เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แม้ที่โฮเรบ ท่านก็ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธ และพระยาห์เวห์ก็กริ้วมากถึงกับจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับศิลาจารึก คือแผ่นจารึกพันธสัญญาซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำกับพวกท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืน ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ และพระยาห์เวห์ได้ประทานศิลาจารึกสองแผ่นที่ทรงจารึกด้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าแก่ข้าพเจ้า บนแผ่นจารึกนั้นมีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับท่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมกันอยู่ เมื่อสิ้นสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระยาห์เวห์ประทานศิลาจารึกสองแผ่นเป็นแผ่นจารึกพันธสัญญา แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นรีบลงไปจากที่นี่เถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์ได้ทำเรื่องเสื่อมเสีย พวกเขาได้หันจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเอง’ “และพระยาห์เวห์ยังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว และดูสิ เขาเป็นชนชาติที่หัวแข็ง ขออย่ายับยั้งเรา ให้เราทำลายพวกเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้ฟ้า และเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่มีกำลังและมีจำนวนมากกว่าเขา’ ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภูเขา และภูเขานั้นก็มีเพลิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้นก็อยู่ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ามองดู นี่แน่ะ ท่านทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกโคไว้สำหรับตัวเอง ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาท่านอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นขึ้นและเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของข้าพเจ้าและทำมันแตกต่อหน้าต่อตาของพวกท่าน แล้วข้าพเจ้าก็หมอบกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์อย่างครั้งก่อน ไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะบาปทั้งสิ้นที่ท่านทั้งหลายทำ คือได้ทำชั่วในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธและความเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรง ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงมีต่อท่าน จนถึงกับจะทรงทำลายท่านอยู่แล้ว แต่พระยาห์เวห์ทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธอาโรนมาก พระองค์จะทรงทำลายเขาเช่นกัน ในเวลานั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย แล้วข้าพเจ้าจึงเอาบาปของพวกท่าน คือรูปลูกโคซึ่งพวกท่านสร้างขึ้นนั้นเผาไฟเสีย แล้วทุบและบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล้วก็ทิ้งผงนั้นลงในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา “ท่านทั้งหลายได้ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธที่ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ และเมื่อพระยาห์เวห์ทรงใช้พวกท่านไปจากคาเดชบารเนีย พระองค์ตรัสว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินซึ่งเราได้ให้เจ้า’ แต่ท่านกลับกบฏต่อพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ไม่ยอมเชื่อฟังหรือประพฤติตามพระสุรเสียงของพระองค์ ท่านทั้งหลายกบฏต่อพระยาห์เวห์ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่าน “ข้าพเจ้าจึงหมอบกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์สี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะพระยาห์เวห์ตรัสว่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขออย่าทรงทำลายประชากรของพระองค์และมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่มาด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผู้ที่พระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าใส่พระทัยในความดื้อดึง ความชั่วร้าย หรือบาปของชนชาตินี้ เกรงว่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงนำพวกข้าพระองค์จากมานั้นจะว่า “เพราะพระยาห์เวห์ไม่ทรงสามารถจะนำเขาทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะพระองค์ทรงเกลียดชังเขา พระองค์จึงทรงนำเขาออกมาเพื่อจะฆ่าเสียในถิ่นทุรกันดาร” แต่เขาทั้งหลายเป็นประชากรของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งทรงนำออกมาด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์และด้วยพระกรที่เหยียดออกของพระองค์’

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวกท่าน​ทำ​ให้​พระยาห์เวห์​โกรธ​ตอน​ที่​อยู่​บน​ภูเขา​ซีนาย พระยาห์เวห์​โกรธ​ถึง​ขนาด​ที่​จะ​ทำลาย​พวกท่าน เมื่อ​เรา​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​เพื่อ​รับ​แผ่นหิน​ซึ่ง​เป็น​แผ่นหิน​ของ​ข้อตกลง​ที่​พระยาห์เวห์​ทำ​ไว้​กับ​พวกท่าน เรา​อยู่​บน​ภูเขา​เป็น​เวลา​ถึง​สี่สิบ​วัน​สี่สิบ​คืน ไม่​ได้​กิน​อาหาร​หรือ​ดื่ม​น้ำ พระยาห์เวห์​ได้​ให้​แผ่นหิน​สองแผ่น​กับ​เรา เป็น​แผ่นหิน​ที่​พระเจ้า​ใช้​นิ้ว​มือ​ของ​พระองค์​เขียน​ขึ้น​มา บน​แผ่น​หินนั้น​คือ​คำ​สั่งสอน​ทั้งหมด​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​พูด​ไว้​กับ​พวก​ท่าน พระองค์​พูด​ออก​มา​จาก​ไฟ​บน​ภูเขา​ใน​วัน​ที่​พวกท่าน​รวม​ตัว​กัน​อยู่​ที่นั่น เมื่อ​ครบ​สี่สิบ​วัน​สี่สิบ​คืน​แล้ว พระยาห์เวห์​ได้​ให้​แผ่นหิน​สองแผ่น​นั้น​กับ​เรา เป็น​แผ่นหิน​ของ​ข้อตกลง พระยาห์เวห์​พูด​กับ​เรา​ว่า ‘ลุกขึ้น​และ​รีบ​ลง​ไป​จาก​ที่นี่ เพราะ​ประชาชน​ของ​เจ้า​ที่​เจ้า​นำ​ออก​มา​จาก​ประเทศ​อียิปต์​นั้น ได้​ทำตัว​เสื่อมทราม พวกเขา​ได้​หันเห​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​จาก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​ให้​พวกเขา​ทำ พวกเขา​ได้​ทำ​รูป​เคารพ​จาก​โลหะ​สำหรับ​ตัว​เอง’ พระยาห์เวห์​ได้​พูด​กับ​ผม​ว่า ‘เรา​ได้​มองดู​คน​พวกนี้ เขา​เป็น​คน​ที่​ดื้อรั้น​จริงๆ โมเสส เจ้า​ไม่​ต้อง​มา​ยุ่ง​กับ​เรา เรา​จะ​ทำลาย​พวกเขา และ​จะ​ลบ​ชื่อ​พวกเขา​ออก​จาก​ใต้​ฟ้านี้ และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​ชาติ​ที่​เข้มแข็ง​และ​มี​จำนวน​มาก​กว่า​พวกเขา’ แล้ว​เรา​ก็​กลับ​ลง​มา​จาก​ภูเขา ภูเขา​กำลัง​ลุกไหม้​เป็น​ไฟ หิน​ของ​ข้อตกลง​ทั้งสอง​แผ่นนั้น​อยู่​ใน​มือ​เรา แล้ว​เรา​มองดู เห็น​ว่า​พวกท่าน​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระยาห์เวห์ พวกท่าน​ได้​ทำ​รูป​เคารพ​จาก​โลหะ​เป็น​รูป​ลูกวัว​ให้​กับ​ตัว​พวกท่าน​เอง พวกท่าน​หันเห​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​จาก​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​เคย​สั่ง​ท่านไว้ เรา​จึง​ขว้าง​หิน​ทั้งสอง​แผ่นนั้น​ด้วย​มือ​ทั้งสอง​ของ​เราเอง และ​ทำ​ให้​มัน​แตก​ต่อหน้า​ต่อตา​พวกท่าน และ​ก็​เหมือน​กับ​ครั้ง​ก่อน เรา​ได้​ก้มหน้า​กราบลง​กับ​พื้นดิน​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์​เป็น​เวลา​สี่สิบ​วัน​สี่สิบ​คืน ไม่​ได้​กิน​อาหาร​หรือ​ดื่ม​น้ำ เรา​ทำ​สิ่ง​ต่างๆ​นี้​ก็​เพราะ​บาป​ทั้งหมด​ที่​พวกท่าน​ได้​ทำ​ไป คือ​พวกท่าน​ได้​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ชั่วร้าย​ใน​สายตา​ของ​พระยาห์เวห์ เพราะ​อย่างนี้​จึง​ทำ​ให้​พระองค์​โกรธ เรา​กลัว​ความโกรธ​และ​ความ​เดือดดาล​ของ​พระองค์ เพราะ​พระยาห์เวห์​โกรธ​ถึง​ขนาด​ที่​จะ​ทำลาย​พวกท่าน แต่​ตอนนั้น​พระยาห์เวห์​ได้​ฟัง​เรา พระยาห์เวห์​โกรธ​อาโรน​ถึง​ขนาด​ที่​จะ​ทำลาย​เขา แต่​เรา​ได้​อธิษฐาน​เผื่อ​อาโรน​เหมือนกัน​ใน​ตอนนั้น เรา​ได้​เอา​สิ่ง​ที่​เป็น​บาป​ที่​พวกท่าน​ได้​สร้างขึ้น​มา คือ​ลูกวัว​ไป​เผา​ไฟ และ​เรา​ก็​ทำ​ให้​มัน​แตก​เป็น​ชิ้นๆ บด​มัน​จน​ละเอียด​เป็น​ผุยผง แล้ว​เรา​ก็​โปรย​ผงนั้น​ลง​ใน​ลำธาร​ที่​ไหล​ลง​มา​จาก​ภูเขา ที่​ทาเบราห์ ที่​มัสสาห์ และ​ที่​ขิบโรท-หัทธาอาวาห์​ก็​เหมือน​กัน พวกท่าน​ทำให้​พระยาห์เวห์​โกรธ เมื่อ​พระยาห์เวห์​ส่ง​พวกท่าน​จาก​คาเดช-บารเนีย และ​พูด​ว่า ‘ขึ้น​ไป​ยึด​เป็น​เจ้า​ของ​แผ่นดิน​ที่​เรา​ได้​ให้​ไว้​กับ​พวกเจ้า’ พวกท่าน​ขัดขืน​คำสั่ง​ของ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​พวกท่าน พวกท่าน​ไม่​ไว้วางใจ​พระองค์​และ​ไม่​เชื่อฟัง​พระองค์ พวกท่าน​ได้​ขัดขืน​พระยาห์เวห์​มา​ตลอด ตั้งแต่​วัน​ที่​เรา​รู้จัก​พวกท่าน​เป็น​ครั้งแรก เมื่อ​เรา​ก้มหน้า​ลง​กราบ​พระยาห์เวห์​เป็น​เวลา​สี่สิบ​วัน​สี่สิบ​คืน เพราะ​พระยาห์เวห์​บอก​ว่า พระองค์​จะ​ทำลาย​พวกท่าน เรา​ได้​อธิษฐาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​ว่า ‘ข้า​แต่​พระยาห์เวห์​องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ข้าพเจ้า อย่า​ได้​ทำลาย​คน​ของ​พระองค์​ที่​เป็น​ของรัก​ของหวง​ที่​มี​ค่า​ของ​พระองค์เลย พระองค์​ไถ่​ให้​พวกเขา​เป็น​อิสระ​ด้วย​ฤทธิ์​อำนาจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์ พระองค์​นำ​พวกเขา​ออก​มา​จาก​อียิปต์​ด้วย​มือ​อัน​ทรง​พลัง​ของ​พระองค์ โปรด​ระลึกถึง​อับราฮัม อิสอัค​และ​ยาโคบ ผู้รับใช้​ของ​พระองค์ อย่า​ไป​สนใจ​กับ​ความ​ดื้อดึง ความ​ชั่วร้าย​และ​ความ​บาป​ของ​คน​พวกนี้เลย ไม่​อย่างนั้น​ชาว​อียิปต์​จะ​พูด​ว่า “เพราะ​พระยาห์เวห์​ไม่​สามารถ​นำ​พวกเขา​เข้าสู่​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​สัญญา​ไว้​กับ​พวกเขา และ​เพราะ​พระองค์​เกลียด​พวกเขา พระองค์​จึง​นำ​พวกเขา​ออก​ไป​และ​ฆ่า​พวกเขา​ใน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง” พวกเขา​คือ​คน​ของ​พระองค์ เป็น​สมบัติ​ของ​พระองค์เอง พระองค์​ได้​นำ​พวกเขา​ออก​มา​ด้วย​ความ​แข็ง​แกร่ง​และ​อำนาจ​ของ​พระองค์’

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แม้ว​่าที่โฮเรบท่านก็กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธ และพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงกริ้วมากถึ​งก​ับจะทำลายท่านทั้งหลายเสีย เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับแผ่นศิ​ลา เป็นแผ่นศิลาพันธสัญญาซึ่งพระเยโฮวาห์กระทำไว้กั​บท​่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน ข้าพเจ้าไม่​ได้​รับประทานอาหารหรื​อด​ื่​มน​้ำ และพระเยโฮวาห์​ได้​ประทานแผ่นศิลาสองแผ่​นที​่​จาร​ึ​กด​้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าให้​แก่​ข้าพเจ้า บนศิ​ลาน​ั้​นม​ีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวั​นที​่ประชุมกันอยู่ ต่อมาเมื่อสิ้นสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืนแล้ว พระเยโฮวาห์ประทานแผ่นศิลาสองแผ่น เป็นแผ่นศิลาพันธสัญญา แล​้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นลงไปจากที่​นี่​โดยเร็วเถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์​ได้​หลงกระทำผิด เขาได้หันเสียจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเขาทั้งหลาย’ ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกพระเยโฮวาห์ยังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้​เห​็นชนชาติ​นี้​แล้ว