โยนาห์ 4:1-11

โยนาห์ 4:1-11 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แต่เหตุการณ์นี้ไม่เป็นที่พอใจโยนาห์อย่างยิ่ง และท่านโกรธ ท่านจึงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ? นี่เป็นเหตุให้ข้าพระองค์รีบหนีไปเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณ และพระกรุณา กริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะฉะนั้น เวลานี้ ขอพระองค์ทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเสีย เพราะว่าข้าพระองค์ตายเสียก็ดีกว่าอยู่” และพระยาห์เวห์ตรัสว่า “การที่เจ้าโกรธเช่นนี้ดีแล้วหรือ?” แล้วโยนาห์ก็ออกไปนอกเมือง นั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองนั้น และท่านทำเพิงไว้สำหรับตัวท่านเองที่นั่น ท่านนั่งอยู่ใต้ร่มเพิงคอยดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเมืองนั้น และพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงกำหนดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่งงอกขึ้นมาเหนือโยนาห์ ให้เป็นที่กำบังศีรษะของท่าน เพื่อบรรเทาความร้อนรุ่ม ดังนั้นโยนาห์จึงมีความยินดีอย่างยิ่งเรื่องต้นละหุ่งนั้น แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้น พระเจ้าทรงกำหนดให้หนอนตัวหนึ่งมากัดกินต้นละหุ่งต้นนั้น จนมันเหี่ยวไป เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระเจ้าทรงกำหนดให้ลมตะวันออกที่ร้อนผากพัดมา และแสงแดดก็แผดลงบนศีรษะของโยนาห์จนท่านอ่อนเพลียไป และท่านก็ทูลขอว่า ให้ท่านตายเสียเถิด ท่านว่า “ข้าตายเสียก็ดีกว่าอยู่” แต่พระเจ้าตรัสกับโยนาห์ว่า “ที่เจ้าโกรธเพราะต้นละหุ่งนั้นดีแล้วหรือ?” ท่านทูลว่า “ที่ข้าพระองค์โกรธถึงอยากตายนี้ดีแล้ว พระเจ้าข้า” และพระยาห์เวห์ตรัสว่า “เจ้าหวงต้นไม้ซึ่งเจ้าไม่ได้ลงแรงปลูกและไม่ได้ทำให้มันเจริญ มันงอกเจริญขึ้นในคืนเดียว แล้วก็ตายไปในคืนเดียว ไม่สมควรหรือที่เราจะห่วงใยนีนะเวห์นครใหญ่นั้น ซึ่งมีพลเมืองมากกว่า 120,000 คน ผู้ไม่ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากด้วย”

โยนาห์ 4:1-11 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แต่โยนาห์ไม่พอใจมากและโกรธ เขาอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ก็บอกตั้งแต่ยังอยู่ที่บ้านแล้วไม่ใช่หรือว่ามันจะเป็นอย่างนี้? เพราะเหตุนี้แหละ ข้าพระองค์ถึงได้รีบหนีไปเมืองทารชิช ข้าพระองค์รู้อยู่ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงเป็นพระเจ้าผู้กริ้วช้าและเปี่ยมด้วยความรัก พระเจ้าทรงอดพระทัยไว้ไม่ลงโทษ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ขอทรงเอาชีวิตข้าพระองค์ไปเถิด ข้าพระองค์ตายเสียดีกว่าอยู่” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธ?” โยนาห์ก็ออกไปอยู่นอกเมืองทางตะวันออก แล้วสร้างเพิงขึ้นหลังหนึ่ง