให้ซาราห์และร้องไห้คิดถึงนาง อับราฮัมยืนขึ้นหน้าศพพูดกับคนฮิตไทต์ว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนต่างด้าวและเป็นคนมาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ขอพวกท่านให้ที่ดินสำหรับสุสานท่ามกลางท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาไป” คนฮิตไทต์ตอบอับราฮัมว่า “ขอนายข้าพเจ้าฟังพวกเรา ท่านเป็นเจ้านายจากพระเจ้าท่ามกลางเรา ขอให้ฝังผู้ตายของท่านในสุสานที่ดีที่สุดของเราเถิด ไม่มีผู้ใดในพวกเราที่จะหวงสุสานของเขาไว้ไม่ให้ท่าน หรือไม่ให้ฝังผู้ตายของท่าน” อับราฮัมก็ลุกขึ้นคำนับคนฮิตไทต์ชาวแผ่นดินนั้น และพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าท่านยินยอมให้ข้าพเจ้าฝังผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาไปแล้ว ขอท่านฟังข้าพเจ้าเถิด และให้ขอเอโฟรนบุตรโศหาร์เพื่อข้าพเจ้า ขอให้เขามอบถ้ำมัคเป-ลาห์ ซึ่งเป็นของเขานั้นแก่ข้าพเจ้า มันอยู่ที่ปลายนาของเขา ขอให้เขาขายให้ข้าพเจ้าเต็มตามราคาต่อหน้าพวกท่าน ให้เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้เป็นสุสาน” ฝ่ายเอโฟรนนั่งอยู่ท่ามกลางคนฮิตไทต์ เอโฟรนคนฮิตไทต์จึงตอบอับราฮัมให้คนฮิตไทต์ทุกคนที่เข้าไปที่ประตูเมืองฟังว่า “อย่าเลย ขอนายของข้าพเจ้าฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าให้นานั้นแก่ท่านและให้ถ้ำที่อยู่ในนานั้นแก่ท่านด้วย ข้าพเจ้าให้แก่ท่านต่อหน้าคนของข้าพเจ้า ขอเชิญฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมก็โน้มตัวลงคำนับต่อหน้าชาวแผ่นดินนั้น และท่านพูดกับเอโฟรนให้ชาวแผ่นดินนั้นฟังว่า “แต่ถ้าท่านยินยอม ขอฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะจ่ายค่าของนานั้น ขอท่านรับจากข้าพเจ้าเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าที่นั่น” เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า “ขอนายข้าพเจ้าฟังข้าพเจ้า ที่ดินแปลงนี้มีราคาเป็นเงินหนัก 4.8 กิโลกรัม สำหรับท่านกับข้าพเจ้าก็ไม่เท่าไร ฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมก็ตกลงกับเอโฟรน แล้วอับราฮัมก็ชั่งเงินให้เอโฟรนตามจำนวนที่เขาบอกให้คนฮิตไทต์ได้ยิน คือเงินหนัก 4.8 กิโลกรัม ตามน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้ นาของเอโฟรนในมัคเป-ลาห์ซึ่งอยู่หน้ามัมเร คือนากับถ้ำซึ่งอยู่ในนั้น และต้นไม้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในนาตลอดทั่วบริเวณนั้น เอโฟรนก็โอน ให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์ต่อหน้าคนฮิตไทต์ คือต่อหน้าทุกคนที่เข้าไปที่ประตูเมืองของเขา ต่อมาอับราฮัมก็ฝังศพซาราห์ภรรยาของตนในถ้ำที่นามัคเป-ลาห์หน้ามัมเร(คือเฮโบรน) ในดินแดนคานาอัน นาและถ้ำซึ่งอยู่ในนั้น คนฮิตไทต์โอนให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้เป็นสุสาน
