เลวีนิติ 25:11-55
เลวีนิติ 25:11-55 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในปีที่ห้าสิบจะเป็นปีแห่งการปลดปล่อยสำหรับเจ้า เจ้าต้องไม่เพาะปลูกและไม่เก็บเกี่ยวสิ่งที่เติบโตเองตามธรรมชาติ และเจ้าต้องไม่เก็บองุ่นจากต้นองุ่นที่ยังไม่ได้ตัดแต่ง เพราะมันเป็นปีแห่งการปลดปล่อย เป็นปีที่อุทิศให้กับพวกเจ้า เจ้าจะกินได้แต่ผลผลิตที่เกิดขึ้นมาเองจากทุ่งนานั้น ในปีแห่งการปลดปล่อย ทุกคนจะกลับไปยังที่ดินของตน ดังนั้นเมื่อเจ้าขายที่ดินให้เพื่อนบ้าน หรือซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านมา ก็อย่าโกงกัน ถ้าเจ้าต้องการซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้าน ก็ให้นับดูว่าผ่านปีแห่งการปลดปล่อยครั้งหลังสุดนี้มากี่ปีแล้ว และเพื่อนบ้านก็ต้องดูว่าจะเพาะปลูกได้อีกกี่ปี ก่อนจะถึงปีแห่งการปลดปล่อยครั้งต่อไป แล้วก็ซื้อขายกันตามจำนวนปีที่เหลือนั้น ยิ่งเหลือเวลาอีกหลายปี ราคาของที่ดินก็จะยิ่งสูงขึ้น ยิ่งเหลือเวลาน้อย ราคาก็จะยิ่งถูกลง เพราะเขากำลังขายจำนวนปีที่จะใช้ปลูกพืชผลได้ อย่าได้โกงกัน แต่ให้ยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าต้องเชื่อฟังกฎเหล่านั้นของเรา และรักษาระเบียบต่างๆของเรา และทำตามพวกมัน เพื่อพวกเจ้าจะได้อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินนี้ แล้วแผ่นดินจะให้ผลผลิตของมัน และเจ้าจะมีกินอย่างเหลือเฟือ และจะอยู่กันอย่างปลอดภัยในแผ่นดินนั้น ถ้าเจ้าพูดว่า “แล้วเราจะเอาอะไรกินกันในปีที่เจ็ด ถ้าเราไม่เพาะปลูกและไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตในที่ดินนั้น” เราจะอวยพรเจ้าในปีที่หก แผ่นดินจะให้ผลผลิตกับเจ้าพอสำหรับสามปี เมื่อเจ้าเริ่มเพาะปลูกในปีที่แปด เจ้าจะยังสามารถกินผลผลิตเก่าที่เก็บไว้ได้ จนกว่าจะถึงปีที่เก้าซึ่งผลผลิตใหม่จะเริ่มออกมา เจ้าจะขายที่ดินกันอย่างถาวรไม่ได้ เพราะแผ่นดินนี้เป็นของเรา เจ้าเป็นเพียงคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ และเป็นคนเช่าที่อาศัยอยู่ร่วมกับเรา ทั่วทั้งประเทศที่พวกเจ้าเป็นเจ้าของอยู่ พวกเจ้าต้องยินยอมให้คนที่ขายที่ดินนั้นให้กับเจ้า ไถ่ที่ดินนั้นกลับคืนไปได้ ถ้าญาติของเจ้ายากจนและขายที่ดินบางส่วนไป ญาติสนิทของเขาต้องมาไถ่ที่ผืนนั้นของญาติเขากลับคืน ถ้าเขาไม่มีญาติสนิทที่จะมาไถ่คืน แต่ตัวเขาเองหาเงินมาได้เพียงพอที่จะไถ่ที่ดินของเขาคืน เขาต้องนับดูว่าเขาขายที่ดินไปกี่ปีแล้ว เขาก็จ่ายเงินคืนให้กับผู้ซื้อในส่วนที่ผู้ซื้อจ่ายเกินมา แล้วเขาก็จะได้ที่ดินกลับคืน แต่ถ้าเขาไม่สามารถซื้อกลับคืนได้ ที่ดินผืนนั้นจะคงอยู่กับคนที่ซื้อมันไปจากเขา จนกระทั่งถึงปีแห่งการปลดปล่อย ในปีแห่งการปลดปล่อยนี้ ที่ดินก็จะได้รับการปลดปล่อย และเจ้าของที่ดินดั้งเดิมจะได้ที่ดินของเขากลับคืนไป ถ้าคนหนึ่งขายบ้านที่เขาอยู่อาศัยภายในเขตกำแพงเมือง เขาสามารถไถ่คืนภายในเวลาหนึ่งปีหลังจากที่เขาขายมัน สิทธิในการไถ่นี้จะถูกจำกัดเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ถ้าเขายังไม่ไถ่คืนหลังจากหนึ่งปีเต็ม บ้านที่อยู่ในเขตกำแพงเมืองหลังนั้น จะตกเป็นของผู้ซื้อและลูกหลานของเขาอย่างถาวร และจะไม่ได้รับการปลดปล่อยในปีแห่งการปลดปล่อยด้วย แต่บ้านในหมู่บ้านเล็กๆที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบ จะใช้กฎเดียวกับที่ดิน คือคนขายสามารถไถ่คืนได้ และมันก็จะได้รับการปลดปล่อยในปีแห่งการปลดปล่อย แต่ถ้าเป็นเมืองของชาวเลวี ชาวเลวีมีสิทธิไถ่บ้านของพวกเขาที่อยู่ในเมืองกลับคืนได้ตลอดเวลา แต่ถ้าชาวเลวีไม่ได้ไถ่บ้านของเขาคืน บ้านที่เขาขายไปนั้นก็จะกลับมาเป็นของเขา ในปีแห่งการปลดปล่อย เพราะบ้านของพวกเลวีที่อยู่ในเมืองนั้น เป็นสมบัติถาวรของพวกเขาท่ามกลางคนอิสราเอล แต่ทุ่งหญ้าที่อยู่รอบๆเมืองของชาวเลวีนั้น จะขายไม่ได้ เพราะมันจะเป็นสมบัติของพวกเขาตลอดไป ถ้าพี่น้องของเจ้าเกิดยากจนขึ้นมา และเขาไม่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ ก็ให้ช่วยเหลือเขา เหมือนกับที่เจ้าช่วยเหลือชาวต่างชาติหรือคนผ่านทาง เพื่อเขาจะได้อยู่ต่อไปท่ามกลางเจ้า เจ้าต้องไม่คิดดอกเบี้ยทบต้นจากเขา แต่ให้ยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เพื่อพี่น้องของเจ้าจะได้อยู่กับเจ้าต่อไป เจ้าต้องไม่คิดดอกเบี้ยจากเงินที่เจ้าให้เขากู้ยืม และไม่คิดดอกเบี้ยทบต้นจากอาหารที่เจ้าให้เขากิน เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อยกแผ่นดินคานาอันนี้ให้กับเจ้า และเพื่อจะได้เป็นพระเจ้าของเจ้า ถ้าพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจน และขายตัวเองให้กับเจ้า เจ้าต้องไม่ให้เขาทำงานของทาส เขาจะเป็นเหมือนคนงานรับจ้างหรือคนงานผู้อยู่อาศัยกับเจ้า เขาจะรับใช้เจ้าจนถึงปีแห่งการปลดปล่อย แล้วเขาและลูกๆของเขาจะไปจากเจ้า และกลับไปยังตระกูลของเขาและที่ดินของบรรพบุรุษเขา เพราะพวกเขาคือทาสของเรา เราได้นำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาต้องไม่ถูกขายเป็นทาส เจ้าต้องไม่ปกครองเขาอย่างโหดร้ายทารุณ แต่เจ้าต้องยำเกรงพระเจ้าของเจ้า ทาสชายและทาสหญิงของเจ้า ต้องมาจากชนชาติที่อยู่รอบๆเจ้า เจ้าต้องซื้อทาสชายและทาสหญิงจากพวกเขา