เยเรมีย์ 49:5-39
เยเรมีย์ 49:5-39 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
พระยาห์เวห์องค์เจ้านายผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะนำความสยดสยองมาเหนือเจ้า จากทุกคนที่อยู่รอบตัวเจ้า และเจ้าทุกคนจะถูกขับไล่ออกไปต่อหน้าเขา และจะไม่มีใครรวบรวมคนลี้ภัยได้ แต่ภายหลังเราจะให้คนอัมโมนกลับสู่สภาพเดิม” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ เกี่ยวกับเอโดม พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า “สติปัญญาไม่มีในเทมานอีกแล้วหรือ? คำปรึกษาสูญสิ้นไปจากผู้เฉลียวฉลาดแล้วหรือ? สติปัญญาของเขาหายสูญไปเสียแล้วหรือ? ชาวเมืองเดดานเอ๋ย จงหนี จงหันกลับ จงอาศัยในถ้ำลึก เพราะว่าเราจะนำภัยพิบัติของเอซาวมาเหนือเขา เวลาเมื่อเราลงโทษเขา ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ? ถ้าขโมยมาเวลากลางคืน เขาจะไม่ปล้นเอาเฉพาะที่เขาพอใจหรือ? แต่เราได้ทำให้เอซาวเปลือยเปล่า เราได้เปิดเผยที่ซ่อนของเขา และเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ ลูกหลานของเขาถูกทำลาย รวมทั้งพี่น้องของเขา และเพื่อนบ้านของเขา ไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว จงทิ้งเด็กกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะให้เขามีชีวิตอยู่ และให้แม่ม่ายของเจ้าวางใจในเราเถิด” เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถ้าคนที่ยังไม่สมควรจะดื่มจากถ้วยนั้นยังต้องดื่ม เจ้าจะพ้นโทษไปได้หรือ? เจ้าจะพ้นโทษไปไม่ได้ เจ้าจะต้องดื่มด้วย พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราได้ปฏิญาณโดยนามของเราแล้วว่า เมืองโบสราห์จะต้องกลายเป็นความหวาดหวั่น เป็นคำตำหนิ เป็นที่ทิ้งร้าง และเป็นคำสาปแช่ง และบรรดาเมืองทั้งสิ้นของเขาจะเป็นที่ทิ้งร้างเป็นนิตย์” ข้าพเจ้าได้ยินข่าวจากพระยาห์เวห์ ทูตคนหนึ่งถูกส่งไปท่ามกลางบรรดาประชาชาติ บอกว่า “จงรวบรวมพวกเจ้าเข้ามาต่อสู้เมืองนั้น และลุกขึ้นทำสงครามเถิด” เพราะว่านี่แน่ะ เราจะทำให้เจ้าเล็กท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้เป็นที่ดูหมิ่นท่ามกลางมนุษย์ ความหวาดกลัวของเจ้า ทั้งความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้า ได้หลอกลวงเจ้า เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ผู้ยึดยอดภูเขาไว้ แม้เจ้าทำรังของเจ้าสูงเหมือนอย่างรังนกอินทรี เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เอโดมจะกลายเป็นความหวาดหวั่น ทุกคนที่ผ่านมันไปจะหวาดหวั่น และจะเยาะเย้ยเพราะความหายนะทั้งสิ้นของมัน อย่างเมื่อเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์ และเมืองใกล้เคียงของมันถูกทำลาย พระยาห์เวห์ตรัสว่า ไม่มีใครจะพำนักอยู่ที่นั่น ไม่มีใครจะอาศัยในเมืองนั้น นี่แน่ะ เราจะทำให้พวกเขาหนีไปจากมันอย่างฉับพลัน