ปฐมกาล 41:41-57
ปฐมกาล 41:41-57 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า <<เราตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์แล้ว>> ฟาโรห์ทรงถอดธำมรงค์ตราออกจากพระหัตถ์ สวมให้โยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้รถหลวงคันที่สอง มีคนร้องประกาศข้างหน้าว่า <<คุกเข่าลงเถิด>> ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งเขาให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์ ยิ่งกว่านั้นอีกฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า <<เราคือฟาโรห์ เราจะมิให้คนทั่วแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้ เว้นแต่ท่านจะอนุญาต>> ฟาโรห์ให้นามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีโปทิเฟราปุโรหิต เมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปสำรวจทั่วประเทศอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้สามสิบปี แล้วท่านก็ออกจากที่เข้าเฝ้าฟาโรห์เที่ยวไปทั่วประเทศอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น ดินก็ออกผลมากมาย โยเซฟเก็บอาหารทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในประเทศอียิปต์ไว้หมด สะสมไว้ในหัวเมือง ผลที่เกิดขึ้นในนารอบหัวเมืองใด ก็เก็บไว้ในหัวเมืองนั้น โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเลมากมาย จนต้องหยุดคิดบัญชี เพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ <<เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าลืม ความยากลำบากทั้งปวง และบรรดาพงศ์พันธุ์ของบิดาเสีย>> บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม <<เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวี ขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ>> เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์ก็ล่วงไป จึงเกิดกันดารอาหารเจ็ดปี ดั่งที่โยเซฟทำนายไว้ การกันดารอาหารนั้น เกิดทั่วแคว้นทั้งหลายแต่ทั่วประเทศอียิปต์ยังมีอาหารอยู่ เมื่อชาวอียิปต์อดอยากอาหาร ประชาชนก็ร้องทูลขออาหารต่อฟาโรห์ ฟาโรห์ก็รับสั่งแก่ชาวอียิปต์ทั้งหลายว่า <<ไปหาโยเซฟ ท่านบอกอะไร ก็จงทำตาม>> การกันดารอาหารแผ่ไปทั่วแผ่นดิน โยเซฟก็เปิดฉางออกขายข้าวแก่ชาวอียิปต์ เพราะการกันดารอาหารในแผ่นดินรุนแรงมาก ยิ่งกว่านั้นทั้งโลกก็มายังประเทศอียิปต์หาโยเซฟเพื่อซื้อข้าว เพราะการกันดารอาหารร้ายแรงทั่วโลก
ปฐมกาล 41:41-57 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ดังนั้นฟาโรห์จึงตรัสแก่โยเซฟว่า “บัดนี้เราขอตั้งเจ้าให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์” แล้วฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราประจำพระองค์จากนิ้วมาสวมที่นิ้วของโยเซฟ พระองค์ทรงให้เขาสวมเสื้อคลุมผ้าลินินเนื้อดีและประทานสร้อยคอทองคำแก่เขา ฟาโรห์ให้โยเซฟนั่งรถม้าศึกในฐานะผู้มีอำนาจรองจากพระองค์ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็มีคนคอยร้องประกาศว่า “จงเปิดทาง!” ดังนั้นฟาโรห์จึงทรงแต่งตั้งโยเซฟให้ดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์ ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “แม้ว่าเราคือฟาโรห์ แต่ถ้าเจ้าไม่อนุญาตก็จะไม่มีผู้ใดในแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้” ฟาโรห์ประทานนามแก่โยเซฟว่าศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอนให้เป็นภรรยา และโยเซฟออกตรวจตราทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟมีอายุได้สามสิบปีเมื่อเข้ารับราชการกับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ โยเซฟได้ทูลลาฟาโรห์และออกเดินทางไปปฏิบัติราชการทั่วแผ่นดินอียิปต์ ตลอดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินก็ให้ผลผลิตมากมาย โยเซฟรวบรวมอาหารทั้งหมดที่ผลิตได้ในเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของอียิปต์ และเก็บสะสมไว้ตามเมืองต่างๆ ผลผลิตที่เก็บได้จากนารอบเมืองใด เขาก็ให้เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟเก็บสะสมเมล็ดข้าวได้มหาศาลเหมือนเม็ดทรายในทะเล จนเขาต้องเลิกทำบัญชี เพราะตรวจนับไม่ไหว ก่อนปีกันดารอาหารจะมาถึง โยเซฟได้บุตรชายสองคนซึ่งเกิดจากนางอาเสนัทบุตรีของปุโรหิตโปทิเฟราแห่งเมืองโอน โยเซฟตั้งชื่อบุตรหัวปีว่ามนัสเสห์ เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าลืมความทุกข์ยากทั้งปวงและญาติพี่น้องทั้งหมดในครัวเรือนบิดาของข้าพเจ้า” เขาตั้งชื่อบุตรชายคนที่สองว่าเอฟราอิม เขากล่าวว่า “เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้ามีลูกมีหลานมากมายในดินแดนที่ข้าพเจ้าตกทุกข์ได้ยาก” ในที่สุดเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ก็สิ้นสุดลง และเจ็ดปีแห่งการกันดารอาหารก็เริ่มต้นขึ้นตามที่โยเซฟได้กล่าวไว้ เกิดการกันดารอาหารขึ้นทั่วทุกประเทศ แต่ทั่วแผ่นดินอียิปต์มีอาหาร เมื่อชาวอียิปต์เริ่มได้รับผลกระทบจากการกันดารอาหาร ผู้คนต่างก็มาทูลขออาหารจากฟาโรห์ ฟาโรห์จึงสั่งชาวอียิปต์ทุกคนว่า “จงไปหาโยเซฟและทำตามสิ่งที่เขาบอก” เมื่อการกันดารอาหารขยายไปทั่วประเทศ โยเซฟจึงเปิดคลังขายข้าวให้แก่ชาวอียิปต์ เพราะเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงทั่วทั้งอียิปต์ ทุกประเทศทั่วโลกพากันมายังอียิปต์เพื่อซื้อข้าวจากโยเซฟ เพราะการกันดารอาหารรุนแรงทั่วโลก
ปฐมกาล 41:41-57 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ฟาโรห์จึงพูดกับโยเซฟว่า “เห็นไหม เราได้แต่งตั้งเจ้าให้ดูแลแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” แล้วฟาโรห์ก็ถอดแหวนตราประทับจากมือ สวมเข้าที่มือของโยเซฟ ฟาโรห์ได้เอาผ้าลินินอย่างดีมาสวมใส่ให้โยเซฟ เอาสร้อยคอทองคำมาสวมที่คอของเขา ฟาโรห์ได้ให้โยเซฟนั่งรถม้าคันที่สองของพระองค์ มีคนร้องตะโกนอยู่ข้างหน้าเขาว่า “กราบลง” และฟาโรห์ได้แต่งตั้งให้โยเซฟดูแลแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด ฟาโรห์พูดกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ ในแผ่นดินอียิปต์จะไม่มีใครสามารถกระดิกแขนขาได้ นอกจากเจ้าจะอนุญาต” แล้วฟาโรห์ได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และยกอาเสนัทให้เป็นเมียโยเซฟด้วย อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรา นักบวชเมืองโอน แล้วโยเซฟก็ได้ออกไปจากฟาโรห์ และออกเดินทางไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟมีอายุสามสิบปี เมื่อเขาเริ่มรับใช้ฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ โยเซฟจากฟาโรห์มา และได้เดินทางไปทั่วแผ่นดินอียิปต์ ในช่วงเจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ แผ่นดินได้ให้ผลผลิตอย่างล้นเหลือ ในช่วงเจ็ดปีนั้นที่มีอาหารอย่างล้นเหลือในแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟได้เก็บกักตุนมันไว้ในเมืองต่างๆ อาหารที่เก็บได้จากท้องทุ่งรอบๆเมืองไหนก็จะตุนไว้ในเมืองนั้นๆ ดังนั้นโยเซฟจึงเก็บเมล็ดข้าวมาตุนไว้มากมายเหมือนกับเม็ดทรายที่ทะเล มันมากซะจนชั่งไม่หวั่นไม่ไหวจนต้องหยุดชั่งไป ก่อนที่จะถึงปีแห่งความอดอยากหิวโหย โยเซฟมีลูกชายสองคน อาเสนัทได้คลอดลูกสองคนนี้ให้กับโยเซฟ อาเสนัทเป็นลูกสาวของโปทิเฟรานักบวชเมืองโอน โยเซฟตั้งชื่อลูกชายคนแรกว่า มนัสเสห์ โยเซฟพูดว่า “พระเจ้าทำให้ผมลืมความทุกข์ยากลำบากของผมทั้งสิ้น รวมทั้งทุกคนในครอบครัวของพ่อผม” โยเซฟได้ตั้งชื่อลูกคนที่สองว่าเอฟราอิม โยเซฟพูดว่า “เพราะพระเจ้าได้ทำให้ผมมีลูกหลาน ในแผ่นดินที่ผมได้รับความทุกข์ยากลำบากนี้” เจ็ดปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ในแผ่นดินอียิปต์ได้สิ้นสุดลง และเจ็ดปีแห่งความอดอยากหิวโหยได้เริ่มต้นขึ้นตามที่โยเซฟได้พูดไว้ ความอดอยากหิวโหยได้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ ยกเว้นในแผ่นดินอียิปต์ที่มีอาหารกินกัน เมื่อแผ่นดินอียิปต์เริ่มขาดแคลนอาหาร ประชาชนได้มาร้องขออาหารต่อฟาโรห์ ฟาโรห์บอกชาวอียิปต์ทุกคนว่า “ให้ไปหาโยเซฟและให้ทำตามที่เขาบอกพวกเจ้า” เมื่อความอดอยากหิวโหยได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน โยเซฟจึงเปิดคลังข้าวสาร และขายข้าวให้กับชาวอียิปต์ เพราะความอดอยากหิวโหยนั้นรุนแรงมากในแผ่นดินอียิปต์ และคนทั่วโลกต่างเดินทางมาอียิปต์ เพื่อมาขอซื้อข้าวจากโยเซฟ เพราะความอดอยากหิวโหยรุนแรงไปทั่วโลก
ปฐมกาล 41:41-57 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราให้ท่านอยู่เหนือแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด” ฟาโรห์ทรงถอดแหวนตราออกจากพระหัตถ์ ทรงสวมให้ที่มือโยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และทรงสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้ราชรถคันที่สองที่เป็นของพระองค์ มีคนร้องประกาศข้างหน้าว่า “คุกเข่าลง” ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งท่านให้อยู่เหนือดินแดนอียิปต์ทั้งหมด ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟอีกว่า “เราคือฟาโรห์ เราจะไม่ให้คนทั่วแผ่นดินอียิปต์ยกมือยกเท้าได้ เว้นแต่เจ้าจะอนุญาต” ฟาโรห์ประทานนามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรีโปทิเฟราปุโรหิตเมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปทั่วดินแดนอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้ 30 ปี แล้วท่านก็ออกจากพระพักตร์ฟาโรห์ไปทั่วดินแดนอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น แผ่นดินก็เกิดผลมากมาย โยเซฟสะสมอาหารของทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในดินแดนอียิปต์ไว้หมด เก็บอาหารไว้ในเมืองต่างๆ อาหารที่เกิดขึ้นในที่ดินรอบเมืองใดก็เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเล มากมายจนต้องหยุดนับเพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร โยเซฟมีบุตรชายสองคน ซึ่งนางอาเสนัทบุตรีโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนมีให้ท่าน โยเซฟเรียกลูกหัวปีว่า มนัสเสห์ “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และพงศ์พันธุ์ทั้งหมดของบิดาเสีย” บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม “เพราะว่าพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้ามีพงศ์พันธุ์ทวีขึ้นในดินแดนที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ” เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในดินแดนอียิปต์ก็ล่วงไป จึงเริ่มเกิดการกันดารอาหารเจ็ดปีดังที่โยเซฟทำนายไว้ การกันดารอาหารนั้นเกิดทั่วแคว้นทั้งหลาย แต่ทั่วดินแดนอียิปต์ยังมีอาหารอยู่ เมื่อชาวอียิปต์อดอยาก ประชาชนก็ร้องทูลขออาหารต่อฟาโรห์ ฟาโรห์มีรับสั่งแก่ชาวอียิปต์ทั้งหลายว่า “ไปหาโยเซฟ ท่านบอกอะไร ก็จงทำตาม” การกันดารอาหารแผ่ไปทั่วแผ่นดิน โยเซฟก็เปิดฉางออกขายข้าวแก่ชาวอียิปต์ เพราะการกันดารอาหารในแผ่นดินอียิปต์รุนแรงมาก ยิ่งกว่านั้นทั้งโลกก็มาหาโยเซฟที่อียิปต์เพื่อซื้อข้าว เพราะการกันดารอาหารร้ายแรงไปทั่วโลก
ปฐมกาล 41:41-57 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ฟาโรห์ตรัสกับโยเซฟว่า “ดูเถิด เราตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์แล้ว” ฟาโรห์ทรงถอดธำมรงค์ตราออกจากพระหัตถ์ของพระองค์ สวมที่มือโยเซฟ กับให้สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และสวมสร้อยทองคำให้ที่คอ ให้โยเซฟใช้รถหลวงคันที่สองซึ่งฟาโรห์มีอยู่ และมีคนร้องประกาศข้างหน้าท่านว่า “คุกเข่าลงเถิด” ดังนี้แหละ พระองค์ทรงตั้งท่านให้ดูแลทั่วประเทศอียิปต์ ฟาโรห์จึงตรัสกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ ไม่มีคนทั่วแผ่นดินอียิปต์จะยกมือยกเท้าได้เว้นแต่ท่านจะอนุญาต” ฟาโรห์เรียกนามโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และประทานอาเสนัทบุตรสาวโปทิเฟรา ปุโรหิตเมืองโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟก็ออกไปสำรวจทั่วประเทศอียิปต์ เมื่อโยเซฟเข้าเฝ้าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์นั้น ท่านอายุได้สามสิบปี แล้วโยเซฟก็ออกจากที่เข้าเฝ้าฟาโรห์เที่ยวไปทั่วประเทศอียิปต์ ในเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์นั้น แผ่นดินก็ออกผลมากมาย โยเซฟรวบรวมอาหารทั้งเจ็ดปีซึ่งมีอยู่ในประเทศอียิปต์ไว้หมด สะสมอาหารไว้ในเมืองต่างๆ ผลที่เกิดขึ้นในนารอบเมืองใดๆก็เก็บไว้ในเมืองนั้นๆ โยเซฟสะสมข้าวไว้ดุจเม็ดทรายในทะเลมากมายจนต้องหยุดคิดบัญชี เพราะนับไม่ถ้วน ก่อนถึงปีกันดารอาหาร มีบุตรชายสองคนเกิดแก่โยเซฟ ซึ่งนางอาเสนัทบุตรสาวโปทิเฟราปุโรหิตเมืองโอนบังเกิดให้ท่าน โยเซฟเรียกบุตรหัวปีว่า มนัสเสห์ กล่าวว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวง และวงศ์วานทั้งสิ้นของบิดาเสีย” บุตรที่สองท่านเรียกชื่อว่า เอฟราอิม “เพราะว่าพระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพเจ้ามีเชื้อสายทวีขึ้นในแผ่นดินที่ข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ” เจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ในประเทศอียิปต์ก็ล่วงไป