เจ้าอาจซื้อทาสจากลูกๆของพวกชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่กับเจ้า หรือจากครอบครัวของเขาที่อยู่กับเจ้าและเกิดบนแผ่นดินของเจ้า พวกนี้จะกลายเป็นสมบัติของเจ้า และเมื่อเจ้าตาย คนเหล่านี้ก็จะเป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลานของเจ้าตลอดไป คนพวกนั้นเจ้าสามารถเอามาเป็นทาสได้ แต่เจ้าต้องไม่ปกครองพี่น้องร่วมชาติของเจ้า ที่เป็นชาวอิสราเอลอย่างโหดร้ายทารุณ ถ้าชาวต่างชาติหรือแขกผู้มาเยือนของเจ้าเป็นคนรวยและพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายตัวเองให้กับชาวต่างชาติหรือแขกผู้มาเยือน หรือสมาชิกในครอบครัวของชาวต่างชาติ หลังจากที่เขาขายตัวเองไปแล้ว ญาติคนใดคนหนึ่งก็มีสิทธิไถ่เขาคืนมาได้ หรือลุงหรือลูกพี่ลูกน้อง หรือญาติสนิทจากครอบครัวเขา ก็มีสิทธิไถ่เขาคืนมาได้ หรือถ้าเขาหาเงินมาได้เพียงพอ เขาก็สามารถไถ่ตัวเองคืนได้เหมือนกัน เขาและคนซื้อเขาไป ต้องนับจำนวนปีทั้งหมด ตั้งแต่ปีที่เขาขายตัวเองไปจนถึงปีแห่งการปลดปล่อย และราคาของตัวเขาก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เหลือนั้น เวลาที่เขาอยู่กับคนที่ซื้อเขานั้นจะนับเหมือนเวลาของลูกจ้างคนหนึ่ง เขาจะต้องจ่ายค่าไถ่ให้กับคนที่ซื้อเขามา จะจ่ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เหลือ ตั้งแต่วันที่ตกลงจะไถ่คืนจนถึงปีแห่งการปลดปล่อย ถ้ายังเหลืออีกหลายปี ก็ต้องจ่ายค่าไถ่มากหน่อย ถ้าเหลือไม่กี่ปี ก็จ่ายค่าไถ่น้อยหน่อย คนที่ขายตัวเองจะอยู่กับชาวต่างชาติเหมือนกับคนงานรับจ้างรายปี ชาวต่างชาติจะต้องไม่ปกครองเขาอย่างโหดร้ายทารุณต่อหน้าเจ้า แต่ถ้าเขาไม่ได้รับการไถ่ โดยวิธีใดวิธีหนึ่งที่บอกนี้ ตัวเขาและลูกๆเขาก็จะเป็นอิสระในปีแห่งการปลดปล่อย เพราะประชาชนชาวอิสราเอลคือทาสของเรา พวกเขาเป็นทาสเรา เราได้นำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
เลวีนิติ 25:11-55 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ปีที่ห้าสิบนั้นเป็นปีอิสรภาพของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บผลที่เกิดขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่ไม่ได้ตกแต่ง เพราะเป็นปีอิสรภาพ จะเป็นปีบริสุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับประทานพืชผลที่งอกขึ้นเองในปีนั้น “ในปีอิสรภาพนี้ให้ทุกคนกลับไปสู่ภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน ถ้าเจ้าจะขายไร่นาให้เพื่อนบ้านก็ดี หรือซื้อจากเพื่อนบ้านก็ดี เจ้าอย่าโกงกัน ตามจำนวนปีหลังจากปีอิสรภาพ เจ้าจงซื้อไร่นาจากเพื่อนบ้านของเจ้า และให้เขาขายแก่เจ้าตามจำนวนปีที่ปลูกพืชได้ ถ้ามากปีก็ต้องเพิ่มราคาสูงขึ้น ถ้าน้อยปีเจ้าจงลดราคาให้ต่ำลง เพราะที่เขาขายนั้นเขาก็ขายตามจำนวนปีที่ปลูกพืช ห้ามโกงกัน แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า “เพราะฉะนั้นเจ้าจงทำตามกฎเกณฑ์ของเรา และจงรักษากฎหมายของเรา และจงปฏิบัติตามทุกอย่าง เพื่อเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัย แผ่นดินจะอำนวยผลให้เจ้าได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ และอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย ถ้าเจ้าจะพูดว่า ‘ถ้าเราทั้งหลายไม่หว่านหรือเกี่ยวพืชผลของเรา ในปีที่เจ็ดเราจะเอาอะไรรับประทาน?’ เราจะบัญชาพรของเราให้มาเหนือเจ้าในปีที่หก เพื่อจะมีพืชผลพอสำหรับสามปี เมื่อเจ้าหว่านในปีที่แปด เจ้าจะรับประทานของเก่าของเจ้าจนปีที่เก้า เมื่อเจ้าได้พืชผลใหม่เข้ามา เจ้าก็ยังรับประทานพืชผลเก่าของเจ้าอยู่ ส่วนที่ดินนั้นเจ้าห้ามขายขาด เพราะว่าที่ดินนั้นเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นเพียงคนต่างด้าวและแขกเมืองที่อาศัยอยู่กับเรา ตลอดทั่วแผ่นดินที่พวกเจ้ายึดถืออยู่ เจ้าจงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืน “ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลง และต้องขายที่ดินส่วนหนึ่งของเขาไป จงให้ญาติสนิทของเขามาไถ่ถอนไร่นาที่พี่น้องของเขาขายไปนั้น ถ้าชายคนนั้นไม่มีญาติมาไถ่ถอนให้ แต่ต่อมาเขามั่งมีขึ้น และมีทรัพย์พอจะไถ่ถอนได้ ให้เขานับปีย้อนกลับไปถึงปีที่เขาขายให้ แล้วจงนับเงินที่ควรจ่ายกลับคืนนั้นให้แก่คนที่ตนขายให้ แล้วจึงกลับเข้าอยู่ในที่ดินของตนเองได้ ถ้าเขาไม่มีทรัพย์พอจะไถ่คืน ที่ดินที่เขาได้ขายไปจะคงอยู่ในมือของผู้ซื้อจนถึงปีอิสรภาพ ให้ผู้ซื้อคืนกลับให้เจ้าของในปีอิสรภาพนี้ และเจ้าของเดิมจะกลับเข้ามาอยู่ในที่เดิมของเขาได้ “ถ้าผู้ใดขายบ้านซึ่งอยู่ในเมืองที่มีกำแพง เมื่อขายไปแล้วให้เขาไถ่ถอนคืนได้ภายในหนึ่งปีแรก ให้เขามีสิทธิ์ไถ่คืนได้หนึ่งปีเต็ม ถ้าในเวลาหนึ่งปีเต็มเขาไม่ไถ่ถอน ก็ให้จัดการเสียให้แน่นอนว่า ผู้ซื้อมีสิทธิ์เหนือบ้านที่อยู่ในเมืองที่มีกำแพงนั้นตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขา ในปีอิสรภาพเขาก็ไม่ต้องคืนให้ แต่บ้านในชนบทที่ไม่มีกำแพงล้อม ให้นับเข้าเป็นพวกเดียวกับท้องทุ่งในประเทศนั้น คือไถ่ถอนคืนได้ และจะต้องคืนกลับให้เจ้าของเดิมในปีอิสรภาพ แต่อย่างไรก็ตาม เมืองของคนเลวี หรือบ้านในเมืองที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ คนเลวีจะไถ่ถอนคืนได้ทุกเวลา คือบ้านของคนเลวีที่อยู่ในเมืองที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ซึ่งถูกขายไปจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีอิสรภาพ เพราะบ้านในเมืองของคนเลวี เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาท่ามกลางคนอิสราเอล แต่ที่ดินสาธารณะที่อยู่รอบเมืองจะซื้อขายกันไม่ได้ เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของเขาทั้งหลาย “ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเลี้ยงตนเองท่ามกลางพวกเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องเลี้ยงดูเขาให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวและแขกเมือง อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อว่าพี่น้องของเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ ห้ามให้เขายืมเงินโดยคิดดอกเบี้ย หรือขายอาหารโดยเอากำไรจากเขา เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า “ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและอยู่ใกล้ชิดเจ้าและขายตัวให้แก่เจ้า ห้ามใช้เขาทำงานเป็นทาส ให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างลูกจ้างหรือแขกเมือง ให้เขาปรนนิบัติเจ้าไปจนถึงปีอิสรภาพ แล้วเขาและลูกหลานของเขาจะออกไปจากเจ้า กลับไปสู่ครัวเรือนของเขา และกลับไปอยู่ในที่ดินของบิดาของเขา เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราพาออกจากอียิปต์ พวกเขาจะถูกขายเป็นทาสไม่ได้ ห้ามปกครองพวกเขาด้วยความรุนแรง แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า ส่วนทาสชายหญิงซึ่งจะมีได้นั้น เจ้าจะซื้อทาสชายหญิงจากประชาชาติต่างๆ ที่อยู่ล้อมรอบเจ้าก็ได้ เจ้าจะซื้อจากคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าทั้งครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นคนเกิดในแผ่นดินของเจ้า และพวกเขาจะตกเป็นทรัพย์สินของเจ้าก็ได้ เจ้าจะทำพินัยกรรมยกเขาให้แก่บุตรหลานของเจ้าให้เป็นมรดกแก่พวกเขาเป็นกรรมสิทธิ์เป็นนิตย์ก็ได้ เจ้าใช้เขาได้อย่างทาส แต่เจ้าทั้งหลายห้ามปกครองพี่น้องคนอิสราเอลด้วยความรุนแรง “ถ้าคนต่างด้าวหรือแขกเมืองของเจ้ามั่งมีขึ้น และพี่น้องของเจ้าที่อยู่กับเขายากจนลง และขายตัวให้แก่คนต่างด้าวหรือแขกเมืองที่อยู่กับเจ้านั้น หรือขายตัวให้แก่ญาติคนหนึ่งคนใดของคนต่างด้าวนั้น เมื่อเขาขายตัวแล้วก็ให้มีการไถ่ถอน คือพี่น้องคนหนึ่งคนใดของเขาไถ่ถอนเขาได้ หรือลุงหรือลูกพี่ลูกน้องจะไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือญาติสนิทของตระกูลของเขาจะไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือถ้าเขามั่งมีขึ้นเขาจะไถ่ถอนตัวเองก็ได้ ให้ผู้ที่ขายตัวคิดกับผู้รับซื้อตัวเขาไปว่า เขาได้ขายตัวกี่ปีจึงจะถึงปีอิสรภาพ ค่าตัวของเขานับค่าตามจำนวนปี เวลาที่เขาอยู่กับเจ้าของนั้นคิดตามเวลาของลูกจ้าง ถ้ามีเวลาอีกหลายปี เขาต้องชำระเงินคืนตามมูลค่าของจำนวนปีที่เหลืออยู่ นับเป็นค่าไถ่ถอนตัวเขา ถ้ายังเหลือน้อยปีจึงจะถึงปีอิสรภาพ ก็ให้ผู้ขายตัวคิดกับผู้ซื้อตัวไว้เป็นเงินตามจำนวนปีที่เขาควรจะรับใช้คืนเป็นเงินค่าไถ่เขา ให้เขาเป็นลูกจ้างรายปีอยู่กับนาย ห้ามนายปกครองข่มขี่เขาอย่างรุนแรงท่ามกลางพวกเจ้า ถ้าเขาไม่ไถ่ถอนตามที่กล่าวมานี้ ก็ให้ปล่อยเขาในปีอิสรภาพ ทั้งเขาพร้อมกับลูกของเขา ต่อเรานั้น คนอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ เขาเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราพาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
เลวีนิติ 25:11-55 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ปีที่ห้าสิบนั้นเป็นปีเสียงแตรของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บผลที่เกิดขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่มิได้ตกแต่ง เพราะเป็นปีเสียงแตร จะเป็นปีบริสุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับประทานพืชผลที่งอกมาจากนาในปีนั้น ในปีเสียงแตรนี้ให้ทุกคนกลับไปสู่ภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน ถ้าเจ้าขายนาให้เพื่อนบ้านก็ดี หรือซื้อจากเพื่อนบ้านก็ดี เจ้าอย่าโกงกัน ตามจำนวนปีหลังจากปีเสียงแตร เจ้าจงซื้อนาจากเพื่อนบ้านของเจ้าและให้เขาขายแก่เจ้าตามจำนวนปีที่ปลูกพืชได้ ถ้ามากปีก็ต้องเพิ่มราคาสูงขึ้น ถ้าน้อยปีเจ้าจงลดราคาให้ต่ำลง เพราะที่เขาขายนั้นเขาก็ขายตามจำนวนปีที่ปลูกพืช เจ้าอย่าโกงกัน แต่เจ้าจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจงกระทำตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษาคำตัดสินของเราและปฏิบัติตาม ดังนั้นเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัยได้ แผ่นดินจะอำนวยผลให้เจ้าได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ และอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย ถ้าเจ้าจะพูดว่า ‘ดูเถิด ถ้าเราทั้งหลายหว่านหรือเกี่ยวพืชผลของเราไม่ได้ ในปีที่เจ็ดเราจะเอาอะไรรับประทาน’ เราจะบัญชาพรของเราให้มีเหนือเจ้าในปีที่หก เพื่อจะมีพืชผลพอสำหรับสามปี เมื่อเจ้าหว่านในปีที่แปดเจ้าจะรับประทานของเก่าของเจ้าจนปีที่เก้า เมื่อเจ้าได้พืชผลใหม่เข้ามาเจ้าก็ยังรับประทานพืชผลเก่าของเจ้าอยู่ เจ้าทั้งหลายจะขายที่ดินของเจ้าให้ขาดไม่ได้เพราะว่าดินนั้นเป็นของเรา เพราะเจ้าเป็นคนต่างด้าวและเป็นคนอาศัยอยู่กับเรา ทั่วไปในแผ่นดินที่เจ้ายึดถืออยู่ เจ้าจงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืน ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและขายที่ดินส่วนหนึ่งของเขา หากว่ามีผู้ใดในพี่น้องของเขามาไถ่ถอนที่นั้น ก็จงให้เขาไถ่ถอนที่ซึ่งพี่น้องของเขาขายไปนั้น ถ้าชายคนนั้นไม่มีญาติมาไถ่ถอนให้ และตัวเขาสามารถจะไถ่ถอนเอง ก็จงให้คนที่จะไถ่นับปีทั้งหลายที่เขาขายไป และเงินที่เหลือนั้นจงคืนให้แก่คนที่เขาขายให้และคนไถ่ก็เข้าอยู่ในที่ดินของเขาได้ แต่ถ้าเขาไม่สามารถที่จะไถ่คืนมา ที่ดินที่เขาได้ขายไปจะคงอยู่ในมือของผู้ซื้อจนถึงปีเสียงแตร และในปีเสียงแตรนี้ ที่ดินจะออกไปและเขาจะได้ที่ดินของเขากลับคืน ถ้าผู้ใดขายเรือนซึ่งอยู่ในเมืองที่มีกำแพง เมื่อขายไปแล้วให้เขาไถ่ถอนคืนได้ภายในหนึ่งปีแรก ให้เขามีสิทธิ์ในการไถ่ถอนคืนได้หนึ่งปีเต็ม ถ้าในเวลาหนึ่งปีเต็มเขาไม่ทำการไถ่ถอน ก็ให้จัดการเสียให้เป็นการแน่นอนว่า ผู้ที่ซื้อไปมีสิทธิ์เหนือเรือนที่อยู่ในเมืองที่มีกำแพงนั้นสิทธิ์ขาดแล้ว ตลอดชั่วอายุของเขา ในปีเสียงแตรเขาก็ไม่ต้องคืนให้ แต่เรือนในชนบทที่ไม่มีกำแพงล้อมให้นับเข้าเป็นพวกเดียวกับท้องนาในประเทศนั้น คือไถ่ถอนคืนได้ และจะต้องคืนกลับให้เจ้าของเดิมในปีเสียงแตร แต่อย่างไรก็ตามเมืองของคนเลวี หรือบ้านในเมืองที่เขาถือกรรมสิทธิ์ คนเลวีจะไถ่ถอนคืนได้ทุกเวลา ถ้าผู้ใดซื้อของจากคนเลวี เรือนซึ่งถูกขายไปนั้นกับเมืองที่เขาถือกรรมสิทธิ์ต้องกลับคืนในปีเสียงแตร เพราะเรือนทั้งหลายในหัวเมืองของพวกเลวีก็เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาท่ามกลางพวกอิสราเอล แต่ทุ่งนาที่ล้อมรอบหัวเมืองทั้งหลายของพวกเขานั้นจะขายไม่ได้ เพราะว่าเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของเขาทั้งหลาย ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเลี้ยงตัวเองอยู่กับเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องชูกำลังเขา ถึงเขาเป็นคนต่างด้าวหรือคนอาศัย เพื่อเขาจะอาศัยอยู่กับเจ้า อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อว่าพี่น้องของเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ เจ้าอย่าให้เขายืมเงินด้วยคิดดอกเบี้ย หรืออย่าให้อาหารเพื่อเอากำไรจากเขา เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้า และที่จะเป็นพระเจ้าของเจ้า ถ้าพี่น้องที่อยู่ใกล้ชิดกับเจ้ายากจนลง และขายตัวให้แก่เจ้า เจ้าอย่าให้เขาทำงานเหมือนทาส ให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างลูกจ้างหรือคนที่อาศัยอยู่ด้วย ให้เขาปรนนิบัติเจ้าไปถึงปีเสียงแตร แล้วเขาและลูกหลานของเขาจะออกไปจากเจ้ากลับไปสู่ครอบครัวของเขา และกลับไปอยู่ในที่ดินของบิดาของเขา เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นทาสของเราที่เราพาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เขาจะขายตัวเป็นทาสไม่ได้ เจ้าอย่าข่มขี่เขาให้ลำบาก แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า ส่วนทาสชายหญิงซึ่งจะมีได้นั้น เจ้าจะซื้อทาสชายหญิงจากท่ามกลางบรรดาประชาชาติที่อยู่ข้างเคียงเจ้าก็ได้ ยิ่งกว่านั้นเจ้าจะซื้อจากคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าทั้งครอบครัวของเขาซึ่งเป็นคนเกิดในแผ่นดินของเจ้า และเขาจะตกเป็นทรัพย์สินของเจ้าก็ได้ เจ้าจะทำพินัยกรรมยกเขาให้แก่ลูกหลานของเจ้า ให้เป็นมรดกแก่เขาเป็นกรรมสิทธิ์ เจ้าใช้เขาได้อย่างทาสเป็นนิตย์ก็ได้ แต่เจ้าทั้งหลายอย่าปกครองพี่น้องคนอิสราเอลด้วยความรุนแรง ถ้าคนต่างด้าวหรือคนที่อาศัยอยู่กับเจ้ามั่งมีขึ้น และพี่น้องของเจ้าที่อยู่ใกล้ชิดกับเขายากจนลง และขายตัวให้แก่คนต่างด้าวหรือผู้ที่อาศัยอยู่กับเจ้านั้น หรือขายให้แก่ญาติคนหนึ่งคนใดของคนต่างด้าวนั้น เมื่อเขาขายตัวแล้วก็ให้มีการไถ่ถอน คือพี่น้องคนหนึ่งคนใดของเขาทำการไถ่ถอนเขาได้ หรือลุงหรือลูกพี่ลูกน้องจะทำการไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือญาติสนิทของครอบครัวของเขาจะไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือถ้าเขามีความสามารถ เขาจะไถ่ถอนตัวเองก็ได้ จงให้ผู้ที่ขายตัวนับปีทั้งหลายที่ขายตัวกับผู้ที่ซื้อตัวเขาไป ว่าเขาได้ขายตัวกี่ปีจนถึงปีเสียงแตร ค่าตัวของเขาเป็นค่าตามจำนวนปีเหล่านั้น เวลาที่เขาอยู่กับเจ้าของตัวเขานั้นคิดตามเวลาของลูกจ้าง ถ้ามีเวลาอีกหลายปี เขาต้องชำระเงินคืนเท่ากับเงินที่ถูกซื้อมา นับเป็นค่าไถ่ถอนตัวเขา ถ้ายังเหลือน้อยปีจะถึงปีเสียงแตร ก็ให้ผู้ขายตัวคิดกับผู้ซื้อตัวไว้เป็นราคาค่าไถ่ของเขานั้น และตามจำนวนปีเหล่านั้น เขาจะคืนเงินให้กับผู้ซื้อตัว ผู้ขายตัวนั้นจะต้องอยู่กับผู้ซื้อตัวดังลูกจ้างที่จ้างเป็นปี อย่าให้นายปกครองเขาอย่างกดขี่ในสายตาของเจ้า ถ้าเขาไม่ไถ่ถอนตามที่กล่าวมานี้ก็ให้ปล่อยเขาในปีเสียงแตร ทั้งเขาพร้อมกับลูกของเขา สำหรับเรา คนอิสราเอลเป็นทาสของเรา เขาเป็นทาสของเราที่เราพาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า”