เหมือนอย่างสิงโตขึ้นมาจากดงลุ่มแม่น้ำจอร์แดนกระโจนสู่ทุ่งหญ้าที่เขียวสด เราจะแต่งตั้งผู้ที่เราเลือกสรรไว้เหนือมัน ใครเป็นอย่างเราเล่า? ใครจะฟ้องเราเล่า? ผู้เลี้ยงแกะคนใดจะทนยืนอยู่ต่อหน้าเราได้? เพราะฉะนั้น จงฟังแผนงานซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำไว้ต่อสู้เมืองเอโดม และพระประสงค์ซึ่งพระองค์ทรงดำริขึ้นต่อสู้ชาวเมืองเทมาน คือถึงแม้ตัวเล็กๆ ที่อยู่ในฝูงก็ต้องถูกลากเอาไป คอกของเขานั้นจะหวาดหวั่นเพราะเคราะห์กรรมของตน แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือนเพราะเสียงที่มันล้ม เสียงคร่ำครวญของเขาจะได้ยินถึงทะเลแดง ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเหาะขึ้นและโฉบลงเหมือนนกอินทรี และกางปีกของมันออกสู้โบสราห์ และจิตใจของนักรบแห่งเอโดมในวันนั้นจะเป็นเหมือนจิตใจของหญิงปวดท้องคลอดบุตร” เกี่ยวกับเมืองดามัสกัส ว่า “เมืองฮามัทและเมืองอารปัดต้องอับอาย เพราะมันทั้งหลายได้ยินข่าวร้าย มันก็กลัวลาน มันกังวลใจเหมือนทะเล ซึ่งสงบลงไม่ได้ เมืองดามัสกัสก็อ่อนแรง มันหันเพื่อจะหนี และความกลัวจนตัวสั่นจับมันไว้ ความแสนระทมและความเศร้ายึดมันไว้ อย่างผู้หญิงกำลังคลอดบุตร เมืองที่มีชื่อเสียงถูกทอดทิ้งได้อย่างไร? คือเมืองแห่งความชื่นบานนั้น เพราะฉะนั้น คนหนุ่มๆ ของเมืองนั้นจะล้มลงตามลานเมือง และบรรดาทหารของเมืองนั้นจะถูกทำลายในวันนั้น พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ และเราจะก่อไฟขึ้นที่กำแพงเมืองดามัสกัส และไฟนั้นจะเผาผลาญวังของเบนฮาดัดเสีย” เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์และราชอาณาจักรฮาโซร์ ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนโจมตี พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “จงลุกขึ้น ไปสู้เผ่าเคดาร์ จงทำลายประชาชนแห่งตะวันออกเสีย เต็นท์และฝูงแพะแกะของพวกเขาจะถูกริบเสีย ทั้งม่านและข้าวของทั้งสิ้นของเขา อูฐของเขาจะถูกนำเอาไปจากเขา และคนจะร้องแก่เขาว่า ‘ความสยดสยองมีอยู่ทุกด้าน’ พระยาห์เวห์ตรัสว่า ชาวเมืองฮาโซร์เอ๋ย จงหนีไป จงไปให้ไกล ไปอาศัยในถ้ำลึก เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน ทรงคิดแผนการต่อสู้เจ้า และทรงตั้งเป้าหมายต่อสู้เจ้า” พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงลุกขึ้น ไปสู้ประชาชาติหนึ่งที่อยู่สบาย ซึ่งอาศัยอยู่อย่างมั่นคง ไม่มีประตูเมืองและไม่มีดาลประตู อยู่แต่ลำพัง อูฐของพวกเขาจะกลายเป็นของที่ปล้นมาได้ และฝูงโคของเขาจะเป็นของที่ริบมา พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะกระจายเขาไปทุกทางลม คือเขาที่โกนผมจอนหูของเขา และเราจะนำภัยพิบัติ มาจากทุกด้านของเขา เมืองฮาโซร์จะเป็นที่อาศัยของหมาป่า เป็นที่ทิ้งร้างอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีใครจะพักที่นั่น ไม่มีมนุษย์คนใดจะอาศัยในนั้น” พระวจนะของพระยาห์เวห์ ซึ่งมายังเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะเกี่ยวกับเมืองเอลาม ในตอนต้นรัชกาลเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า “นี่แน่ะ เราจะหักคันธนูของเอลาม ซึ่งเป็นขุมพลังของพวกเขา และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากฟ้าทั้งสี่ส่วนมาสู้เอลาม และเราจะกระจายเขาไปตามลมเหล่านั้น จะไม่มีประเทศใดซึ่งผู้ถูกขับไล่ออกจากเอลามจะไปไม่ถึง เราจะทำให้เอลามสยดสยองต่อหน้าศัตรูของพวกเขา และต่อหน้าผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะนำเหตุร้ายมาถึงเขาทั้งหลาย คือความพิโรธอันแรงกล้า เราจะใช้ให้ดาบไล่ตามเขาจนกว่าเราจะได้เผาผลาญเขาเสีย และเราจะตั้งพระที่นั่งของเราในเอลาม และทำลายกษัตริย์ และบรรดาเจ้านายของเขาทั้งหลาย” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ พระยาห์เวห์ตรัสว่า “แต่ในเวลาต่อไปเราจะให้เอลามกลับสู่สภาพเดิม”
เยเรมีย์ 49:5-39 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่า “เรานี่แหละจะนำความหวาดกลัวมาให้เจ้าจากคนเหล่านั้นที่อยู่รอบๆเจ้า พวกเจ้าทุกคนจะโดนขับไล่ออกไป และจะไม่มีการรวบรวมคนที่ระหกระเหินเข้าด้วยกัน แล้วหลังจากนั้น เราจะคืนสิ่งที่คนอัมโมนถูกยึดไปกลับมาให้พวกเขา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น เกี่ยวกับเอโดม พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “ไม่มีความเฉลียวฉลาดหลงเหลืออยู่ในเทมานแล้วหรือ คนฉลาด ไม่มีปัญญาให้คำปรึกษาแล้วหรือ พวกเขาสูญเสียสติปัญญาไปหมดแล้วหรือ คนที่อยู่ในเดดาน หนีไปซะ หันหลังกลับไปอยู่ให้ห่างไกล เพราะเราจะนำหายนะมาสู่เอซาว ตอนที่เราลงโทษเขา ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า พวกเขาจะไม่เหลือองุ่นไว้บ้างเลยหรือ ถ้าขโมยมาตอนกลางคืน พวกมันก็จะเอาเฉพาะสิ่งที่พวกมันอยากได้ เนื่องจากเราได้เปลื้องผ้าของเอซาว และเปิดเผยที่ซ่อนของเขา เขาก็เลยไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกแล้ว ลูกหลาน ครอบครัว และเพื่อนฝูงของเขาก็จะถูกทำลายไป ส่วนเขาก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป ทอดทิ้งเด็กกำพร้าของเจ้าซะ แล้วเราจะไว้ชีวิตพวกเขา ทอดทิ้งพวกแม่ม่ายของเจ้าซะ พวกเขาถึงจะได้ไว้วางใจในเรา” เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า “บางคนดื่มถ้วยแห่งความโกรธของพระเจ้า ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าบาป แต่เอโดม เจ้าดูเหมือนไร้เดียงสาแต่เจ้าไม่ไร้เดียงสา อย่างนั้นเจ้าก็เลยจะต้องดื่มจากถ้วยนั้นอย่างแน่นอน” พระยาห์เวห์พูดว่า “เราได้สาบานไว้กับตัวเองว่า เจ้าจะพินาศย่อยยับ กลายเป็นสิ่งที่คนหัวเราะเยาะ เป็นแผ่นดินที่ไม่มีประโยชน์ เป็นคำสาปแช่ง โบสราห์และเมืองต่างๆของมันจะกลายเป็นดินแดนที่ไม่มีประโยชน์ตลอดไป” ผมได้ยินข่าวจากพระยาห์เวห์ และผู้ส่งข่าวก็ถูกส่งไปตามชาติต่างๆ พระองค์พูดว่า “ให้พวกเจ้ารวมตัวกันโจมตีเอโดม และลุกขึ้นมาทำสงคราม เอโดม เราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติเล็กๆในบรรดาชาติต่างๆ ผู้คนจะดูถูกเจ้าไปทั่ว เอโดม เจ้าทำให้คนอื่นเกรงกลัว เจ้าเลยหลงตัวเองนึกว่าแน่ เจ้ามันหยิ่งทะนง เจ้าอาศัยอยู่ตามซอกหินผา เจ้าครอบครองเนินเขาสูง ถึงเจ้าจะสร้างรังไว้สูงเหมือนนกอินทรี เราก็จะเอาเจ้าลงมาจากที่นั่น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เอโดมจะกลายเป็นที่รกร้างน่ากลัว ทุกคนที่ผ่านมาจะตกตะลึง และทุกคนก็จะเย้ยหยันบาดแผลฟกช้ำของมัน เหมือนกับที่ชาวเมืองโสโดม โกโมราห์และเมืองแถวๆนั้นถูกตีแตก ก็เลยไม่มีใครอยู่ที่นั่นและไม่มีมนุษย์ที่ไหนจะไปที่นั่น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น เหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่ชาวเอโดมไปจากประเทศของมัน เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองมัน เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยงแกะ คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ ดังนั้น ให้ฟังแผนการที่พระยาห์เวห์ได้วางไว้ต่อต้านเอโดม และแผนต่างๆที่พระองค์วางไว้เพื่อทำลายคนที่อยู่ในเทมาน แน่นอน พวกฝูงสัตว์หนุ่มสาวจะถูกลากออกไป แน่นอน คอกแกะของพวกมันจะว่างเปล่า เสียงล่มสลายของเอโดม ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน เสียงร้องของพวกเขาจะได้ยินไปไกลถึงทะเลแดง ดูสิ พระองค์จะบินขึ้น และโฉบลงมาอย่างนกอินทรี และกางปีกเหนือโบสราห์ ในวันนั้นหัวใจของนักรบเอโดมจะเป็นเหมือนหัวใจของหญิงที่กำลังเจ็บท้องคลอดลูก เกี่ยวกับเมืองดามัสกัส “เมืองฮามัทและเมืองอารปัดต้องอับอายขายหน้า เพราะเมืองทั้งสองได้ยินข่าวร้าย ทั้งสองกลัวจนตัวอ่อนปวกเปียก เหมือนทะเลอันปั่นป่วนที่ไม่สามารถทำให้สงบได้ เมืองดามัสกัสนั้นอ่อนแอ เธอหันหลังวิ่งหนีไปแล้ว เธอกลัวจนตัวสั่น ความทุกข์ระทมและความเจ็บปวด ตกลงบนเธอเหมือนหญิงที่กำลังคลอดลูก เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้ ถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง แน่นอน คนที่เก่งกาจของเธอจะล้มตายในลานกลางเมือง และพวกทหารของเธอทุกคนจะพินาศ” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนั้น “เราจะจุดไฟเผากำแพงเมืองดามัสกัส และเราจะเผาผลาญวังของเบนฮาดัด” เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์และอาณาจักรฮาโซร์ ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนโจมตี พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า “ลุกขึ้นมา บุกไปทำลายเคดาร์ซะ ทำลายพวกคนทางตะวันออก ให้ยึดเต็นท์และฝูงสัตว์ของพวกมันมา รวมทั้งผ้าเต็นท์และข้าวของเครื่องใช้ด้วย จูงอูฐพวกเขาออกไป และร้องบอกพวกเขาว่า ‘หันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องน่าสยดสยอง’ หนีไปซะ หนีไปให้ไกลๆเลย ชาวเมืองฮาโซร์ ไปหลบซ่อนตัวซะ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ได้ร่างแผนการและวางแผนจะโจมตีเจ้าแล้ว ลุกขึ้น ไปบุกชาติที่สงบสุขกัน ชาติที่รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “ชาติที่ไม่มีประตูหรือสลักกลอนประตู และอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง ศัตรูจะลักขโมยอูฐของพวกเขาไป และยังปล้นฝูงสัตว์ที่ส่งเสียงดังของพวกเขาไปด้วย เราจะกระจัดกระจายคนที่เข้าพิธีโกนจอน ไปทั่วสารทิศ และเราจะนำความหายนะมาสู่พวกเขาจากทุกด้าน” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “และเมืองฮาโซร์จะกลายเป็นถ้ำของพวกหมาไน กลายเป็นที่รกร้างตลอดไป จะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น และจะไม่มีใครย้ายไปอยู่ที่นั่นเลย” นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่มีมาถึงเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า เกี่ยวกับเมืองเอลาม ในช่วงแรกที่กษัตริย์เศเดคียาห์ปกครองยูดาห์ พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “เราจะทำลายธนูของเอลาม เราจะนำลมสี่สายจากทั้งสี่ทิศของท้องฟ้ามาทำลายเอลาม และจะทำให้คนเอลามกระจัดกระจายไปตามที่ลมสี่สายนี้พัดไป และคนเอลามที่ถูกขับไล่ออกไปนี้จะไปอยู่ทั่วทุกชนชาติเลย เราจะทำให้ชาวเอลามกระจุยกระจายไปต่อหน้าต่อตาศัตรูและคนที่อยากจะฆ่าพวกเขา และเราจะนำความหายนะมาสู่พวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราโกรธพวกเขาแค่ไหน” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “และเราจะส่งดาบมาไล่ล่าพวกเขา จนกว่าเราจะกำจัดพวกเขาจนหมด เราจะตั้งบัลลังก์ของเราในเอลาม และจะถอดถอนกษัตริย์และพวกเจ้านายออกไปจากที่นั่น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “แต่หลังจากนั้น เราจะพลิกสถานการณ์ให้เอลามกลับมาดีเหมือนเดิม” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
เยเรมีย์ 49:5-39 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า ดูเถิด เราจะนำความสยดสยองมาเหนือเจ้า จากทุกคนที่อยู่รอบตัวเจ้า และเจ้าจะถูกขับไล่ออกไป ชายทุกคนตรงหน้าเขาออกไป และจะไม่มีใครรวบรวมคนลี้ภัยได้ แต่ภายหลังเราจะให้คนอัมโมนกลับสู่สภาพเดิม” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ เกี่ยวกับเรื่องเมืองเอโดม พระเยโฮวาห์จอมโยธา ตรัสดังนี้ว่า “สติปัญญาไม่มีในเทมานอีกแล้วหรือ คำปรึกษาพินาศไปจากผู้เฉลียวฉลาดแล้วหรือ สติปัญญาของเขาหายสูญไปเสียแล้วหรือ โอ ชาวเมืองเดดานเอ๋ย จงหนี จงหันกลับ จงอาศัยในที่ลึก เพราะว่าเราจะนำภัยพิบัติของเอซาวมาเหนือเขา เวลาเมื่อเราจะลงโทษเขา ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ ถ้าขโมยมาเวลากลางคืน เขาจะไม่ทำลายเพียงพอแก่ตัวเขาเท่านั้นหรือ แต่เราได้เปลือยเอซาวให้เปลือยเลย เราได้เปิดที่ซ่อนของเขา และเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ เชื้อสายของเขาถูกทำลาย และพี่น้องของเขา และเพื่อนบ้านของเขา ไม่มีเขาอีกแล้ว จงทิ้งเด็กกำพร้าพ่อของเจ้าไว้เถิด เราจะให้เขามีชีวิตอยู่ และให้แม่ม่ายของเจ้าวางใจในเราเถิด” เพราะพระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ว่า “ดูเถิด ถ้าคนที่ยังไม่สมควรจะดื่มจากถ้วยนั้นยังต้องดื่ม เจ้าจะพ้นโทษไปได้หรือ เจ้าจะพ้นโทษไปไม่ได้ เจ้าจะต้องดื่ม พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราได้ปฏิญาณต่อตัวของเราเองว่า โบสราห์จะต้องกลายเป็นที่รกร้าง เป็นที่ตำหนิติเตียน เป็นที่ที่ถูกทิ้งไว้เสียเปล่า และเป็นคำสาปแช่ง และหัวเมืองทั้งสิ้นของเขาจะเป็นที่ที่ถูกทิ้งไว้เสียเปล่าอยู่เนืองนิตย์” ข้าพเจ้าได้ยินข่าวลือจากพระเยโฮวาห์ ทูตคนหนึ่งถูกส่งไปท่ามกลางบรรดาประชาชาติ บอกว่า “จงรวบรวมเจ้าทั้งหลายเข้า และมาต่อสู้เมืองนั้น และลุกขึ้นเพื่อกระทำสงครามเถิด เพราะว่า ดูเถิด เราจะกระทำเจ้าให้เล็กท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้เป็นที่ดูหมิ่นท่ามกลางมนุษย์ เพราะความหวาดเสียวของเจ้าได้หลอกลวงเจ้า ทั้งความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้า โอ เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ผู้ยึดยอดภูเขาไว้เอ๋ย แม้เจ้าทำรังของเจ้าสูงเหมือนอย่างรังนกอินทรี เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ เอโดมจะกลายเป็นที่รกร้าง ทุกคนที่ผ่านเอโดมจะตกตะลึง และจะเย้ยหยันในภัยพิบัติทั้งสิ้นของมัน อย่างเมื่อเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์ และหัวเมืองใกล้เคียงของมันถูกทำลายล้าง พระเยโฮวาห์ตรัสว่า ไม่มีใครจะพำนักอยู่ที่นั่น ไม่มีบุตรของมนุษย์คนใดจะอาศัยในเมืองนั้น ดูเถิด เขาจะขึ้นมาอย่างสิงโตจากคลื่นของลุ่มแม่น้ำจอร์แดนโจนเข้าใส่คอกของแกะที่แข็งแรง แต่เราจะกระทำให้เขาวิ่งหนีเธอไปอย่างฉับพลัน และใครเป็นผู้ที่เลือกสรรไว้ ที่เราจะแต่งตั้งไว้เหนือเธอ ใครเป็นอย่างเราเล่า ใครจะนัดเราเล่า ผู้เลี้ยงแกะคนใดจะทนยืนอยู่ต่อหน้าเราได้ เพราะฉะนั้นจงฟังคำปรึกษาซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเตรียมไว้ต่อสู้เมืองเอโดม และพระประสงค์ทั้งหลายซึ่งพระองค์ได้ดำริไว้ต่อสู้ชาวเมืองเทมาน แน่ล่ะ ถึงตัวเล็กที่สุดในฝูงก็จะต้องถูกลากเอาไป แน่ละ พระองค์จะทรงกระทำให้ที่อาศัยของเขาร้างเปล่าไปพร้อมกับเขาด้วย แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนเพราะเสียงที่มันล้ม เสียงคร่ำครวญของเขาได้ยินถึงทะเลแดง ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเหาะขึ้นและโฉบลงเหมือนนกอินทรี และกางปีกของมันออกสู้โบสราห์ และจิตใจของนักรบแห่งเอโดมในวันนั้นจะเป็นเหมือนจิตใจของหญิงปวดท้องคลอดบุตร