แล้วนั่งอยู่ใต้ร่มเพิง และคอยดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับกรุงนีนะเวห์ แล้วพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้เถาไม้เลื้อยเถาหนึ่งงอกขึ้นเหนือโยนาห์ ช่วยบังแดดให้ศีรษะของเขา เพื่อบรรเทาความเดือดเนื้อร้อนใจของเขา โยนาห์ก็มีความสุขมากที่มีเถาไม้เลื้อยนี้ แต่พอฟ้าสางวันรุ่งขึ้น พระเจ้าทรงให้มีหนอนกัดกินเถาไม้เลื้อยนั้น จนมันเหี่ยวเฉาไป เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น พระเจ้าทรงให้มีลมตะวันออกอันร้อนระอุพัดมา แสงอาทิตย์ก็แผดเปรี้ยงเหนือศีรษะของโยนาห์จนเขาแทบเป็นลม โยนาห์อยากตายและตัดพ้อว่า “ข้าพระองค์ตายเสียก็ดีกว่าอยู่” แต่พระเจ้าตรัสกับโยนาห์ว่า “เจ้ามีสิทธิ์จะโกรธเรื่องเถาไม้เลื้อยนี้หรือ?” โยนาห์ทูลว่า “ข้าพระองค์มีสิทธิ์ ข้าพระองค์โกรธจนอยากตาย” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เจ้าเสียดายเถาไม้เลื้อยนี้ ทั้งๆ ที่เจ้าไม่ได้ปลูกหรือดูแลมันให้โต มันงอกขึ้นในชั่วข้ามคืนและตายไปในชั่วข้ามคืน ก็แล้วนีนะเวห์ซึ่งมีคนกว่า 120,000 คน ซึ่งไม่รู้ประสาว่าไหนมือซ้ายไหนมือขวา ทั้งยังมีสัตว์เลี้ยงอีกมากมาย ไม่ควรหรือที่เราจะห่วงใยนครใหญ่นั้น?”

โยนาห์ 4:1-11 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แต่​สิ่งนี้​ทำให้​โยนาห์​ไม่พอใจ​มาก เขา​โกรธมาก เขา​จึง​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​และ​พูดว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ นึกแล้ว​ว่า​มัน​จะต้อง​เป็น​อย่างนี้​แน่ๆ​ตั้งแต่​อยู่​ที่บ้าน​แล้ว นั่น​เป็นเหตุ​ที่​ข้าพเจ้า​ถึง​พยายาม​หนี​ไป​เมือง​ทาร์ชิช เพราะ​ข้าพเจ้า​รู้ว่า พระองค์​มี​เมตตาปรานี พระองค์​อดทนนาน พระองค์​มี​ความรัก​ที่​ยิ่งใหญ่ และ​พร้อมเสมอ​ที่​จะ​เปลี่ยนใจ​ไม่ลงโทษ ดังนั้น พระยาห์เวห์​เจ้าข้า ฆ่า​ข้าพเจ้า​เลย เพราะ​ข้าพเจ้า​ตาย​ซะ​ดีกว่า” แล้ว​พระยาห์เวห์​พูดว่า “ที่​เจ้าโกรธ​อย่างนี้​คิดว่า​ถูกแล้วหรือ” แล้ว​โยนาห์​ก็​ออกไป​นอกเมือง เขา​ไป​นั่ง​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ของเมือง ทำ​เพิง​ที่พัก​ขึ้นมา​หลังหนึ่ง​และ​นั่ง​หลบแดด​อยู่​ในนั้น เฝ้าดู​ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​เมือง แล้ว​พระยาห์เวห์​ก็​สั่ง​ให้​ต้นละหุ่ง​ต้นหนึ่ง​งอก​ขึ้นมา​อยู่​เหนือ​โยนาห์ เพื่อ​เป็น​ร่มเงา​บังหัว​ให้​กับ​โยนาห์ และ​ช่วย​ดับร้อน​คลายทุกข์ ให้​กับ​เขา โยนาห์​ดีใจมาก​ที่มี​ต้นละหุ่ง​นี้ เช้า​วันต่อมา พระเจ้า​ก็​สั่ง​ให้​หนอน​ตัวหนึ่ง​มา​กัดกิน​ต้นละหุ่ง​นั้น ทำให้​มัน​เหี่ยวแห้ง​ตายไป ต่อมา เมื่อ​ดวง​อาทิตย์​ลอย​สูงขึ้น​บน​ท้องฟ้า พระเจ้า​ก็​สั่ง​ให้​ลมร้อน​พัด​มา​จาก​ทาง​ทิศตะวันออก และ​แสงอาทิตย์​ก็​แผดกล้า​ลง​บนหัว​ของ​โยนาห์ ทำให้​เขา​อ่อนเพลีย​หมดแรง​ไป