เลวีนิติ 25:11-55 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ปีที่ห้าสิบนั้นเป็นปีเสียงเขาสัตว์ของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บผลที่เกิดขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่มิได้ตกแต่ง เพราะเป็นปีเสียงเขาสัตว์ จะเป็นปีบริสุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับประทานพืชผลที่งอกมาจากนาในปีนั้น <<ในปีเสียงเขาสัตว์นี้ให้ทุกคนกลับ ไปสู่ภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน เจ้าจะขายนาให้เพื่อนบ้านก็ดี หรือซื้อจากเพื่อนบ้านก็ดี เจ้าอย่าโกงกัน ตามจำนวนปีหลังจากปีเสียงเขาสัตว์ เจ้าจงซื้อนาจากเพื่อนบ้านของเจ้า และให้เขาขายแก่เจ้าตามจำนวนปีที่ปลูกพืชได้ ถ้ามากปีก็ต้องเพิ่มราคาสูงขึ้น ถ้าน้อยปีเจ้าจงลดราคาให้ต่ำลง เพราะที่เขาขายนั้นเขาก็ขายตามจำนวนปีที่ปลูกพืช เจ้าอย่าโกงกัน แต่เจ้าจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า <<เพราะฉะนั้นเจ้าจงกระทำตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษากฎหมายของเราและปฏิบัติตาม ดังนั้นเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นอย่างปลอดภัยได้ แผ่นดินจะอำนวยผลให้เจ้าได้รับประทานอย่างอิ่มหนำ และอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย ถ้าเจ้าจะพูดว่า <ถ้าเราทั้งหลายหว่านหรือเกี่ยวพืชผลของเราไม่ได้ ในปีที่เจ็ดเราจะเอาอะไรรับประทาน> เราจะบัญชาพรของเราให้มีเหนือเจ้าในปีที่หก เพื่อจะมีพืชผลพอสำหรับสามปี เมื่อเจ้าหว่านในปีที่แปดเจ้าจะรับประทาน ของเก่าของเจ้าจนปีที่เก้า เมื่อเจ้าได้พืชผลใหม่เข้ามาเจ้าก็ยังรับประทาน พืชผลเก่าของเจ้าอยู่ เจ้าทั้งหลายจะขายที่ดินของเจ้าให้ขาดไม่ได้ เพราะว่าที่ดินนั้นเป็นของเรา เพราะเจ้าเป็นคนแขกเมืองและเป็นคนอาศัยอยู่กับเรา ทั่วไปในแผ่นดินที่เจ้ายึดถืออยู่ เจ้าจงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืน <<ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลง และขายที่ดินส่วนหนึ่งของเขาให้ญาติสนิทถัดเขาไป มาไถ่ถอนนาที่พี่น้องของเขาขายให้นั้น ถ้าชายคนนั้นไม่มีญาติมาไถ่ถอนให้ แต่ต่อมาเขาเป็นคนมั่งมี และมีทรัพย์พอที่จะไถ่ถอนได้ ให้เขานับปีย้อนกลับไปถึงปีที่เขาขายให้ แล้วจงนับเงินที่ควรจ่ายกลับคืนนั้นให้แก่คนที่ตนขายให้ และตัวก็เข้าอยู่ในที่ดินของเขาได้ ถ้าเขาไม่มีทรัพย์พอที่จะไถ่คืน ที่ดินที่เขาได้ขายไปจะคงอยู่ในมือของผู้ซื้อ จนถึงปีเสียงเขาสัตว์ ให้เขาคืนกลับให้เจ้าของในปีเสียงเขาสัตว์นี้ และเจ้าของเดิมจะกลับเข้าอยู่ในที่เดิมของเขาได้ <<ถ้าผู้ใดขายเรือนซึ่งอยู่ในเมืองที่มีกำแพง เมื่อขายไปแล้วให้เขาไถ่ถอนคืนได้ภายในหนึ่งปีแรก ให้เขามีสิทธิ์ในการไถ่คืนได้หนึ่งปีเต็ม ถ้าในเวลาหนึ่งปีเต็มเขาไม่ทำการไถ่ถอน ก็ให้จัดการเสียให้เป็นการแน่นอนว่าผู้ที่ซื้อ ไปมีสิทธิ์เหนือเรือนที่อยู่ในเมืองที่มีกำแพงนั้นสิทธิ์ขาดแล้ว ตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขา ในปีเสียงเขาสัตว์เขาก็ไม่ต้องคืนให้ แต่เรือนในชนบทที่ไม่มีกำแพงล้อม ให้นับเข้าเป็นพวกเดียวกับท้องนาในประเทศนั้น คือไถ่ถอนคืนได้ และจะต้องคืนกลับให้เจ้าของ เดิมในปีเสียงเขาสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม เมืองของคนเลวี หรือบ้านในเมืองที่เขาถือกรรมสิทธิ์ คนเลวีจะไถ่ถอนคืนได้ทุกเวลา ถ้าคนเลวีคนใดไถ่ถอน เรือนนั้น ซึ่งเขาขายไปกับเมืองที่เขาถือกรรมสิทธิ์ ต้องกลับคืนให้เจ้าของเดิมในปีเสียงเขาสัตว์ เพราะเรือนในเมืองของคนเลวี เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาในหมู่คนอิสราเอล แต่ทุ่งนาที่เป็นที่ดินสาธารณะนั้นจะซื้อขายกัน ไม่ได้เพราะว่าเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของเขาทั้งหลาย <<ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเลี้ยงตัวเอง อยู่กับเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องเลี้ยงดูเขาให้เขาอยู่กับเจ้าอย่าง คนต่างด้าวและคนที่อาศัยอยู่ อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อว่าพี่น้องของเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ เจ้าอย่าให้เขายืมเงินด้วยคิดดอกเบี้ย หรือขายอาหารด้วยเอากำไรจากเขา เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้า และที่จะเป็นพระเจ้าของเจ้า <<ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงอยู่ใกล้ชิดเจ้า และขายตัวให้แก่เจ้า เจ้าอย่าให้เขาทำงานเป็นทาส ให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างลูกจ้างหรือคนที่อาศัยอยู่ด้วย ให้เขาปรนนิบัติเจ้าไปถึงปีเสียงเขาสัตว์ แล้วเขาและลูกหลานของเขาจะออกไป จากเจ้ากลับไปสู่ตระกูลของเขา และกลับไปอยู่ในที่ดินของบิดาของเขา เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็น คนใช้ของเราที่เราพาออกจากอียิปต์ เขาจะขายตัวเป็นทาสไม่ได้ เจ้าอย่าข่มขี่เขาให้ลำบาก แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า ส่วนทาสชายหญิงซึ่งจะมีได้นั้น เจ้าจะซื้อทาสชายหญิงจากท่ามกลางบรรดา