ลูกา 8:40-56

ลูกา 8:40-56 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาแล้ว ฝูงชนก็ต้อนรับพระองค์ เพราะพวกเขารอคอยพระองค์อยู่ นี่แน่ะ มีชายคนหนึ่งชื่อไยรัส เป็นนายธรรมศาลา เขามากราบที่พระบาทของพระเยซูอ้อนวอนขอให้พระองค์เสด็จไปที่บ้านของเขา เพราะว่าเขามีบุตรสาวคนเดียวอายุประมาณสิบสองปี และบุตรสาวคนนั้นกำลังนอนป่วยอยู่เกือบจะตายแล้ว เมื่อพระองค์กำลังเสด็จไปนั้น ฝูงชนก็เบียดเสียดพระองค์ มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกโลหิตมาได้สิบสองปีแล้ว [และใช้ทรัพย์ทั้งหมดของนางเป็นค่าหมอ] แต่ไม่มีใครรักษาให้หายได้ หญิงผู้นี้แอบมาทางข้างหลังและแตะต้องชายฉลองพระองค์ของพระองค์ และในทันใดนั้นโลหิตที่ตกก็หยุด พระเยซูจึงตรัสถามว่า “ใครแตะต้องเรา?” เมื่อทุกคนปฏิเสธ เปโตรจึงทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ฝูงชนที่อยู่ล้อมรอบพระองค์กำลังเบียดเสียดพระองค์” แต่พระเยซูตรัสว่า “มีคนหนึ่งแตะต้องตัวเรา เพราะเรารู้สึกได้ว่าฤทธิ์ซ่านออกจากตัวเรา” เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าไม่สามารถจะซ่อนตัวต่อไปได้แล้ว นางก็ตัวสั่นเข้ามาหมอบกราบพระองค์ ทูลพระองค์ต่อหน้าทุกคนว่า นางแตะต้องพระองค์เพราะสาเหตุอะไรและหายโรคได้ในทันที พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “ลูกหญิงเอ๋ย ที่หายโรคนั้นก็เพราะลูกเชื่อ จงไปเป็นสุขเถิด” ขณะที่พระองค์กำลังตรัสอยู่นั้น มีคนจากบ้านนายธรรมศาลามาบอกนายว่า “ลูกสาวของท่านตายแล้ว ไม่ต้องรบกวนอาจารย์อีก” เมื่อพระเยซูได้ยินจึงตรัสกับเขาว่า “อย่ากลัว จงเชื่อเท่านั้น แล้วลูกจะหายดี” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบ้าน พระองค์ไม่ทรงยอมให้ใครเข้าไปยกเว้นเปโตร ยอห์น ยากอบและบิดามารดาของเด็กเท่านั้น ทุกคนกำลังร้องไห้ทุกข์โศกเพราะเด็กคนนั้น แต่พระองค์ตรัสว่า “อย่าร้องไห้ เขายังไม่ตาย เพียงแต่นอนหลับอยู่” พวกเขาหัวเราะเยาะพระองค์ เพราะรู้ว่าเด็กคนนั้นตายแล้ว พระองค์ทรงจับมือของเด็กแล้วตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ลุกขึ้นเถิด” แล้ววิญญาณก็กลับเข้าไปในตัวเด็ก เขาก็ลุกขึ้นทันที พระองค์จึงตรัสสั่งให้เอาอาหารมาให้เขากิน บิดามารดาของเด็กคนนั้นก็ประหลาดใจมาก แต่พระองค์ทรงสั่งไม่ให้บอกใครถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:40-56 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เมื่อ​พระเยซู​กลับ​มา​ถึง​กาลิลี มี​ชาวบ้าน​มา​คอย​ต้อนรับ​พระองค์​อยู่​ที่​นั่น ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ไยรัส เป็น​หัวหน้า​ของ​ที่​ประชุม​ชาวยิว เขา​ได้​มา​ก้มกราบ​แทบ​เท้า​พระเยซู อ้อนวอน​พระองค์​ให้​ไป​บ้าน​ของ​เขา เพราะ​ลูกสาว​คน​เดียว​ของ​เขา ที่​มี​อายุ​เพียง​สิบสอง​ปี​กำลัง​จะ​ตาย ใน​ระหว่าง​ทาง​ที่​พระเยซู​ไป​นั้น ก็​มี​ชาวบ้าน​เบียดเสียด​พระองค์​รอบ​ด้าน ใน​กลุ่ม​คนนี้​มี​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ทน​ทุกข์ทรมาน​มาก​เพราะ​ตก​เลือด​มา​สิบสอง​ปี​แล้ว นาง​เสีย​เงิน​เสีย​ทอง​ไป​กับ​การรักษา​จน​หมดเนื้อ​หมดตัว แต่​ก็​ยัง​ไม่​หาย นาง​จึง​เข้า​มา​ทาง​ข้างหลัง​พระองค์ และ​แตะ​พู่​ที่​ชาย​เสื้อ​คลุม​พระองค์ เลือด​ที่​ไหล​อยู่​ก็​หยุด​ทันที พระเยซู​ถาม​ขึ้น​ว่า “ใคร​แตะ​ตัว​เรา” พวก​เขา​ต่าง​ปฏิเสธ เปโตร​พูด​ว่า “อาจารย์​ครับ มี​คน​เบียดเสียด​พระองค์​แน่น​ไป​หมด” แต่​พระองค์​ก็​พูด​ว่า “มี​คน​แตะ​ตัว​เรา​แน่ เพราะ​เรา​รู้สึก​ว่า​มี​พลัง​แผ่ซ่าน​ออก​จาก​ตัว” เมื่อ​หญิง​คน​นั้น​เห็น​ว่า นาง​หลบ​ไม่​พ้น​แล้ว ก็​ออก​มา​ก้มกราบ​ลง​ต่อหน้า​พระเยซู ด้วย​ความกลัว​จน​ตัว​สั่น​ต่อหน้า​คน​ทั้งหลาย นาง​อธิบาย​ว่า ทำไม​นาง​ถึง​ไป​แตะ​ต้อง​ตัว​พระองค์ ซึ่ง​ทำ​ให้​นาง​หาย​จาก​โรค​ทันที แล้ว​พระเยซู​ก็​พูด​กับ​หญิง​คน​นั้น​ว่า “ลูก​เอ๋ย ความเชื่อ​ของ​คุณ ได้​ทำ​ให้​คุณ​หาย​แล้ว ไป​เป็น​สุข​เถิด” ขณะ​ที่​พระองค์​ยัง​พูด​อยู่​นั้น​มี​คน​จาก​บ้าน​ของ​ไยรัส​มา​บอก​เขา​ว่า “ลูกสาว​ของ​ท่าน​ตาย​แล้ว ไม่​ต้อง​รบกวน​อาจารย์​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว” แต่​พระเยซู​ได้ยิน​เรื่องนี้ ก็​เลย​พูด​กับ​ไยรัส​ว่า “ไม่​ต้อง​กลัว ขอ​ให้​เชื่อ​เท่านั้น แล้ว​ลูกสาว​ของ​คุณ​จะ​หาย” เมื่อ​พระเยซู​ไป​ถึง​บ้าน​ไยรัส พระองค์​ไม่​อนุญาต​ให้​ใคร​เข้า​ไป​กับ​พระองค์​เลย นอก​จาก​เปโตร ยอห์น ยากอบ และ​พ่อแม่​ของ​เด็ก​เท่านั้น คน​ทั้งหลาย​ต่าง​พา​กัน​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ให้​กับ​เด็ก​สาว พระเยซู​พูด​ว่า “หยุด​ร้องไห้​ได้​แล้ว เด็ก​คนนี้​ยัง​ไม่​ตาย แค่​นอน​หลับ​เท่านั้น” พวก​เขา​หัวเราะ​เยาะ​พระองค์ เพราะ​รู้​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​ตาย​แล้ว​จริงๆ ฝ่าย​พระเยซู​ก็​จับ​มือ​เด็ก​และ​เรียก​เธอ​ว่า “หนู​น้อย​จ๋า ลุก​ขึ้น​เถิด” แล้ว​วิญญาณ​ของ​เธอ​ก็​กลับ​เข้า​สู่​ร่าง​อีก​ครั้ง และ​เธอ​ก็​ลุก​ขึ้น​มา​ทันที พระเยซู​จึง​บอก​พวก​เขา​ให้​เอา​อาหาร​มา​ให้​เธอ​กิน พ่อแม่​ของ​เธอ​ต่าง​ก็​ประหลาดใจ​มาก แต่​พระองค์​สั่ง​ห้าม​ไม่​ให้​เล่า​เรื่องนี้​ให้​ใคร​ฟัง

