เนหะมีย์ 13:6-31

เนหะมีย์ 13:6-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ตอน​ที่​เกิด​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้ ผม​ไม่ได้​อยู่​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม เนื่องจาก​ผม​ได้​กลับ​ไป​หา​กษัตริย์​อารทาเซอร์ซีส​แห่ง​บาบิโลน ซึ่ง​ตรงกับ​ปี​ที่​สามสิบสอง​ที่​พระองค์​ขึ้น​ครองราชย์ แต่​ต่อมา ผม​ได้​ขอ​อนุญาต​กษัตริย์ และ​กลับ​มา​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม ผม​ได้​รู้​ถึง​สิ่ง​ที่​เอลียาชีบ​ผู้​ชั่วร้าย​ได้​ทำ​ให้​โทบีอาห์ นั่นคือ​เขา​ได้​ยก​ห้องๆ​หนึ่ง​ใน​วิหาร​ของ​พระเจ้า​ให้​กับ​โทบีอาห์ ผม​ถือ​ว่า​มัน​เป็น​เรื่อง​ชั่วร้าย​มาก ดังนั้น ผม​จึง​โยน​ข้าวของ​ของ​โทบีอาห์​ออก​ไป​นอก​ห้อง แล้ว​ผม​สั่ง​ให้​ชำระ​ห้อง​ให้​บริสุทธิ์ และ​เอา​เครื่องใช้​ต่างๆ​ของ​วิหาร​ของ​พระเจ้า รวมทั้ง​เครื่อง​บูชา​จาก​เมล็ดพืช และ​เครื่อง​หอม กลับ​ไป​ไว้​ใน​ห้องนั้น​อย่างเดิม ผม​ยัง​ได้​รับรู้​อีก​ว่า พวก​ชาวเลวี​ไม่​ได้รับ​ส่วนแบ่ง​ของ​พวกเขา ดังนั้น​พวก​ชาวเลวี​และ​พวก​นักร้อง​ที่​ทำ​หน้าที่​รับใช้​อยู่​ใน​วิหาร จึง​กลับ​ไป​ยัง​ไร่นา​ของตน ผม​ต่อว่า​พวก​เจ้าหน้าที่​ว่า “ทำไม​วิหาร​ของ​พระเจ้า​ถึง​ได้​ถูก​ละเลย​อย่างนี้” แล้ว​ผม​จึง​รวบรวม​พวก​ชาวเลวี และ​พวก​นักร้อง​กลับ​ไป​ยืน​อยู่​ประจำ​ที่​ของ​พวกเขา จากนั้น​พวก​คน​ยูดาห์​ทั้งหมด​จึง​นำ​สิบ​เปอร์เซ็นต์​ของ​เมล็ดพืช สิบ​เปอร์เซ็นต์​ของ​เหล้าองุ่น​ใหม่ และสิบ​เปอร์เซ็นต์​ของ​น้ำมัน มา​ไว้​ยัง​พวก​ห้อง​เก็บของ​ของ​วิหาร แล้ว​ผม​ได้​แต่งตั้ง​คน​ขึ้นมา​ดูแล​ห้อง​เก็บของ​เหล่านั้น คือ เชเลมิยาห์​ที่​เป็น​นักบวช ศาโดก​ที่​เป็น​อาจารย์ และ​เปดายาห์​ที่​เป็น​ชาวเลวี รวมทั้ง​แต่งตั้ง​ฮานัน ลูกชาย​ศักเกอร์ ที่​เป็น​ลูก​ของ​มัทธานิยาห์ ให้​เป็น​ผู้ช่วย​พวกเขา เพราะ​พวกเขา​เป็น​คน​ซื่อสัตย์ ดังนั้น​พวกเขา​จึง​มี​หน้าที่​แจกจ่าย​ส่วนแบ่ง​ให้​กับ​เพื่อน​ร่วมงาน​ของ​พวกเขา ข้าแต่​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​โปรด​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​กับ​พระองค์ ขอ​พระองค์​อย่า​ได้​ลืม​การดี ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ไป​อย่าง​สัตย์ซื่อ เพื่อ​วิหาร​ของ​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า และ​เพื่อ​การ​รับใช้​ทั้งหลาย​ใน​วิหาร​นั้น ใน​ครั้งนั้น ผม​เห็น​ประชาชน​ใน​ยูดาห์ ได้​เหยียบ​ย่ำ​องุ่น​อยู่​ใน​บ่อ ทั้งๆที่​เป็น​วันหยุด​ทาง​ศาสนา แถม​ยัง​เอา​เมล็ดข้าว​มากมาย​ใส่​ไว้​บน​หลัง​ลา รวมทั้ง​เหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และ​สัมภาระ​อื่นๆ​อีก​หลาย​อย่าง แล้ว​พวกเขา​ก็​นำ​ของ​ทั้งหมด​นี้​ไป​ยัง​เมือง​เยรูซาเล็ม​ใน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา ผม​ได้​เตือน​พวกเขา​ไม่ให้​ขาย​อาหาร​ใน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา พวก​ชาว​ไทระ​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม ได้​นำ​ปลา​และ​ของ​หลาย​อย่าง​มา​ขาย และ​พวกเขา​กำลัง​ขาย​ให้​กับ​คน​ยูดาห์​และ​คน​ที่​อยู่​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​ใน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา ผม​เถียง​กับ​พวก​ขุนนาง​ของ​ยูดาห์ และ​พูด​กับ​พวกเขา​ว่า “รู้ไหม​ว่า​พวกเจ้า​กำลัง​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​อะไร​อยู่ พวกเจ้า​กำลัง​ละเมิด​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​วันหยุด​ทาง​ศาสนา” บรรพบุรุษ​ของ​พวกเจ้า​ก็​ทำ​อย่างนี้​เหมือน​กัน พระเจ้า​ของ​เรา​ถึง​ได้​นำ​ความ​หายนะ​มา​สู่​พวกเรา​และ​เมืองนี้ พวกเจ้า​กำลัง​ละเมิด​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​วันหยุด​ทาง​ศาสนา พวกเจ้า​กำลัง​นำ​โทษ​มา​สู่​อิสราเอล​มากขึ้น ผม​ก็​เลย​ทำ​อย่างนี้​คือ ใน​วัน​ก่อน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา เมื่อ​เริ่ม​มืด ผม​ได้​สั่ง​ให้​ปิด​ประตู​เมือง​เยรูซาเล็ม​ทั้งหมด และ​สั่ง​ไม่ให้​เปิด​จนกว่า​จะ​เลย​วันหยุด​ทาง​ศาสนา​ไป ผม​ให้​คนรับใช้​ของผม​เฝ้า​เวร​ที่​ประตู เพื่อ​ไม่ให้​มี​การ​ขนของ​เข้ามา​ใน​เมือง​ใน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา มี​ครั้ง​หรือ​สอง​ครั้ง​ที่​พวก​พ่อค้า​และ​คน​ขาย​สินค้า​ต่างๆ​มา​นอน​ค้างคืน​อยู่​นอก​กำแพง​เมือง​เยรูซาเล็ม ผม​เตือน​พวกเขา​ว่า “พวกเจ้า​มา​นอน​ค้างคืน​อยู่​หน้า​กำแพง​เมือง​ทำไม ถ้า​พวกเจ้า​ทำ​อย่างนี้​อีก เรา​จะ​ใช้​กำลัง​กับ​พวกเจ้า” หลัง​จากนั้น​พวกเขา​ก็​ไม่​กลับมา​ใน​วันหยุด​ทาง​ศาสนา​อีกเลย หลัง​จากนั้น ผม​บอก​กับ​พวก​ชาวเลวี​ให้​ชำระ​ตัวเอง​ให้​บริสุทธิ์ และ​ให้​ไป​เฝ้า​ระวัง​ประตู​เมือง เพื่อ​รักษา​วันหยุด​ทาง​ศาสนา​ให้​ศักดิ์สิทธิ์ ข้าแต่​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​โปรด​ระลึกถึง​สิ่งนี้​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​กับ​พระองค์ ขอ​เมตตา​ข้าพเจ้า​ด้วย​ความรัก​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ ใน​ครั้งนั้น​ผม​เห็น​ชาย​ชาว​ยูดาห์ แต่งงาน​กับ​หญิง​ชาว​อัชโดด ชาว​อัมโมน และ​ชาว​โมอับ ครึ่งหนึ่ง​ของ​ลูกๆ​พวกเขา พูด​ภาษา​อัชโดด หรือ​ภาษา​ของ​ชนชาติ​อื่น พวก​เด็กๆ​เหล่านั้น​พูด​ภาษา​ยูดาห์​ไม่เป็น ผม​จึง​บอก​คน​เหล่านั้น​ว่า​พวกเขา​ทำ​ผิด และ​สาปแช่ง​พวกเขา และ​ผม​ได้​ทุบตี​พวกเขา​บางคน​และ​ดึง​ผม​ของ​พวกเขา และ​ทำ​ให้​พวกเขา​สาบาน​ใน​นาม​ของ​พระเจ้า ผม​พูด​ว่า “พวกเจ้า​จะ​ต้อง​ไม่​ยก​ลูกสาว​ให้​เป็น​เมีย​ลูกชาย​ของ​คน​พวกนั้น และ​เจ้าเอง​ก็​ต้อง​ไม่รับ​เอา​ลูกสาว​ของ​พวกเขา​มา​เป็น​เมีย​ลูกชาย​ของเจ้า หรือ​เป็น​เมีย​เจ้า​เอง ที่​กษัตริย์​ซาโลมอน​แห่ง​อิสราเอล​ได้​ทำ​บาป​นั้น​เป็น​เพราะ​พวก​ผู้หญิง​อย่าง​พวกนี้​ไม่ใช่​หรือ ใน​พวก​ประเทศ​ทั้งหลาย ไม่มี​กษัตริย์​องค์ไหน​ที่​เป็น​เหมือน​กับ​กษัตริย์​ซาโลมอน ที่​พระเจ้า​ของ​พระองค์​ได้​รัก​พระองค์​มาก​ขนาดนั้น พระเจ้า​ทำ​ให้​ซาโลมอน​เป็น​กษัตริย์​เหนือ​อิสราเอล​ทั้งหมด แต่​เมีย​ต่างชาติ​พวกนั้น​ทำ​ให้​พระองค์​ทำบาป แล้ว​อย่างนี้​พวกเรา​ควร​ฟัง​เจ้า​หรือ และ​ทำ​ความชั่ว​ที่​ยิ่งใหญ่​เหล่านี้ และ​ทรยศ​ต่อ​พระเจ้า​ของเรา​โดย​แต่งงาน​กับ​พวก​หญิง​ต่างชาติ​อย่างนั้น​หรือ” เอลียาชีบ​ผู้​เป็น​นักบวช​สูงสุด​มี​ลูกชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ว่า​เยโฮยาดา ที่​เป็น​ลูกเขย​ของ​สันบาลลัท​ชาว​โฮโรนาอิม ผม​ได้​ไล่​เยโฮยาดา​ให้​ไป​อยู่​ห่างไกล​จาก​ผม ข้าแต่​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​โปรด​ระลึก​ถึง​สิ่ง​ที่​พวกเขา​ทำ​ต่อ​พระองค์ และ​ลงโทษ​พวกเขา​ด้วยเถิด เพราะ​พวกเขา​ได้​ทำ​ให้​ความ​เป็น​นักบวช​เสื่อมไป พวกเขา​ได้​ทำ​ให้​ข้อตกลง​ที่​พระองค์​ได้​ทำ​ไว้​กับ​พวกนักบวช​และ​พวก​ชาวเลวี​เสื่อมไป ดังนั้น​ผม​จึง​ชำระ​พวก​นักบวช​และ​พวก​ชาวเลวี​ให้​บริสุทธิ์​จาก​วิถีทาง​ทั้งหมด​ของ​คน​ต่าง​ชาติ แล้ว​ให้​พวกเขา​กลับ​ไป​ทำ​หน้าที่​ที่​พวกเขา​ต้อง​รับผิดชอบ ผม​ยัง​ได้​จัดการ​เรื่อง​การ​หา​ไม้ฟืน​สำหรับ​แท่นบูชา​มา​ตาม​เวลา​ที่​ได้​กำหนด​ไว้ และ​ยัง​จัดการ​เรื่อง​การ​ถวาย​ผลแรก​ของปี ข้าแต่​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​โปรด​ระลึก​ถึง​สิ่งนี้​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​กับ​พระองค์ และ​ขอ​โปรด​อวยพร​ข้าพเจ้า​ด้วยเถิด

เนหะมีย์ 13:6-31 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เมื่อเกิดเรื่องนี้ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในเยรูซาเล็ม เพราะข้าพเจ้าได้ไปเฝ้ากษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งบาบิโลนในปีที่สามสิบสองแห่งรัชกาลของพระองค์ และต่อมาข้าพเจ้าก็ทูลลากษัตริย์ และมายังเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าจึงทราบความชั่วร้ายซึ่งเอลียาชีบได้ทำเพื่อโทบีอาห์ คือ จัดห้องภายในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้าให้เขา ข้าพเจ้าโกรธมาก และข้าพเจ้าก็โยนเครื่องแต่งบ้านทั้งสิ้นของโทบีอาห์ออกเสียจากห้อง แล้วข้าพเจ้าสั่งให้เขาชำระห้อง และข้าพเจ้าก็นำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งธัญบูชากับกำยานกลับมาไว้ที่นั่นอีก และข้าพเจ้ายังทราบอีกว่า ส่วนของคนเลวีนั้นเขาก็ไม่ได้มอบให้ เพราะฉะนั้น คนเลวีและนักร้องผู้ปฏิบัติการงาน ต่างก็หนีกลับไปยังไร่นาของตน ข้าพเจ้าจึงต่อว่าเจ้าหน้าที่และพูดว่า “ทำไมจึงทอดทิ้งพระนิเวศของพระเจ้าเสีย?” ข้าพเจ้าจึงรวบรวมพวกเขากลับมา และตั้งเขาไว้ตามตำแหน่งของเขาอีก และคนยูดาห์ทั้งปวงได้นำทศางค์ที่เป็นข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันเข้ามายังโรงพัสดุ ข้าพเจ้าได้แต่งตั้งคนให้ดูแลโรงพัสดุ คือเชเลมิยาห์ปุโรหิต ศาโดกธรรมาจารย์และเปดายาห์คนเลวี และผู้ช่วยของเขา คือ ฮานันบุตรศักเกอร์ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ เพราะนับว่าพวกเขาซื่อสัตย์ และหน้าที่ของเขา คือ แจกจ่ายแก่พวกพี่น้อง ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และขออย่าทรงลบล้างการดีทั้งหลายของข้าพระองค์ที่ข้าพระองค์ได้ทำเพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ และเพื่อการปรนนิบัติในที่นั้น ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำเหล้าองุ่นในวันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวบรรทุกหลังลาเข้ามา ทั้งเหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาทั้งหลายในวันที่เขาขายอาหาร และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและสินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพูดกับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายทำความชั่วร้ายเช่นนี้ ทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน บรรพบุรุษของท่านไม่ได้ทำเช่นนี้หรือ และพระเจ้าของเราไม่ได้ทรงนำเหตุร้ายนี้ทั้งสิ้นให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้หรือ? ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนืออิสราเอลด้วยการทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน” และต่อมาพอเริ่มมืดที่ประตูเมืองเยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าสั่งให้ปิดประตูเมือง และสั่งว่า ไม่ให้เปิดจนกว่าจะพ้นวันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้าให้ดูแลประตูเมือง เพื่อไม่ให้นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต แล้วพวกพ่อค้าและพวกขายสินค้าทุกชนิดได้ค้างอยู่นอกเยรูซาเล็มหนสองหน ข้าพเจ้าได้ตักเตือนพวกเขา และพูดกับเขาว่า “ทำไม ท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจับท่าน” ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มาอีกในวันสะบาโต และข้าพเจ้าสั่งคนเลวีให้ชำระตัวและมาเฝ้าประตูเมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้ และขอทรงพระกรุณาข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่งความรักมั่นคงของพระองค์ ในสมัยนั้นข้าพเจ้าเห็นพวกยิว ผู้แต่งงานกับหญิงชาวอัชโดด อัมโมน และโมอับ และเด็กของเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดด เขาพูดภาษายูดาห์ไม่ได้ แต่พูดภาษาของแต่ละชนชาติ ข้าพเจ้าได้โต้แย้งกับพวกเขา และแช่งเขา และตีเขาบางคน และดึงผมของเขาออก และข้าพเจ้าทำให้เขาปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ข้าพเจ้ากล่าวว่า “เจ้าทั้งหลายอย่ายกลูกสาวของเจ้าให้แก่ลูกชายของเขา หรือรับลูกสาวของเขาให้แก่ลูกชายของเจ้า หรือตัวเจ้าเอง ซาโลมอนกษัตริย์แห่งอิสราเอล ไม่ได้ทำบาปด้วยเรื่องหญิงอย่างนี้หรือ ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเหมือนพระองค์ และพระเจ้าของพระองค์ก็ทรงรักพระองค์ และพระเจ้าทรงกระทำให้พระองค์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวง แม้กระนั้น บรรดาหญิงต่างชาติก็เป็นเหตุให้พระองค์ทรงทำบาป ควรหรือที่เราจะฟังเจ้าและทำความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งนี้ทั้งสิ้น และประพฤติทรยศต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงานกับหญิงต่างชาติ?” บุตรชายคนหนึ่งของโยยาดา ผู้เป็นบุตรเอลียาชีบมหาปุโรหิต เป็นบุตรเขยของสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงเขาทั้งหลาย เพราะว่าเขาทั้งหลายได้ทำให้การเป็นปุโรหิต และพันธสัญญาของพวกปุโรหิตและคนเลวีเป็นมลทิน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงชำระพวกเขาจากทุกสิ่งที่เป็นของคนต่างชาติ และข้าพเจ้าได้กำหนดหน้าที่ของบรรดาปุโรหิตและคนเลวี ต่างก็ประจำงานของตน ข้าพเจ้าได้จัดให้หาฟืนถวายตามเวลากำหนดและสำหรับผลรุ่นแรกด้วย ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ให้เกิดผลดีเถิด

