เยเรมีย์ 42:1-12

เยเรมีย์ 42:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวก​แม่ทัพ​นายกอง​ทุกคน ก็​ได้​เดินทาง​มา​กับ​โยฮานัน​ลูกชาย​ของ​คาเรอาห์ และ​อาซาริยาห์ ลูกชาย​ของ​โฮชายาห์ และ​คน​ทั้งหมด​จาก​คน​ที่​กระจอก​ที่สุด​ไป​ถึง​คน​ที่​สำคัญ​ที่สุด ต่าง​ก็​พา​กัน​มาหา​เยเรมียาห์ แล้ว​พวกเขา​ก็​พูด​กับ​เยเรมียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ว่า “ขอ​ได้โปรด​รับฟัง​คำ​อ้อนวอน​ของ​พวกเรา​ด้วย ช่วย​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน เผื่อ​พวกเรา​และ​ชาวบ้าน​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่นี้​ด้วย​เถอะ เพราะ​พวกเรา​เหลือ​กัน​แค่​ไม่​กี่​คน​อย่าง​ที่​ท่าน​เห็นนี้ จาก​ที่​เคย​มี​กัน​อยู่​มากมาย อธิษฐาน​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน บอก​พวกเรา​หน่อย​ว่า พวกเรา​ควร​จะ​ไป​ทางไหน และ​ควร​จะ​ทำ​อะไร” แล้ว​เยเรมียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ก็​บอก​พวกเขา​ว่า “ผม​ได้ยิน​ที่​พวกท่าน​พูด​แล้ว ผม​จะ​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน​ตาม​ที่​ท่าน​ขอ เมื่อ​พระยาห์เวห์​ตอบ​อะไร​กลับ​มา​ให้​กับท่าน ผม​จะ​บอก​พวกท่าน​ทุก​อย่าง โดย​ไม่​ปิดบัง​อะไร​ไว้​เลย” แล้ว​พวกเขา​ก็​พูด​กับ​เยเรมียาห์​ว่า “ถ้า​พวกเรา​ไม่​ทำ​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ท่าน​บอก​ผ่าน​ท่าน​ให้​พวกเรา​ทำ​แล้ว​ละก็ ขอให้​พระยาห์เวห์​เป็น​พยาน​ที่​เชื่อถือได้​ต่อต้าน​พวกเรา ไม่ว่า​มัน​จะดี​หรือ​ไม่ดี พวกเรา​ก็​จะ​เชื่อฟัง​พระยาห์เวห์ ผู้ที่​พวกเรา​กำลัง​ส่ง​ท่าน​ไป เพื่อ​ว่า​ทุกสิ่ง​จะ​ได้​เป็น​ไป​ด้วยดี​สำหรับ​พวกเรา เมื่อ​เรา​เชื่อฟัง​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกเรา” หลัง​จากนั้น​สิบวัน ถ้อยคำ​ของ​พระยาห์เวห์​ก็​มี​มา​ถึง​เยเรมียาห์ แล้ว​เขา​ก็​เรียก​โยฮานัน​ลูกชาย​ของ​คาเรอาห์ รวมทั้ง​แม่ทัพ​นายกอง​ทุกคน​ที่​อยู่​กับเขา และ​ประชาชน​ทุกคน ตั้งแต่​กระจอก​งอกง่อย​ไป​จนถึง​คน​ที่​สำคัญ​ที่สุด แล้ว​เยเรมียาห์​ก็​พูด​ว่า “พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล พระองค์​ผู้ที่​พวก​ท่าน​ส่ง​เรา​ไป​ขอร้อง พระองค์​พูด​ว่า ‘ถ้า​พวกเจ้า​จะ​ยังคง​อยู่​ใน​ดินแดน​นี้​ต่อไป​แน่ๆ​แล้ว​ละก็ เรา​ก็​จะ​สร้าง​เจ้า​ขึ้น​มา​ใหม่ และ​เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำลาย​เจ้าลง เรา​จะ​ปลูก​เจ้า​ขึ้น​มา​ใหม่ และ​เรา​จะ​ไม่​ถอน​ราก​เจ้า เพราะ​เรา​เสียใจ​ที่​เรา​ได้​ทำ​สิ่ง​ร้ายๆ​ไว้​กับเจ้า ไม่ต้อง​กลัว​เมื่อ​พวกเจ้า​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​กษัตริย์​บาบิโลน​ที่​เจ้า​กลัว​อยู่​ใน​ตอนนี้ ไม่​ต้อง​กลัว​เขา’ พระยาห์เวห์​พูด​ว่า​อย่างนั้น ‘เพราะ​ว่า​เรา​อยู่​กับเจ้า​เพื่อ​ช่วย​และ​ปกปัก​รักษา​เจ้า​จาก​เงื้อมมือ​ของ​เขา เรา​จะ​เมตตา​ปรานี​พวกเจ้า เขา​จะได้​เมตตา​ปรานี​เจ้า​ด้วย แล้ว​เขา​ก็​จะ​คืน​เขตแดน​ของเจ้า​ให้​กับเจ้า’