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:40-56 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ต่อมาเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาแล้ว ประชาชนก็ต้อนรับพระองค์​ด้วยความยินดี เพราะเขาทั้งหลายคอยท่าพระองค์​อยู่ ดู​เถิด มี​ชายคนหนึ่งชื่อไยรัส เป็นนายธรรมศาลา มากราบลงที่พระบาทพระเยซู อ้อนวอนพระองค์​ให้​เสด็จเข้าไปในเรือนของเขา เพราะว่าเขามี​บุ​ตรสาวคนเดียว อายุ​ประมาณสิบสองปี และบุตรสาวนั้นนอนป่วยอยู่​เก​ือบจะตาย เมื่อพระองค์เสด็จไปนั้น ประชาชนเบียดเสียดพระองค์ มี​ผู้​หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกเลือดได้​สิ​บสองปีมาแล้ว และได้​ใช้​ทรัพย์​ทั้งหมดของเธอเป็นค่าหมอ ไม่มี​ผู้​ใดรักษาให้หายได้ ผู้​หญิงนั้นแอบมาข้างหลังถูกต้องชายฉลองพระองค์ และในทันใดนั้นเลือดที่ตกก็​หยุด พระเยซู​จึงตรัสถามว่า “ใครได้​ถู​กต้องเรา” เมื่อคนทั้งหลายได้​ปฏิเสธ เปโตรกับคนที่​อยู่​ด้วยกันจึงทูลว่า “​อาจารย์​เจ้าข้า ก็​เป็นเพราะประชาชนเบียดเสียดพระองค์ และพระองค์ยังทรงถามอีกหรือว่า ‘ใครได้​ถู​กต้องเรา’ ” แต่​พระเยซู​ตรั​สว​่า “​มี​ผู้​หน​ึ่งได้​ถู​กต้องเรา เพราะเรารู้สึกว่าฤทธิ์​ได้​ซ่านออกจากตัวเรา” เมื่อผู้หญิงนั้นเห็​นว​่าจะซ่อนตัวไว้​ไม่ได้​แล้ว เธอก็​เข​้ามาตัวสั่นกราบลงตรงพระพักตร์​พระองค์ ทูลพระองค์ต่อหน้าคนทั้งปวงว่า เธอได้​ถู​กต้องพระองค์​เพราะเหตุอะไร และได้หายโรคในทันใดนั้น พระองค์​จึงตรัสแก่เขาว่า “ลูกสาวเอ๋ย จงมีกำลังใจเถิด ความเชื่อของเจ้าได้กระทำให้​เจ้​าหายโรคแล้ว จงไปเป็นสุขเถิด” เมื่อพระองค์กำลังตรั​สอย​ู่ มี​คนหนึ่งมาจากบ้านนายธรรมศาลา บอกเขาว่า “ลูกสาวของท่านตายเสียแล้ว ไม่​ต้องรบกวนท่านอาจารย์​ต่อไป​” ฝ่ายพระเยซูเมื่อได้ยินจึงตรัสแก่เขาว่า “อย่ากลัวเลย จงเชื่อเท่านั้นและลูกจะหายดี” เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในเรือน พระองค์​ไม่​ทรงยอมให้​ผู้​ใดเข้าไป เว้นแต่​เปโตร ยากอบ ยอห์น และบิดามารดาของเด็กนั้น คนทั้งหลายจึงร้องไห้ร่ำไรเพราะเด็กนั้น แต่​พระองค์​ตรั​สว​่า “อย่าร้องไห้​เลย เขาไม่​ตาย แต่​นอนหลั​บอย​ู่” คนทั้งปวงก็พากันหัวเราะเยาะพระองค์ เพราะรู้ว่าเด็กนั้นตายแล้ว ฝ่ายพระองค์ทรงไล่คนทั้งหมดออกไป แล​้วทรงจับมือเด็กนั้น ตรั​สว​่า “ลูกเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด” แล​้วจิตวิญญาณก็​กล​ับเข้าในเด็กนั้น เขาก็​ลุ​กขึ้นทั​นที พระองค์​จึงตรั​สส​ั่งให้เอาอาหารมาให้เขากิน ฝ่ายบิดามารดาของเด็กนั้​นก​็​ประหลาดใจ แต่​พระองค์​ทรงกำชับเขาไม่​ให้​บอกผู้ใดให้​รู้​เหตุการณ์​ซึ่งเป็นมานั้น