จึงเกิดกันดารอาหารเจ็ดปี ดั่งที่โยเซฟกล่าวไว้ การกันดารอาหารนั้นเกิดทั่วแผ่นดินทั้งหลาย แต่ทั่วประเทศอียิปต์ยังมีอาหารอยู่ เมื่อชาวอียิปต์อดอยากอาหาร ประชาชนก็ร้องทูลขออาหารต่อฟาโรห์ ฟาโรห์ก็รับสั่งแก่ชาวอียิปต์ทั้งหลายว่า “ไปหาโยเซฟ ท่านบอกอะไร ก็จงทำตาม” การกันดารอาหารแผ่ไปทั่วพื้นแผ่นดินโลก โยเซฟก็เปิดฉางออกขายข้าวแก่ชาวอียิปต์ และการกันดารอาหารในแผ่นดินอียิปต์รุนแรงมาก และประเทศทั้งปวงก็มายังประเทศอียิปต์หาโยเซฟเพื่อซื้อข้าว เพราะการกันดารอาหารร้ายแรงในทุกประเทศ
ปฐมกาล 41:41-57 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แล้วฟาโรห์กล่าวกับโยเซฟว่า “ดูเถิด เราได้แต่งตั้งให้เจ้าควบคุมทั่วดินแดนอียิปต์” ครั้นแล้วฟาโรห์ถอดแหวนตราจากนิ้วมือท่าน และสวมให้โยเซฟแทน ให้เขาสวมผ้าป่านเนื้อดี และสวมสร้อยคอทองคำให้ด้วย ฟาโรห์โปรดให้เขาใช้รถศึกส่วนตัวคันที่สองของท่าน และทหารหลวงร้องตะโกนไปล่วงหน้าเขาว่า “คุกเข่าลง” เพื่อแสดงว่าท่านแต่งตั้งโยเซฟให้เป็นผู้ควบคุมดินแดนทั่วอียิปต์ ยิ่งกว่านั้น ฟาโรห์ยังกล่าวกับโยเซฟว่า “เราคือฟาโรห์ เราจะไม่ให้ผู้ใดในดินแดนอียิปต์ยกมือยกเท้าได้เลย นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้า” และฟาโรห์ตั้งชื่อโยเซฟว่า ศาเฟนาทปาเนอาห์ และมอบอาเสนัทบุตรหญิงของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งโอนให้เป็นภรรยา โยเซฟจึงเดินทางไปทั่วดินแดนอียิปต์ โยเซฟมีอายุ 30 ปีเมื่อเริ่มรับใช้ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ หลังจากเข้าเฝ้ากษัตริย์แล้วโยเซฟก็ออกเดินทางไปทั่วดินแดนอียิปต์ ในระยะเวลา 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีผลิตผลมากมายเกิดจากพื้นดิน เขาจึงรวบรวมอาหารจาก 7 ปีที่อุดมในดินแดนอียิปต์ไว้หมดเพื่อเก็บสะสมไว้ อาหารที่เขาได้มาจากไร่นารอบเมืองใดก็เก็บไว้ในเมืองนั้น โยเซฟสะสมธัญพืชไว้เป็นจำนวนมากเทียบเท่าได้กับเม็ดทรายในทะเล จนกระทั่งเขาต้องหยุดคำนวณปริมาณ เพราะมากเกินกว่าที่จะทำได้ ก่อนที่ทุพภิกขภัยจะเกิดขึ้น โยเซฟมีบุตรชาย 2 คนอันเกิดจากอาเสนัทบุตรหญิงของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งโอน โยเซฟพูดว่า “เพราะว่าพระเจ้าได้ช่วยให้ข้าพเจ้าลืมความยากลำบากทั้งปวงและญาติพี่น้องทั้งหลาย” เขาจึงตั้งชื่อบุตรคนแรกว่า มนัสเสห์ เขาตั้งชื่อบุตรคนที่สองว่า เอฟราอิม “เพราะพระเจ้าได้ช่วยให้ข้าพเจ้าเกิดลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ในดินแดนแห่งความทุกข์ยากของข้าพเจ้า” และแล้ว 7 ปีแห่งความอุดมสมบูรณ์ในอียิปต์ก็ยุติลง และ 7 ปีแห่งทุพภิกขภัยก็เริ่มขึ้นตามที่โยเซฟได้พูดไว้ ทุกประเทศประสบความอดอยาก ยกเว้นแต่ในดินแดนของอียิปต์ที่ยังมีขนมปังรับประทาน เมื่อชาวอียิปต์เริ่มอดอยาก ผู้คนต่างก็ร้องขออาหารจากฟาโรห์ และฟาโรห์บอกชาวอียิปต์ทุกคนว่า “จงไปหาโยเซฟ ทำตามที่โยเซฟบอกทุกอย่าง” ดังนั้น เมื่อทุพภิกขภัยแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน โยเซฟจึงเปิดยุ้งฉางทั้งหมดเพื่อขายข้าวให้ชาวอียิปต์ เพราะในเวลานั้นในแผ่นดินอียิปต์ก็เกิดทุพภิกขภัยที่ร้ายแรงอย่างที่สุด และยิ่งกว่านั้นคนจากทุกดินแดนมาหาโยเซฟที่อียิปต์เพื่อซื้อธัญพืช เพราะทั่วโลกเกิดทุพภิกขภัยขึ้นอย่างรุนแรง