เยเรมีย์ 42:1-12 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ส่วนพวกหัวหน้ากองทหารทั้งหมดและโยฮานันบุตรคาเรอาห์ และเยซันยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชาชนทั้งปวง จากผู้น้อยที่สุดถึงผู้ใหญ่ที่สุดได้มาหา และพูดกับเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะว่า “โปรดฟังคำร้องของพวกเรา และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อพวกเราที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะเราเหลืออยู่น้อยคนจากเดิมที่มีคนมากมาย ตามที่ท่านเห็นอยู่กับตาแล้ว ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสำแดงหนทางแก่เรา ว่าเราควรจะไปทางไหน และขอสำแดงสิ่งที่เราควรจะทำ” เยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะกล่าวแก่พวกเขาว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว นี่แน่ะ ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ตามคำขอร้องของพวกท่าน และพระยาห์เวห์ทรงตอบท่านประการใด ข้าพเจ้าจะบอกแก่ท่าน ข้าพเจ้าจะไม่ปิดบังสิ่งใดไว้จากท่านเลย” แล้วพวกเขาพูดกับเยเรมีย์ว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงเป็นพยานที่สัตย์จริงและสัตย์ซื่อต่อสู้เรา ถ้าเราไม่ได้ทำตามพระวจนะของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงใช้ท่าน ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ผู้ซึ่งเราส่งท่านให้ไปหานั้น เพื่อจะเป็นการดีต่อเรา เมื่อเราเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” ต่อมาเมื่อครบ 10 วันแล้วพระวจนะของพระยาห์เวห์มายังเยเรมีย์ แล้วท่านจึงให้ตามตัวโยฮานันบุตรคาเรอาห์ และพวกหัวหน้ากองทหารทุกคนผู้อยู่กับท่าน และประชาชนทั้งหมดจากผู้น้อยที่สุดถึงผู้ใหญ่ที่สุด และบอกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ใช้ให้ข้าพเจ้านำเอาคำอ้อนวอนของท่านไปเสนอพระองค์นั้น ได้ตรัสดังนี้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้าจะอยู่ต่อไปในแผ่นดินนี้ เราจะสร้างเจ้าขึ้นและไม่ทำลายลง เราจะปลูกเจ้าไว้ และไม่ถอนเจ้าเสียเพราะเราได้กลับใจจากเหตุร้ายซึ่งเราได้ทำแก่เจ้าแล้ว อย่ากลัวกษัตริย์บาบิโลนผู้ซึ่งเจ้ากลัวอยู่นั้น’ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘อย่ากลัวเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าเพื่อช่วยเจ้าและช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเขา เราจะให้ความกรุณาแก่เจ้า เพื่อเขาจะได้กรุณาเจ้าและยอมให้เจ้าอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเอง’

เยเรมีย์ 42:1-12 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

บรรดาหัวหน้าของกองทหารและโยฮานันบุตรชายคาเรอาห์ และเยซันยาห์​บุ​ตรชายโฮชายาห์ และประชาชนทั้งปวงจากผู้น้อยที่สุดถึงผู้​ใหญ่​ที่​สุดได้​เข​้ามาใกล้ และพู​ดก​ับเยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์​ว่า “​ขอให้​คำอ้อนวอนของข้าพเจ้าทั้งหลายเป็​นที​่ยอมรับต่อหน้าท่าน และขอท่านอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเพื่อเราทั้งหลาย เพื่อคนที่​เหลืออยู่​นี้​ทั้งสิ้น (เพราะเรามีเหลือน้อยจากคนมาก ตามที่​ท่านเห็นอยู่กับตาแล้ว) ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านสำแดงหนทางแก่เราว่า เราควรจะดำเนินไปทางไหน และขอสำแดงสิ่งที่เราควรจะกระทำ” เยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์​กล​่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “ข้าพเจ้าได้ยินท่านแล้ว ดู​เถิด ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านตามคำขอร้องของท่านทั้งหลาย และต่อมาพระเยโฮวาห์จะทรงตอบท่านประการใด ข้าพเจ้าจะบอกแก่​ท่าน ข้าพเจ้าจะไม่ปิดบังสิ่งใดไว้จากท่านเลย” แล​้วเขาทั้งหลายพู​ดก​ับเยเรมีย์​ว่า “ขอพระเยโฮวาห์จงเป็นพยานที่​สัตย์​จร​ิงและสัตย์ซื่อในระหว่างข้าพเจ้าทั้งหลาย ถ้าข้าพเจ้าทั้งหลายมิ​ได้​กระทำตามบรรดาพระวจนะของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงใช้​ท่าน ไม่​ว่าจะดีหรือร้าย ข้าพเจ้าทั้งหลายจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ผู้​ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายส่งท่านให้ไปหานั้น เพื่อเราจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อเราเชื่อฟังพระสุรเสียงแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา” ต่อมาครั้นสิ้นสิบวันแล้วพระวจนะของพระเยโฮวาห์​มาย​ังเยเรมีย์ แล​้​วท​่านจึงให้ตามตัวโยฮานันบุตรชายคาเรอาห์ และบรรดาผู้หัวหน้าของกองทหารผู้​อยู่​กั​บท​่าน และประชาชนทั้งปวงตั้งแต่​คนเล​็กที่สุดถึงคนใหญ่​ที่สุด และบอกเขาทั้งหลายว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ผู้​ซึ่งท่านได้​ใช้​ให้​ข้าพเจ้านำเอาคำอ้อนวอนของท่านไปเสนอต่อพระพักตร์​พระองค์​นั้น ได้​ตรั​สด​ังนี้​ว่า ถ้าเจ้าทั้งหลายจะอยู่ต่อไปในแผ่นดินนี้ เราจะสร้างเจ้าทั้งหลายขึ้นและไม่ทำลายลง เราจะปลูกเจ้าไว้และไม่ถอนเจ้าเสีย เพราะเราได้​กล​ับใจจากเหตุร้ายซึ่งเราได้กระทำไปแล้ว อย่ากลัวกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนผู้ซึ่งเจ้ากลัวอยู่​นั้น พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า อย่ากลัวเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าทั้งหลายเพื่อช่วยเจ้าให้​รอด และช่วยเจ้าให้พ้นจากมือของเขา เราจะให้ความกรุณาแก่​เจ้า เพื่อเขาจะได้​กรุ​ณาเจ้า และยอมให้​เจ้​ากลับไปอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเอง

เยเรมีย์ 42:1-12 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายผู้หัวหน้ากองทหารและโยฮานันบุตรคาเรอาห์ และอาซาริยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชาชนทั้งปวง จากผู้น้อยที่สุดถึงผู้ใหญ่ที่สุดได้เข้ามาใกล้ และพูดกับเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะว่า <<ขอให้คำอ้อนวอนของข้าพเจ้าทั้งหลายมาอยู่ต่อหน้าท่าน และขอท่านอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพื่อเราทั้งหลาย เพื่อคนที่เหลืออยู่นี้ทั้งสิ้น (เพราะเรามีเหลือน้อยจากคนมาก ตามที่ท่านเห็นอยู่กับตาแล้ว) ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านสำแดงหนทางแก่เรา ว่าเราควรจะไปทางไหน และขอสำแดงสิ่งที่เราควรจะกระทำ>> เยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า <<ข้าพเจ้าได้ยินท่านแล้ว ดูเถิด ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ตามคำขอร้องของท่านทั้งหลาย และพระเจ้าทรงตอบท่านประการใด ข้าพเจ้าจะบอกแก่ท่าน ข้าพเจ้าจะไม่ปิดบังสิ่งใดไว้จากท่านเลย>> แล้วเขาทั้งหลายพูดกับเยเรมีย์ว่า <<ขอพระเจ้าจงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์และ แน่นอนต่อสู้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ถ้าข้าพเจ้าทั้งหลายมิได้กระทำตามบรรดา พระวจนะของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงใช้ท่าน ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ข้าพเจ้าทั้งหลายจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ผู้ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายส่งท่านให้ไปหานั้น