และดู​เถิด เขาทั้งหลายเป็นชนชาติ​คอแข็ง ขออย่าทักท้วงเรา ให้​เราทำลายเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้​ฟ้า และเราจะตั้งเจ้าให้เป็นประชาชาติ​ที่​มี​กำลังกว่าและใหญ่กว่าเขา’ ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภู​เขา และภูเขานั้​นก​็​มี​เพล​ิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้​นก​็​อยู่​ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า ดู​เถิด เมื่อข้าพเจ้ามองดู​ก็​แลเห็นท่านทั้งหลายกระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกวัวไว้สำหรั​บท​่าน ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​บัญชาแก่ท่านอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของข้าพเจ้าและทำศิลาให้แตกต่อหน้าต่อตาของท่านทั้งหลาย แล​้วข้าพเจ้าก็ทรุดกราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์อย่างครั้​งก​่อนสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน มิได้​รับประทานอาหารหรื​อด​ื่​มน​้ำ เพราะเหตุบาปทั้งสิ้​นที​่ท่านทั้งหลายได้​กระทำ คือได้​ประพฤติ​อย่างชั่วช้าในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธและความไม่พอพระทัยอย่างรุนแรงซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงมีต่อท่าน พระองค์​ก็​จะทรงทำลายท่านอยู่​แล้ว แต่​พระเยโฮวาห์ทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธต่ออาโรนมากจะทำลายเขาอยู่​แล้ว ในครั้งนั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย แล​้วข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งที่บาปหนานั้น คือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาเสียด้วยไฟ แล​้​วท​ุบแล้วบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล​้วข้าพเจ้าก็โยนผงนั้นลงไปในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภู​เขา ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธที่ทาเบราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ และเมื่อพระเยโฮวาห์ทรงใช้ท่านไปจากคาเดชบารเนีย ตรั​สว​่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้นซึ่งเราได้​ให้​แก่​เจ้า​’ และท่านก็กบฏต่อพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ไม่​ยอมเชื่อพระองค์ หรือเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ ท่านทั้งหลายได้กบฏต่อพระเยโฮวาห์เสมอตั้งแต่​วันที่​ข้าพเจ้ารู้จักท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าจึงกราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​สี​่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืนนี้ อย่างข้าพเจ้ากราบลงครั้​งก​่อนนั้น เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ตรั​สว​่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า ‘​โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ขออย่าทรงทำลายประชาชนของพระองค์ และมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่เขาทั้งหลายมาด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นคนที่​พระองค์​ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้​รับใช้​ของพระองค์ คื​ออ​ับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าทรงใส่พระทัยในความดื้​อด​ึงความชั่วร้าย หรือบาปของชนชาติ​นี้ กล​ั​วว​่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงพาข้าพระองค์ทั้งหลายจากมานั้นจะว่า เพราะพระเยโฮวาห์​ไม่​สามารถจะพาเขาทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะว่าพระองค์ทรงเกลียดชังเขา พระองค์​จึงทรงพาเขาออกมาฆ่าเสียในถิ่นทุ​รก​ันดาร เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชาชนของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่และด้วยพระกรที่​เหย​ียดออกของพระองค์’”