เขา​ร่ำร้อง​อยากตาย เขา​พูดว่า “ให้​ข้าพเจ้า​ตาย​ซะดีกว่า” แล้ว​พระเจ้า​ก็​พูด​กับ​โยนาห์​ว่า “ที่​เจ้า​โกรธ​เรื่อง​ต้นละหุ่ง​นั้น คิดว่า​ถูกแล้วหรือ” โยนาห์​ตอบว่า “โกรธสิ โกรธ​แทบตาย​อยู่แล้ว” พระเจ้า​จึง​พูดว่า “ดูเจ้า​เป็นห่วง​เป็นใย​ต้นไม้​นั้น​เสีย​เหลือเกิน​นะ ทั้งๆที่​เจ้า​ไม่ได้​ลงแรง​ปลูก​และ​ไม่ได้​ทำ​ให้​มัน​โตขึ้น​ด้วย ต้นไม้​นั้น​งอก​ออกมา​ใน​คืนเดียว อยู่​ได้​วันเดียว​แล้ว​ก็ตาย แล้ว​อย่างนี้ จะ​ไม่ให้​เรา​เป็น​ห่วง​นีนะเวย์​เมืองใหญ่​นั้น​ได้ยังไง เป็น​เมือง​ที่มี​คน​อยู่​มากกว่า​หนึ่งแสน​สองหมื่น​คน เขา​เป็น​เหมือน​เด็ก​ที่​ไม่รู้​ว่า​ข้างไหน​มือขวา​ข้างไหน​มือซ้าย แถม​ยัง​มี​สัตว์​ต่างๆ​อีก​มากมาย​ใน​เมือง​นั้น​ด้วย”

โยนาห์ 4:1-11 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เหตุการณ์​นี้​ไม่​เป็​นที​่พอใจโยนาห์​อย่างยิ่ง และท่านโกรธ ท่านจึงอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า “​โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์​พู​ดแล้​วว​่า จะเป็นไปเช่นนี้​มิใช่​หรือ นี่​แหละเป็นเหตุ​ให้​ข้าพระองค์​ได้​รี​บหนีไปยังเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระคุ​ณ และทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้า และบริบู​รณ​์ด้วยความเมตตา และทรงกลับพระทัยไม่​ลงโทษ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะฉะนั้นบัดนี้ ขอพระองค์ทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเสีย เพราะว่าข้าพระองค์ตายเสี​ยก​็​ดี​กว่าอยู่” และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “การที่​เจ้​าโกรธเช่นนี้​ดี​อยู่​หรือ​” แล​้วโยนาห์​ก็​ออกไปนอกนคร นั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองนั้น และท่านทำเพิงไว้เป็​นที​่ท่านอาศัย ท่านนั่งอยู่​ใต้​ร่มเพิงคอยดู​เหตุการณ์​อันจะเกิดขึ้​นก​ับนครนั้น และพระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงกำหนดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่งงอกขึ้นมาเหนือโยนาห์ ให้​เป็​นที​่กำบังศีรษะของท่าน เพื่อให้​บรรเทาความร้อนรุ่มกลุ้มใจในเรื่องนี้ เพราะเหตุต้นละหุ่งต้นนี้โยนาห์จึ​งม​ี​ความยินดี​ยิ่งนัก แต่​ในเวลาเช้าวั​นร​ุ่งขึ้น พระเจ้าทรงกำหนดให้หนอนตัวหนึ่งมากั​ดก​ินต้นละหุ่งต้นนั้นจนมันเหี่ยวไป ต่อมาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระเจ้าทรงกำหนดให้ลมตะวันออกที่ร้อนผากพัดมา และแสงแดดก็แผดลงบนศีรษะของโยนาห์จนท่านอ่อนเพลียไป และท่านนึกปรารถนาในใจที่จะตายเสีย จึงทูลขอว่า “​ให้​ข้าพระองค์ตายเสี​ยก​็​ดี​กว่าอยู่” แต่​พระเจ้าตรัสกับโยนาห์​ว่า “​ที่​เจ้​าโกรธเพราะต้นละหุ่งนั้นดี​อยู่​แล​้วหรือ” ท่านทูลว่า “​ที่​ข้าพระองค์โกรธถึงอยากตายนี้​ดี​แล้ว