เพื่อเราจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อเราเชื่อฟังพระสุรเสียงแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา>> ครั้นสิ้นสิบวันแล้วพระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ แล้วท่านจึงให้ตามตัวโยฮานันบุตรคาเรอาห์และ บรรดาผู้หัวหน้าของกองทหารผู้อยู่กับท่าน และประชาชนทั้งปวงตั้งแต่คนเล็กที่สุดถึงคนใหญ่ที่สุด และบอกเขาว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ใช้ให้ข้าพเจ้านำเอาคำอ้อนวอนของท่าน ไปเสนอพระองค์นั้น ได้ตรัสดังนี้ว่า ถ้าเจ้าทั้งหลายจะอยู่ต่อไปในแผ่นดินนี้ เราจะสร้างเจ้าทั้งหลายขึ้นและไม่ทำลายลง เราจะปลูกเจ้าไว้ และไม่ถอนเจ้าเสียเพราะเราได้กลับใจจาก เหตุร้ายซึ่งเราได้กระทำไปแล้ว อย่ากลัวพระราชาแห่งบาบิโลนผู้ซึ่ง เจ้ากลัวอยู่นั้นพระเจ้าตรัสว่า อย่ากลัวเขาเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าทั้งหลาย เพื่อช่วยเจ้าและช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเขา เราจะให้ความกรุณาแก่เจ้า เพื่อเขาจะได้กรุณาเจ้าและยอม ให้เจ้าอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเอง

เยเรมีย์ 42:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แล้วบรรดาแม่ทัพนายกองรวมทั้งโยฮานันบุตรคาเรอาห์ เยซันยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชากรทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยพากันมาหาผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ และกล่าวกับเขาว่า “โปรดฟังคำอ้อนวอนของเราและอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อชนที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ เพราะท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่ก่อนเรามีกันมากมาย บัดนี้ก็เหลือเพียงหยิบมือเดียว โปรดอธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกเราด้วยว่าควรไปที่ไหนและควรทำอะไร” ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินแล้ว ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามที่ท่านขอร้องอย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะบอกท่านทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส จะไม่ปิดบังสิ่งใดจากพวกท่านเลย” แล้วพวกเขากล่าวกับเยเรมีย์ว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานที่ซื่อตรงเที่ยงแท้ลงโทษเราเถิด หากเราไม่ยอมประพฤติตามทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้ท่านมาบอกเรา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราผู้ซึ่งเราขอให้ท่านไปเข้าเฝ้าเพื่อจะเป็นประโยชน์สุขแก่เราเพราะเราจะเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา” สิบวันหลังจากนั้น มีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ ดังนั้นเขาจึงเรียกโยฮานันบุตรคาเรอาห์ บรรดาแม่ทัพนายกอง และประชาชนทั้งปวงไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยมาชุมนุมกัน แล้วเขากล่าวแก่คนทั้งหลายว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลซึ่งพวกท่านใช้ให้ข้าพเจ้าไปทูลอ้อนวอนนั้นตรัสว่า ‘หากพวกเจ้าคงอยู่ในดินแดนนี้ เราจะสร้างเจ้าขึ้นไม่ใช่รื้อลง จะปลูกเจ้าไว้ ไม่ใช่ถอนราก เพราะเราเศร้าใจกับภัยพิบัติซึ่งเราบันดาลให้เกิดแก่เจ้า อย่ากลัวกษัตริย์บาบิโลนที่พวกเจ้ากลัวอยู่ในขณะนี้ อย่ากลัวเขาเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ อย่ากลัวเขาเลยเพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะช่วยเจ้าและกอบกู้เจ้าจากมือของเขา เราจะสำแดงความเมตตาแก่เจ้า เพื่อเขาจะเอ็นดูสงสารเจ้าและให้เจ้ากลับคืนสู่ดินแดนของเจ้า’