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:40-56 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาแล้วประชาชนก็ต้อนรับพระองค์ เพราะเขาทั้งหลายคอยท่าพระองค์อยู่ นี่แน่ะ มีชายคนหนึ่งชื่อไยรัส เป็นนายธรรมศาลามากราบลงที่พระบาทพระเยซู อ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จเข้าไปในตึกของเขา เพราะว่าเขามีบุตรสาวคนเดียว อายุประมาณสิบสองปี และบุตรสาวนั้นนอนป่วยอยู่เกือบจะตาย เมื่อพระองค์เสด็จไปนั้น ประชาชนเบียดเสียดพระองค์ มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกโลหิตได้สิบสองปีมาแล้ว ไม่มีผู้ใดรักษาให้หายได้ ผู้หญิงนั้นแอบมาข้างหลัง ถูกต้องชายฉลองพระองค์ และในทันใดนั้นโลหิตที่ตกก็หยุด พระเยซูจึงตรัสถามว่า <<ใครได้ถูกต้องเรา>> เมื่อคนทั้งหลายได้ปฏิเสธ เปโตรกับคนที่อยู่ด้วยกันจึงทูลพระองค์ว่า <<อาจารย์เจ้าข้า ก็เป็นเพราะประชาชนเบียดเสียดพระองค์>> แต่พระเยซูตรัสว่า <<มีผู้หนึ่งได้ถูกต้องเรา เพราะเรารู้สึกว่าฤทธิ์ได้ซ่านออกจากเราแล้ว>> เมื่อผู้หญิงนั้นเห็นว่าจะซ่อนตัวไว้ไม่ได้แล้ว เขาก็เข้ามาตัวสั่นกราบลงตรงพระพักตร์พระองค์ ทูลพระองค์ต่อหน้าคนทั้งปวงว่า เขาได้ถูกต้องพระองค์เพราะเหตุอะไรและได้หายโรคในทันใดนั้น พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า <<ลูกหญิงเอ๋ย ที่เจ้าหายโรคนั้นก็เพราะเจ้าเชื่อ จงไปเป็นสุขเถิด>> เมื่อพระองค์กำลังตรัสอยู่ มีคนหนึ่งมาจากบ้านนายธรรมศาลา บอกนายว่า <<ลูกสาวของท่านตายเสียแล้ว ไม่ต้องรบกวนท่านอาจารย์ต่อไป>> ฝ่ายพระเยซูเมื่อได้ยินจึงตรัสแก่เขาว่า <<อย่ากลัวเลย จงเชื่อเท่านั้น และลูกจะหายดี>> เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในตึก พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดเข้าไป เว้นแต่ เปโตร ยอห์น ยากอบและบิดามารดาของเด็กนั้น คนทั้งหลายจึงตีอกร้องไห้ร่ำไรเพราะเด็กนั้น แต่พระองค์ตรัสว่า <<อย่าร้องไห้เลยเขาไม่ตาย แต่นอนหลับอยู่>> คนทั้งปวงก็พากันหัวเราะเยาะพระองค์เพราะเขารู้ว่าเด็กนั้นตายแล้ว ฝ่ายพระองค์ทรงจับมือเด็กนั้น ตรัสว่า <<ลูกเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด>> แล้ววิญญาณจิตก็กลับเข้าในเด็กนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันที พระองค์จึงตรัสสั่งให้เอาอาหารมาให้เขากินบ้าง ฝ่ายบิดามารดาของเด็กนั้นก็ประหลาดใจนัก แต่พระองค์ทรงห้ามเขาไม่ให้บอกผู้ใดให้รู้เหตุการณ์ซึ่งเป็นมานั้น

