โฮเชยา 10:3-15
โฮเชยา 10:3-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วพวกเขาจะพูดว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ได้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ถึงเรามีกษัตริย์ พวกเขาจะทำอะไรให้เราได้?” พวกเขาสัญญาไว้มากมาย ทำข้อตกลง และสาบานเท็จ ฉะนั้นการฟ้องร้องคดีจึงงอกงาม เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในทุ่งนาที่ไถแล้ว ประชาชนที่อาศัยในสะมาเรีย กลัวเทวรูปลูกวัวที่เบธอาเวน คนของพระนั้นจะคร่ำครวญถึงมัน ปุโรหิตผู้ลุ่มหลงมันก็เช่นกัน และบรรดาผู้ที่ชื่นชมในความโอ่อ่าตระการของพระนั้นก็เป็นไปด้วย เพราะมันจะถูกเนรเทศออกไป มันจะถูกนำไปอัสซีเรีย เป็นเครื่องบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้เกรียงไกร เอฟราอิมจะอับอายขายหน้า อิสราเอลจะอดสูเนื่องด้วยเทวรูปซึ่งทำด้วยไม้ของพวกเขา สะมาเรียและกษัตริย์ของมันจะลอยหายไป เหมือนเศษไม้ที่อยู่บนผิวน้ำ เทวสถานแห่งความชั่วร้ายซึ่งอยู่บนที่สูงของอิสราเอลจะถูกทำลาย มันเป็นบาปของอิสราเอล พืชหนามจะงอกขึ้น ปกคลุมแท่นบูชาของเขา แล้วพวกเขาจะกล่าวแก่ภูเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด!” และบอกเนินเขาทั้งหลายว่า “ล้มมาทับเราเถิด!” “อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปมาตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ และเจ้ายังทำอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา สงครามไม่ได้เล่นงานคนทำชั่ว ในกิเบอาห์หรอกหรือ? เมื่อเราเห็นชอบ เราจะลงโทษพวกเขา ชนชาติต่างๆ จะรวมตัวกันต่อสู้พวกเขา คุมขังพวกเขาเนื่องด้วยบาปซ้อนบาปของพวกเขา เอฟราอิมเป็นวัวสาวที่ฝึกปรือแล้ว มันชอบนวดข้าว ฉะนั้นเราจะวางแอก บนคออันสวยงามของมัน เราจะลงประตักใส่เอฟราอิม ยูดาห์ต้องลากคันไถ และยาโคบต้องไถพรวนดิน จงหว่านความชอบธรรมเพื่อตัวเจ้าเอง จงเก็บเกี่ยวผลแห่งความรักมั่นคง จงไถพรวนเนื้อดินที่ยังแข็งกระด้างของเจ้า เพราะถึงเวลาที่จะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา และโปรยความชอบธรรมลงบนพวกเจ้าดั่งสายฝน แต่เจ้ากลับปลูกความชั่วช้า เจ้าเก็บเกี่ยวความอธรรม เจ้ากินผลแห่งการหลอกลวง เพราะเจ้าพึ่งกำลังตัวเอง เจ้าพึ่งนักรบมากมายของเจ้า เสียงโห่ร้องของสงครามจะดังขึ้นสู้คนของเจ้า ดังนั้นป้อมปราการทั้งหลายของเจ้าจะถูกทำลายย่อยยับ เมื่อแม่ทั้งหลายกับลูกๆ ของนางจะถูกจับฟาดกับพื้น ก็จะเป็นเหมือนอย่างชัลมันทำลายล้างเบธอาร์เบลในยามศึก เบธเอลเอ๋ย มันจะเกิดขึ้นกับเจ้าอย่างนั้นแหละ เพราะเจ้าชั่วร้ายยิ่งนัก เมื่อรุ่งอรุณวันนั้นเริ่มขึ้น กษัตริย์อิสราเอลจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
