เลวีนิติ 11:29-47

เลวีนิติ 11:29-47 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

สัตว์​ที่​คลาน​ไป​บน​พื้น ที่​ไม่​บริสุทธิ์​สำหรับ​พวกเจ้า​คือ ตัวตุ่น หนู สัตว์​เลื้อย​คลาน​ขนาด​ใหญ่ ตุ๊กแก จระเข้ จิ้ง​จก จิ้งเหลน กิ้งก่า สัตว์​ที่​คลาน​เหล่านี้​ไม่​บริสุทธิ์​สำหรับ​พวกเจ้า ทุกคน​ที่​ไป​แตะ​ต้อง​ซาก​ของ​พวกมัน คนๆนั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ไป​จนถึง​เย็น ถ้า​สัตว์​ที่​ไม่​บริสุทธิ์​เหล่านี้​ตาย และ​ตก​ไป​บน​อะไร​ก็ตาม ของนั้น​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ ไม่ว่า​จะ​เป็น​ของ​ที่​ทำ​ด้วย​ไม้ ผ้า หนัง ขนแพะ หรือ​ภาชนะ​ใด​ก็​แล้วแต่ จะต้อง​เอา​ของนั้น​ไป​แช่น้ำ และ​มัน​จะ​คง​ไม่​บริสุทธิ์​ไป​จนถึง​เย็น หลัง​จากนั้น​มัน​ก็​จะ​บริสุทธิ์​เหมือน​เดิม และ​ถ้า​สัตว์​เหล่านั้น​ตก​ไป​บน​ภาชนะ​ที่​ทำ​จาก​ดิน ของ​ทุกอย่าง​ที่​อยู่​ใน​ภาชนะ​นั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์ และ​เจ้า​ต้อง​ทำลาย​ภาชนะ​ใบนั้น​ทิ้งเสีย ถ้า​เจ้า​เท​น้ำ​ที่​อยู่​ใน​ภาชนะ​ที่​ไม่​บริสุทธิ์​นั้น ลงไป​ใน​ของ​ที่​กินได้ ของนั้น​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ตาม​ไปด้วย สิ่ง​ที่​ดื่ม​ได้​ถ้า​อยู่​ใน​ภาชนะ​ที่​ไม่​บริสุทธิ์ มัน​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​เหมือน​กัน ถ้า​ส่วนหนึ่ง​ส่วนใด​ของ​ซาก​สัตว์นั้น​ตกลง​บน​อะไร​ก็ตาม ของนั้น​ก็​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ไปด้วย ถ้า​ไป​ตก​บน​เตาอบ​หรือ​เตา ก็​ให้​ทำลาย​ของ​พวกนั้น​เสีย เพราะ​มัน​จะ​กลาย​เป็น​ของ​ไม่​บริสุทธิ์​และ​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ตลอดไป แต่​ถ้า​เป็น​ตาน้ำ​หรือ​บ่อ​เก็บน้ำ มัน​จะ​ยังคง​บริสุทธิ์​อยู่ แต่​คน​ที่​ไป​แตะต้อง​ซาก​สัตว์​ที่​อยู่​ในนั้น​จะ​เป็น​ผู้​ไม่​บริสุทธิ์ และ​ถ้า​ซากสัตว์​เหล่านี้​ตก​ลงไป​ใน​เมล็ดพืช​ที่​กำลัง​จะ​นำ​ไป​ปลูก เมล็ดพืช​เหล่านั้น​จะ​ยัง​บริสุทธิ์​อยู่ แต่​ถ้า​เจ้า​เท​น้ำ​ลง​บน​เมล็ดพืช​แล้ว​เกิด​มี​ซากสัตว์​เหล่านี้​ตก​ลงไป เมล็ดพืช​เหล่านั้น​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​สำหรับ​เจ้า​อีก ถ้า​สัตว์​ที่​เจ้า​ใช้​เป็น​อาหาร​ตายเอง​ตาม​ธรรมชาติ คน​ที่​ไป​จับต้อง​ซาก​ของมัน​จะ​กลาย​เป็น​ผู้​ไม่​บริสุทธิ์​จนถึง​เย็น ใคร​ที่​ไป​กิน​ซาก​ของมัน ต้อง​เอา​เสื้อ​ไป​ซัก​และ​จะ​กลาย​เป็น​คน​ไม่​บริสุทธิ์​จนถึง​เย็น และ​ใคร​ที่​ไป​เก็บ​ส่วนใด​ส่วนหนึ่ง​ของ​ซากนั้น​มา เขา​ต้อง​เอา​เสื้อ​ไป​ซัก​และ​จะ​ไม่​บริสุทธิ์​ไป​จนถึง​เย็น สัตว์​เลื้อย​คลาน​ทุก​ประเภท เจ้า​ต้อง​รังเกียจ​และ​ไม่​กิน​มัน สัตว์​เลื้อย​คลาน​ทุกชนิด