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:40-56 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เมื่อพระเยซูทรงข้ามฟากกลับมา ฝูงชนพากันต้อนรับพระองค์เพราะพวกเขากำลังรอคอยพระองค์อยู่ แล้วมีชายคนหนึ่งชื่อไยรัสเป็นนายธรรมศาลา มาหมอบลงแทบพระบาทพระเยซูและทูลอ้อนวอนให้พระองค์เสด็จไปที่บ้านของเขา เพราะลูกสาวคนเดียวของเขากำลังจะตาย เด็กหญิงนี้อายุราวสิบสองขวบ ขณะพระเยซูเสด็จไปผู้คนเบียดเสียดพระองค์แน่นขนัด ที่นั่นมีหญิงคนหนึ่งตกเลือดเรื้อรังมาสิบสองปีแล้ว แต่ไม่มีใครรักษานางให้หายได้ นางมาข้างหลังพระองค์และแตะชายฉลองพระองค์ ทันใดนั้นเลือดก็หยุดไหล พระเยซูตรัสถามว่า “ใครแตะต้องเรา?” คนทั้งปวงต่างก็ปฏิเสธ เปโตรทูลว่า “พระอาจารย์ ผู้คนรุมล้อมเบียดเสียดพระองค์” แต่พระเยซูตรัสว่า “มีคนแตะเรา เรารู้ว่าฤทธิ์อำนาจซ่านออกจากตัวเรา” ฝ่ายหญิงนั้นเห็นว่าไม่อาจหลบเลี่ยงไปได้ก็กลัวจนตัวสั่นและเข้ามาหมอบลงแทบพระบาท นางกราบทูลพระองค์ต่อหน้าคนทั้งปวงถึงสาเหตุที่แตะต้องพระองค์และที่นางหายโรคทันที พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “ลูกสาวเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าทำให้เจ้าหายโรค จงกลับไปด้วยสันติสุขเถิด” พระเยซูตรัสยังไม่ทันขาดคำก็มีคนจากบ้านของไยรัสนายธรรมศาลามาบอกว่า “ลูกสาวของท่านเสียชีวิตแล้ว อย่ารบกวนพระอาจารย์อีกเลย” พระเยซูทรงได้ยินก็ตรัสกับไยรัสว่า “อย่ากลัวเลย จงเชื่อเท่านั้นแล้วลูกสาวจะหาย” เมื่อมาถึงบ้านของไยรัส พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ใครติดตามเข้าไปยกเว้นเปโตร ยากอบกับยอห์น และบิดามารดาของเด็ก ขณะนั้นคนทั้งปวงกำลังร้องไห้ไว้อาลัยแก่เด็กนั้น พระเยซูตรัสว่า “หยุดร้องไห้เถิด เด็กน้อยยังไม่ตายเพียงแต่หลับอยู่” พวกเขาหัวเราะเยาะพระองค์เพราะรู้ว่าเด็กตายแล้ว แต่พระเยซูทรงจับมือเด็กน้อยและตรัสว่า “ลูกเอ๋ย ลุกขึ้นเถิด!” วิญญาณของเด็กก็กลับมา ทันใดนั้นเด็กหญิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วพระเยซูตรัสสั่งให้นำอาหารมาให้เด็กรับประทาน บิดามารดาของเด็กต่างประหลาดใจ แต่พระองค์ทรงสั่งพวกเขาไม่ให้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นนี้กับใคร