เนหะมีย์ 13:6-31 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เมื่อเกิดเรื่องนี้ข้าพเจ้ามิ​ได้​อยู่​ในเยรูซาเล็ม เพราะในปี​ที่​สามสิบสองแห่งรัชกาลอารทาเซอร์​ซี​สกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนนั้น ข้าพเจ้าได้ไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์ และอีกไม่​กี่​วันข้าพเจ้าก็ทูลลากษั​ตริ​ย์ และมายังเยรูซาเล็ม แล​้วข้าพเจ้าจึงทราบความชั่วร้ายซึ่งเอลียาชีบได้กระทำเพื่อโทบีอาห์ คือจัดห้องภายในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้าให้​เขา ข้าพเจ้าโกรธนัก และข้าพเจ้าก็โยนเครื่องแต่งเรือนทั้งสิ้นของโทบีอาห์ออกเสียจากห้อง แล​้วข้าพเจ้าสั่งให้เขาชำระห้อง และข้าพเจ้าก็นำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งธัญญบูชากับกำยานกลับมาไว้​ที่​นั่​นอ​ีก และข้าพเจ้ายังทราบอี​กว่า ส่วนของคนเลวี​นั้น เขาก็​ไม่ได้​มอบให้ เพราะฉะนั้นคนเลวีและนั​กร​้องผู้​ปฏิบัติ​การงาน ต่างก็​หนี​กล​ับไปยังไร่นาของตน ข้าพเจ้าจึงต่อว่าเจ้าหน้าที่และพูดว่า “ทำไมจึงทอดทิ้งพระนิเวศของพระเจ้าเสีย” ข้าพเจ้าจึงรวบรวมเขากลับมา และตั้งเขาไว้ตามตำแหน่งของเขาอีก และยูดาห์ทั้งปวงได้นำสิบชักหนึ่งที่เป็นข้าว น้ำองุ่นใหม่ และน้ำมันเข้ามายังเรือนพั​สด​ุ ข้าพเจ้าได้​แต่​งตั้งคนให้​ดู​แลเรือนพั​สด​ุ​คือ เชเลมิยาห์​ปุ​โรหิต ศาโดกธรรมาจารย์ และเปดายาห์​แห่​งคนเลวี และผู้ช่วยของเขาคือ ฮานันบุตรชายศักเกอร์ ผู้​เป็นบุตรชายมัทธานิยาห์ เพราะนับได้ว่าเขาสัตย์​ซื่อ และหน้าที่ของเขาคือแจกจ่ายแก่พวกพี่​น้อง “​โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เก​ี่ยวกับเรื่องนี้ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และขออย่าทรงลบล้างการที่​ดี​ทั้งหลายของข้าพระองค์​ที่​ข้าพระองค์​ได้​กระทำ เพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ และเพื่อการปรนนิบั​ติ​ในที่​นั้น​” ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำน้ำองุ่นในวันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวเข้ามาบรรทุกหลังลา ทั้งน้ำองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาในวั​นที​่เขาทั้งหลายขายอาหาร และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและสินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม แล​้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพู​ดก​ับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายกระทำความชั่วร้ายเช่นนี้ กระทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน บรรพบุรุษของท่านมิ​ได้​กระทำเช่นนี้​หรือ และพระเจ้าของเรามิ​ได้​ทรงนำเหตุร้ายทั้งสิ้นให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้​หรือ ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนื​ออ​ิสราเอลด้วยการกระทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน” และอยู่มาพอเริ่มมืดที่​ประตู​เมืองเยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้บัญชาให้​ปิดประตู​เมือง และสั่งว่า ไม่​ให้​เปิดจนกว่าจะพ้​นว​ันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้าให้​ดู​แลประตู​เมือง ว่าไม่​ให้​นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต แล​้วพวกพ่อค้าและพวกขายสินค้าทุกชนิดค้างอยู่นอกเยรูซาเล็มหนหนึ่ง หรือสองหน ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขา และพู​ดก​ับเขาว่า “ทำไมท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจั​บท​่าน” ตั้งแต่​คราวนั้นมาเขาก็​ไม่​มาอีกในวันสะบาโต และข้าพเจ้าบัญชาคนเลวี​ให้​ชำระตัวเขาและมาเฝ้าประตู​เมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้​บริสุทธิ์ “​โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้​ด้วย และขอทรงไว้​ชี​วิตข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่​แห่​งความเมตตาของพระองค์” ในสมัยนั้นข้าพเจ้าได้​เห​็นพวกยิวผู้​ได้​แต่​งงานกับหญิงชาวอัชโดด อัมโมนและโมอับ และเด็กของเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดด เขาพูดภาษาฮีบรู​ไม่ได้ แต่​พู​ดภาษาชนชาติของเขาแต่ละพวก ข้าพเจ้าได้​โต้​แย้​งก​ับเขา และแช่งเขา และตีเขาบางคนและดึงผมของเขาออก และข้าพเจ้ากระทำให้เขาปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ด้วยข้าพเจ้ากล่าวว่า “​เจ้​าทั้งหลายอย่ายกบุตรสาวของเจ้าให้​แก่​บุ​ตรชายของเขา หรือรับบุตรสาวของเขาให้​แก่​บุ​ตรชายของเจ้า หรือตัวเจ้าเอง ซาโลมอนกษั​ตริ​ย์​แห่​งอ​ิสราเอล มิได้​ทำบาปด้วยเรื่องหญิงอย่างนี้​หรือ ท่ามกลางหลายประชาชาติ​ไม่มี​กษัตริย์​ใดเหมือนพระองค์ และพระเจ้าของพระองค์​ก็​ทรงรักพระองค์ และพระเจ้าทรงกระทำให้​พระองค์​เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอลทั้งปวง ถึงกระนั้​นก​็​ดี แม้​เป็นพระองค์หญิงต่างชาติ​ก็​เป็นเหตุให้​พระองค์​ทรงทำบาป ควรหรือที่เราจะฟังเจ้าและกระทำความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งนี้​ทั้งสิ้น และประพฤติละเมิดต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงานกับหญิงต่างชาติ” บุ​ตรชายคนหนึ่งของโยยาดา