โฮเชยา 10:3-15 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในไม่ช้าพวกเขาจะพูดว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ได้ยำเกรงพระยาห์เวห์ แต่ถึงจะมีกษัตริย์ กษัตริย์จะมาช่วยอะไรพวกเราได้” พวกเขาให้คำมั่นสัญญา แต่ไม่รักษาคำพูด ผิดคำสาบาน คดีฟ้องร้องผุดขึ้นเหมือนวัชพืชที่มีพิษผุดตามร่องรอยไถในทุ่งนา ชาวเมืองสะมาเรียกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับรูปปั้นลูกวัวที่เบธาเวน พวกเขาจะไว้ทุกข์ให้กับมัน พวกนักบวชของรูปปั้นนั้นก็จะไว้ทุกข์ให้กับมันด้วย พวกเขาจะเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด เพราะศักดิ์ศรีของรูปปั้นนั้นถูกหามไปพร้อมกับเชลยแล้ว มันจะถูกหามไปเป็นของขวัญให้กับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอัสซีเรีย เอฟราอิมจะอับอาย และอิสราเอลจะขายหน้าเพราะรูปปั้นของมัน กษัตริย์ของสะมาเรียจะหายไป เหมือนกับขี้เลื่อยบนผิวน้ำ พวกศาลเจ้าของอาเวน ที่อิสราเอลไปทำบาปกัน จะถูกทำลาย จะมีพวกต้นหนามและพืชที่มีหนามขึ้นปกคลุมแท่นบูชาต่างๆของพวกเขา แล้วพวกเขาจะบอกกับภูเขาทั้งหลายว่า “ปกคลุมเราไว้เถิด” และบอกกับเนินเขาต่างๆว่า “ช่วยล้มทับพวกเราด้วย” พระยาห์เวห์พูดว่า “อิสราเอล เจ้าได้ทำบาปตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมืองที่กิเบอาห์ และที่นั่น พวกเจ้าก็ติดเป็นนิสัยมา สงครามจะต้องเกิดขึ้นกับคนชั่วอย่างพวกเจ้าแน่ เราจะมาตีสอนพวกเขา ชนชาติต่างๆจะรวมตัวกันต่อสู้กับพวกเขา ในเวลาที่เราตีสอนพวกเขาเพราะทำผิดซ้ำสอง เอฟราอิมเคยเป็นวัวสาวที่ได้รับการฝึกฝนมา มันชอบนวดข้าว และเราเป็นผู้ที่สังเกตเห็นคออันงดงามของมัน เราจะให้เอฟราอิมแบกแอกไว้ ยูดาห์จะต้องไถ ยาโคบจะต้องพรวนดินด้วยตัวเอง” ให้หว่านความถูกต้องยุติธรรมเพื่อตน แล้วเจ้าจะได้เก็บเกี่ยวความเมตตาปรานี ให้ไถดินที่ว่างเปล่าอยู่ เพราะถึงเวลาแล้วที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา และโปรยฝนแห่งความดีลงมาบนเจ้า แต่พวกเจ้าไถความชั่วร้าย เจ้าเก็บเกี่ยวความอธรรม เจ้ากินผลไม้แห่งการหลอกลวง เจ้าไว้วางใจในความสามารถของตนเอง เจ้าไว้วางใจในจำนวนนักรบของเจ้า ดังนั้นเสียงอึกทึกของสงครามจะดังขึ้นมาต่อสู้กับคนของเจ้า และพวกป้อมปราการของเจ้าจะถูกทำลายลง เหมือนตอนที่กษัตริย์ชัลมัน ทำลายเมืองเบธอาร์เบลในช่วงสงคราม พวกแม่ๆจะถูกฟาดลงจนไม่มีชิ้นดีไปพร้อมกับลูกๆของเขา เรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าที่เบธเอล เพราะความชั่วอันยิ่งใหญ่ของพวกเจ้า กษัตริย์ของอิสราเอลจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบตั้งแต่เช้าของวันนั้น
โฮเชยา 10:3-15 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
คราวนี้เขาจะพูดเป็นแน่ว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ยำเกรงพระยาห์เวห์ แล้วกษัตริย์จะทำประโยชน์อะไรแก่เราบ้างเล่า?” เขาพูดพล่อยๆ เขาทำพันธสัญญาด้วยคำสาบานเท็จ ความยุติธรรมกลายเป็นเหมือนหญ้าพิษที่งอกขึ้น ตามรอยไถในทุ่งนา ชาวเมืองสะมาเรียก็กลัว เพราะรูปลูกวัวที่เบธาเวน ประชาชนจะเศร้าโศกเพราะรูปนั้น และปุโรหิตของรูปเคารพจะร้องไห้เพราะรูปนั้น เพราะศักดิ์ศรีที่หมดไปจากรูปนั้น เออ รูปเคารพนั้นเองก็จะต้องถูกนำไปยังอัสซีเรีย เป็นบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอฟราอิมจะได้รับความอัปยศ อิสราเอลจะรู้สึกอับอายเพราะแผนการของตน กษัตริย์ของสะมาเรียจะพินาศ เหมือนเศษไม้ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ปูชนียสถานสูงของเมืองอาเวนอันเป็นบาปของอิสราเอล จะต้องถูกทำลาย ต้นหนามและพืชมีหนามงอกขึ้นบนแท่นบูชาของเขา เขาจะร้องบอกกับภูเขาว่า จงปกคลุมเราไว้ และร้องบอกเนินเขาว่า จงล้มทับเราเถิด โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าทำบาปตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ เขายังทำเรื่อยมา สงครามจะไม่มาทันบุตรแห่งความอยุติธรรมในกิเบอาห์หรือ? เราตั้งใจจะลงโทษเขา ชนชาติทั้งหลายจะประชุมกันสู้เขา เมื่อเขาถูกมัดเพราะความผิดสองประการของเขา เอฟราอิมเป็นโคสาวที่ได้รับการฝึก มันชอบนวดข้าว เราจึงวางแอกบนคออันงามของมัน เราจะให้เอฟราอิมลาก ยูดาห์ก็ต้องไถ ยาโคบต้องคราดสำหรับตนเอง จงหว่านความชอบธรรมไว้สำหรับตัวเจ้า จงเกี่ยวผลของความรักมั่นคง เจ้าจงไถดินที่ร้างอยู่ เพราะเป็นเวลาที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์ เพื่อพระองค์จะเสด็จมาโปรยความชอบธรรมแก่เจ้า เจ้าทั้งหลายได้ไถความชั่วมาแล้ว เจ้าทั้งหลายได้เกี่ยวความผิดบาป เจ้าได้รับประทานผลของการโกหก เพราะว่าเจ้าวางใจในทางของเจ้า และในจำนวนพลรบ เพราะฉะนั้นเสียงสงครามจะเกิดขึ้นท่ามกลางชนชาติของเจ้า ป้อมปราการทั้งสิ้นของเจ้าจะถูกทำลาย อย่างกับกษัตริย์ชัลมันทำลายเมืองเบธาร์เบลในวันสงคราม แม่ถูกฟาดลงอย่างยับเยินพร้อมกับลูกๆ โอ เบธเอลเอ๋ย เขาจะทำกับเจ้าเช่นนี้ เพราะความชั่วร้ายใหญ่หลวงของเจ้า ในเวลารุ่งเช้า กษัตริย์อิสราเอลจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
โฮเชยา 10:3-15 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
คราวนี้เขาจะพูดเป็นแน่ว่า “เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ยำเกรงพระเยโฮวาห์ หากเรามีกษัตริย์ ท่านจะทำประโยชน์อะไรให้แก่เราบ้าง” เขาพูดพล่อยๆ เขาทำพันธสัญญาด้วยคำปฏิญาณลมๆแล้งๆ การพิพากษาจึงงอกงามขึ้นมาเหมือนดีหมีอยู่ในร่องรอยไถที่ในทุ่งนา ชาวสะมาเรียจะหวาดกลัวเพราะเหตุลูกวัวที่เบธาเวน คนที่นั่นจะไว้ทุกข์เพราะรูปนั้น และปฏิมากรปุโรหิตของที่นั่นซึ่งเคยชื่นชมยินดีกับรูปนั้นก็จะพิลาปร่ำไห้ เพราะเหตุสง่าราศีที่หมดไปจากรูปนั้น เออ รูปเคารพนั้นเองก็จะต้องถูกนำไปยังอัสซีเรีย เป็นบรรณาการแก่กษัตริย์เยเร็บ เอฟราอิมจะได้รับความอัปยศ และอิสราเอลจะรู้สึกอับอายขายหน้าเหตุแผนการของเขา สำหรับสะมาเรีย กษัตริย์ของเขาจะมลายไปเหมือนฟองที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ปูชนียสถานสูงของเมืองอาเวน อันเป็นบาปของอิสราเอล จะต้องถูกทำลาย ต้นไม้ที่มีหนามและผักที่มีหนามจะงอกขึ้นบนแท่นบูชาของเขา เขาจะร้องบอกกับภูเขาว่า “จงปกคลุมเราไว้” และร้องบอกเนินเขาว่า “จงล้มทับเราเถิด” โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้กระทำบาปตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ เขายังหยัดอยู่อย่างนั้น สงครามในกิเบอาห์ไม่มาทันลูกหลานแห่งความชั่วช้า