ปฐมกาล 8:1-22
ปฐมกาล 8:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่พระเจ้าก็ยังคงระลึกถึงโนอาห์ และบรรดาสัตว์ป่ากับสัตว์ใช้งานทั้งหลายที่อยู่กับโนอาห์ในเรือนั้น แล้วพระเจ้าก็ให้ลมพัดบนแผ่นดินโลก น้ำนั้นก็ค่อยๆลดลง น้ำได้หยุดไหลจากใต้พื้นดิน ท้องฟ้านั้นปิดลง ฝนจากฟ้าก็หยุดตก น้ำจึงค่อยๆลดลงจากแผ่นดิน ในวันที่หนึ่งร้อยห้าสิบ น้ำก็ลดลงเพียงพอ ที่จะให้เรือจอดอยู่บนเทือกเขาอารารัต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด แล้วน้ำก็ค่อยๆลดลง จนถึงเดือนที่สิบ ในวันที่หนึ่งของเดือนที่สิบ ยอดเขาก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมา เมื่อเวลาผ่านไปสี่สิบวัน โนอาห์เปิดหน้าต่างของเรือลำที่เขาสร้างขึ้นนั้น โนอาห์ส่งอีกาตัวหนึ่งออกไป มันบินวนเวียนไปและกลับมาที่เรือ น้ำค่อยๆแห้งลง แล้วโนอาห์ส่งนกพิราบออกไปตัวหนึ่ง เพื่อดูว่าน้ำลดไปจากแผ่นดินหรือยัง แต่นกนั้นยังหาที่เกาะไม่ได้ นกจึงบินกลับมาหาโนอาห์ที่เรืออีก เพราะน้ำยังท่วมแผ่นดินอยู่ โนอาห์ยื่นมือออกไปจับนกนั้น เอามันกลับเข้ามาในเรือ โนอาห์รอต่อไปอีกเจ็ดวัน จึงส่งนกพิราบออกไปจากเรืออีก นกตัวนั้นบินกลับมาหาเขาในเย็นวันนั้น ปากของมันคาบเอาใบมะกอกสดที่เด็ดมาใบหนึ่ง โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำบนแผ่นดินลดลงแล้ว โนอาห์รอต่อไปอีกเจ็ดวัน จึงค่อยส่งนกพิราบออกไปอีกตัวหนึ่ง นกตัวนั้นก็ไม่ได้บินกลับมาหาเขาอีก เมื่อโนอาห์มีอายุหกร้อยหนึ่งปี ในวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง น้ำก็แห้งไปจากแผ่นดิน โนอาห์ได้เปิดประตู เรือออกไปดูข้างนอก และเห็นว่าผืนดินแห้งแล้ว เมื่อถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนที่สอง แผ่นดินก็แห้งสนิท พระเจ้าจึงพูดกับโนอาห์ว่า “ออกไปจากเรือได้แล้ว ทั้งตัวเจ้า เมียของเจ้า ลูกชาย และลูกสะใภ้ของเจ้า นำทุกสิ่งที่มีชีวิตบนเรือออกไปกับเจ้าด้วย สัตว์ทุกชนิด นกต่างๆ สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินทุกชนิด เพื่อพวกมันจะได้อยู่กันจนเต็มแผ่นดิน พวกมันจะมีลูกหลานและจะเพิ่มจำนวนขึ้นบนโลกนี้” โนอาห์กับลูกชาย เมีย และลูกสะใภ้จึงพากันออกจากเรือ สัตว์แต่ละครอบครัวได้พากันเดินออกมาจากเรือ ทั้งสัตว์เลื้อยคลานทุกตัวบนพื้นดินและนกทุกชนิด จากนั้นโนอาห์จึงสร้างแท่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ เขาได้นำนกที่สะอาดทุกชนิดและสัตว์ที่สะอาด ทุกชนิดมา และเอาพวกมันมาเผาถวายบนแท่นบูชานั้น ซึ่งเป็นกลิ่นที่พระยาห์เวห์พอใจมาก พระองค์จึงพูดกับตัวเองว่า “เราจะไม่สาปแช่งแผ่นดินโลกนี้อีกต่อไป เพราะเห็นแก่มนุษย์ มนุษย์นั้นมีความคิดชั่วร้ายตั้งแต่เด็กแล้ว ดังนั้นเราจะไม่มีวันทำลายสิ่งที่มีชีวิตทั้งหมดอย่างที่เราได้ทำไปแล้วนั้นอีก ตราบใดที่โลกนี้ยังอยู่ การเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยว ความเย็นและความร้อน ฤดูร้อนและฤดูหนาว กลางวันและกลางคืน จะไม่มีวันหมดไป”