ผู้​เป็นบุตรชายเอลียาชีบมหาปุโรหิต เป็นบุตรเขยของสันบาลลัท ชาวโฮโรนาอิม เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า “​โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงเขาทั้งหลาย เพราะว่าเขาทั้งหลายได้กระทำให้การเป็นปุโรหิต และพันธสัญญาของพวกปุโรหิตและคนเลวีเป็นมลทิน” ดังนี้​แหละ ข้าพเจ้าได้ชำระเขาจากต่างด้าวทุกอย่าง และข้าพเจ้าได้ตั้งหน้าที่ของบรรดาปุโรหิตและคนเลวีต่างก็ประจำงานของตน ข้าพเจ้าได้จัดให้หาฟืนถวายตามเวลากำหนดและสำหรับผลรุ่นแรกด้วย “​โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์​ให้​เก​ิดผลดี​เถิด​”

เนหะมีย์ 13:6-31 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เมื่อเกิดเรื่องนี้ข้าพเจ้ามิได้อยู่ในเยรูซาเล็ม เพราะในปีที่สามสิบสองแห่งรัชกาลอารทาเซอร์ซีส พระราชาแห่งบาบิโลนนั้น ข้าพเจ้าได้ไปเฝ้าพระราชา และต่อมาข้าพเจ้าก็ทูลลาพระราชา และมายังเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าจึงทราบความชั่วร้ายซึ่งเอลียาชีบ ได้กระทำเพื่อโทบีอาห์ คือ จัดห้องภายในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้าให้เขา ข้าพเจ้าโกรธนัก และข้าพเจ้าก็โยนเครื่องแต่งเรือนทั้งสิ้นของ โทบีอาห์ออกเสียจากห้อง แล้วข้าพเจ้าสั่งให้เขาชำระห้อง และข้าพเจ้าก็นำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งธัญญบูชากับกำยานกลับมาไว้ที่นั่นอีก และข้าพเจ้ายังทราบอีกว่า ส่วนของคนเลวีนั้น เขาก็ไม่ได้มอบให้ เพราะฉะนั้น คนเลวีและนักร้องผู้ปฏิบัติการงาน ต่างก็หนีกลับไปยังไร่นาของตน ข้าพเจ้าจึงต่อว่าเจ้าหน้าที่และพูดว่า <<ทำไมจึงทอดทิ้งพระนิเวศของพระเจ้าเสีย>> ข้าพเจ้าจึงรวบรวมเขากลับมา และตั้งเขาไว้ตามตำแหน่งของเขาอีก และยูดาห์ทั้งปวงได้นำทศางค์ที่เป็นข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันเข้ามายังเรือนพัสดุ ข้าพเจ้าได้แต่งตั้งคนให้ดูแลเรือนพัสดุ คือเชเลมิยาห์ปุโรหิต ศาโดกธรรมาจารย์และเปดายาห์แห่งคนเลวี และผู้ช่วยของเขา คือ ฮานันบุตรศักเกอร์ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ เพราะนับได้ว่าเขาซื่อสัตย์ และหน้าที่ของเขา คือ แจกจ่ายแก่พวกพี่น้อง ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และขออย่าทรงลบล้างการที่ดีทั้งหลายของ ข้าพระองค์ที่ข้าพระองค์ได้กระทำ เพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ และเพื่อการปรนนิบัติในที่นั้น ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำเหล้าองุ่นใน วันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวเข้ามาบรรทุกหลังลา ทั้งเหล้าองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาในวันที่เขาทั้งหลายขายอาหาร และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและ สินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม แล้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่ง ยูดาห์ และพูดกับเขาว่า <<ทำไมท่านทั้งหลายกระทำความชั่วร้ายเช่นนี้ กระทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน บรรพบุรุษของท่านมิได้กระทำเช่นนี้หรือ และพระเจ้าของเรามิได้ทรงนำเหตุร้ายนี้ทั้งสิ้น ให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้หรือ ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนืออิสราเอล ด้วยการกระทำให้สะบาโตเป็นมลทิน>> และอยู่มาพอเริ่มมืดที่ประตูเมือง เยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้บัญชาให้ปิดประตูเมือง และสั่งว่า ไม่ให้เปิดจนกว่าจะพ้นวันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้า ให้ดูแลประตูเมือง ว่าไม่ให้นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต แล้วพวกพ่อค้าและพวกขายสินค้าทุกชนิดค้างอยู่นอก เยรูซาเล็มหนหนึ่ง หรือสองหน ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขา และพูดกับเขาว่า <<ทำไมท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจับท่าน>> ตั้งแต่คราวนั้นมาเขาก็ไม่มาอีกในวันสะบาโต และข้าพเจ้าบัญชาคนเลวีให้ชำระตัวเขาและมา เฝ้าประตูเมือง เพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงความชอบของข้าพระองค์ในเรื่องนี้ และขอทรงไว้ชีวิตข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่ง ความรักมั่นคงของพระองค์ ในสมัยนั้นข้าพเจ้าได้เห็นพวกยิว ผู้ได้แต่งงานกับหญิงชาวอัชโดด อัมโมน และโมอับ และเด็กของเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดด เขาพูดภาษายูดาห์ไม่ได้ แต่พูดภาษาชนชาติของเขาแต่ละพวก ข้าพเจ้าได้โต้แย้งกับเขา และแช่งเขา และตีเขาบางคนและดึงผมของเขาออก และข้าพเจ้ากระทำให้เขาปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ด้วยข้าพเจ้ากล่าวว่า <<เจ้าทั้งหลายอย่ายกบุตรหญิงของเจ้าให้แก่บุตรชายของเขา หรือรับบุตรหญิงของเขาให้แก่บุตรชายของเจ้า หรือตัวเจ้าเอง ซาโลมอนพระราชาแห่งอิสราเอล มิได้ทำบาปด้วยเรื่องหญิงอย่างนี้หรือ ท่ามกลางหลายประชาชาติ ไม่มีพระราชาใดเหมือนพระองค์ และพระเจ้าของพระองค์ก็ทรงรักพระองค์ และพระเจ้าทรงกระทำให้พระองค์เป็นพระราชา เหนืออิสราเอลทั้งปวง ถึงกระนั้นก็ดี แม้เป็นพระองค์หญิงต่างชาติก็เป็นเหตุให้พระองค์ทรง ทำบาป ควรหรือที่เราจะฟังเจ้าและกระทำความ ชั่วร้ายใหญ่ยิ่งนี้ทั้งสิ้น และประพฤติทรยศต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงาน กับหญิงต่างชาติ>> บุตรชายคนหนึ่งของเยโฮยาดา ผู้เป็นบุตรเอลียาชีบปุโรหิตใหญ่ เป็นบุตรเขยของสันบาลลัท ชาวโฮโรนาอิม เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงเขาทั้งหลาย เพราะว่าเขาทั้งหลายได้กระทำให้การเป็นปุโรหิต และพันธสัญญาของพวกปุโรหิตและคนเลวีเป็นมลทิน ดังนี้แหละ ข้าพเจ้าได้ชำระเขาจากต่างด้าวทุกอย่าง และข้าพเจ้าได้ตั้งหน้าที่ของบรรดาปุโรหิตและคนเลวี ต่างก็ประจำงานของตน ข้าพเจ้าได้จัดให้หาฟืนถวายตามเวลากำหนดและสำหรับ ผลรุ่นแรกด้วย ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ให้เกิดผลดีเถิด

เนหะมีย์ 13:6-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แต่ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในเยรูซาเล็ม เพราะในปีที่สามสิบสองแห่งรัชกาลกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งบาบิโลนข้าพเจ้ากลับไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ ต่อมาจึงทูลขออนุญาต และกลับมายังเยรูซาเล็ม เมื่อทราบพฤติกรรมอันชั่วร้ายของเอลียาชีบที่จัดห้องสำหรับโทบียาห์ไว้ในลานพระนิเวศของพระเจ้า ข้าพเจ้าโกรธมากและโยนข้าวของทั้งหมดของโทบียาห์ออกจากห้องนั้น ข้าพเจ้าสั่งให้ชำระห้องนั้นให้บริสุทธิ์ แล้วนำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ธัญบูชา และเครื่องหอมเข้ามาไว้ดังเดิม ข้าพเจ้ายังทราบด้วยว่าคนเลวีไม่ได้รับส่วนที่เป็นของพวกเขา ฉะนั้นคนเลวีทุกคนกับคณะนักร้องซึ่งควรจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ก็กลับไปยังไร่นาของตน ข้าพเจ้าจึงตำหนิพวกเจ้าหน้าที่และถามเขาว่า “ทำไมจึงละเลยพระนิเวศของพระเจ้า?” จากนั้นข้าพเจ้าเรียกคนเลวีมาชุมนุมและให้พวกเขาเข้าประจำหน้าที่ดังเดิม ชนยูดาห์ทั้งปวงนำสิบลดของข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันมายังคลังพระวิหาร ข้าพเจ้าแต่งตั้งปุโรหิตเชเลมิยาห์ ธรรมาจารย์ศาโดก และเปดายาห์คนเลวีให้ดูแลคลังต่างๆ และแต่งตั้งฮานันบุตรศักเกอร์ ผู้เป็นบุตรของมัททานิยาห์ ให้เป็นผู้ช่วยของพวกเขาเพราะว่าคนเหล่านี้เชื่อถือได้ พวกเขามีหน้าที่แจกจ่ายสิ่งของต่างๆ แก่พี่น้องเผ่าเลวี ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในข้อนี้ และขออย่าทรงลบล้างสิ่งที่ข้าพระองค์ได้ทำอย่างซื่อสัตย์เพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์และเพื่อการปรนนิบัติรับใช้ในพระนิเวศ ครั้งนั้นข้าพเจ้าเห็นคนในยูดาห์ย่ำองุ่นในวันสะบาโต และนำเมล็ดข้าวบรรทุกบนหลังลาพร้อมด้วยน้ำองุ่น ผลองุ่น ผลมะเดื่อ และข้าวของนานาชนิดเข้ามาในเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าจึงตักเตือนพวกเขาไม่ให้ขายอาหารในวันนั้น คนจากไทระบางคนซึ่งอาศัยในเยรูซาเล็มนำปลาและสินค้านานาชนิดมาขายให้ชาวยูดาห์ในเยรูซาเล็ม ในวันสะบาโต ข้าพเจ้าจึงตำหนิบรรดาขุนนางยูดาห์ว่า “พวกท่านกำลังทำสิ่งชั่วร้ายอะไรกันนี่? ท่านกำลังลบหลู่วันสะบาโต เหล่าบรรพบุรุษก็ทำเช่นนี้ไม่ใช่หรือ? พระเจ้าของเราจึงทรงนำหายนะทั้งปวงมาเหนือเราและเหนือกรุงนี้ บัดนี้พวกท่านกำลังยั่วยุพระพิโรธที่มีต่ออิสราเอลให้หนักขึ้นอีกโดยละเมิดวันสะบาโตเช่นนี้” ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงออกคำสั่งให้ปิดประตูเมืองเยรูซาเล็มเมื่อตกค่ำของวันก่อนสะบาโต และไม่ให้เปิดจนกว่าจะสิ้นสุดวันสะบาโต ทั้งส่งคนของข้าพเจ้าไปประจำที่ประตูต่างๆ เพื่อไม่ให้ใครนำสินค้าเข้ามาในวันสะบาโต มีอยู่ครั้งหรือสองครั้งที่บรรดาพ่อค้าและคนขายของชนิดต่างๆ มาพักแรมอยู่นอกเมืองเยรูซาเล็ม แต่ข้าพเจ้าเตือนพวกเขาว่า “พวกท่านมาพักแรมอยู่ริมกำแพงทำไม? ถ้าหากทำอย่างนี้อีกเราจะจัดการกับท่าน” ตั้งแต่นั้นพวกเขาก็ไม่ได้มาในวันสะบาโตอีก แล้วข้าพเจ้าจึงสั่งคนเลวีให้ชำระตนและเฝ้ายามอยู่ที่ประตูเพื่อรักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในข้อนี้ด้วย และขอทรงสำแดงความเมตตาต่อข้าพระองค์ตามความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ยิ่งกว่านั้น ข้าพเจ้ายังเห็นชาวยูดาห์ที่แต่งงานกับผู้หญิงจากอัชโดด อัมโมน และโมอับ และลูกๆ ของพวกเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดดหรือภาษาของชาติใดชาติหนึ่งเหล่านั้น แต่พูดภาษายูดาห์ไม่ได้เลย ข้าพเจ้าจึงติเตียนและสาปแช่งชาวยูดาห์เหล่านั้น ข้าพเจ้าทุบตีชายบางคนและทึ้งผมของพวกเขา และให้เขาเหล่านั้นสาบานในพระนามพระเจ้าว่า “เจ้าจะไม่ยกลูกสาวให้แต่งงานกับบุตรชายของคนพวกนั้น หรือรับลูกสาวของพวกนั้นมาเป็นภรรยาของตนเองหรือของลูกชายของตน ก็การแต่งงานข้ามชาติแบบนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้กษัตริย์โซโลมอนแห่งอิสราเอลทำบาป? ในหมู่ชนชาติทั้งหลายไม่มีกษัตริย์องค์ใดเทียบเทียมโซโลมอน พระองค์เป็นที่รักของพระเจ้า และพระเจ้าทรงตั้งให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลทั้งหมด ถึงกระนั้นโซโลมอนก็ถูกหญิงต่างชาติชักนำให้ทำบาป ตอนนี้จะให้เราทนฟังว่าพวกท่านก็ทำสิ่งชั่วร้ายอย่างเดียวกัน และทรยศต่อพระเจ้าโดยไปแต่งงานกับหญิงต่างชาติหรือ?” บุตรชายคนหนึ่งของโยยาดาบุตรมหาปุโรหิตเอลียาชีบได้แต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม ข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาออกไปให้พ้นหน้า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงจดจำคนเหล่านี้ เพราะเขาสร้างมลทินแก่ตำแหน่งปุโรหิตและพันธสัญญาของการเป็นปุโรหิตกับพันธสัญญาของคนเลวี เป็นอันว่าข้าพเจ้าได้ชำระหมู่ปุโรหิตกับคนเลวีจากทุกสิ่งของคนต่างชาติ และมอบหมายงานให้แต่ละคนตามหน้าที่ ข้าพเจ้ายังได้จัดให้หาฟืนมาถวายตามเวลาที่กำหนดและให้คอยดูแลผลแรก

เนหะมีย์ 13:6-31 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ขณะ​ที่​เป็น​ไป​ดัง​กล่าว ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​อยู่​ใน​เยรูซาเล็ม เพราะ​ใน​ปี​ที่​สาม​สิบ​สอง​ของ​อาร์ทาเซอร์ซีส​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน ข้าพเจ้า​ไป​เข้า​เฝ้า​กษัตริย์ และ​ต่อ​มา​ภาย​หลัง ข้าพเจ้า​ขอ​อนุญาต​ลา​กษัตริย์ เมื่อ​มา​ถึง​เยรูซาเล็ม ข้าพเจ้า​จึง​ทราบ​ถึง​ความ​ชั่ว​ร้าย​ที่​เอลียาชีบ​ได้​ช่วย​โทบียาห์ ด้วย​การ​เตรียม​ห้อง​ใน​ลาน​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​เจ้า​ให้​แก่​เขา ข้าพเจ้า​โกรธ​มาก ข้าพเจ้า​จึง​โยน​เครื่อง​แต่ง​บ้าน​ของ​โทบียาห์​ออก​ไป​นอก​ห้อง แล้ว​ก็​ออก​คำ​สั่ง​ให้​คน​ทำ​ความ​สะอาด​ห้อง และ​ข้าพเจ้า​นำ​เครื่อง​ใช้​ของ​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​เจ้า​กลับ​เข้า​มา​ไว้​ที่​นั่น พร้อม​กับ​เครื่อง​ธัญญ​บูชา​และ​กำยาน ข้าพเจ้า​พบ​อีก​ด้วย​ว่า ส่วน​แบ่ง​ที่​ชาว​เลวี​สมควร​จะ​ได้​รับ​นั้น ไม่​ได้​มี​การ​มอบ​ให้​แก่​พวก​เขา ดังนั้น​ชาว​เลวี​และ​พวก​นัก​ร้อง​ที่​ปฏิบัติ​งาน ต่าง​ก็​กลับ​ไป​ยัง​ไร่​นา​ของ​ตน​เอง ข้าพเจ้า​จึง​เผชิญ​หน้า​กับ​พวก​เจ้าหน้าที่ โดย​กล่าว​ว่า “ทำไม​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​เจ้า​จึง​ไม่​ได้​รับ​การ​ดูแล​เลย” และ​ข้าพเจ้า​เรียก​ชาว​เลวี​กลับ​มา และ​ให้​ประจำ​หน้าที่​ดังเดิม ครั้น​แล้ว ยูดาห์​ก็​นำ​หนึ่ง​ใน​สิบ​ของ​ธัญพืช เหล้า​องุ่น และ​น้ำมัน เข้า​มา​เก็บ​ใน​คลัง​พัสดุ ข้าพเจ้า​มอบ​ตำแหน่ง​ผู้​ดูแล​คลัง​ให้​กับ​เชเลมิยาห์​ปุโรหิต ศาโดก​ผู้​คัดลอก​ข้อความ และ​เปดายาห์​ชาว​เลวี และ​ผู้​ช่วย​ของ​พวก​เขา​คือ​ฮานาน​บุตร​ของ​ศัคเคอร์ ศัคเคอร์​เป็น​บุตร​ของ​มัทธานิยาห์ เพราะ​ชาย​เหล่า​นี้​ไว้​ใจ​ได้ และ​มี​หน้าที่​แจก​จ่าย​แก่​พวก​พี่​น้อง​ของ​เขา โอ พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​พระ​องค์​ระลึก​ถึง​ข้าพเจ้า​ใน​เรื่อง​ดัง​กล่าว และ​ขอ​พระ​องค์​อย่า​ลืม​ความ​ดี​ที่​ข้าพเจ้า​กระทำ​เพื่อ​พระ​ตำหนัก​พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า และ​เพื่อ​งาน​รับใช้​ของ​พระ​องค์ ใน​ครั้ง​โน้น ข้าพเจ้า​เห็น​ประชาชน​ใน​ยูดาห์​กำลัง​ย่ำ​องุ่น​เพื่อ​สกัด​เหล้า​ใน​วัน​สะบาโต พวก​เขา​ขน​เมล็ด​ข้าว​มา​หลาย​กอง แล้ว​บรรทุก​ขึ้น​บน​หลัง​ลา มี​ทั้ง​เหล้า​องุ่น