ปฐมกาล 23:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ซาราห์มีชีวิตอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดปี นางตายที่เมืองคิริยาทอารบา (คือเมืองเฮโบรน) ในแคว้นคานาอัน อับราฮัมเศร้าโศกเสียใจมาก เขาร้องไห้ให้กับซาราห์ อับราฮัมลุกขึ้นยืนอยู่ด้านข้างของร่างเมียเขาและพูดกับชาวฮิตไทต์ว่า “ผมเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่กับพวกท่าน ขอให้พวกท่านแบ่งที่ดินให้กับผมบ้าง เพื่อผมจะได้ใช้ฝังร่างของเมียผม” ชาวฮิตไทต์จึงตอบอับราฮัมว่า “ฟังเรานะท่าน ท่านเป็นเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเรา เลือกที่ฝังศพที่ดีที่สุดของพวกเรา ใช้ฝังเมียท่านได้เลย ไม่มีใครหวงแหนที่ฝังศพของเขาหรือขัดขวางท่านจากการฝังศพนาง” อับราฮัมจึงลุกขึ้นโค้งคำนับชาวฮิตไทต์ และพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าท่านยินดีที่จะให้ผมฝังศพเมียผมแล้วละก็ ช่วยไปพูดกับเอโฟรนลูกชายของโศหาร์ให้กับผมหน่อย ช่วยบอกให้เขาขายถ้ำมัคเปลาห์ที่เขาเป็นเจ้าของ ที่อยู่ตรงท้ายทุ่งของเขาให้กับผมหน่อย ขอให้เขาขายผมเต็มราคาต่อหน้าพวกท่าน เพื่อผมจะได้เป็นเจ้าของเอาไว้สำหรับฝังศพ” เอโฟรนก็นั่งอยู่ที่นั่นท่ามกลางชาวฮิตไทต์ เอโฟรนชาวฮิตไทต์ได้ตอบอับราฮัมไป และชาวฮิตไทต์ที่เข้ามาอยู่ที่ประตูเมืองก็ได้ยินกันหมดทุกคน เอโฟรนพูดว่า “ไม่ได้หรอกท่าน ฟังผมนะ ผมจะยกท้องทุ่งนั้นพร้อมกับถ้ำให้กับท่าน ต่อหน้าประชาชนของผม ผมยกมันให้กับท่าน เอาไปฝังศพเมียของท่านได้เลย” แล้วอับราฮัมโค้งคำนับต่อชาวฮิตไทต์ อับราฮัมพูดกับเอโฟรนต่อหน้าประชาชนของแผ่นดินนั้นว่า “ฟังผมหน่อย ผมจะจ่ายค่าท้องทุ่งนั้น รับมันไว้เถิด และผมจะได้ฝังศพไว้ที่นั่น” เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า “ท่านครับ ฟังผมนะ ที่ดินผืนนั้นมีราคาเท่ากับเงินสี่กิโลครึ่ง เท่านั้นเอง มันไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับท่านและผม เอาศพไปฝังเถิด” อับราฮัมฟังเอโฟรน แล้วอับราฮัมชั่งเงินให้กับเอโฟรน ตามที่เอโฟรนได้พูดไว้ต่อหน้าชาวฮิตไทต์ เป็นเงินสี่กิโลครึ่ง ตามน้ำหนักทั่วไปที่พ่อค้าใช้กันในสมัยนั้น ที่ดินของเอโฟรนในมัคเปลาห์ ทางตะวันออกของมัมเร ที่ดินและถ้ำในนั้น ต้นไม้ทั้งหมดบนที่ดินนั้น และพื้นที่รอบๆก็ได้กลายเป็นของอับราฮัม ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อหน้าชาวฮิตไทต์ ที่เข้ามาอยู่ที่ประตูเมืองทุกคน หลังจากนั้นอับราฮัมจึงฝังศพซาราห์เมียของเขาในถ้ำที่อยู่บนท้องทุ่งของมัคเปลาห์ ทางตะวันออกของมัมเร (คือเฮโบรน) บนแผ่นดินคานาอัน ที่ดินและถ้ำนั้นจึงกลายเป็นสมบัติของอับราฮัมตามกฏหมาย อับราฮัมซื้อมันมาจากชาวฮิตไทต์ เอาไว้เป็นที่ฝังศพ
ปฐมกาล 23:1-20 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ซาราห์มีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดปี ซาราห์มีชีวิตถึงอายุนี้ แล้วซาราห์ก็สิ้นชีวิตที่เมืองคีริยาทอารบา คือเมืองเฮโบรน ในแผ่นดินคานาอัน อับราฮัมไว้ทุกข์ให้ซาราห์และร้องไห้คิดถึงนาง อับราฮัมยืนขึ้นหน้าศพพูดกับลูกหลานของเฮทว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนต่างด้าวและเป็นคนมาอาศัยอยู่ท่ามกลางท่าน ขอท่านให้ที่ดินท่ามกลางท่านเป็นสุสาน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาไป” ลูกหลานของเฮทตอบอับราฮัมว่า “นายเจ้าข้า โปรดฟังพวกเรา ท่านเป็นเจ้านายจากพระเจ้าท่ามกลางเรา ขอให้ฝังผู้ตายของท่านในอุโมงค์ฝังศพที่ดีที่สุดของเราเถิด ไม่มีผู้ใดในพวกเราที่จะหวงสุสานของเขาไว้ไม่ให้ท่าน หรือขัดขวางท่านมิให้ฝังผู้ตายของท่าน” อับราฮัมก็ลุกขึ้นกราบลงต่อหน้าลูกหลานของเฮทชาวแผ่นดินนั้น และพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าท่านยินยอมให้ข้าพเจ้าฝังผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาไปแล้ว ขอฟังข้าพเจ้าเถิด และวิงวอนเอโฟรนบุตรชายโศหาร์เพื่อข้าพเจ้า ขอให้เขาให้ถ้ำมัคเป-ลาห์ ซึ่งเขาถือกรรมสิทธิ์นั้นแก่ข้าพเจ้า มันอยู่ที่ปลายนาของเขา ขอให้เขาขายให้ข้าพเจ้าเต็มตามราคาให้เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับใช้เป็นสุสานท่ามกลางหมู่พวกท่าน” ฝ่ายเอโฟรนอาศัยอยู่ท่ามกลางลูกหลานของเฮท เอโฟรนคนฮิตไทต์จึงตอบอับราฮัมให้บรรดาลูกหลานของเฮทผู้ที่เข้าไปที่ประตูเมืองของเขาฟังว่า “อย่าเลย นายเจ้าข้า โปรดฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าให้นานั้นแก่ท่านและให้ถ้ำที่อยู่ในนานั้นแก่ท่าน ด้วยข้าพเจ้าให้แก่ท่านต่อหน้าลูกหลานประชาชนของข้าพเจ้า ขอเชิญฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมก็กราบลงต่อหน้าชาวแผ่นดินนั้น และท่านพูดกับเอโฟรนให้ชาวแผ่นดินนั้นฟังว่า “แต่ถ้าท่านยินยอมให้แล้ว ขอฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะจ่ายค่านานั้น ขอรับเงินจากข้าพเจ้าเถิด และข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าที่นั่น” เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า “นายเจ้าข้า ขอฟังข้าพเจ้าเถิด ที่ดินแปลงนี้มีราคาเป็นเงินสี่ร้อยเชเขล สำหรับท่านกับข้าพเจ้าก็ไม่เท่าไร ฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมก็ฟังคำของเอโฟรน แล้วอับราฮัมก็ชั่งเงินให้เอโฟรนตามจำนวนที่เขาบอกให้ลูกหลานของเฮทฟังแล้ว คือเงินสี่ร้อยเชเขลตามน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้กันในเวลานั้น นาของเอโฟรนในมัคเป-ลาห์ ซึ่งอยู่หน้ามัมเร มีนากับถ้ำซึ่งอยู่ในนั้น และต้นไม้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในนาตลอดทั่วบริเวณนั้น จึงได้ขาย ให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์ต่อหน้าลูกหลานของเฮท คือต่อหน้าบรรดาผู้ที่เข้าไปที่ประตูเมืองของเขา ต่อมาอับราฮัมก็ฝังศพนางซาราห์ภรรยาของตน ในถ้ำที่นามัคเป-ลาห์หน้ามัมเร คือเมืองเฮโบรน ในแผ่นดินคานาอัน นาและถ้ำซึ่งอยู่ในนั้นลูกหลานของเฮทยอมขายให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้เป็นสุสาน