ปฐมกาล 8:1-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และสัตว์ใช้งานทั้งปวงที่อยู่กับโนอาห์ในเรือ จึงทรงทำให้ลมพัดผ่านมาเหนือแผ่นดิน น้ำก็ลดลง น้ำพุของน้ำบาดาลและช่องฟ้าทั้งหลายก็ปิด ฝนจากฟ้าก็หยุด น้ำก็ลดลงจากแผ่นดินเรื่อยๆ เมื่อล่วงไป 150 วันแล้ว น้ำก็ลดระดับลง ณ วันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด เรือก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต น้ำนั้นลดระดับลงเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่สิบ ในวันที่หนึ่งเดือนที่สิบ ก็เห็นบรรดายอดภูเขา เมื่อครบ 40 วันแล้ว โนอาห์ก็เปิดหน้าต่างที่ทำไว้ในเรือ ปล่อยกาไปตัวหนึ่ง กาก็บินไปและบินกลับมา จนน้ำลดแห้งจากแผ่นดิน โนอาห์ก็ปล่อยนกพิราบตัวหนึ่ง เพื่อดูว่าน้ำลดลงไปจากแผ่นดินแล้วหรือยัง แต่นกพิราบนั้นไม่พบที่ที่จะเกาะได้ จึงบินกลับมาหาโนอาห์ที่เรือเพราะน้ำยังท่วมแผ่นดินอยู่ โนอาห์จึงยื่นมือออกไปจับนกพิราบนั้นมาหาท่านนำเข้าไปในเรือ โนอาห์เฝ้าคอยอยู่อีกเจ็ดวัน จึงปล่อยนกพิราบไปจากเรืออีก เมื่อเวลาเย็นนกพิราบก็กลับมาหาโนอาห์ และคาบใบมะกอกเขียวสดมาด้วย โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำลดจากแผ่นดินแล้ว โนอาห์เฝ้าคอยอยู่อีกเจ็ดวันหลังจากนั้นจึงปล่อยนกพิราบไป นกนั้นไม่กลับมาหาโนอาห์อีกเลย เมื่อถึงวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง ปีที่หกร้อยเอ็ด น้ำก็แห้งจากแผ่นดิน โนอาห์เปิดหลังคาของเรือและมองเห็นว่าพื้นดินแห้ง เมื่อถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนที่สองแผ่นดินก็แห้งแล้ว พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “เจ้าจงออกไปจากเรือ ทั้งภรรยาของเจ้า บุตรชายของเจ้าและบุตรสะใภ้ของเจ้าด้วย จงพาสัตว์ทุกชนิดที่อยู่กับเจ้า ที่มีเลือดเนื้อ คือนก สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดที่คลานบนดินให้ออกไป เพื่อจะได้แพร่พันธุ์ทวีขึ้นมากมายบนแผ่นดิน” โนอาห์ก็ออกไปพร้อมกับบุตร ภรรยา และบุตรสะใภ้ สัตว์ทุกชนิดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมด กับนกและสัตว์ที่เคลื่อนไหวไปมาบนแผ่นดินทั้งหมดก็ออกไปจากเรือตามพันธุ์ของมัน โนอาห์สร้างแท่นบูชาแด่พระยาห์เวห์และเลือกเอาสัตว์ใช้งานที่สะอาด และนกที่สะอาดมาเผาบูชาถวายที่แท่นนั้น พระยาห์เวห์ทรงได้กลิ่นที่พอพระทัยแล้ว ทรงดำริในพระทัยว่า “เราจะไม่สาปแผ่นดินอีกต่อไป แม้ว่ามนุษย์ไม่ดี เพราะเค้าความคิดในใจของมนุษย์ล้วนแต่ร้ายมาตั้งแต่เด็ก เราจะไม่ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอีก ดังที่เราได้ทำแล้วนั้น ตราบที่โลกยังมีอยู่ จะมีฤดูหว่านกับฤดูเกี่ยว มีเย็นกับร้อน มีฤดูร้อนกับฤดูหนาว มีวันและคืนตลอดไป”