ที่​เลื้อย​ไป​มา​บน​พื้นดิน หรือ​ที่​คลาน​สี่ขา หรือ​ที่​มี​หลาย​ขา เจ้า​ก็​ต้อง​ไม่กิน​พวกมัน เพราะ​พวกมัน​น่า​รังเกียจ อย่า​ทำ​ตัวเจ้า​ให้​เป็น​ที่​น่า​รังเกียจ​เพราะ​พวกมัน อย่า​ทำ​ให้​ตัวเจ้า​ต้อง​ไม่​บริสุทธิ์​เพราะ​พวกมัน เพราะ​เจ้า​จะ​ต้อง​กลาย​เป็น​ผู้​ไม่​บริสุทธิ์ เพราะ​เรา​คือ​ยาห์เวห์ พระเจ้า​ของ​พวกเจ้า ให้​รักษา​ตัวเอง​ให้​แตกต่าง​จาก​คนอื่น เพราะ​เราเอง​ก็​แตกต่าง ดังนั้น พวกเจ้า​จึง​ต้อง​ไม่​ทำ​ตัวเอง​ให้​ไม่​บริสุทธิ์ ด้วย​สัตว์​ที่​เลื้อย​คลาน​เหล่านั้น เพราะ​เรา​คือ​ยาห์เวห์ ที่​ได้​นำ​พวกเจ้า​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ เพื่อ​เรา​จะได้​เป็น​พระเจ้า​ของ​พวกเจ้า พวกเจ้า​จึง​ต้อง​ทำ​ตัว​ให้​แตกต่าง​จาก​คนอื่น เพราะ​เราเอง​ก็​แตกต่าง​จาก​ผู้อื่น’” นี่​คือ​กฎ​ต่างๆ​เกี่ยวกับ​สัตว์ นก สิ่งมีชีวิต​ใน​น้ำ และ​สิ่งมีชีวิต​ที่​เลื้อย​คลาน​บน​พื้นดิน กฎ​ต่างๆ​เหล่านี้​ช่วย​ให้​คน​รู้​ถึง​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​สัตว์​ที่​สะอาด​และ​ไม่​สะอาด และ​สัตว์​ที่​กินได้​กับ​สัตว์​ที่​กิน​ไม่ได้

เลวีนิติ 11:29-47 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“บรรดาสัตว์เล็กที่เคลื่อนไปเป็นฝูงๆ บนแผ่นดินชนิดต่อไปนี้ เป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า คือ อีเห็น หนู ตัวเงินตัวทอง ตามชนิดของมัน ตุ๊กแก ตะกวด แย้ จิ้งเหลน และกิ้งก่า บรรดาสัตว์ที่เคลื่อนที่ติดพื้นดินเหล่านี้เป็นมลทินสำหรับเจ้า คนที่แตะต้องเมื่อมันตายแล้ว คนนั้นจะเป็นมลทินไปถึงเวลาเย็น และเมื่อมันตายตกทับสิ่งใด สิ่งนั้นก็เป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไม้ หรือเสื้อผ้า หรือหนังสัตว์ หรือกระสอบ หรือภาชนะใดๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์อย่างใด จะต้องแช่น้ำ และจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น หลังจากนั้นก็นับว่าสะอาดได้ และถ้ามันตกลงไปในภาชนะดิน สิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นจะเป็นมลทิน จงทุบภาชนะนั้นเสีย อาหารที่เคยนับว่าสะอาด แต่ถูกน้ำจากภาชนะนั้น ก็เป็นมลทิน และน้ำดื่มทั้งสิ้นจากภาชนะอย่างนี้จะเป็นมลทิน ถ้าส่วนของซากสัตว์ตกใส่สิ่งใดๆ สิ่งนั้นๆ ก็เป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นเตาอบหรือฐานเตา ต้องทุบเสีย สิ่งเหล่านี้เป็นมลทิน และเป็นของที่เป็นมลทินสำหรับเจ้า อย่างไรก็ตาม น้ำพุหรือน้ำในแอ่งเก็บน้ำเป็นของสะอาด แต่สิ่งใดที่แตะต้องซากสัตว์ที่ตกในน้ำนั้นจะเป็นมลทิน ถ้าส่วนใดของซากสัตว์ตกใส่เมล็ดพืชที่ใช้หว่าน เมล็ดพืชนั้นนับว่าสะอาด ถ้าเทน้ำใส่เมล็ดพืชนั้น แล้วซากสัตว์ส่วนใดตกใส่เมล็ดพืชนั้น ก็เป็นมลทินสำหรับเจ้า “ถ้าสัตว์ซึ่งเจ้ารับประทานได้นั้นตายเอง คนที่แตะต้องซากสัตว์นั้นจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น และคนที่รับประทานซากนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของเขาเสีย และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น คนที่แบกซากนั้นไปก็ต้องซักเสื้อผ้าของตน และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น “บรรดาสัตว์ที่เคลื่อนที่ติดพื้นดินเป็นสิ่งพึงรังเกียจ ห้ามรับประทาน สัตว์ชนิดใดๆ ที่เลื้อยไปด้วยท้อง หรือที่เดินสี่ขา หรือที่มีหลายขาคือ บรรดาสัตว์ที่เคลื่อนที่ติดพื้นดิน ห้ามเจ้ารับประทาน เพราะเป็นสิ่งพึงรังเกียจสำหรับเจ้า อย่าทำให้ตัวเองเป็นที่พึงรังเกียจด้วยบรรดาสัตว์เล็กที่เคลื่อนไปเป็นฝูงๆ บนแผ่นดิน ห้ามทำตัวให้เป็นมลทินด้วยสิ่งเหล่านี้ เกรงว่าเจ้าจะเป็นมลทินไปด้วย เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงชำระตัวให้บริสุทธิ์เพื่อเจ้าจะบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์ เจ้าอย่าทำตัวให้เป็นมลทินด้วยบรรดาสัตว์เล็กที่เคลื่อนไปเป็นฝูงๆ บนแผ่นดิน เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์” เหล่านี้เป็นกฎกล่าวถึงเรื่องสัตว์และนก และสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวไปมาในน้ำ และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน เพื่อให้แยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นมลทินและสิ่งที่สะอาด และระหว่างสิ่งมีชีวิตที่รับประทานได้ และสิ่งมีชีวิตที่รับประทานไม่ได้

เลวีนิติ 11:29-47 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ในบรรดาสัตว์​ที่​เลื้อยคลานไปบนดิน ชน​ิดต่อไปนี้เป็นสัตว์มลทินแก่​เจ้า คือ อีเห็น หนู เห​ี้ยตามชนิดของมัน จิ้งจก ตะกวด แย้ จิ​้งเหลนและกิ้​งก​่า ในบรรดาสัตว์​เลื้อยคลาน ชน​ิดเหล่านี้เป็นมลทินแก่​เจ้า ผู้​ใดแตะต้องเมื่​อม​ันตายแล้ว ผู้​นั้นจะมลทินไปถึงเวลาเย็น และเมื่​อม​ันตายตกทับสิ่งใด สิ​่งนั้​นก​็เป็นมลทิน ไม่​ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไม้ หรือเสื้อผ้า หรือหนังสัตว์ หรือกระสอบ หรือภาชนะใดๆที่​ใช้​เพื่อประโยชน์​อย่างใด จะต้องแช่​น้ำ และจะมลทินไปจนถึงเวลาเย็น ต่อไปก็นับว่าสะอาดได้ และถ้ามันตกลงไปในภาชนะดิน สิ​่งที่​อยู่​ในภาชนะนั้นจะมลทิน จงทุบภาชนะนั้นเสีย อาหารในภาชนะนั้​นที​่รับประทานได้ซึ่​งม​ีน้ำปนอยู่​ก็​เป็นมลทิน และน้ำดื่​มท​ั้งสิ้นซึ่งจะดื่มได้จากภาชนะอย่างนี้จะมลทิน ถ้าส่วนใดของซากสัตว์ตกใส่​สิ​่งใดๆ สิ​่งนั้นๆก็​มลทิน ไม่​ว่าเป็นเตาอบหรือเตา ต้องทุบเสีย เป็นมลทิน และเป็นของมลทินแก่​เจ้า อย่างไรก็ตามน้ำพุหรือน้ำในแอ่งเก็​บน​้ำเป็นของสะอาด แต่​สิ​่งใดที่แตะต้องซากสัตว์นั้นจะมลทิน