ปฐมกาล 23:1-20 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ซาราห์มีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดปี ซาราห์มีชีวิตถึงอายุนี้ แล้วซาราห์ก็สิ้นชีวิตที่เมืองคีริยาทอารบา (คือเฮโบรน) ในแคว้นคานาอัน อับราฮัมไว้ทุกข์ให้ซาราห์และร้องไห้คิดถึงนาง อับราฮัมยืนขึ้นหน้าศพพูดกับคนฮิตไทต์ว่า <<ข้าพเจ้าเป็นคนต่างด้าวและเป็นคนมาอาศัยอยู่ ท่ามกลางท่าน ขอท่านให้ที่ดินท่ามกลางท่านเป็นสุสาน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาไป>> คนฮิตไทต์ตอบอับราฮัมว่า <<นายโปรดฟังพวกเรา ท่านเป็นเจ้านายของพระเจ้าท่ามกลางเรา ขอให้ฝังผู้ตายของท่านในอุโมงค์ฝังศพที่ดีที่สุดของเราเถิด ไม่มีผู้ใดในพวกเราที่จะหวงสุสานของเขาไว้ไม่ให้ท่าน หรือขัดขวางท่านมิให้ฝังผู้ตายของท่าน>> อับราฮัมก็ลุกขึ้นคำนับคนฮิตไทต์ชาวแคว้นนั้น และพูดกับพวกเขาว่า <<ถ้าท่านยินยอมให้ข้าพเจ้าฝังผู้ตายของข้าพเจ้า ให้พ้นสายตาไปแล้ว ขอท่านฟังข้าพเจ้าเถิด และวิงวอนเอโฟรนบุตรโศหาร์เพื่อข้าพเจ้า ขอให้เขาให้ถ้ำมัคเป-ลาห์ ซึ่งเขาถือกรรมสิทธิ์นั้นแก่ข้าพเจ้า มันอยู่ที่ปลายนาของเขา ขอให้เขาขายให้ข้าพเจ้าเต็มตามราคาต่อหน้าท่าน ให้เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับใช้เป็นสุสาน>> ฝ่ายเอโฟรนนั่งอยู่ระหว่างคนฮิตไทต์ เอโฟรนคนฮิตไทต์จึงตอบอับราฮัม ให้บรรดาคนฮิตไทต์ผู้ที่เข้าไปที่ประตูเมืองฟังว่า <<อย่าเลย นายโปรดฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าให้นานั้นแก่ท่านและให้ถ้ำที่อยู่ในนานั้นแก่ท่านด้วย ข้าพเจ้าให้แก่ท่านต่อหน้าประชาชนของข้าพเจ้า ขอเชิญฝังผู้ตายของท่านเถิด>> อับราฮัมก็คำนับชาวแคว้นนั้น และท่านพูดกับเอโฟรนให้ชาวแคว้นนั้นฟังว่า <<แต่ถ้าท่านยินยอม ขอฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเต็มใจให้ค่าของนานั้น ขอรับเงินจากข้าพเจ้าเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าที่นั่น>> เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า <<นายขอฟังข้าพเจ้า ที่ดินแปลงหนึ่งมีราคาเป็นเงินสี่ร้อย เชเขล สำหรับท่านกับข้าพเจ้าก็ไม่เท่าไร ฝังผู้ตายของท่านเถิด>> อับราฮัมก็ตกลงกับเอโฟรน แล้วอับราฮัมก็ชั่งเงินให้เอโฟรน ตามจำนวนที่เขาบอกให้คนฮิตไทต์ฟังแล้ว คือเงินสี่ร้อยเชเขล ตามน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้กันในเวลานั้น นาของเอโฟรนในมัคเป-ลาห์ซึ่งอยู่หน้ามัมเร มีนากับถ้ำซึ่งอยู่ในนั้น และต้นไม้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในนาตลอดทั่วบริเวณนั้น เอโฟรนก็โอน ให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์ต่อหน้าคนฮิตไทต์ คือต่อหน้าบรรดาผู้ที่เข้าไปที่ประตูเมืองของเขา ต่อมาอับราฮัมก็ฝังศพซาราห์ ภรรยาของตนในถ้ำที่นามัคเป-ลาห์หน้ามัมเร (คือเฮโบรน) ในแคว้นคานาอัน นาและถ้ำซึ่งอยู่ในนั้น คนฮิตไทต์โอนให้แก่อับราฮัมเป็นกรรมสิทธิ์เพื่อใช้เป็นสุสาน