ประชาชาติที่อยู่ข้างเคียงเจ้าก็ได้ เจ้าจะซื้อจากคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ ในหมู่พวกเจ้าทั้งครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นคนเกิดในแผ่นดินของเจ้า และเขาจะตกเป็น ทรัพย์สินของเจ้าก็ได้ เจ้าจะทำพินัยกรรมยกเขาให้แก่ บุตรหลานของเจ้าให้เป็นมรดกแก่เขาเป็นกรรมสิทธิ์ เป็นนิตย์ก็ได้ เจ้าใช้เขาได้อย่างทาส แต่เจ้าทั้งหลายอย่าปกครองพี่น้องคนอิสราเอลด้วย ความรุนแรง <<ถ้าคนต่างด้าวหรือคนที่อาศัยอยู่กับเจ้ามั่งมีขึ้น และพี่น้องของเจ้าที่อยู่กับเขายากจนลง และขายตัวให้แก่คนต่างด้าวหรือผู้ที่อาศัยอยู่กับ เจ้านั้นหรือขายให้แก่ญาติคนหนึ่งคนใดของคนต่างด้าวนั้น เมื่อเขาขายตัวแล้วก็ให้มีการไถ่ถอน คือพี่น้องคนหนึ่งคนใดของเขาทำการไถ่ถอนเขาได้ หรือลุงหรือลูกพี่ลูกน้องจะทำการไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือญาติสนิทของตระกูลของเขา จะไถ่ถอนเขาก็ได้ หรือถ้าเขามั่งมีขึ้น เขาจะไถ่ถอนตัวเองก็ได้ ให้ผู้ที่ขายตัวคิดกับผู้ที่รับซื้อตัวเขาไปว่า เขาได้ขายตัวกี่ปีจึงถึงปีเสียงเขาสัตว์ ค่าตัวของเขาเป็นค่าตามจำนวนปี เวลาที่เขาอยู่กับเจ้าของตัวเขานั้นคิดตามเวลาของลูกจ้าง ถ้ามีเวลาอีกหลายปี เขาต้องชำระเงินคืนเท่าค่าปีที่เหลืออยู่ นับเป็นค่าไถ่ถอนตัวเขา ถ้ายังเหลือน้อยปีจะถึงปีเสียงเขาสัตว์ ก็ให้ผู้ขายตัวคิดกับผู้ซื้อตัวไว้ คิดเงินตามจำนวนปีที่เขาควรจะรับใช้คืน เป็นเงินค่าไถ่เขา ให้เขาเป็นลูกจ้างรายปีอยู่กับนาย อย่าให้นายปกครองข่มขี่เขาในหมู่พวกเจ้า ถ้าเขาไม่ไถ่ถอนตามที่กล่าวมานี้ ก็ให้ปล่อยเขาในปีเสียงเขาสัตว์ ทั้งเขาพร้อมกับลูกของเขา ต่อเรา คนอิสราเอลเป็นคนใช้ เขาเป็นคนใช้ของเราที่เราพาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า
เลวีนิติ 25:11-55 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ปีกึ่งศตวรรษเป็นวาระพิเศษสำหรับเจ้า อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ “ ‘ในปีกึ่งศตวรรษนี้ ทุกคนจงกลับสู่ที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ดั้งเดิมของตน “ ‘หากเจ้าซื้อขายที่ดินกับพี่น้องร่วมชาติ อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน เจ้าจงซื้อที่ดินจากพี่น้องร่วมชาติโดยคำนวณราคาตามจำนวนปีนับจากปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องขายให้เจ้าในราคาตามจำนวนปีที่เหลือสำหรับการเก็บเกี่ยวพืชผล หากยังเหลืออีกหลายปี เจ้าจงเพิ่มราคา หากเหลือไม่กี่ปี จงลดราคา เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่เขาขายให้เจ้าคือจำนวนพืชผลที่จะได้ อย่าเอารัดเอาเปรียบกัน จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า “ ‘จงทำตามกฎหมายของเรา จงใส่ใจที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา แล้วเจ้าจะดำเนินชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในดินแดนนั้น แล้วแผ่นดินจะให้พืชผลแก่เจ้า เจ้าจะอิ่มหนำสำราญและอยู่อย่างปลอดภัยในที่แห่งนั้น เจ้าอาจถามว่า “แล้วพวกเราจะกินอะไรในปีที่เจ็ด หากเราไม่ปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผลของเรา?” เราจะอวยพรเจ้าในปีที่หก จนแผ่นดินให้พืชผลมากพอสำหรับสามปี ขณะที่เจ้าปลูกในช่วงปีที่แปด เจ้าจะยังกินพืชผลเก่านั้นต่อไปจนกระทั่งถึงฤดูเก็บเกี่ยวของปีที่เก้า “ ‘ที่ดินจะขายขาดไม่ได้เพราะแผ่นดินเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นเพียงคนต่างด้าวและผู้เช่าอาศัยทำกินจากเรา ทั่วแดนที่เจ้าถือครองเป็นกรรมสิทธิ์ จงให้มีการไถ่ถอนที่ดินคืนได้ “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายที่ดินบางส่วนไป ญาติสนิทที่สุดของคนนั้นอาจจะมาไถ่คืนได้ หากไม่มีคนอื่นมาไถ่คืนให้เขา แต่ตัวคนนั้นเองร่ำรวยขึ้น มีเงินพอที่จะไถ่ เขาสามารถมาซื้อคืนในราคาซึ่งได้สัดส่วนกับจำนวนพืชผลจากวันที่ขายที่ดิน เจ้าของใหม่จะต้องยอมรับเงินจำนวนนั้นและคืนที่ดินให้ แต่หากเจ้าของเดิมไม่สามารถซื้อคืน ก็จะตกเป็นของเจ้าของคนใหม่จนถึงปีกึ่งศตวรรษซึ่งจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมอีกครั้ง “ ‘ผู้ใดขายบ้านในเขตกำแพงเมือง เขามีสิทธิ์ซื้อคืนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาหนึ่งปีแรก หากไม่ได้ซื้อคืนภายในหนึ่งปี บ้านที่อยู่ในกำแพงเมืองหลังนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของคนใหม่และลูกหลานของเขาอย่างถาวร ไม่ต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ ส่วนบ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ จะเป็นเหมือนที่ดินโล่งคือซื้อคืนได้ทุกโอกาส และจะต้องคืนให้เจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ “ ‘คนเลวีมีสิทธิ์ที่จะไถ่บ้านของพวกเขาในเมืองของคนเลวีซึ่งเขาเป็นเจ้าของได้เสมอ ดังนั้นทรัพย์สินของคนเลวี นั่นคือบ้านหลังใดที่ขายในเมืองใดก็ตามที่พวกเขาถือกรรมสิทธิ์ สามารถไถ่ถอนได้ และจะต้องคืนให้กับเจ้าของเดิมในปีกึ่งศตวรรษ เพราะบ้านทั้งหลายในเมืองต่างๆ ของคนเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาท่ามกลางคนอิสราเอล