พระเจ้าข้า” และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “​เจ้​าสงสารต้นละหุ่งนั้น ซึ่งเจ้ามิ​ได้​ลงแรงปลูก หรื​อม​ิ​ได้​กระทำให้มันเจริญ มันงอกเจริญขึ้นในคืนเดียว แล้วก็​ตายไปในคืนเดี​ยวด​ุจกัน ไม่​สมควรหรือที่เราจะไว้​ชี​วิตเมืองนีนะเวห์นครใหญ่​นั้น ซึ่​งม​ีพลเมืองมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคน ผู้​ไม่​ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมี​สัตว์​เลี้ยงเป็​นอ​ันมากด้วย”

โยนาห์ 4:1-11 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เหตุการณ์นี้ไม่เป็นที่พอใจโยนาห์อย่างยิ่ง และท่านโกรธ ท่านจึงอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า <<ข้าแต่พระเจ้า เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดแล้วว่าจะเป็นไปเช่นนี้มิใช่หรือ นี่แหละเป็นเหตุให้ข้าพระองค์ได้รีบหนีไปยังเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระคุณ และทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรัก มั่นคง และทรงกลับพระทัยไม่ลงโทษ ข้าแต่พระเจ้า เพราะฉะนั้น บัดนี้ ขอพระองค์ทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเสีย เพราะว่าข้าพระองค์ตายเสียก็ดีกว่าอยู่>> และพระเจ้าตรัสว่า <<การที่เจ้าโกรธเช่นนี้ดีอยู่หรือ>> แล้วโยนาห์ก็ออกไปนอกนคร นั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองนั้น และท่านทำเพิงไว้เป็นที่ท่านอาศัย ท่านนั่งอยู่ใต้ร่มเพิงคอยดูเหตุการณ์อันจะเกิดขึ้นกับนครนั้น และพระเจ้าทรงกำหนดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่ง งอกขึ้นมาเหนือโยนาห์ ให้เป็นที่กำบังศีรษะของท่าน เพื่อให้บรรเทาความร้อนรุ่มกลุ้มใจในเรื่องนี้ เพราะเหตุต้นละหุ่งต้นนี้โยนาห์จึงมีความยินดียิ่งนัก แต่ในเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น พระเจ้าทรงกำหนดให้หนอนตัวหนึ่งมากัดกินต้นละหุ่งต้นนั้น จนมันเหี่ยวไป เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระเจ้าทรงกำหนดให้ลมตะวันออกที่ร้อนผากพัดมา และแสงแดดก็แผดลงบนศีรษะของโยนาห์จนท่าน อ่อนเพลียไปและท่านก็ทูลขอว่า ให้ท่านตายเสียเถิด ท่านว่า <<ข้าตายเสียก็ดีกว่าอยู่>> แต่พระเจ้าตรัสกับโยนาห์ว่า <<ที่เจ้าโกรธเพราะต้นละหุ่งนั้นดีอยู่แล้วหรือ>> ท่านทูลว่า <<ที่ข้าพระองค์โกรธถึงอยากตายนี้ดีแล้ว พระเจ้าข้า>> และพระเจ้าตรัสว่า <<เจ้าหวงต้นไม้ซึ่งเจ้ามิได้ลงแรงปลูก หรือมิได้กระทำให้มันเจริญ มันงอกเจริญขึ้นในคืนเดียว แล้วก็ตายไปในคืนเดียวดุจกัน ไม่สมควรหรือที่เราจะหวงเมืองนีนะเวห์นครใหญ่นั้น ซึ่งมีพลเมืองมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคน ผู้ไม่ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมีสัตว์เลี้ยงเป็นอันมากด้วย>>