ถ้าส่วนใดของซากตกใส่เมล็ดพืชที่​ใช้​หว่าน พื​ชน​ั้นนับว่าสะอาด แต่​ถ้าเอาเมล็ดพื​ชน​ั้นแช่​น้ำไว​้ และซากสัตว์ส่วนใดตกใส่น้ำนั้​นก​็เป็นมลทินแก่​เจ้า ถ้าสัตว์ซึ่งเจ้าจะรับประทานได้นั้นตายเอง ผู้​ที่​แตะต้องซากสัตว์นั้นจะมลทินไปจนถึงเวลาเย็น และผู้ใดที่รับประทานซากนั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของเขาเสียและเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น ผู้​ใดที่จับถือซากนั้นไปก็ต้องซักเสื้อผ้าของตน และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น บรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่ไปบนแผ่นดินเป็นสิ่งพึงรังเกียจ อย่ารับประทาน สิ​่งใดที่เลื้อยไปด้วยท้อง หรือสิ่งที่เดินสี่​ขา หรือสิ่งที่​มี​หลายขา ทุ​กสิ่งที่คลานไปบนแผ่นดิน เจ้​าอย่ารับประทาน เพราะเป็นสิ่งพึงรังเกียจ เจ้​าอย่ากระทำให้ตัวเองเป็​นที​่พึงรังเกียจด้วยสัตว์เลื้อยคลานใดๆ อย่าทำตัวให้เป็นมลทินไปด้วยสัตว์​เหล่านี้​เลย เกรงว่าเจ้าจะเป็นมลทินไปด้วย เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า จงชำระตัวไว้​ให้​บริสุทธิ์ เพราะเราบริ​สุทธิ​์ เจ้​าอย่าทำตัวให้เป็นมลทินไปด้วยสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งคลานไปบนแผ่นดิน เพราะเราคือพระเยโฮวาห์​ผู้​นำเจ้าออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริ​สุทธิ​์ เพราะเราบริ​สุทธิ​์” เหล่านี้​เป็นพระราชบัญญั​ติ​กล​่าวถึงเรื่องสัตว์และนก และสิ่​งม​ี​ชี​วิตที่เคลื่อนไหวไปมาในน้ำ และสัตว์​ทุ​กชนิดที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน เพื่อให้​สังเกตความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เป็นมลทินและสิ่งที่​ไม่​เป็นมลทิน และระหว่างสัตว์​ที่​มี​ชี​วิตรับประทานได้ และสัตว์​มี​ชี​วิตที่รับประทานไม่​ได้

เลวีนิติ 11:29-47 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<ในบรรดาสัตว์เล็กๆซึ่งมีมากบนดินชนิดต่อไปนี้ เป็นสัตว์มลทินแก่เจ้า คือ อีเห็น หนู เหี้ย ตามชนิดของมัน จิ้งจก จะกวด แย้ จิ้งเหลน และกิ้งก่า ในบรรดาสัตว์เล็กๆที่มีมากชนิดเหล่านี้ เป็นมลทินแก่เจ้า ผู้ใดแตะต้องเมื่อมันตายแล้ว ผู้นั้นจะมลทินไปถึงเวลาเย็น และเมื่อมันตายตกทับสิ่งใดสิ่งนั้นก็เป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไม้ หรือเสื้อผ้า หรือหนังสัตว์ หรือกระสอบ หรือภาชนะใดๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์อย่างใดจะต้องแช่น้ำ และจะมลทินไปจนถึงเวลาเย็น ต่อไปก็นับว่าสะอาดได้ และถ้ามันตกลงไปในภาชนะดิน สิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นจะมลทิน จงทุบภาชนะนั้นเสีย อาหารในภาชนะนั้นที่รับประทานได้ซึ่งมีน้ำปนอยู่ ก็เป็นมลทิน และน้ำดื่มทั้งสิ้นซึ่งจะดื่มได้จากภาชนะอย่างนี้จะมลทิน ถ้าส่วนใดของซากสัตว์ตกใส่สิ่งใดๆ สิ่งนั้นๆก็มลทิน ไม่ว่าเป็นเตาอบหรือเตา ต้องทุบเสีย เป็นมลทิน และเป็นของมลทินแก่เจ้า อย่างไรก็ตาม น้ำพุหรือน้ำในแอ่งเก็บน้ำเป็นของสะอาด แต่สิ่งใดที่แตะต้องซากสัตว์นั้น จะมลทิน ถ้าส่วนใดของซากตกใส่เมล็ดพืชที่ใช้หว่าน พืชนั้นนับว่าสะอาด ถ้าเทน้ำใส่พืชนั้น และซากสัตว์ส่วนใดตกใส่พืชนั้น ก็เป็นมลทินแก่เจ้า <<ถ้าสัตว์ซึ่งเจ้าจะรับประทานได้นั้นตายเอง ผู้ที่แตะต้องซากสัตว์นั้นจะมลทินไปจนถึงเวลาเย็น และผู้ใดที่รับประทานซาก นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของเขาเสีย และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น ผู้ใดที่จับถือซากนั้นไปก็ต้องซักเสื้อผ้าของตน และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น <<บรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่ไปเป็นฝูงๆ บนแผ่นดินเป็นสิ่งพึงรังเกียจอย่ารับประทาน สิ่งใดที่เลื้อยไปด้วยท้อง หรือสิ่งที่เดินสี่ขา หรือสิ่งที่มีหลายขา ทุกสิ่งที่คลานไปบนแผ่นดินเจ้าอย่ารับประทาน เพราะเป็นสิ่งพึงรังเกียจแก่เจ้า เจ้าอย่ากระทำให้ตัวเองเป็นที่พึงรังเกียจ ด้วยสัตว์เลื้อยคลานใดๆ อย่าทำตัวให้เป็นมลทินไปด้วยสิ่งเหล่านี้เลย เกรงว่าเจ้าจะไม่สะอาดไปด้วย เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า จงชำระตัวไว้ให้บริสุทธิ์เพราะเรา บริสุทธิ์ เจ้าอย่าทำตัวให้เป็นมลทินไปด้วยสัตว์เล็กๆ ที่มีมากซึ่งคลานไปบนดิน เพราะเราคือพระเจ้าผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์>> เหล่านี้เป็นกฎกล่าวถึงเรื่องสัตว์และนก และสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวไปมาในน้ำ และสัตว์ทุกชนิดที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน เพื่อให้สังเกตความแตกต่างระหว่าง สิ่งที่เป็นมลทินและสิ่งที่สะอาด และระหว่างสิ่งที่มีชีวิตรับประทานได้ และสัตว์มีชีวิตที่รับประทานไม่ได้

เลวีนิติ 11:29-47 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“ ‘สัตว์ที่เลื้อยคลานต่อไปนี้เป็นสัตว์ที่เป็นมลทินสำหรับเจ้าได้แก่ อีเห็น หนู ตะกวดทุกชนิด ตุ๊กแก จิ้งเหลน จิ้งจก แย้ กิ้งก่า สัตว์เหล่านี้เป็นมลทินสำหรับเจ้า ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น และหากซากของมันไปถูกสิ่งใด สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นภาชนะไม้ เสื้อผ้า หนังสัตว์ หรือกระสอบ ให้นำสิ่งนั้นไปจุ่มน้ำ มันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น และหลังจากนั้นมันจึงจะสะอาด หากมันตกลงไปในหม้อดิน สิ่งที่อยู่ในหม้อนั้นก็เป็นมลทิน จงทุบหม้อใบนั้นทิ้ง อาหารใดๆ ที่กินได้แต่มีน้ำจากหม้อนั้นก็เป็นมลทิน