แต่ห้ามขายที่ดินที่เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเมืองนั้น เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ถาวรของพวกเขา “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนลง ไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ เจ้าจงช่วยเหลือเขาเหมือนที่เอื้อเฟื้อแก่คนต่างด้าวหรือผู้ที่อาศัยอยู่กับเจ้าชั่วคราว เพื่อเขาจะอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าต่อไปได้ อย่าคิดดอกเบี้ยใดๆจากเขา แต่จงยำเกรงพระเจ้า เพื่อพี่น้องนั้นจะคงอยู่ท่ามกลางเจ้าได้ อย่าคิดดอกเบี้ยจากเงินที่ให้เขายืม หรือค้ากำไรจากการขายอาหารแก่เขา เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์เพื่อยกดินแดนคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า “ ‘หากพี่น้องร่วมชาติของเจ้ายากจนและขายตัวเองให้เจ้า อย่าใช้งานเขาเยี่ยงทาส แต่จงปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้าง หรือผู้ที่มาอาศัยชั่วคราวท่ามกลางเจ้า และเขาจะปรนนิบัติรับใช้เจ้าจนถึงปีกึ่งศตวรรษ เมื่อนั้นเขาและลูกๆ จะต้องได้รับการปลดปล่อยให้เป็นไทและกลับไปสู่วงศ์ตระกูลและที่ดินของบรรพบุรุษ เพราะชนอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเรานำออกมาจากอียิปต์ เขาต้องไม่ถูกขายเป็นทาส อย่าปกครองเขาอย่างทารุณอำมหิต แต่จงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า “ ‘ทาสชายหญิงของเจ้าจะต้องมาจากชนชาติต่างๆ รอบๆ เจ้า เจ้าอาจซื้อทาสจากพวกเขา และเจ้าอาจซื้อคนที่มาขออาศัยอยู่ชั่วคราวท่ามกลางเจ้าบางคน และสมาชิกในตระกูลของเขาที่เกิดในดินแดนของเจ้า และพวกเขาจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า เจ้าจะยกพวกเขาให้เป็นมรดกสืบทอดไปยังลูกหลานหรือเป็นทาสชั่วชีวิตก็ได้ แต่ห้ามเจ้าปกครองพี่น้องร่วมชาติอิสราเอลอย่างทารุณโหดร้าย “ ‘หากคนต่างด้าวหรือผู้มาอาศัยอยู่ชั่วคราวในหมู่พวกเจ้าร่ำรวยขึ้น แล้วมีชาวอิสราเอลพี่น้องร่วมชาติของเจ้าที่ยากจน และขายตัวเองเป็นทาสของคนต่างด้าวคนนั้นหรือของเครือญาติของเขา เขามีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวหลังจากขายตัวเป็นทาส ให้ญาติของเขาไถ่ตัวเขาคืนมา จะเป็นลุง น้า อา ลูกพี่ลูกน้อง หรือใครก็ได้ซึ่งเป็นญาติตามสายเลือดในตระกูลของเขา หรือคนนั้นอาจจะไถ่ตัวเองเป็นไทเมื่อร่ำรวยมีเงินพอ ตัวเขาและผู้ที่ซื้อเขาไปจะต้องนับเวลาจากปีที่เขาขายตัวเองเป็นทาสไปจนถึงปีกึ่งศตวรรษ ราคาที่จะไถ่ตัวเขาจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของอัตราค่าจ้างคนงานตามจำนวนปีเหล่านั้น หากยังมีอีกหลายปีกว่าจะถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องจ่ายเกือบเท่าจำนวนค่าตัวเมื่อเริ่มเป็นทาส หากอีกไม่กี่ปีก็ถึงปีกึ่งศตวรรษ เขาจะต้องคำนวนและจ่ายค่าไถ่ถอนตามจำนวนปีที่เหลือนั้น ผู้ที่ซื้อตัวเขาไปจะต้องปฏิบัติต่อเขาเสมือนลูกจ้างรายปี เจ้าต้องดูแลไม่ให้เจ้าของปกครองเขาอย่างทารุณโหดร้าย “ ‘หากเขายังไม่ได้รับการไถ่ตัวโดยวิธีเหล่านี้เขาและลูกหลานจะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อถึงปีกึ่งศตวรรษ เพราะประชากรอิสราเอลเป็นผู้รับใช้ของเรา พวกเขาเป็นผู้รับใช้ที่เรานำออกมาจากอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
เลวีนิติ 25:11-55 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พวกเจ้าจะใช้ปีที่ห้าสิบเป็นปีฉลองครบรอบ เจ้าต้องไม่หว่านหรือเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรือเก็บผลจากต้นองุ่นที่ไม่ได้ตัดแต่ง เพราะเป็นวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ จึงต้องเป็นวาระบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า เจ้าต้องรับประทานสิ่งที่ได้มาจากไร่นาโดยตรง ในปีแห่งการฉลองครบรอบ 50 ปีนี้เจ้าแต่ละคนจะได้ที่ดินของตนคืน และถ้าเจ้าทำการซื้อขายกับชนร่วมชาติของเจ้า ก็อย่าเอาเปรียบกันและกัน เจ้าจะซื้อที่นาจากชนร่วมชาติของเจ้าก็ดูจำนวนปีหลังจากวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบแล้ว เขาจะขายให้เจ้าตามแต่จำนวนปีที่เหลือสำหรับปลูกพืช ถ้าปลูกพืชได้อีกหลายปี ราคาก็ขึ้นตามจำนวนปี และถ้าปลูกได้น้อยปี ราคาก็ลดลง เพราะเขาขายจำนวนครั้งที่เจ้าจะปลูกพืชได้ เจ้าจงอย่าเอาเปรียบกันและกัน แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า ฉะนั้น พวกเจ้าจงกระทำตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษาปฏิบัติตามคำบัญชาของเรา เพื่อพวกเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินอย่างปลอดภัย แผ่นดินจะให้ผลผลิต และพวกเจ้าจะรับประทานจนอิ่มหนำและอาศัยในแผ่นดินอย่างปลอดภัย และถ้าพวกเจ้าพูดว่า “พวกเราจะรับประทานอะไรในปีที่เจ็ดเล่า ถ้าหากเราหว่านหรือเก็บเกี่ยวพืชผลของเราไม่ได้” เราจะบัญชาพรของเราให้เกิดแก่เจ้าในปีที่หก เพื่อให้เจ้าได้รับพืชผลไว้ใช้ถึง 3 ปี เมื่อพวกเจ้าหว่านในปีที่แปด เจ้าจะรับประทานพืชผลเก่าจนถึงปีที่เก้าซึ่งจะผลิตได้ผลรุ่นใหม่ ในเรื่องที่ดิน เจ้าจงอย่าขายขาด เพราะที่ดินเป็นของเรา พวกเจ้าเป็นชาวต่างด้าวและอาศัยอยู่กับเรา และเจ้าจงให้โอกาสผู้อื่นซื้อที่ดินทุกผืนกลับคืนได้ ถ้าชนร่วมชาติของเจ้าตกอับต้องขายที่ดินบางส่วน และต่อมาญาติสนิทของเขามีสิทธิไถ่ของที่พี่น้องของตนขายไปแล้ว ถ้าคนคนนั้นไม่มีใครไถ่ของคืนได้ ต่อมาเขากลับมั่งมีขึ้นและมีลู่ทางไถ่ของคืน จงให้เขาคิดค่าที่ดินโดยนับจากวันที่เขาขายที่ดินจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ และจ่ายคืนให้แก่ผู้ซื้อ จากนั้นเขาจึงได้ที่ดินกลับคืนมา แต่ถ้าเขาไม่สามารถซื้อที่ดินกลับคืน สิ่งที่เขาขายไปแล้วก็จะตกอยู่กับผู้ซื้อจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ จากนั้นเขาจะได้ที่ดินคืน ถ้าผู้ใดขายบ้านในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ เขาจะไถ่คืนได้ภายในระยะ 1 ปีหลังจากขายไปแล้ว เขามีสิทธิเอาบ้านคืนในระยะเวลา 1 ปี ถ้าไม่ไถ่บ้านคืนในเวลา 1 ปีเต็ม บ้านในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบจะเป็นของผู้ซื้อตลอดทุกชาติพันธุ์ของเขา และจะไม่ต้องคืนแม้จะเป็นวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ แต่บ้านตามชนบทไม่มีกำแพงล้อมรอบนับว่าเป็นทุ่งโล่งและไถ่คืนได้และจะต้องคืนในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ ชาวเลวีมีสิทธิไถ่บ้านที่อยู่ในเมืองที่พวกเขาเป็นเจ้าของได้ทุกเมื่อ ถ้าชาวเลวีคนใดไม่ถือสิทธิ์ไถ่บ้านคืน บ้านที่ถูกขายในเมืองที่เป็นของชาวเลวีก็จะต้องถูกคืนในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ เพราะบ้านที่อยู่ในเมืองของชาวเลวีเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาในหมู่ชาวอิสราเอล แต่ทุ่งหญ้าเป็นส่วนกลางของเมืองของพวกเขาที่ขายไม่ได้ เพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตลอดไป ถ้าชนร่วมชาติของเจ้ายากจนลงและทำมาหาเลี้ยงตนในหมู่เจ้าไม่ได้ เจ้าจงดูแลเขา ให้เขาอาศัยอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวหรือเป็นผู้อาศัย เขาจะอาศัยอยู่กับเจ้า อย่าคิดดอกเบี้ยหรือค้ากำไรเขา แต่จงเกรงกลัวพระเจ้า ให้ชนร่วมชาติของเจ้าอาศัยอยู่ด้วย จงอย่าให้เขายืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยหรือทำกำไรจากอาหารของเจ้า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า เรานำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินของอียิปต์เพื่อยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้า และเพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า และถ้าชนร่วมชาติของเจ้ายากจนลงในหมู่เจ้า และขายตัวเป็นทาส เจ้าจงอย่าให้เขารับใช้อย่างทาส จงให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างผู้รับจ้างทำงานหรืออย่างผู้อาศัย เขาจะรับใช้เจ้าจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ แล้วเขาจะไปจากเจ้า บรรดาบุตรของเขาก็ไปกับเขาด้วย เพื่อกลับไปหาครอบครัวของเขา และไปสู่ที่ดินของบิดาของเขา เพราะพวกเขาเป็นทาสผู้รับใช้ของเรา เรานำออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาจะต้องไม่ถูกขายเป็นทาส เจ้าจงอย่าปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างโหดร้าย แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของเจ้า สำหรับทาสชายและหญิงที่พวกเจ้าจะมีนั้น พวกเจ้าจะซื้อได้จากบรรดาประชาชาติที่อยู่ใกล้เคียงพวกเจ้า เจ้าจะซื้อจากบรรดาชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับเจ้าได้ด้วย และครอบครัวของพวกเขาก็อาศัยอยู่กับเจ้า และเกิดในแผ่นดินของพวกเจ้า และเขาจะตกเป็นทรัพย์สินของพวกเจ้าก็ได้ พวกเจ้าจะยกทาสเหล่านี้ให้แก่บุตรต่อจากเจ้าก็ได้ ให้เขารับทอดเป็นมรดก พวกเจ้าให้เขาเป็นทาสได้ตลอดไป แต่เจ้าจงอย่าปฏิบัติต่อชนร่วมชาติของเจ้าคือชาวอิสราเอลอย่างโหดร้าย ถ้าชาวต่างด้าวหรือผู้อาศัยมั่งมีขึ้น และชนร่วมชาติของเจ้าอยู่กับเขาจนกระทั่งต้องขายตัวเป็นทาสให้แก่ชาวต่างด้าวหรือผู้อาศัยอยู่กับเจ้าหรือแก่สมาชิกครอบครัวของชาวต่างด้าว หลังจากที่ขายแล้ว ก็สามารถไถ่คืนได้ ชนร่วมชาติของเขาสามารถไถ่เขาคืนได้ หรือไม่ก็ลุง อา หรือลูกพี่ลูกน้องสามารถไถ่เขาคืนได้ หรือญาติพี่น้องในครอบครัวเดียวกันสามารถไถ่เขาคืนได้ หรือถ้าเขามั่งมีขึ้นเขาก็อาจจะไถ่ตนเองได้ ผู้เป็นทาสจะตกลงกับผู้ที่จะไถ่ตัวเขาว่า นับจากเวลาที่เขาขายตัวเป็นทาสจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบเป็นเวลานานกี่ปี ราคาของการปลดปล่อยตัวคำนวณตามอัตราลูกจ้างตามจำนวนปี ถ้าเหลือเวลาอีกหลายปีจนถึงวาระฉลอง เขาต้องคืนราคาค่าตัวให้เจ้าของเพื่อไถ่ตัว ถ้าเหลือเพียงไม่กี่ปีจนถึงวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบ เขาก็ต้องคำนวณเวลากัน ตามสัดส่วนที่ต้องคืนราคาค่าตัวสำหรับการไถ่ตัวคืน ชาวต่างด้าวต้องกระทำต่อผู้รับใช้เหมือนว่าเขาเป็นผู้รับจ้างรายปี เจ้าต้องรู้เห็นด้วยว่านายจ้างต้องไม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้าย ถึงแม้ว่าเขาไม่ถูกไถ่ตัวด้วยวิธีเหล่านี้ก็ตาม เขาก็ยังจะรับการปลดปล่อยในวาระฉลองครบรอบปีที่ห้าสิบพร้อมกับบุตรของเขาด้วย ด้วยว่าชาวอิสราเอลเป็นทาสผู้รับใช้สำหรับเรา พวกเขาเป็นทาสผู้รับใช้ที่เรานำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเจ้า