แม้ที่โฮเรบ ท่านก็ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธ และพระยาห์เวห์ก็กริ้วมากถึงกับจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับศิลาจารึก คือแผ่นจารึกพันธสัญญาซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำกับพวกท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืน ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ และพระยาห์เวห์ได้ประทานศิลาจารึกสองแผ่นที่ทรงจารึกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าแก่ข้าพเจ้า บนแผ่นจารึกนั้นมีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับท่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมกันอยู่ เมื่อสิ้นสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระยาห์เวห์ประทานศิลาจารึกสองแผ่นเป็นแผ่นจารึกพันธสัญญา แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นรีบลงไปจากที่นี่เถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์ได้ทำเรื่องเสื่อมเสีย พวกเขาได้หันจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเอง’ “และพระยาห์เวห์ยังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว และดูสิ เขาเป็นชนชาติที่หัวแข็ง ขออย่ายับยั้งเรา ให้เราทำลายพวกเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้ฟ้า และเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่มีกำลังและมีจำนวนมากกว่าเขา’ ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภูเขา และภูเขานั้นก็มีเพลิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้นก็อยู่ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ามองดู นี่แน่ะ ท่านทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกโคไว้สำหรับตัวเอง ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาท่านอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นขึ้นและเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของข้าพเจ้าและทำมันแตกต่อหน้าต่อตาของพวกท่าน แล้วข้าพเจ้าก็หมอบกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์อย่างครั้งก่อน ไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะบาปทั้งสิ้นที่ท่านทั้งหลายทำ คือได้ทำชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธและความเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรง ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงมีต่อท่าน จนถึงกับจะทรงทำลายท่านอยู่แล้ว แต่พระยาห์เวห์ทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธอาโรนมาก พระองค์จะทรงทำลายเขาเช่นกัน ในเวลานั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย แล้วข้าพเจ้าจึงเอาบาปของพวกท่าน คือรูปลูกโคซึ่งพวกท่านสร้างขึ้นนั้นเผาไฟเสีย แล้วทุบและบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล้วก็ทิ้งผงนั้นลงในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา “ท่านทั้งหลายได้ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธที่ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ และเมื่อพระยาห์เวห์ทรงใช้พวกท่านไปจากคาเดชบารเนีย พระองค์ตรัสว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินซึ่งเราได้ให้เจ้า’ แต่ท่านกลับกบฏต่อพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ไม่ยอมเชื่อฟังหรือประพฤติตามพระสุรเสียงของพระองค์ ท่านทั้งหลายกบฏต่อพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่าน “ข้าพเจ้าจึงหมอบกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์สี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะพระยาห์เวห์ตรัสว่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขออย่าทรงทำลายประชากรของพระองค์และมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่มาด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผู้ที่พระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าใส่พระทัยในความดื้อดึง ความชั่วร้าย หรือบาปของชนชาตินี้ เกรงว่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงนำพวกข้าพระองค์จากมานั้นจะว่า “เพราะพระยาห์เวห์ไม่ทรงสามารถจะนำเขาทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะพระองค์ทรงเกลียดชังเขา พระองค์จึงทรงนำเขาออกมาเพื่อจะฆ่าเสียในถิ่นทุรกันดาร” แต่เขาทั้งหลายเป็นประชากรของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งทรงนำออกมาด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์และด้วยพระกรที่เหยียดออกของพระองค์’
อ่าน เฉลยธรรมบัญญัติ 9
ฟัง เฉลยธรรมบัญญัติ 9
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