และของเหลวที่ดื่มได้จากหม้อนั้นก็เป็นมลทินด้วย ซากสัตว์เหล่านี้ไปถูกสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นย่อมเป็นมลทิน ไม่ว่าเตาอบหรือหม้อหุงต้มต้องทุบทิ้ง สิ่งเหล่านี้เป็นมลทินและเจ้าต้องถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นมลทิน หากซากสัตว์ตกลงไปในน้ำพุหรือแหล่งน้ำ น้ำนั้นไม่เป็นมลทิน แต่ผู้ที่แตะต้องซากสัตว์จะเป็นมลทิน หากซากสัตว์ไปถูกเมล็ดพืชที่จะหว่าน เมล็ดพืชเหล่านั้นไม่เป็นมลทิน แต่หากเมล็ดนั้นแช่น้ำอยู่และซากสัตว์ตกลงไปถูกมัน เมล็ดนั้นเป็นมลทินสำหรับเจ้า “ ‘หากสัตว์ซึ่งอนุญาตให้เจ้ากินได้นั้นตาย ผู้ใดแตะต้องซากของมันจะเป็นมลทินจนถึงเย็น ผู้ใดที่กินเนื้อของมันหรือเอาซากออกไปทิ้ง ผู้นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของตนและเป็นมลทินจนถึงเย็น “ ‘เจ้าพึงรังเกียจสัตว์ที่เลื้อยคลานทุกชนิด อย่ากินมันเลย ห้ามเจ้ากินสัตว์เหล่านี้ทุกชนิด ไม่ว่าสัตว์ที่เลื้อยไปด้วยท้อง ที่คลานสี่ขา หรือที่มีขามากกว่านั้น พวกมันเป็นสัตว์น่ารังเกียจ อย่าทำให้ตัวเองแปดเปื้อนด้วยสัตว์เหล่านี้โดยไปแตะต้องมัน หรือให้มันมาถูกต้องตัวเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงแยกตัวออกมาเพื่อเรา และรักษาตนเองให้บริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์ อย่าทำให้ตัวเองเป็นมลทินโดยแตะต้องสัตว์ที่เลื้อยคลานใดๆ เราคือพระยาห์เวห์ผู้ที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า ดังนั้นจงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์ “ ‘ทั้งหมดนี้คือกฎระเบียบเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์ที่เลื้อยคลานทุกชนิด เจ้าจะต้องแยกแยะระหว่างสิ่งที่สะอาดและสิ่งที่เป็นมลทิน สัตว์ที่เจ้ากินได้และที่ห้ามกิน’ ”

เลวีนิติ 11:29-47 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

สัตว์​ที่​คลาน​บน​พื้น​ดิน​ที่​เป็น​มลทิน​สำหรับ​เจ้า​คือ อีเห็น หนู สัตว์​ประเภท​ตะกวด ตุ๊กแก จระเข้ จิ้งจก จิ้งเหลน และ​กิ้งก่า สัตว์​เลื้อย​คลาน​เหล่า​นี้​เป็น​มลทิน​สำหรับ​เจ้า ผู้​ใด​แตะ​ต้อง​ตัว​ที่​ตาย​แล้ว จะ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น และ​ถ้า​ตัว​ที่​ตาย​แล้ว​ตก​บน​สิ่ง​ใด สิ่ง​นั้น​ก็​เป็น​มลทิน ไม่​ว่า​ภาชนะ​ใดๆ ที่​ทำ​ด้วย​ไม้ หรือ​ผ้า หรือ​หนัง​สัตว์ หรือ​ถุง​ย่าม​ก็​จะ​ต้อง​จุ่ม​น้ำ และ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น จาก​นั้น​จึง​จะ​สะอาด และ​ถ้า​สัตว์​ตัว​ใด​ตก​ใน​ภาชนะ​ดิน​เผา ทุก​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ภาชนะ​จะ​เป็น​มลทิน และ​เจ้า​ต้อง​ทุบ​ให้​แตก ถ้า​อาหาร​ที่​รับ​ประทาน​ได้​มี​น้ำ​จาก​ภาชนะ​ดัง​กล่าว​ปน​อยู่ ก็​จะ​เป็น​มลทิน และ​เครื่อง​ดื่ม​ทุก​ชนิด​จาก​ภาชนะ​นั้น​ก็​เป็น​มลทิน อะไร​ก็​ตาม​ที่​แตะ​ต้อง​ซาก​สัตว์​จะ​เป็น​มลทิน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เตา​อบ​หรือ​เตา​ไฟ​ก็​ตาม จะ​ต้อง​ทุบ​แตก​ให้​หมด เพราะ​เป็น​มลทิน และ​จะ​เป็น​มลทิน​สำหรับ​เจ้า อย่าง​ไร​ก็​ตาม น้ำพุ​หรือ​บ่อ​เก็บ​น้ำ​จะ​ยัง​สะอาด​อยู่ แต่​ถ้า​ผู้​ใด​แตะ​ต้อง​ซาก​สัตว์​ที่​ตกลง​ใน​น้ำ​ก็​จะ​เป็น​มลทิน และ​ถ้า​ซาก​สัตว์​ตก​ใส่​เมล็ด​พืช​ที่​จะ​ใช้​หว่าน เมล็ด​ก็​ยัง​สะอาด แต่​ถ้า​เมล็ด​ถูก​น้ำ​รด​และ​ซาก​สัตว์​ตก​ใส่​ซ้ำ เมล็ด​ก็​จะ​เป็น​มลทิน​สำหรับ​พวก​เจ้า ถ้า​สัตว์​ที่​เจ้า​ใช้​เป็น​อาหาร​รับ​ประทาน​นั้น​ตาย​เอง ใคร​ก็​ตาม​แตะ​ต้อง​ซาก​สัตว์​จะ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น ผู้​ใด​รับ​ประทาน​ซาก​สัตว์​ต้อง​ซัก​ล้าง​เครื่อง​แต่ง​กาย​ของ​ตน​และ​จะ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น ผู้​ที่​แบก​หาม​ซาก​สัตว์​ไป​จะ​ต้อง​ซัก​ล้าง​เครื่อง​แต่ง​กาย​และ​เป็น​มลทิน​จน​ถึง​เย็น​เช่น​กัน สัตว์​เลื้อย​คลาน​ทุก​ชนิด​ที่​คลาน​ไป​บน​ดิน​น่า​ขยะ​แขยง​และ​ห้าม​รับ​ประทาน อะไร​ที่​ใช้​ท้อง​คืบ​คลาน​ไป และ​อะไร​ที่​เดิน​ด้วย​สี่​เท้า หรือ​มี​หลาย​ขา ทุก​สิ่ง​ที่​คลาน​ไป​บน​พื้น​ดิน ห้าม​พวก​เจ้า​รับ​ประทาน เพราะ​มัน​เป็น​มลทิน อย่า​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เป็น​ที่​น่า​ขยะ​แขยง​เพราะ​สัตว์​เลื้อย​คลาน และ​เจ้า​อย่า​ทำ​ให้​ตัว​เอง​มี​มลทิน​ไป​ด้วย​กับ​สัตว์​เหล่า​นั้น และ​กลาย​เป็น​คน​มี​มลทิน​ก็​เพราะ​มัน ด้วย​ว่า​เรา​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​พวก​เจ้า ฉะนั้น​จง​ชำระ​ตัว​ให้​บริสุทธิ์ และ​จง​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์ เพราะ​เรา​บริสุทธิ์ เจ้า​จง​อย่า​ทำ​ตัว​ให้​เป็น​มลทิน​จาก​สิ่ง​ทั้ง​หลาย​ที่​เลื้อย​คลาน​บน​ดิน ด้วย​ว่า​เรา​คือ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​นำ​เจ้า​ออก​มา​จาก​แผ่น​ดิน​อียิปต์​เพื่อ​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​พวก​เจ้า ฉะนั้น​เจ้า​จง​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์ เพราะ​เรา​บริสุทธิ์’” นี่​เป็น​กฎ​บัญญัติ​เกี่ยว​กับ​สัตว์​และ​นก และ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทุก​ชนิด​ที่​เคลื่อน​ไหว​ใน​น้ำ และ​ทุก​สิ่ง​ที่​คลาน​บน​ดิน เพื่อ​ให้​ท่าน​เห็น​ความ​แตก​ต่าง​ระหว่าง​สิ่ง​มี​มลทิน​และ​สิ่ง​สะอาด และ​ระหว่าง​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​รับ​ประทาน​ได้​และ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ที่​รับ​ประทาน​ไม่​ได้