ปฐมกาล 23:1-20 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ซาราห์มีชีวิตอยู่จนอายุ 127 ปี นี่คือช่วงชีวิตของนางซาราห์ นางตายที่คีริยาทอารบา (คือเฮโบรน) ในดินแดนคานาอัน อับราฮัมไว้ทุกข์ให้ซาราห์และคร่ำครวญอาลัยถึงนาง แล้วอับราฮัมลุกขึ้นจากข้างศพภรรยาและกล่าวกับคนฮิตไทต์ว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนต่างด้าวต่างแดนในหมู่พวกท่าน ขอที่ดินผืนหนึ่งของท่านให้แก่ข้าพเจ้าไว้ใช้เป็นสุสานเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้า” คนฮิตไทต์ตอบอับราฮัมว่า “นายเจ้าข้า ขอฟังเราเถิด ท่านเป็นเจ้านายผู้ทรงอำนาจในหมู่พวกเรา เชิญฝังผู้ตายของท่านในอุโมงค์ฝังศพที่ดีที่สุดของเรา ไม่มีผู้ใดห้ามท่านฝังผู้ตายของท่านในอุโมงค์ฝังศพของเขา” อับราฮัมลุกขึ้นน้อมคำนับชาวแผ่นดินฮิตไทต์ เขากล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “ถ้าท่านเต็มใจให้ข้าพเจ้าฝังผู้ตายของข้าพเจ้า ก็ขอได้โปรดฟังข้าพเจ้าและวิงวอนเอโฟรนบุตรของโศหาร์แทนข้าพเจ้า เพื่อเขาจะขายถ้ำมัคเปลาห์ซึ่งอยู่ตรงปลายทุ่งของเขาแก่ข้าพเจ้า ขอให้เขาขายให้ข้าพเจ้าเต็มราคาเพื่อเป็นสุสานท่ามกลางพวกท่าน” ฝ่ายเอโฟรนคนฮิตไทต์ก็นั่งอยู่ในหมู่ชนของเขา และเขาตอบอับราฮัมให้คนฮิตไทต์ทุกคนซึ่งมาชุมนุมกันที่ประตูเมืองนั้นได้ยินด้วย เขากล่าวว่า “อย่าเลยนายเจ้าข้า โปรดฟังข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าให้ที่ดินผืนนี้แก่ท่าน และข้าพเจ้าให้ถ้ำในที่ดินนั้นแก่ท่าน ข้าพเจ้าให้ที่แห่งนี้แก่ท่านต่อหน้าประชาชนของข้าพเจ้า จงฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมจึงน้อมคำนับชาวแผ่นดินนั้นอีกครั้ง แล้วตอบเอโฟรนให้คนอื่นๆ ได้ยินด้วยว่า “โปรดฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะจ่ายเงินค่าที่ดินผืนนี้ โปรดรับไว้เถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฝังผู้ตายของข้าพเจ้าที่นั่น” เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า “นายเจ้าข้า โปรดฟังข้าพเจ้า ที่ดินนั้นราคา 400 เชเขล แต่นั่นมีความหมายอะไรระหว่างเรากับท่าน? เชิญฝังผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมตกลงตามข้อเสนอของเอโฟรน จึงชั่งเงินจ่ายให้ตามราคาที่เขาบอกต่อหน้าคนฮิตไทต์ คือเงิน 400 เชเขลตามน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้กันในเวลานั้น ดังนั้นที่ดินของเอโฟรนในมัคเปลาห์ใกล้มัมเร คือทั้งท้องทุ่งและถ้ำในที่ดินผืนนั้น และต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ริมทุ่งได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ มาเป็นสมบัติของอับราฮัมต่อหน้าคนฮิตไทต์ทั้งหมดที่มาชุมนุมกันที่ประตูเมือง จากนั้นอับราฮัมจึงฝังศพซาราห์ภรรยาของเขาในถ้ำที่อยู่ในทุ่งมัคเปลาห์ใกล้มัมเร (ซึ่งอยู่ที่เมืองเฮโบรน) ในดินแดนคานาอัน ดังนั้นคนฮิตไทต์ได้โอนทุ่งและถ้ำในที่ดินผืนนั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของอับราฮัมเพื่อใช้เป็นสุสาน
