พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะนำความสยดสยองมาเหนือเจ้า จากทุกคนที่อยู่รอบตัวเจ้า และเจ้าทุกคนจะถูกขับไล่ออกไปต่อหน้าเขา และจะไม่มีใครรวบรวมคนลี้ภัยได้ แต่ภายหลังเราจะให้คนอัมโมนกลับสู่สภาพเดิม” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ เกี่ยวกับเอโดม พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า “สติปัญญาไม่มีในเทมานอีกแล้วหรือ? คำปรึกษาสูญสิ้นไปจากผู้เฉลียวฉลาดแล้วหรือ? สติปัญญาของเขาหายสูญไปเสียแล้วหรือ? ชาวเมืองเดดานเอ๋ย จงหนี จงหันกลับ จงอาศัยในถ้ำลึก เพราะว่าเราจะนำภัยพิบัติของเอซาวมาเหนือเขา เวลาเมื่อเราลงโทษเขา ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ? ถ้าขโมยมาเวลากลางคืน เขาจะไม่ปล้นเอาเฉพาะที่เขาพอใจหรือ? แต่เราได้ทำให้เอซาวเปลือยเปล่า เราได้เปิดเผยที่ซ่อนของเขา และเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ ลูกหลานของเขาถูกทำลาย รวมทั้งพี่น้องของเขา และเพื่อนบ้านของเขา ไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว จงทิ้งเด็กกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะให้เขามีชีวิตอยู่ และให้แม่ม่ายของเจ้าวางใจในเราเถิด” เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถ้าคนที่ยังไม่สมควรจะดื่มจากถ้วยนั้นยังต้องดื่ม เจ้าจะพ้นโทษไปได้หรือ? เจ้าจะพ้นโทษไปไม่ได้ เจ้าจะต้องดื่มด้วย พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราได้ปฏิญาณโดยนามของเราแล้วว่า เมืองโบสราห์จะต้องกลายเป็นความหวาดหวั่น เป็นคำตำหนิ เป็นที่ทิ้งร้าง และเป็นคำสาปแช่ง และบรรดาเมืองทั้งสิ้นของเขาจะเป็นที่ทิ้งร้างเป็นนิตย์” ข้าพเจ้าได้ยินข่าวจากพระยาห์เวห์ ทูตคนหนึ่งถูกส่งไปท่ามกลางบรรดาประชาชาติ บอกว่า “จงรวบรวมพวกเจ้าเข้ามาต่อสู้เมืองนั้น และลุกขึ้นทำสงครามเถิด” เพราะว่านี่แน่ะ เราจะทำให้เจ้าเล็กท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้เป็นที่ดูหมิ่นท่ามกลางมนุษย์ ความหวาดกลัวของเจ้า ทั้งความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้า ได้หลอกลวงเจ้า เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ผู้ยึดยอดภูเขาไว้ แม้เจ้าทำรังของเจ้าสูงเหมือนอย่างรังนกอินทรี เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เอโดมจะกลายเป็นความหวาดหวั่น ทุกคนที่ผ่านมันไปจะหวาดหวั่น และจะเยาะเย้ยเพราะความหายนะทั้งสิ้นของมัน อย่างเมื่อเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์ และเมืองใกล้เคียงของมันถูกทำลาย พระยาห์เวห์ตรัสว่า ไม่มีใครจะพำนักอยู่ที่นั่น ไม่มีใครจะอาศัยในเมืองนั้น นี่แน่ะ เราจะทำให้พวกเขาหนีไปจากมันอย่างฉับพลัน เหมือนอย่างสิงโตขึ้นมาจากดงลุ่มแม่น้ำจอร์แดนกระโจนสู่ทุ่งหญ้าที่เขียวสด เราจะแต่งตั้งผู้ที่เราเลือกสรรไว้เหนือมัน ใครเป็นอย่างเราเล่า? ใครจะฟ้องเราเล่า? ผู้เลี้ยงแกะคนใดจะทนยืนอยู่ต่อหน้าเราได้? เพราะฉะนั้น จงฟังแผนงานซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำไว้ต่อสู้เมืองเอโดม และพระประสงค์ซึ่งพระองค์ทรงดำริขึ้นต่อสู้ชาวเมืองเทมาน คือถึงแม้ตัวเล็กๆ ที่อยู่ในฝูงก็ต้องถูกลากเอาไป คอกของเขานั้นจะหวาดหวั่นเพราะเคราะห์กรรมของตน แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือนเพราะเสียงที่มันล้ม เสียงคร่ำครวญของเขาจะได้ยินถึงทะเลแดง ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเหาะขึ้นและโฉบลงเหมือนนกอินทรี และกางปีกของมันออกสู้โบสราห์ และจิตใจของนักรบแห่งเอโดมในวันนั้นจะเป็นเหมือนจิตใจของหญิงปวดท้องคลอดบุตร” เกี่ยวกับเมืองดามัสกัส ว่า “เมืองฮามัทและเมืองอารปัดต้องอับอาย เพราะมันทั้งหลายได้ยินข่าวร้าย มันก็กลัวลาน มันกังวลใจเหมือนทะเล ซึ่งสงบลงไม่ได้ เมืองดามัสกัสก็อ่อนแรง มันหันเพื่อจะหนี และความกลัวจนตัวสั่นจับมันไว้ ความแสนระทมและความเศร้ายึดมันไว้ อย่างผู้หญิงกำลังคลอดบุตร เมืองที่มีชื่อเสียงถูกทอดทิ้งได้อย่างไร? คือเมืองแห่งความชื่นบานนั้น เพราะฉะนั้น คนหนุ่มๆ ของเมืองนั้นจะล้มลงตามลานเมือง และบรรดาทหารของเมืองนั้นจะถูกทำลายในวันนั้น พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ และเราจะก่อไฟขึ้นที่กำแพงเมืองดามัสกัส และไฟนั้นจะเผาผลาญวังของเบนฮาดัดเสีย” เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์และราชอาณาจักรฮาโซร์ ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนโจมตี พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “จงลุกขึ้น ไปสู้เผ่าเคดาร์ จงทำลายประชาชนแห่งตะวันออกเสีย เต็นท์และฝูงแพะแกะของพวกเขาจะถูกริบเสีย ทั้งม่านและข้าวของทั้งสิ้นของเขา อูฐของเขาจะถูกนำเอาไปจากเขา และคนจะร้องแก่เขาว่า ‘ความสยดสยองมีอยู่ทุกด้าน’ พระยาห์เวห์ตรัสว่า ชาวเมืองฮาโซร์เอ๋ย จงหนีไป จงไปให้ไกล ไปอาศัยในถ้ำลึก เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน ทรงคิดแผนการต่อสู้เจ้า และทรงตั้งเป้าหมายต่อสู้เจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงลุกขึ้น ไปสู้ประชาชาติหนึ่งที่อยู่สบาย ซึ่งอาศัยอยู่อย่างมั่นคง ไม่มีประตูเมืองและไม่มีดาลประตู อยู่แต่ลำพัง อูฐของพวกเขาจะกลายเป็นของที่ปล้นมาได้ และฝูงโคของเขาจะเป็นของที่ริบมา พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะกระจายเขาไปทุกทางลม คือเขาที่โกนผมจอนหูของเขา และเราจะนำภัยพิบัติ มาจากทุกด้านของเขา เมืองฮาโซร์จะเป็นที่อาศัยของหมาป่า เป็นที่ทิ้งร้างอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีใครจะพักที่นั่น ไม่มีมนุษย์คนใดจะอาศัยในนั้น” พระวจนะของพระยาห์เวห์ ซึ่งมายังเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะเกี่ยวกับเมืองเอลาม ในตอนต้นรัชกาลเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า “นี่แน่ะ เราจะหักคันธนูของเอลาม ซึ่งเป็นขุมพลังของพวกเขา และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากฟ้าทั้งสี่ส่วนมาสู้เอลาม และเราจะกระจายเขาไปตามลมเหล่านั้น จะไม่มีประเทศใดซึ่งผู้ถูกขับไล่ออกจากเอลามจะไปไม่ถึง เราจะทำให้เอลามสยดสยองต่อหน้าศัตรูของพวกเขา และต่อหน้าผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะนำเหตุร้ายมาถึงเขาทั้งหลาย คือความพิโรธอันแรงกล้า เราจะใช้ให้ดาบไล่ตามเขาจนกว่าเราจะได้เผาผลาญเขาเสีย และเราจะตั้งพระที่นั่งของเราในเอลาม และทำลายกษัตริย์ และบรรดาเจ้านายของเขาทั้งหลาย” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์ตรัสว่า “แต่ในเวลาต่อไปเราจะให้เอลามกลับสู่สภาพเดิม”
อ่าน เยเรมีย์ 49
ฟัง เยเรมีย์ 49
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: เยเรมีย์ 49:5-39
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