เราประสงค์จะลงโทษพวกเขา ชนชาติทั้งหลายจะประชุมกันสู้เขา เมื่อเขามัดตัวเองไว้ในรอยไถสองแถวของเขา เอฟราอิมเป็นวัวสาวที่ได้รับการสอน มันชอบนวดข้าว เราจึงหวงคออันงามของมันไว้ แต่เราจะเอาเอฟราอิมเข้าเทียมแอก ยูดาห์ก็ต้องไถ ยาโคบต้องคราดสำหรับตนเอง จงหว่านความชอบธรรมไว้สำหรับตัว จงเกี่ยวผลของความเมตตา เจ้าจงไถดินที่ร้างอยู่ เพราะเป็นเวลาที่จะแสวงหาพระเยโฮวาห์ จนกระทั่งพระองค์จะเสด็จมาโปรยความชอบธรรมลงให้แก่เจ้า เจ้าทั้งหลายได้ไถความชั่วมา แล้วเจ้าทั้งหลายได้เกี่ยวความชั่วช้า เจ้าได้รับประทานผลของการมุสา ด้วยเหตุว่าเจ้าวางใจในทางของเจ้าและในจำนวนพลรบของเจ้า เหตุฉะนั้นเสียงสงครามจึงจะเกิดขึ้นท่ามกลางชนชาติของเจ้า ป้อมปราการทั้งสิ้นของเจ้าจะถูกทำลายอย่างกับกษัตริย์ชัลมันทำลายเมืองเบธาร์เบลในวันสงคราม พวกแม่ถูกฟาดลงอย่างยับเยินพร้อมกับลูกของนาง เมืองเบธเอลจะกระทำแก่เจ้าเช่นนี้แหละเพราะความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งของเจ้า ในรุ่งเช้าวันหนึ่งกษัตริย์อิสราเอลจะถูกตัดขาดเสียหมดสิ้น
โฮเชยา 10:3-15 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
คราวนี้เขาจะพูดเป็นแน่ว่า <<เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ยำเกรงพระเจ้า หากเรามีกษัตริย์ ท่านจะทำประโยชน์อะไรให้แก่เราบ้าง>> เขาพูดพล่อยๆ เขาทำพันธสัญญาด้วยคำสาบานลมๆแล้งๆ การพิพากษาจึงงอกงามขึ้นมาเหมือนดีหมี อยู่ในร่องรอยไถที่ในทุ่งนา ชาวสะมาเรียก็ตัวสั่น เพราะเหตุลูกวัวที่เบธาเวน โยมวัวจะไว้ทุกข์เพราะรูปนั้น และปฏิมากรปุโรหิตจะพิลาปเพราะรูปนั้น เพราะเหตุศักดิ์ศรีที่หมดไปจากรูปนั้น เออ รูปเคารพนั้นเองก็จะต้องถูกนำไปยังอัสซีเรีย เป็นบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอฟราอิมจะได้รับความอัปยศ อิสราเอลจะรู้สึกอับอายขายหน้าเหตุแผนการของเขา กษัตริย์ของสะมาเรียจะพินาศ เหมือนเศษไม้ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ปูชนียสถานสูงของเมืองอาเวนอันเป็นบาปของอิสราเอล จะต้องถูกทำลาย ต้นไม้และพืชที่มีหนามงอกขึ้นบนแท่นบูชาของเขา เขาจะร้องบอกกับภูเขาว่า จงปกคลุมเราไว้ และร้องบอกเนินเขาว่า จงล้มทับเราเถิด โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้กระทำบาปตั้งแต่สมัย กิเบอาห์ เขายังกระทำเรื่อยมา สงครามจะไม่มาทันเขาที่ในกิเบอาห์หรือ เราจะมาลงโทษทรชน ชนชาติทั้งหลายจะประชุมกันสู้เขา เมื่อเขาถูกมัดเพราะความผิดสองประการของเขา เอฟราอิมเป็นโคสาวที่ได้รับการสอน มันชอบนวดข้าว เราจึงหวงคออันงามของมันไว้ แต่เราจะเอาเอฟราอิมเข้าเทียมแอก ยูดาห์ก็ต้องไถ ยาโคบต้องคราดสำหรับตนเอง จงหว่านความชอบธรรมไว้สำหรับตัว จงเกี่ยวผลของความรักมั่นคง เจ้าจงไถดินที่ร้างอยู่ เพราะเป็นเวลาที่จะแสวงหาพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะเสด็จมาโปรยความรอดลงให้แก่เจ้า เจ้าทั้งหลายได้ไถความชั่วมาแล้ว เจ้าทั้งหลายได้เกี่ยวความผิดบาป เจ้าได้รับประทานผลของการมุสา ด้วยเหตุว่าเจ้าวางใจในรถรบของเจ้า และในจำนวนพลรบของเจ้า