ปฐมกาล 8:1-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตและสัตว์ใช้งานทั้งปวงที่อยู่กับท่านในนาวา และพระเจ้าทรงทำให้ลมพัดมาเหนือแผ่นดินโลก และน้ำทั้งปวงก็ลดลง น้ำพุทั้งหลายที่อยู่ใต้บาดาลและช่องฟ้าทั้งปวงก็ปิด และฝนที่ตกจากฟ้าก็หยุด น้ำก็ค่อยๆลดลงจากแผ่นดินโลก และล่วงไปร้อยห้าสิบวันแล้วน้ำก็ลดลง ณ เดือนที่เจ็ดวันที่สิบเจ็ดนาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต น้ำก็ค่อยๆลดลงจนถึงเดือนที่สิบ ในเดือนที่สิบ ณ วันที่หนึ่งของเดือนนั้น ยอดภูเขาต่างๆโผล่ขึ้นมา ต่อจากนั้นอีกสี่สิบวัน โนอาห์ก็เปิดช่องในนาวาที่ท่านได้ทำไว้นั้น ท่านปล่อยกาตัวหนึ่ง ซึ่งมันบินไปมาจนกระทั้งน้ำลดแห้งจากแผ่นดินโลก ท่านจึงปล่อยนกเขาตัวหนึ่งด้วยเพื่อจะรู้ว่าน้ำได้ลดลงจากพื้นแผ่นดินโลกหรือยัง แต่นกเขาไม่พบที่ที่จะจับอาศัยอยู่ได้เพราะน้ำยังท่วมทั่วพื้นแผ่นดินโลกอยู่ มันจึงได้กลับมาหาท่านในนาวา ดังนั้นท่านจึงยื่นมือออกไปจับนกเขาเข้ามาไว้ด้วยกันในนาวา ท่านคอยอยู่อีกเจ็ดวัน ท่านจึงปล่อยนกเขาไปจากนาวาอีกครั้งหนึ่ง ในเวลาเย็นนกเขาก็กลับมายังท่าน ดูเถิด มันคาบใบมะกอกเทศเขียวสดมา ดังนั้นโนอาห์จึงรู้ว่า น้ำได้ลดลงจากแผ่นดินโลกแล้ว ท่านคอยอยู่อีกเจ็ดวัน และปล่อยนกเขาออกไป แล้วมันไม่กลับมาหาท่านอีกเลย ต่อมาปีที่หกร้อยเอ็ดเดือนที่หนึ่งวันที่หนึ่งของเดือนนั้นน้ำก็แห้งจากแผ่นดินโลก โนอาห์ก็เปิดหลังคาของนาวาและมองดู ดูเถิด พื้นแผ่นดินแห้งแล้ว ในเดือนที่สองวันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนนั้นแผ่นดินโลกก็แห้งสนิท พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “จงออกไปจากนาวา ทั้งเจ้า ภรรยา บุตรชาย และบุตรสะใภ้ทั้งหลายของเจ้า จงพาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่ด้วยกันกับเจ้า คือบรรดาเนื้อหนัง ทั้งนก สัตว์ใช้งาน และสัตว์เลื้อยคลานทั้งปวงที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลกให้ออกมา เพื่อพวกมันจะทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลก และมีลูกดกทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลก” โนอาห์จึงออกไป พร้อมทั้งบุตรชาย ภรรยา และบุตรสะใภ้ทั้งหลายที่อยู่กับท่าน สัตว์ป่าทั้งปวง บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน นกทั้งปวง และทุกสิ่งที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลกตามชนิดของพวกมันออกไปจากนาวา โนอาห์ก็สร้างแท่นบูชาแด่พระเยโฮวาห์ และเอาบรรดาสัตว์ที่สะอาดและบรรดานกที่สะอาดถวายเป็นเครื่องเผาบูชาที่แท่นนั้น พระเยโฮวาห์ได้ดมกลิ่นหอมหวาน และพระเยโฮวาห์ทรงดำริในพระทัยว่า “เราจะไม่สาปแช่งแผ่นดินอีกเพราะเหตุมนุษย์ ด้วยว่าเจตนาในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายตั้งแต่เด็กมา เราจะไม่ประหารสิ่งทั้งปวงที่มีชีวิตอีกเหมือนอย่างที่เราได้กระทำแล้วนั้น ในขณะที่โลกยังดำรงอยู่นั้น จะมีฤดูหว่านฤดูเก็บเกี่ยว เวลาเย็นเวลาร้อน ฤดูร้อนฤดูหนาว กลางวันกลางคืนต่อไป”