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แม้ว่าที่โฮเรบท่านก็กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ และพระเจ้าก็ทรงกริ้วมากถึงกับจะทำลายท่านทั้งหลายเสีย เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับศิลาจารึก เป็นศิลาพันธสัญญาซึ่งพระเจ้ากระทำไว้กับท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืน ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ และพระเจ้าได้ประทานศิลาจารึกสองแผ่นที่ พระองค์ทรงจารึกเองด้วยนิ้วพระหัตถ์ให้แก่ข้าพเจ้า บนศิลานั้นมีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับ ท่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมกันอยู่ เมื่อสิ้นสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระเจ้า ประทานศิลาสองแผ่นเป็นศิลาพันธสัญญา แล้วพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า <จงลุกขึ้นลงไปจากที่นี่เถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์ได้หลงกระทำผิด เขาได้หันเสียจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเขาทั้งหลาย> <<ยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้ายังตรัสกับข้าพเจ้าว่า <เราได้เห็นชนชาตินี้แล้วและดูเถิด เขาทั้งหลายเป็นชนชาติที่ดื้อ ขออย่าทักท้วงเรา ให้เราทำลายเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้ฟ้า และเราจะตั้งเจ้าให้เป็นประชาชาติ ที่มีกำลังกว่าและใหญ่กว่าเขา> ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภูเขา และภูเขานั้นก็มีเพลิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้นก็อยู่ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า ดูเถิด เมื่อข้าพเจ้ามองดูก็แลเห็นท่านทั้งหลายกระทำบาปต่อ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกวัวไว้สำหรับท่าน ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระเจ้าได้บัญชา แก่ท่านอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของ ข้าพเจ้าและทำศิลาให้แตกต่อหน้าต่อตาของท่านทั้งหลาย แล้วข้าพเจ้าก็กราบราบลงต่อพระเจ้าอย่างครั้งก่อน สี่สิบวันสี่สิบคืนมิได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ เพราะบาปที่ท่านทั้งหลายได้กระทำเป็นเหตุ คือได้กระทำความชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้า กระทำให้พระองค์ทรงพิโรธ เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธ และความไม่พอพระทัยอย่างรุนแรง ซึ่งพระเจ้าทรงมีต่อท่าน พระองค์ก็จะทรงทำลายท่านอยู่แล้ว แต่พระเจ้าทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย พระเจ้าทรงพิโรธต่ออาโรนมากจะทำลายเขาอยู่แล้ว ในครั้งนั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย แล้วข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งที่บาปหนานั้น คือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาเสียด้วยไฟแล้วทุบ แล้วบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล้วข้าพเจ้าก็โยนผงนั้นลงไปใน ลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา <<ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธที่ ทาเบ-ราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ และเมื่อพระเจ้าทรงใช้ท่านไปจากคาเดชบารเนีย ตรัสว่า <จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้นซึ่งเราได้ให้ แก่เจ้า> และท่านก็กบฏต่อพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่าน ไม่ยอมเชื่อฟังหรือประพฤติตามพระสุรเสียงของพระองค์ ท่านทั้งหลายเป็นคนกบฏต่อพระเจ้าเสมอ ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่านทั้งหลาย <<ข้าพเจ้าจึงกราบลงต่อพระเจ้าสี่สิบวันสี่สิบคืนนี้ เพราะพระเจ้าได้ตรัสว่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า <ข้าแต่พระเยโฮวาห์เจ้า ขออย่าทรงทำลายประชากรของพระองค์และ มรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่เขาทั้งหลายมาด้วยความยิ่งใหญ่ เป็นคนที่พระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์ อันทรงฤทธิ์ ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าทรงใส่พระทัยในความดื้อดึง ความชั่วร้าย หรือบาป ของชนชาตินี้ กลัวว่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรง พาข้าพระองค์ทั้งหลายจากมานั้นจะว่า <<เพราะพระเจ้าไม่สามารถจะพาเขา ทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะว่าพระองค์ทรงเกลียดชังเขา พระองค์จึงทรงพาเขาออกมาฆ่าเสียในถิ่นทุรกันดาร>> เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชากรของพระองค์และเป็น มรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ และด้วยพระกรที่เหยียดออกของพระองค์>

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ท่านยั่วยุพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่โฮเรบ ทำให้พระองค์กริ้วจนจะทำลายท่านอยู่แล้ว ครั้งนั้นข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำไว้กับพวกท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำเลย องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานศิลาสองแผ่นซึ่งจารึกด้วยนิ้วของพระองค์ เป็นบทบัญญัติทั้งปวงที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศออกมาจากไฟบนภูเขาแก่ท่านในวันชุมนุมประชากรนั้น เมื่อครบสี่สิบวันสี่สิบคืน องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานศิลาสองแผ่นเป็นศิลาพันธสัญญาแก่ข้าพเจ้า แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า “จงลงไปจากที่นี่โดยเร็วเพราะประชากรของเจ้าที่เจ้านำออกมาจากอียิปต์ได้เสื่อมทรามไปแล้ว พวกเขาหันเหจากสิ่งที่เราบัญชาไปอย่างรวดเร็ว และหล่อโลหะทำรูปเคารพขึ้นมา” และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราได้เห็นชนชาตินี้แล้ว เป็นชนชาติที่ดื้อรั้นหัวแข็งจริงๆ! อย่ามาห้ามเรา เพราะเราจะทำลายและลบชื่อพวกเขาออกจากใต้ฟ้า และเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่เข้มแข็งและมีจำนวนมากมายกว่าพวกเขา” ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภูเขาซึ่งมีไฟลุกโชน และถือศิลาแห่งพันธสัญญาสองแผ่นมาด้วย เมื่อข้าพเจ้ามองดูก็เห็นว่าท่านได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านได้หล่อรูปลูกวัวไว้เป็นรูปเคารพสำหรับพวกท่านเอง ท่านหันออกจากทางที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชานั้นอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าจึงเหวี่ยงแผ่นศิลาทั้งสองทิ้ง ทำให้ศิลาแตกเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าต่อตาท่าน แล้วอีกครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าหมอบกราบลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่กินไม่ดื่มอะไรเพราะบาปทั้งปวงที่ท่านได้ทำ ท่านได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นการยั่วยุให้พระองค์ทรงพระพิโรธ ข้าพเจ้าเกรงกลัวพระพิโรธโกรธกริ้วขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์กริ้วจนจะทำลายท่านอยู่แล้ว แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงฟังข้าพเจ้าอีกครั้ง และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอาโรนมากจนจะทรงทำลายเขา แต่ในครั้งนั้นข้าพเจ้าอธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย ข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งผิดบาปของพวกท่านคือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาทิ้งและบดเป็นผุยผง ทิ้งลงในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา ท่านยังได้ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอีกที่ทาเบราห์ ที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งท่านออกจากคาเดชบารเนียและตรัสสั่งว่า “จงเข้าไปครอบครองดินแดนที่เราให้เจ้า” แต่ท่านกบฏขัดขืนพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านไม่ไว้วางใจและไม่เชื่อฟังพระองค์ ท่านกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมาตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้จักท่านแล้ว ข้าพเจ้าจึงหมอบกราบลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าจะทรงทำลายท่าน ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ขออย่าทำลายประชากรของพระองค์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์เองซึ่งทรงไถ่โดยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ และทรงนำออกมาจากอียิปต์โดยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ ขอทรงระลึกถึงอับราฮัม อิสอัค และยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์ โปรดทรงมองข้ามความดื้อรั้นหัวแข็ง ความชั่วร้าย และบาปของคนเหล่านี้ มิฉะนั้นประเทศซึ่งพระองค์ทรงนำพวกเราออกมาจะกล่าวว่า ‘เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่สามารถพาพวกเขาไปยังดินแดนที่ทรงสัญญาไว้ และเพราะพระองค์ทรงเกลียดพวกเขา จึงทรงพาพวกเขาเข้าไปตายในถิ่นกันดาร’ แต่พวกเขาเป็นประชากรของพระองค์ เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ซึ่งทรงนำออกมาโดยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และพระกรที่เหยียดออก”

เฉลยธรรมบัญญัติ 9:8-29 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แม้แต่​ที่​โฮเรบ ท่าน​ก็​ยั่ว​โทสะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ถึง​กับ​ทำ​ให้​พระ​องค์​โกรธ​เกรี้ยว และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กริ้ว​ท่าน​จน​พระ​องค์​พร้อม​จะ​ทำ​ให้​ท่าน​พินาศ เมื่อ​เรา​ขึ้น​ไป​ยัง​ภูเขา​เพื่อ​รับ​แผ่น​ศิลา คือ​แผ่น​พันธ​สัญญา​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทำ​ไว้​กับ​พวก​ท่าน เรา​อยู่​ที่​ภูเขา 40 วัน 40 คืน​โดย​ไม่​ได้​ดื่ม​หรือ​รับประทาน​สิ่ง​ใด แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มอบ​แผ่น​ศิลา 2 แผ่น​ซึ่ง​จารึก​ด้วย​นิ้ว​มือ​ของ​พระ​เจ้า​เอง เป็น​พระ​บัญญัติ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​กล่าว​แก่​ท่าน​ที่​ภูเขา​จาก​ใจกลาง​เพลิง​ใน​วัน​ที่​มี​การ​ประชุม 40 วัน 40 คืน​ล่วง​ไป พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​มอบ​ศิลา 2 แผ่น​คือ​แผ่น​พันธ​สัญญา แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​เรา​ว่า ‘จง​ลุก​ขึ้น ลง​ไป​จาก​ที่​นี่​โดย​เร็ว เพราะ​ผู้​คน​ของ​เจ้า​ที่​เจ้า​นำ​ออก​จาก​อียิปต์​ประพฤติ​อย่าง​เสื่อม​ทราม​เสีย​แล้ว พวก​เขา​ออก​นอก​ลู่​นอก​ทาง​ไป​จาก​ที่​เรา​บัญชา​ไว้ เขา​หล่อ​รูป​เคารพ​ให้​ตนเอง’ แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​เรา​ว่า ‘เรา​เห็น​คน​พวก​นี้​แล้ว ดู​เถิด เขา​เป็น​พวก​หัวรั้น จง​ปล่อย​ให้​เป็น​เรื่อง​ของ​เรา เรา​จะ​ได้​กำจัด​พวก​เขา และ​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​เขา​สาบสูญ​ไป​จาก​โลก เรา​จะ​ให้​ประชา​ชาติ​หนึ่ง​ที่​เข้มแข็ง​กว่า​และ​มี​จำนวน​คน​มาก​กว่า​พวก​เขา​เกิด​ขึ้น​มา​จาก​ตัว​เจ้า’ ดังนั้น เรา​จึง​หัน​กลับ​ลง​มา​จาก​ภูเขา