โยนาห์ 4:1-11 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แต่​โยนาห์​กลับ​ไม่​พอใจ​เป็น​อย่าง​ยิ่ง เขา​โกรธ​เป็น​ฟืน​เป็น​ไฟ และ​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าดังนี้​ว่า “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ได้​โปรด​เถิด ข้าพเจ้า​ได้​พูด​แล้ว​เมื่อ​ครั้ง​ยัง​อยู่​ที่​บ้าน​ข้าพเจ้า​มิ​ใช่​หรือ ข้าพเจ้า​จึง​ได้​รีบ​หลบหนี​ไป​ยัง​เมือง​ทาร์ชิช เพราะ​ข้าพเจ้า​ทราบ​ว่า​พระ​องค์​มี​พระ​คุณ​และ​ความ​สงสาร ไม่​โกรธ​ง่าย และ​บริบูรณ์​ด้วย​ความ​รัก​อัน​มั่นคง เป็น​พระ​เจ้า​ผู้​เปลี่ยน​ความ​ตั้งใจ​และ​ไม่​ให้​ความ​วิบัติ​เกิด​ขึ้น และ​บัดนี้ โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า โปรด​เอา​ชีวิต​ข้าพเจ้า​ไป​เถิด เพราะ​ว่า​ให้​ข้าพเจ้า​ตาย ยัง​จะ​ดี​กว่า​ให้​ข้าพเจ้า​มี​ชีวิต​อยู่” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ดังนี้​ว่า “สมควร​แล้ว​หรือ​ที่​เจ้า​โกรธ” โยนาห์​ก็​ออก​ไป​จาก​ตัวเมือง ไป​นั่ง​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​ของ​เมือง เขา​สร้าง​เพิง​ไว้​เป็น​ที่​พัก​อยู่​ที่​นั่น แล้ว​เขา​ก็​นั่ง​อยู่​ใต้​ที่​พัก​ใน​ที่​ร่ม​เพื่อ​จะ​ดู​ว่า จะ​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน​เมือง​นั้น ดังนั้น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​พระ​เจ้า​จึง​กำหนด​ให้​ไม้เลื้อย​ต้น​หนึ่ง​งอก​ขึ้น​จน​เป็น​ที่​ร่มรื่น​บัง​ศีรษะ ให้​เขา​พ้น​จาก​ความ​ไม่​สบาย​กาย แล้ว​โยนาห์​ก็​ยินดี​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​ที่​มี​ไม้เลื้อย​ต้น​นั้น เช้า​ตรู่​ของ​วัน​รุ่ง​ขึ้น พระ​เจ้า​กำหนด​ให้​มี​หนอน​ตัว​หนึ่ง​มา​กิน​ต้นไม้​นั้น​จน​เหี่ยว​เฉา​ไป เมื่อ​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น พระ​เจ้า​กำหนด​ให้​ลม​ร้อน​พัด​มา​จาก​ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก ดวง​อาทิตย์​ก็​แผด​เผา​ศีรษะ​ของ​โยนาห์ โยนาห์​จึง​เป็น​ลม และ​ขอ​ให้​ตน​สิ้น​ชีวิต พลาง​พูด​ว่า “ให้​ข้าพเจ้า​ตาย​ยัง​จะ​ดี​กว่า​ให้​ข้าพเจ้า​มี​ชีวิต​อยู่” แต่​พระ​เจ้า​กล่าว​กับ​โยนาห์​ว่า “สมควร​แล้ว​หรือ​ที่​เจ้า​โกรธ​เรื่อง​ไม้เลื้อย​ต้น​นั้น” เขา​พูด​ตอบ​ว่า “สมควร​แล้ว​ที่​ข้าพเจ้า​โกรธ ข้าพเจ้า​โกรธ​มาก​จน​ถึง​แก่​ความ​ตาย​ได้” แต่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ดังนี้ “เจ้า​มี​ใจ​สงสาร​ต่อ​ไม้เลื้อย​ต้น​นั้น​ซึ่ง​เจ้า​ก็​ไม่​ได้​ดูแล​หรือ​ทำ​ให้​มัน​เติบโต มัน​มี​ชีวิต​โต​ขึ้น​ใน​คืน​เดียว แล้ว​มัน​ก็​ตาย​ใน​ชั่ว​คืน​เดียว แต่​นีนะเวห์​มี​ประชากร​มาก​กว่า 120,000 คน​ซึ่ง​ไม่​รู้​ว่า​มือ​ไหน​เป็น​มือ​ขวา มือ​ไหน​เป็น​มือ​ซ้าย และ​มี​สัตว์​เลี้ยง​เป็น​จำนวน​มาก​ด้วย แล้ว​เรา​ไม่​ควร​ที่​จะ​สงสาร​นีนะเวห์​เมือง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​หรือ”