เกี่ยวด้วยเรื่องเมืองดามัสกัส เมืองฮามัทและเมืองอารปัดได้ขายหน้า เพราะเขาทั้งหลายได้ยินข่าวร้าย เขาก็กลัวลาน ทะเลก็ทุรนทุราย มันสงบลงไม่ได้ เมืองดามัสกัสก็อ่อนเพลียแล้ว เธอหันหนีและความกลัวจนตัวสั่นจับเธอไว้ ความแสนระทมและความเศร้ายึดเธอไว้อย่างผู้หญิงกำลังคลอดบุตร เมืองแห่งการสรรเสริญนั้นถูกทอดทิ้งแล้วหนอ คือเมืองที่เต็มด้วยความชื่นบานนั่นน่ะ เพราะฉะนั้นคนหนุ่มๆของเมืองนั้นจะล้มลงตามถนนทั้งหลายในเมืองนั้น และบรรดาทหารของเมืองนั้นจะถูกตัดออกในวันนั้น พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้แหละ และเราจะก่อไฟขึ้นในกำแพงเมืองดามัสกัส และไฟนั้นจะกินพระราชวังของเบนฮาดัดเสีย เกี่ยวด้วยเรื่องคนเคดาร์และราชอาณาจักรฮาโซร์ ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนจะโจมตี พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ว่า จงลุกขึ้น รุดเข้าไปสู้คนเคดาร์ จงทำลายประชาชนแห่งตะวันออกเสีย เต็นท์และฝูงแพะแกะของเขาจะถูกริบเสีย ทั้งม่านและภาชนะทั้งสิ้นของเขา อูฐของเขาจะถูกนำเอาไปจากเขา และคนจะร้องแก่เขาว่า ‘ความสยดสยองทุกด้าน’ พระเยโฮวาห์ตรัสว่า โอ ชาวเมืองฮาโซร์เอ๋ย หนีเถิด จงสัญจรไปไกล ไปอาศัยในที่ลึก เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ดำริแผนงานต่อสู้เจ้า และก่อตั้งความประสงค์ไว้สู้เจ้า พระเยโฮวาห์ตรัสว่า จงลุกขึ้น รุดหน้าไปสู้ประชาชาติหนึ่งที่มั่งมี ซึ่งอาศัยอยู่อย่างมั่นคง ไม่มีประตูเมืองและไม่มีดาลประตู อยู่แต่ลำพัง อูฐของเขาทั้งหลายจะกลายเป็นของที่ปล้นมาได้ และฝูงวัวอันมากมายของเขาจะเป็นของที่ริบมา พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราจะกระจายเขาไปทุกทิศลม คือคนที่อยู่ในมุมที่ไกลที่สุด และเราจะนำภัยพิบัติมาจากทุกด้านของเขา เมืองฮาโซร์จะเป็นที่อาศัยของมังกร เป็นที่ที่ถูกทิ้งไว้ให้รกร้างอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีใครจะพำนักที่นั่น ไม่มีบุตรของมนุษย์คนใดจะอาศัยในเมืองนั้น” พระวจนะของพระเยโฮวาห์ ซึ่งมายังเยเรมีย์ผู้พยากรณ์เกี่ยวด้วยเรื่องเมืองเอลามในตอนต้นรัชกาลเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า “พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะหักคันธนูของเอลาม ซึ่งเป็นหัวใจแห่งกำลังของเขาทั้งหลาย และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากฟ้าทั้งสี่ส่วนมาสู้เอลาม และเราจะกระจายเขาไปตามลมเหล่านั้นทั้งหมด จะไม่มีประชาชาติใดซึ่งผู้ถูกขับไล่ออกไปจากเอลามจะมาไม่ถึง ด้วยว่าเราจะกระทำให้เอลามสยดสยองต่อหน้าศัตรูของเขาทั้งหลาย และต่อหน้าผู้ที่แสวงหาชีวิตของเขา พระเยโฮวาห์ตรัสว่า เราจะนำเหตุร้ายมาถึงเขาทั้งหลาย คือความพิโรธอันแรงกล้า เราจะใช้ให้ดาบไล่ตามเขาทั้งหลาย จนกว่าเราจะได้เผาผลาญเขาเสีย และเราจะตั้งพระที่นั่งของเราในเอลาม และจะทำลายกษัตริย์และบรรดาเจ้านายของเขาทั้งหลาย พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ พระเยโฮวาห์ตรัสว่า แต่ในกาลต่อไปเราจะให้เอลามกลับสู่สภาพเดิม”