เหตุฉะนั้นเสียงสงครามจึงจะเกิดขึ้น ท่ามกลางชนชาติของเจ้า ป้อมปราการทั้งสิ้นของเจ้าจะถูกทำลาย อย่างกับกษัตริย์ชัลมันทำลายเมืองเบธาร์เบลในวันสงคราม พวกแม่ถูกฟาดลงอย่างยับเยินพร้อมกับลูกของนาง โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เขาจะกระทำแก่เจ้าเช่นนี้แหละ เพราะความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งของเจ้า ในเวลารุ่งเช้า กษัตริย์อิสราเอลจะถูกตัดขาดเสียหมดสิ้น
โฮเชยา 10:3-15 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แล้วพวกเขาจะพูดดังนี้ว่า “พวกเราไม่มีกษัตริย์ เพราะพวกเราไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า แต่ถึงแม้ว่า พวกเราจะมีกษัตริย์ ท่านจะทำสิ่งใดให้พวกเราได้” พวกเขาเพียงแต่พูดด้วยถ้อยคำ ทำพันธสัญญาด้วยคำสาบานลวง ดังนั้น การตัดสินโทษปรากฏขึ้น เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในไร่นา ตามร่องที่ไถคราดไว้ บรรดาผู้อยู่อาศัยของสะมาเรียกลัวจนตัวสั่น เพราะรูปเคารพลูกโคของเบธอาเวน ประชาชนของที่แห่งนั้นร้องรำพันถึงรูปเคารพนั้น และบรรดาปุโรหิตที่บูชารูปเคารพ ก็จะร้องรำพันถึงความเรืองรองของมันเช่นกัน เพราะมันได้ไปจากพวกเขาแล้ว สิ่งนั้นจะถูกแบกไปยังอัสซีเรีย เป็นเช่นของกำนัลแก่กษัตริย์ยาเรบ เอฟราอิมจะรับความอัปยศ และอิสราเอลจะละอายในรูปเคารพของเขา กษัตริย์แห่งสะมาเรียจะเป็นอย่างกิ่งไม้ ลอยไปบนผิวน้ำ สถานบูชาบนภูเขาสูงของอาเวน ซึ่งเป็นบาปของอิสราเอลจะถูกทำให้พินาศ พุ่มไม้หนามและพืชพันธุ์ไม้มีหนาม จะงอกโตที่แท่นบูชาของพวกเขา และพวกเขาจะพูดกับภูเขาดังนี้ว่า “กลบตัวเราเถิด” และพูดกับเนินเขาว่า “กลิ้งลงมาทับเราเถิด” “โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ และพวกเขาก็ยังยืนหยัดต่อไป สงครามไม่ได้กำจัดคนชั่ว ในกิเบอาห์หรอกหรือ เราจะลงโทษพวกเขาตามที่เราต้องการ บรรดาชนชาติจะถูกรวบรวมไปต่อสู้กับพวกเขา เมื่อพวกเขาถูกมัดเพราะบาป 2 ประการของพวกเขา เอฟราอิมเป็นลูกโคตัวเมียที่ได้รับการฝึกแล้ว นางชอบนวดข้าว และเราจะวางแอก บนคออันงามของนาง เราจะให้เอฟราอิมแบกแอกไป ยูดาห์จะต้องไถร่อง ยาโคบจะต้องไถคราดด้วยตนเอง จงหว่านความชอบธรรมให้แก่พวกเจ้าเอง เก็บเกี่ยวผลแห่งความรักอันมั่นคง จงพรวนที่ดินของเจ้าที่ยังไม่ได้ไถ เพราะถึงเวลาที่จะแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์จะมา และหลั่งความชอบธรรมลงบนพวกเจ้า พวกเจ้าปลูกความชั่ว พวกเจ้าเก็บเกี่ยวความไม่ยุติธรรม พวกเจ้ารับประทานผลแห่งความลวงหลอก เพราะพวกเจ้าวางใจในวิถีทางของตนเอง และในนักรบจำนวนมากของเจ้า ฉะนั้น เสียงชุลมุนของสงครามจะดังขึ้นในหมู่ประชาชนของเจ้า และป้อมปราการของเจ้าทุกแห่งจะถูกพังทลาย อย่างที่ชัลมันได้พังเบธอาร์เบลในวันสงคราม แม่ทั้งหลายกับลูกๆ ของพวกนางถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหด โอ เบธเอลเอ๋ย พวกเจ้าจะถูกกระทำเหมือนอย่างนั้น เพราะความชั่วร้ายของเจ้ามากมายเหลือเกิน เมื่ออรุณรุ่ง กษัตริย์แห่งอิสราเอล ก็จะถูกกำจัดโดยสิ้นเชิง