เยเรมีย์ 42:1-12 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ครั้น​แล้ว​บรรดา​ผู้​บัญชา​การ​ทั้ง​ปวง โยฮานาน​บุตร​คาเรอัค เยซานิยาห์​บุตร​โฮชายาห์ และ​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​ตั้งแต่​ผู้​ด้อย​สุด​จน​ถึง​ผู้​มี​อำนาจ​มาก​ที่​สุด ก็​มา​หา​เยเรมีย์​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า และ​พูด​ดัง​นี้​ว่า “พวก​เรา​อ้อนวอน​ขอ​ความ​เมตตา​จาก​ท่าน ขอ​ท่าน​โปรด​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​ให้​พวก​เรา​เถิด เพื่อ​ผู้​คน​ทั้ง​หมด​ที่​มี​ชีวิต​เหลือ​อยู่​นี้ เนื่องจาก​พวก​เรา​มี​ชีวิต​เหลือ​อยู่​เพียง​ไม่​กี่​คน อย่าง​ที่​ท่าน​ก็​เห็น เพื่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​จะ​ได้​ชี้​ให้​พวก​เรา​เห็น​ว่า เรา​ควร​จะ​ไป​ทาง​ไหน​และ​ควร​จะ​ทำ​สิ่ง​ใด” เยเรมีย์​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “เรา​ได้ยิน​คำ​ขอ​ของ​พวก​ท่าน ดู​เถิด ข้าพเจ้า​จะ​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ตาม​คำ​ขอ​ของ​ท่าน และ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตอบ​ท่าน ข้าพเจ้า​ก็​จะ​บอก​พวก​ท่าน เรา​จะ​ไม่​นิ่ง​เฉย” พวก​เขา​พูด​กับ​เยเรมีย์​ดัง​นี้​ว่า “ถ้า​หากว่า​พวก​เรา​ไม่​กระทำ​ตาม​ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน​สั่ง​ให้​ท่าน​มา​แจ้ง​แก่​พวก​เรา ขอ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​พยาน​ที่​แท้​จริง​และ​สัตย์​จริง​ที่​ไม่​มี​ใคร​ฝ่าฝืน​ได้ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​ดี​หรือ​ร้าย พวก​เรา​จะ​เชื่อ​ฟัง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา พวก​เรา​ให้​ท่าน​ไป​หา​พระ​องค์ เพื่อ​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​กับ​พวก​เรา​เมื่อ​เรา​เชื่อ​ฟัง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​เรา” หลัง​จาก 10 วัน​ผ่าน​ไป พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​เยเรมีย์ และ​ท่าน​เรียก​ประชุม​กับ​โยฮานาน​บุตร​คาเรอัค และ​บรรดา​ผู้​บัญชา​การ​ที่​อยู่​กับ​เขา และ​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​ตั้งแต่​ผู้​ด้อย​สุด​จน​ถึง​ผู้​มี​อำนาจ​มาก​ที่​สุด และ​ท่าน​พูด​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล ผู้​ที่​ท่าน​ให้​ข้าพเจ้า​ไป​เป็น​ตัวแทน​เพื่อ​ขอร้อง​ขอ​ความ​เมตตา​กล่าว​ดัง​นี้ ‘ถ้า​พวก​เจ้า​อยู่​บน​แผ่นดิน​นี้​ต่อ​ไป เรา​ก็​จะ​ช่วย​เสริมสร้าง​พวก​เจ้า​ขึ้น เรา​จะ​ไม่​โค่น​พวก​เจ้า​ลง เรา​จะ​ปลูก​สร้าง​พวก​เจ้า และ​จะ​ไม่​ถอน​ราก​ถอน​โคน เรา​เสียใจ​ที่​เรา​ให้​ความ​วิบัติ​เกิด​ขึ้น​กับ​พวก​เจ้า ไม่​ต้อง​กลัว​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน​ที่​พวก​เจ้า​กลัว พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ว่า ไม่​ต้อง​กลัว​เขา​เพราะ​เรา​อยู่​กับ​พวก​เจ้า เพื่อ​ช่วย​พวก​เจ้า​ให้​ปลอดภัย และ​ช่วย​ให้​รอด​จาก​มือ​ของ​เขา เรา​จะ​ให้​ความ​เมตตา​แก่​เจ้า โดย​ที่​เขา​จะ​มี​เมตตา​ต่อ​เจ้า และ​ปล่อย​ให้​เจ้า​อยู่​ใน​แผ่นดิน​ของ​เจ้า​เอง​ต่อ​ไป’