ปฐมกาล 8:1-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์กับบรรดาสัตว์ป่า และสัตว์ใช้งานที่อยู่กับโนอาห์ในนาวา จึงทรงทำให้ลมพัดมาเหนือแผ่นดิน น้ำก็ลดลง ตาน้ำทั้งหลายของน้ำบาดาลและช่องฟ้า ทั้งหมดก็ปิด ฝนจากฟ้าก็หยุด น้ำก็ลดลงจากแผ่นดินเรื่อยไป เมื่อล่วงไปหนึ่งร้อยห้าสิบวันแล้วน้ำก็ลดลง ณ วันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด นาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต น้ำนั้นลดลงเรื่อยไปจนถึงเดือนที่สิบ ในวันที่หนึ่งเดือนที่สิบ ยอดภูเขาก็โผล่ขึ้นมา เมื่อครบสี่สิบวันแล้ว โนอาห์ก็เปิดหน้าต่างที่ทำไว้ในนาวา ปล่อยกาไปตัวหนึ่ง กาก็บินไปมาจนน้ำลดแห้งจากแผ่นดิน โนอาห์ก็ปล่อยนกพิราบตัวหนึ่ง เพราะอยากรู้ว่าน้ำลดลงหมดไปจากแผ่นดินแล้วหรือยัง แต่นกพิราบนั้นไม่พบที่ที่จะจับอาศัยอยู่ได้ เพราะน้ำยังท่วมพื้นแผ่นดินอยู่ จึงบินกลับมาหาโนอาห์ที่นาวา โนอาห์จึงยื่นมือออกไปจับนกพิราบนั้น เข้ามาไว้ด้วยกันในนาวา โนอาห์คอยอยู่อีกเจ็ดวัน จึงปล่อยนกพิราบไปจากนาวาอีก ครั้นเวลาเย็นนกพิราบก็กลับมายังโนอาห์ และคาบใบมะกอกเทศเขียวสดมา โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำลดจากแผ่นดินแล้ว โนอาห์คอยอยู่อีกเจ็ดวันจึงปล่อยนกพิราบไป นกนั้นไม่กลับมาหาโนอาห์อีกเลย เมื่อถึงวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง ปีที่หกร้อยเอ็ด น้ำก็แห้งจากแผ่นดิน โนอาห์เปิดหลังคาที่ปิดนาวาแลดูเห็นว่าพื้นดินแห้ง ครั้นถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนที่สองแผ่นดินก็แห้งแล้ว พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า <<เจ้าจงออกไปจากนาวาเถิด ทั้งภรรยาของเจ้าบุตรชายของเจ้า และบุตรสะใภ้ของเจ้าด้วย จงพาสรรพสัตว์ที่มีชีวิต ที่อยู่กับเจ้าทุกชนิด คือนก สัตว์และสัตว์เลื้อยคลานให้ออกมา เพื่อจะได้เกิดพืชพันธุ์มากมายทวีขึ้นบนแผ่นดิน>> โนอาห์ก็ออกไปพร้อมกับบุตรภรรยาและบุตรสะใภ้ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตและทุกสิ่งที่เลื้อยคลาน กับบรรดานกและสัตว์ที่เคลื่อนไหวไปมา บนแผ่นดินก็ออกไปจากนาวาตามพันธุ์ของมัน โนอาห์สร้างแท่นบูชาพระเจ้าและเลือกเอาสัตว์ และนกประเภทไม่มลทินบางตัวมาเผาบูชาถวายที่แท่นนั้น พระเจ้าทรงได้กลิ่นที่พอพระทัยแล้ว ทรงดำริในพระทัยว่า <<เราจะไม่สาปแผ่นดินอีกต่อไป แม้ว่ามนุษย์ไม่ดี ถึงเค้าความคิดในใจของมนุษย์ล้วนแต่ชั่วตั้งแต่เด็กมา เราจะไม่ประหารสิ่งทั้งหลายที่มีชีวิตเหมือนอย่างที่ เราได้กระทำแล้วนั้นอีก โลกยังดำรงอยู่ตราบใด จะมีฤดูหว่านกับฤดูเกี่ยว เวลาเย็นกับเวลาร้อน ฤดูร้อนกับฤดูหนาว และมีวันและคืนเรื่อยไปตราบนั้น>>