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:40-56 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ครั้น​พระ​เยซู​กลับ​ไป ประชาชน​ก็​รอคอย​ต้อนรับ​พระ​องค์​อยู่ ไยรัส​ผู้​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​ศาลา​ที่​ประชุม​มา​ซบ​ลง​ที่​แทบเท้า​ของ​พระ​เยซู และ​อ้อนวอน​ให้​พระ​องค์​มา​ยัง​บ้าน​ของ​เขา เพราะ​ว่า​ลูก​สาว​คน​เดียว​ของ​เขา​ซึ่ง​อายุ​ประมาณ 12 ปี​กำลัง​จะ​ตาย ครั้น​พระ​เยซู​ไป​กับ​เขา ผู้​คน​ก็​มา​เบียดเสียด​รายล้อม​พระ​องค์​มากมาย และ​มี​หญิง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ตก​โลหิต​นาน​ถึง 12 ปี​โดย​ไม่​มี​ใคร​รักษา​ได้ เธอ​เข้า​มา​ใกล้​ทาง​เบื้อง​หลัง แล้ว​แตะ​ที่​ชาย​เสื้อ​ตัว​นอก​ของ​พระ​องค์ โลหิต​ที่​ไหล​อยู่​ก็​หยุด​ทันที พระ​เยซู​ถาม​ว่า “ใคร​แตะต้อง​ตัว​เรา” เมื่อ​ไม่​มี​ผู้​ใด​รับ เปโตร​จึง​พูด​ว่า “นายท่าน ผู้​คน​หนาแน่น​เบียดเสียด​ท่าน​อยู่” แต่​พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “มี​คน​ที่​ได้​แตะ​ตัว​เรา เพราะ​ฤทธานุภาพ​ได้​แผ่ซ่าน​ออก​จาก​กาย​ของ​เรา​ไป” หญิง​คน​นั้น​เกรง​ว่า​จะ​มี​คน​สังเกต​เห็น​การ​กระทำ​ของ​เธอ จึง​ได้​ทรุด​ตัว​อัน​สั่นเทา​ลง​แทบ​เท้า​พระ​องค์ และ​พูด​ต่อ​หน้า​ผู้​คน​ว่า เหตุใด​เธอ​จึง​แตะ​ตัว​พระ​องค์ และ​หาย​จาก​โรค​ทันที​ได้​อย่างไร พระ​องค์​จึง​กล่าว​กับ​เธอ​ว่า “ลูก​สาว​เอ๋ย ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​ทำ​ให้​เจ้า​หายจาก​โรค จง​ไป​อย่าง​สันติสุข​เถิด” ขณะที่​พระ​เยซู​กำลัง​กล่าว​อยู่ ก็​มี​คน​มา​จาก​บ้าน​ของ​ไยรัส​ผู้​อยู่​ใน​ระดับ​ปกครอง​ศาลา​ที่​ประชุม มา​บอก​เขา​ว่า “ลูก​สาว​ของ​ท่าน​ตาย​แล้ว อย่า​ได้​รบกวน​อาจารย์​ท่าน​อีก​เลย” พระ​เยซู​ได้ยิน​ดังนั้น​จึง​กล่าว​กับ​ไยรัส​ว่า “อย่า​กลัว​เลย เพียง​แต่​เชื่อ และ​เธอ​ก็​จะ​หาย​ดี” เมื่อ​พระ​องค์​ไป​ถึง​บ้าน​ไยรัส ก็​ไม่​อนุญาต​ให้​ใคร​ล่วง​เข้า​ไป​ด้าน​ใน เว้นแต่​เปโตร ยอห์น ยากอบ และ​บิดา​มารดา​ของ​เด็ก ใน​ขณะ​ที่​คน​อื่นๆ กำลัง​ร้องไห้​ฟูมฟาย​และ​ร้อง​คร่ำครวญ​ถึง​เด็กน้อย พระ​เยซู​กล่าว​ว่า “จง​หยุด​ร้องไห้​ฟูมฟาย​เถิด เธอ​ไม่​ตาย เพียง​แค่​หลับ​เท่า​นั้น” ผู้​คน​พา​กัน​หัวเราะ​เยาะ​พระ​องค์​เพราะ​รู้​ว่า​เธอ​ตาย​แล้ว แต่​พระ​องค์​จับ​มือ​เธอ​และ​กล่าว​ว่า “ลูก​เอ๋ย จง​ลุก​ขึ้น​เถิด” วิญญาณ​ของ​เธอ​ก็​กลับ​คืน​สู่​ร่าง แล้ว​เธอ​ก็​ลุก​ขึ้น​ยืน​ทันที และ​พระ​เยซู​บอก​ให้​คน​เหล่า​นั้น​นำ​อาหาร​มา​ให้​เธอ บิดา​มารดา​ของ​เธอ​ก็​ประหลาดใจ และ​พระ​องค์​สั่ง​ไม่​ให้​เขา​เล่า​เหตุการณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​แก่​ผู้​ใด

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8