ปฐมกาล 23:1-20 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ซาราห์มีชีวิตอยู่ถึง 127 ปี แล้วนางก็สิ้นชีวิตที่คีริยาทอาร์บา (มีอีกชื่อว่า เฮโบรน) ในดินแดนของคานาอัน อับราฮัมเข้าไปร้องคร่ำครวญถึงซาราห์ และร้องไห้ถึงนาง เมื่ออับราฮัมลุกขึ้นจากข้างศพก็พูดกับพวกชาวฮิตว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนต่างแดนอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ขอให้ข้าพเจ้าได้ที่ดินเป็นสถานที่สำหรับบรรจุศพที่นี่เถิด เพื่อจะได้บรรจุร่างผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตา” ชาวฮิตตอบอับราฮัมว่า “นายท่าน โปรดฟังพวกเราเถิด ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และอยู่ท่ามกลางพวกเรา ไปบรรจุร่างผู้ตายของท่านในถ้ำเก็บศพที่ดีที่สุดของพวกเราเถิด ไม่มีใครหวงถ้ำเก็บศพโดยไม่ให้ท่าน หรือรั้งท่านมิให้บรรจุร่างผู้ตายของท่านหรอก” อับราฮัมลุกขึ้นคำนับชาวฮิตซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน และพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าท่านยินดีให้ข้าพเจ้าบรรจุร่างผู้ตายของข้าพเจ้าให้พ้นสายตาก็โปรดฟัง และช่วยขอร้องเอโฟรนลูกโศหาร์ให้ข้าพเจ้าด้วย ขอถ้ำมัคเป-ลาห์ซึ่งเขาเป็นเจ้าของอยู่ ถ้ำนั้นตั้งอยู่ปลายทุ่ง ขอให้เขาขายต่อหน้าท่านทั้งหลายในราคาเต็ม ข้าพเจ้าจะได้มีไว้ใช้เป็นสถานบรรจุศพ” เอโฟรนกำลังนั่งอยู่กับกลุ่มชาวฮิต ดังนั้นเอโฟรนชาวฮิตจึงตอบอับราฮัมต่อหน้าชาวฮิตทั้งหลายที่เข้าฟังร่วมกันที่ประตูเมืองของเขาว่า “ไม่หรอก นายท่าน โปรดฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายกทุ่งนาให้แก่ท่าน รวมทั้งถ้ำในนาด้วย ข้าพเจ้าขอมอบให้แก่ท่านต่อหน้าพลเมืองของข้าพเจ้า ท่านจงใช้เป็นที่บรรจุร่างผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมคำนับต่อหน้าพลเมืองของดินแดนนั้น และท่านพูดกับเอโฟรนต่อหน้าพลเมืองของดินแดนนั้นว่า “ได้โปรดเถิด ฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะซื้อทุ่งนาตามราคา จงรับไปจากข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าจะได้ใช้เป็นที่บรรจุร่างผู้ตายของข้าพเจ้าที่นั่น” เอโฟรนตอบอับราฮัมว่า “นายท่าน โปรดฟังข้าพเจ้า ที่ดินผืนเดียวมีค่าเป็นเงินหนัก 400 เชเขล ไม่หนักหนาอะไรเลย ท่านจงใช้เป็นที่บรรจุร่างผู้ตายของท่านเถิด” อับราฮัมเห็นด้วยกับราคาของเอโฟรน ท่านจึงชั่งเงินที่เอโฟรนตีราคาไว้ต่อหน้าชาวฮิตทั้งหลาย เป็นเงินหนัก 400 เชเขลตามมาตรฐานน้ำหนักที่พวกพ่อค้าใช้กัน ดังนั้นทุ่งนาของเอโฟรนในมัคเป-ลาห์ ซึ่งอยู่ใกล้มัมเร ทั้งทุ่งและถ้ำ ต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ในทุ่ง ทั่วบริเวณทั้งหมดถูกโอน ให้อับราฮัมเป็นเจ้าของต่อหน้าชาวฮิต ต่อหน้าทุกคนที่เข้าไปในประตูเมืองของเขา หลังจากนั้น อับราฮัมก็บรรจุซาราห์ภรรยาของท่านไว้ในถ้ำที่ทุ่งนาในมัคเป-ลาห์ ซึ่งอยู่ใกล้มัมเรในเฮโบรน ในดินแดนคานาอัน ชาวฮิตโอนทุ่งนาและถ้ำที่อยู่ในนาให้อับราฮัมเป็นเจ้าของเพื่อใช้เป็นสุสาน