ปฐมกาล 8:1-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์และสัตว์ป่ากับสัตว์ใช้งานทุกชนิดที่อยู่กับเขาในเรือ พระองค์ทรงบันดาลให้กระแสลมพัดเหนือแผ่นดิน แล้วน้ำก็ลดลง ตาน้ำบาดาลและประตูน้ำแห่งฟ้าสวรรค์ก็ถูกปิดและฝนก็หยุดตกจากฟ้า น้ำจึงลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง 150 วันผ่านไป และในวันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด เรือก็มาค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต น้ำลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่หนึ่งของเดือนที่สิบ ยอดเขาอื่นๆ ก็ปรากฏให้เห็น หลังจากนั้นอีกสี่สิบวัน โนอาห์เปิดหน้าต่างเรือ และปล่อยกาตัวหนึ่งออกไป มันบินวนเวียนไปมาจนถึงเวลาที่น้ำแห้งไปจากแผ่นดินโลก เขาจึงปล่อยนกพิราบออกไปตัวหนึ่งเพื่อดูว่าน้ำลดจนถึงผิวดินแล้วหรือไม่ แต่นกพิราบไม่พบที่ที่จะเกาะเพราะว่าระดับน้ำยังสูงอยู่ จึงกลับมาหาโนอาห์ที่เรือ โนอาห์ก็ยื่นมือออกรับนกพิราบเข้ามาในเรือดังเดิม เขาคอยอีกเจ็ดวัน แล้วปล่อยนกพิราบออกไปจากเรืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อนกพิราบกลับมาหาเขาในตอนเย็น มันคาบใบมะกอกเขียวสดมาด้วย โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำลดลงจากแผ่นดินแล้ว เขาคอยอีกเจ็ดวันแล้วปล่อยนกพิราบออกไปอีก แต่คราวนี้มันไม่ได้กลับมาหาเขา เมื่อวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งในปีที่โนอาห์มีอายุ 601 ปี น้ำก็แห้ง โนอาห์เปิดหลังคาเรือออกมาดูก็เห็นว่าพื้นดินแห้งแล้ว พอถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนที่สอง แผ่นดินก็แห้งสนิท แล้วพระเจ้าตรัสกับโนอาห์ว่า “เจ้า ภรรยาของเจ้า บรรดาบุตรชายและบุตรสะใภ้ของเจ้า จงออกจากเรือ จงนำสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่กับเจ้าออกมาด้วย ทั้งนก สัตว์ต่างๆ สัตว์ที่เลื้อยคลาน เพื่อพวกมันจะได้ออกลูกออกหลานและทวีจำนวนขึ้นในโลก” ดังนั้นโนอาห์จึงออกมาพร้อมกับบุตรชาย รวมทั้งภรรยาและบุตรสะใภ้ของเขา สัตว์ทั้งปวง สัตว์ที่เลื้อยคลานทั้งปวง นกทั้งปวง คือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกต่างทยอยออกจากเรือทีละชนิด หลังจากนั้นโนอาห์สร้างแท่นบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและถวายสัตว์และนกที่ไม่เป็นมลทินจำนวนหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาบนแท่นนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้กลิ่นอันเป็นที่พอพระทัยและทรงดำริว่า “เราจะไม่สาปแช่งแผ่นดินเพราะมนุษย์อีกต่อไป ถึงแม้ว่าจิตใจของมนุษย์จะโน้มเอียงไปในทางชั่วตั้งแต่วัยเด็ก แต่เราจะไม่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอย่างที่เราได้ทำในคราวนี้อีก “ตราบใดที่โลกยังคงอยู่ ตราบนั้นจะมีฤดูหว่านและฤดูเก็บเกี่ยว ความหนาวเย็นและความร้อน ฤดูร้อนและฤดูหนาว วันและคืน อยู่เรื่อยไป”