ผล​องุ่น มะเดื่อ และ​มี​ของ​บรรทุก​มา​สารพัด​ชนิด ที่​พวก​เขา​นำ​ไป​ยัง​เยรูซาเล็ม​ใน​วัน​สะบาโต และ​ข้าพเจ้า​เตือน​พวก​เขา​ใน​วัน​ที่​เขา​ขาย​อาหาร ชาว​ไทระ​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​นำ​ปลา​และ​สินค้า​หลาก​ชนิด​เข้า​มา​ใน​เยรูซาเล็ม เพื่อ​ขาย​ให้​แก่​ประชาชน​ของ​ยูดาห์​ใน​วัน​สะบาโต ข้าพเจ้า​จึง​เผชิญ​หน้า​พูด​กับ​เหล่า​ขุนนาง​ของ​ยูดาห์​ว่า “พวก​ท่าน​กำลัง​กระทำ​ความ​ชั่ว​ร้าย​ด้วย​การ​ดู​หมิ่น​วัน​สะบาโต​อะไร​เช่น​นี้ บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​ปฏิบัติ​เช่น​เดียว​กัน​หรอก​หรือ และ​พระ​เจ้า​ของ​เรา​ก็​ได้​ทำ​ให้​พวก​เรา​และ​เมือง​นี้​ประสบ​สิ่ง​ร้ายๆ มิ​ใช่​หรือ บัดนี้​พวก​ท่าน​กำลัง​นำ​ความ​วิบัติ​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​มา​สู่​อิสราเอล​ด้วย​การ​ดู​หมิ่น​วัน​สะบาโต” ทันที​ที่​เวลา​ค่ำ​ลง ที่​ประตู​เมือง​เยรูซาเล็ม​ก่อน​วัน​สะบาโต ข้าพเจ้า​สั่ง​ว่า ประตู​ควร​จะ​ปิด​ไว้ และ​ออก​คำ​สั่ง​ว่า​ไม่​ควร​เปิด​ประตู​จน​กระทั่ง​หลัง​วัน​สะบาโต และ​ข้าพเจ้า​สั่ง​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​ข้าพเจ้า​ให้​ประจำ​หน้าที่​ที่​ประตู​เมือง เพื่อ​ไม่​ให้​บรรทุก​ของ​เข้า​มา​ใน​วัน​สะบาโต จาก​นั้น​ก็​มี​พวก​พ่อค้า​และ​คน​ขาย​สินค้า​สารพัด​ชนิด​พัก​แรม​ที่​นอก​เมือง​เยรูซาเล็ม​ครั้ง​หรือ​สอง​ครั้ง แต่​ข้าพเจ้า​เตือน​พวก​เขา​ว่า “ท่าน​มา​พัก​ที่​นอก​กำแพง​เมือง​ทำไม ถ้า​ท่าน​ทำ​เช่น​นี้​อีก ข้าพเจ้า​จะ​จับ​ท่าน” หลัง​จาก​นั้น​แล้ว พวก​เขา​ก็​ไม่​ได้​มา​ใน​วัน​สะบาโต​อีก ข้าพเจ้า​จึง​สั่ง​ชาว​เลวี​ว่า พวก​เขา​ควร​ชำระ​ตัว​ให้​บริสุทธิ์ และ​มา​เฝ้า​ประตู​เพื่อ​รักษา​วัน​สะบาโต​ให้​บริสุทธิ์ โอ พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​พระ​องค์​ระลึก​ถึง​ความ​ดี​ของ​ข้าพเจ้า​ใน​เรื่อง​นี้​เถิด และ​โปรด​เมตตา​ข้าพเจ้า​เพราะ​ความ​รัก​อัน​มั่นคง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​องค์ ใน​ครั้ง​โน้น ข้าพเจ้า​เห็น​ชาว​ยิว​ที่​ได้​แต่งงาน​กับ​ผู้​หญิง​ของ​อัชโดด อัมโมน และ​โมอับ ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​จำนวน​บุตร​ของ​พวก​เขา​พูด​ภาษา​ของ​อัชโดด และ​พูด​ภาษา​ของ​ยูดาห์​ไม่​ได้ พูด​ได้​แต่​ภาษา​ของ​พวก​เขา​เท่า​นั้น ข้าพเจ้า​เผชิญ​หน้า​พูด​กับ​พวก​เขา ทั้ง​สาป​แช่ง​และ​ลง​มือ​ลง​ไม้​กับ​พวก​เขา​บาง​คน และ​ถึง​กับ​ทึ้ง​ผม​พวก​เขา และ​ให้​พวก​เขา​สาบาน​ตน​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เจ้า​โดย​บอก​ว่า “พวก​ท่าน​จะ​ไม่​ยก​ลูก​สาว​ของ​ท่าน​ให้​แก่​ลูก​ชาย​ของ​พวก​เขา หรือ​รับ​ลูก​สาว​ของ​พวก​เขา​มา​เป็น​สะใภ้​ของ​ท่าน​หรือ​เป็น​ภรรยา​ของ​พวก​ท่าน​เอง ซาโลมอน​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​ก็​กระทำ​บาป​เรื่อง​พวก​ผู้​หญิง​เหล่า​นั้น​มิ​ใช่​หรือ ไม่​มี​กษัตริย์​อื่น​ใด​ใน​บรรดา​ประชา​ชาติ​มาก​หลาย​ที่​เป็น​เหมือน​ซาโลมอน และ​ท่าน​เป็น​ที่​รัก​ของ​พระ​เจ้า​ของ​ท่าน พระ​เจ้า​แต่ง​ตั้ง​ท่าน​ให้​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​ทั่ว​ทั้ง​อิสราเอล ถึง​กระนั้น พวก​ผู้​หญิง​ต่าง​ชาติ​ก็​ยัง​ทำ​ให้​ท่าน​กระทำ​บาป เรา​ควร​จะ​ฟัง​พวก​ท่าน และ​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​เช่น​นั้น แสดง​ความ​ไม่​ภักดี​ต่อ​พระ​เจ้า​ของ​เรา​ด้วย​การ​แต่งงาน​กับ​หญิง​ต่าง​ชาติ​อย่าง​นั้น​หรือ” บุตร​คน​หนึ่ง​ของ​โยยาดา ผู้​เป็น​บุตร​ของ​เอลียาชีบ​หัวหน้า​มหา​ปุโรหิต ซึ่ง​เป็น​บุตร​เขย​ของ​สันบาลลัท​ชาว​โฮโรน ข้าพเจ้า​ขับ​ไล่​เขา​ไป​จาก​ข้าพเจ้า โอ พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​พระ​องค์​ระลึก​ถึง​พวก​เขา​ที่​ได้​ทำลาย​ความ​เป็น​ปุโรหิต และ​พันธ​สัญญา​ที่​พระ​องค์​มี​กับ​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี ดังนั้น ข้าพเจ้า​ได้​ชำระ​พวก​เขา​ให้​สะอาด​จาก​ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​ของ​ต่าง​ชาติ และ​ข้าพเจ้า​กำหนด​หน้าที่​ของ​บรรดา​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​แต่​ละ​คน​ใน​การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​เขา และ​ข้าพเจ้า​ยัง​ได้​จัด​หา​ฟืน​มา​ถวาย​ตาม​กำหนด​เวลา อีก​ทั้ง​ผลไม้​รุ่น​แรก​ด้วย โอ พระ​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า ขอ​พระ​องค์​ระลึก​ถึง​ความ​ดี​ของ​ข้าพเจ้า​เถิด