ภูเขา​ลุก​เป็น​เพลิง และ​แผ่น​พันธ​สัญญา 2 แผ่น​อยู่​ใน​มือ​ทั้ง​สอง​ของ​เรา ดู​เถิด เรา​มอง​เห็น​ว่า​พวก​ท่าน​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน ท่าน​หล่อ​รูป​ลูก​โค​ให้​ตนเอง พวก​ท่าน​ออก​นอก​ลู่​นอก​ทาง​ไป​จาก​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บัญชา​ท่าน​อย่าง​รวดเร็ว ดังนั้น​เรา​จึง​คว้า​ศิลา 2 แผ่น​นั้น​แล้ว​เหวี่ยง​จาก​มือ​ทั้ง​สอง​ของ​เรา ศิลา​ก็​แตกหัก​ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​พวก​ท่าน แล้ว​เรา​ทิ้ง​ตัว​ลง​ราบ​กับ​พื้น ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อย่าง​คราว​ก่อน​เป็น​เวลา 40 วัน 40 คืน เรา​ไม่​ได้​ดื่ม​หรือ​รับประทาน​สิ่ง​ใด เป็น​เพราะ​บาป​ทั้ง​ปวง​ที่​ท่าน​กระทำ สิ่ง​เลวร้าย​ที่​ท่าน​กระทำ​ใน​สายตา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​ยั่ว​โทสะ​พระ​องค์ เพราะ​เรา​กลัว​ความ​กริ้ว​และ​ความ​โกรธ​เกรี้ยว​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เพราะ​พระ​องค์​กริ้ว​พวก​ท่าน​มาก​ถึง​กับ​จะ​กำจัด​พวก​ท่าน​เสีย แต่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ฟัง​เรา​อีก​ครั้ง และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กริ้ว​อาโรน​มาก​ถึง​กับ​จะ​กำจัด​ท่าน​เสีย เรา​จึง​อธิษฐาน​ให้​อาโรน​ใน​เวลา​นั้น​ด้วย แล้ว​เรา​ก็​เผา​ไฟ​รูป​ลูก​โค​ที่​พวก​ท่าน​สร้าง​ขึ้น​มา​ซึ่ง​เป็น​บาป​ยิ่ง​นัก แล้ว​ทุบ​ให้​แตก บด​ให้​ละเอียด​เป็น​ผุยผง เสร็จ​แล้ว​ก็​ปา​ผง​ลง​ใน​ธารน้ำ​ที่​ไหล​มา​จาก​ภูเขา พวก​ท่าน​ยั่ว​โทสะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ที่​ทาเบราห์ ที่​มัสสาห์ และ​ที่​ขิบโรทหัทธาอาวาห์ เมื่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ให้​พวก​ท่าน​ไป​จาก​คาเดชบาร์เนีย​โดย​กล่าว​ว่า ‘จง​ขึ้น​ไป​ยึดครอง​แผ่นดิน​ที่​เรา​มอบ​ให้​พวก​เจ้า​แล้ว’ แต่แล้ว​ท่าน​ก็​ขัดขืน​ต่อ​คำ​บัญชา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​ท่าน พวก​ท่าน​ไม่​ไว้ใจ​และ​ไม่​เชื่อฟัง​พระ​องค์ ตั้งแต่​วัน​ที่​เรา​รู้จัก​พวก​ท่าน พวก​ท่าน​ก็​ขัดขืน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เสมอ​มา เรา​จึง​ทิ้ง​ตัว​ลง​ราบ​กับ​พื้น​เป็น​เวลา 40 วัน 40 คืน เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ว่า พระ​องค์​จะ​กำจัด​พวก​ท่าน และ​เรา​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า ‘โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่ โปรด​อย่า​ทำลาย​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์​เอง ซึ่ง​เป็น​ทายาท​ผู้​สืบ​มรดก​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​ได้​ช่วย​พวก​เขา​ให้​เป็น​อิสระ​ด้วย​อานุภาพ​อัน​ยิ่งใหญ่ และ​พา​พวก​เขา​ออก​จาก​อียิปต์​ด้วย​พลานุภาพ​ของ​พระ​องค์ โปรด​ระลึก​ถึง​บรรดา​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​องค์​คือ​อับราฮัม อิสอัค และ​ยาโคบ ขอ​อย่า​ใส่ใจ​ใน​ความ​ดื้อรั้น ความ​ชั่วร้าย หรือ​บาป​ของ​คน​เหล่า​นี้​เลย เกรง​ว่า​แผ่นดิน​ที่​พระ​องค์​พา​พวก​เรา​จาก​มา​นั้น​จะ​พูด​กัน​ว่า “เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ไม่​สามารถ​พา​พวก​เขา​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระ​องค์​ปฏิญาณ​ไว้​กับ​พวก​เขา และ​เพราะ​พระ​องค์​เกลียดชัง​พวก​เขา จึง​ได้​พา​พวก​เขา​ออก​ไป​ฆ่า​ให้​ตาย​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร” แต่​พวก​เขา​เป็น​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ ซึ่ง​เป็น​ผู้​สืบ​มรดก​ของ​พระ​องค์ พระ​องค์​พา​พวก​เขา​ออก​มา​ด้วย​อานุภาพ​อัน​ยิ่งใหญ่​และ​พลานุภาพ​ของ​พระ​องค์’