ปฐมกาล 8:1-22 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แต่ว่าพระเจ้าระลึกถึงโนอาห์ สัตว์ป่า และสัตว์เลี้ยงทั้งปวงที่อยู่กับเขาในเรือใหญ่ จึงทำให้เกิดลมพัดบนแผ่นดินโลก และระดับน้ำก็ลดลง บ่อน้ำพุแห่งห้วงน้ำลึกและประตูน้ำในฟ้าสวรรค์ถูกปิด ฝนจากท้องฟ้าก็หยุด น้ำบนแผ่นดินโลกก็ลดระดับลงไปเรื่อยๆ หลังจาก 150 วันแล้ว ระดับน้ำก็ลดต่ำลง ในวันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด เรือใหญ่ได้ลอยไปเกยตื้นอยู่บนเทือกเขาอารารัต น้ำลดระดับลงไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่สิบ วันแรกของเดือนที่สิบ ยอดเขาเริ่มโผล่ให้เห็น สี่สิบวันต่อมา โนอาห์เปิดหน้าต่างเรือใหญ่ที่เขาทำไว้ และปล่อยอีกาตัวหนึ่งออกไป มันบินไปมาจนกระทั่งน้ำแห้งไปจากแผ่นดินโลก แล้วโนอาห์ก็ปล่อยนกพิราบตัวหนึ่งให้ออกไป เพื่อดูว่าน้ำลดถึงผิวดินแล้วหรือยัง แต่นกพิราบไม่มีที่เกาะ จึงบินกลับมาหาเขาที่เรือใหญ่ เพราะว่าน้ำยังท่วมทั่วผิวแผ่นดินโลกอยู่ ดังนั้นเขาจึงยื่นมือให้นกเกาะและนำกลับเข้ามาอยู่ในเรือใหญ่กับเขาอีก เขารอต่อไปอีก 7 วัน จึงได้ปล่อยให้นกพิราบบินออกไปจากเรือใหญ่อีกครั้ง และนกก็กลับมาหาเขาในเวลาเย็น ดูเถิด มันคาบใบมะกอกเขียวสดที่จิกมาได้ โนอาห์จึงทราบว่าน้ำได้ลดลงจากแผ่นดินแล้ว เขารอต่อไปอีก 7 วัน ครั้งนี้เมื่อเขาปล่อยนกพิราบออกไป มันไม่ได้บินกลับมาหาเขาอีกเลย โนอาห์อายุได้ 601 ปี ในวันแรกของเดือนที่หนึ่ง น้ำได้แห้งเหือดไปจากแผ่นดินโลก โนอาห์จึงเปิดช่องหลังคาเรือใหญ่ออกและสังเกตเห็นว่าผิวดินแห้งแล้ว วันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนที่สอง แผ่นดินโลกแห้งสนิท แล้วพระเจ้ากล่าวกับโนอาห์ว่า “จงออกไปจากเรือใหญ่ เจ้าจงให้ภรรยาของเจ้า บุตรชายและบุตรสะใภ้ของเจ้าไปกับเจ้า พาสัตว์ป่าทั้งปวงที่อยู่กับเจ้าไปด้วย สัตว์ที่มีชีวิตอย่างพวกนก สัตว์เลี้ยง และสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเลื้อยได้บนดิน เพื่อจะได้แพร่พันธุ์ออกไปบนแผ่นดินโลก ให้มีลูกดกเพื่อทวีจำนวนขึ้นบนแผ่นดิน” แล้วโนอาห์ก็ออกไป บุตรชาย ภรรยา และบุตรสะใภ้ก็ตามเขาไปด้วย สัตว์ป่าทั้งหมด สัตว์เลื้อยคลาน นกทุกชนิด และทุกสิ่งที่คลานบนดินก็ออกไปจากเรือใหญ่เป็นหมู่ตามชนิดของมัน ครั้นแล้ว โนอาห์ก็สร้างแท่นบูชาถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า และเลือกเอาสัตว์ที่สะอาดบางตัวในกลุ่มสัตว์เลี้ยงและนก ไปเผาที่แท่นบูชาเป็นของถวาย เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้กลิ่นหอมอันน่าพอใจ พระผู้เป็นเจ้าคิดว่า “เราจะไม่สาปแช่งพื้นดินเพราะมนุษย์อีก ถึงแม้ว่ามนุษย์มีจิตใจชั่วร้ายตั้งแต่เยาว์วัย และเราจะไม่ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเหมือนกับที่เราได้ทำไปแล้วอีก ตราบที่แผ่นดินโลกยังคงอยู่ ฤดูกาล เช่นฤดูหว่านเมล็ดกับฤดูเก็บเกี่ยว วันเวลาที่เหน็บหนาวและร้อนระอุ ฤดูร้อนกับฤดูหนาว วันและคืน ก็จะไม่มีวันหยุดลง”