เยเรมีย์ 49:5-39 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า ดูเถิด เราจะนำความสยดสยองมาเหนือเจ้า จากทุกคนที่อยู่รอบตัวเจ้า และเจ้าจะถูกขับไล่ออกไปชายทุกคนตรงหน้าเขาออกไป และจะไม่มีใครรวบรวมคนลี้ภัยได้ แต่ภายหลังเราจะให้คนอัมโมนกลับสู่ สภาพเดิม>> พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ เกี่ยวกับเรื่องเมืองเอโดม พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<สติปัญญาไม่มีในเทมานอีกแล้วหรือ คำปรึกษาพินาศไปจากผู้เฉลียวฉลาดแล้วหรือ สติปัญญาของเขาหายสูญไปเสียแล้วหรือ ชาวเมืองเดดานเอ๋ย จงหนี จงหันกลับ จงอาศัยในที่ลึก เพราะว่าเราจะนำภัยพิบัติของเอซาวมาเหนือเขา เวลาเมื่อเราลงโทษเขา ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ ถ้าขโมยมาเวลากลางคืน เขาจะไม่ทำลายเพียงพอแก่ตัวเขาเท่านั้นหรือ แต่เราได้เปลือยเอซาวให้เปลือยเลย เราได้เปิดที่ซ่อนของเขา และเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ ลูกหลานของเขาถูกทำลายและพี่น้องของเขา และเพื่อนบ้านของเขา ไม่มีเขาอีกแล้ว จงทิ้งเด็กกำพร้าพ่อของเจ้าไว้เถิดเราจะให้เขามีชีวิตอยู่ และให้แม่ม่ายของเจ้าวางใจในเราเถิด>> เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า <<ถ้าคนที่ยังไม่สมควรจะดื่มจากถ้วยนั้นยังต้องดื่ม เจ้าจะพ้นโทษไปได้หรือ เจ้าจะพ้นโทษไปไม่ได้ เจ้าจะต้องดื่ม พระเจ้าตรัสว่า เราได้ปฏิญาณโดยชื่อของเราแล้วว่า โบสราห์จะต้องกลายเป็นความหวาดเสียว เป็นขี้ปาก เป็นที่ทิ้งร้าง และเป็นคำสาปแช่ง และหัวเมืองทั้งสิ้นของเขาจะเป็นที่ทิ้งร้างเป็นนิตย์>> ข้าพเจ้าได้ยินข่าวจากพระเจ้า ทูตคนหนึ่งถูกส่งไปท่ามกลางบรรดาประชาชาติ บอกว่า <<จงรวบรวมเจ้าทั้งหลายเข้าและมาต่อสู้เมืองนั้น และลุกขึ้นเพื่อกระทำสงครามเถิด>> เพราะว่าดูเถิด เราจะกระทำเจ้า ให้เล็กท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้เป็นที่ดูหมิ่นท่ามกลางมนุษย์ เพราะความหวาดเสียวของเจ้าได้หลอกลวงเจ้า ทั้งความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้า เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ผู้ยึดยอดภูเขาไว้ แม้เจ้าทำรังของเจ้าสูงเหมือนอย่างรังนกอินทรี เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่นพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ <<เอโดมจะกลายเป็นความหวาดเสียว ทุกคนที่ผ่านเขาไปจะหวาดเสียว และจะเยาะเย้ยเพราะความหายนะทั้งสิ้นของมัน อย่างเมื่อเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์และหัวเมืองใกล้เคียง ของมันถูกทำลายพระเจ้าตรัส ไม่มีใครจะพำนักอยู่ที่นั่น ไม่มีใครจะอาศัยในเมืองนั้น ดูเถิด เราจะกระทำให้เขาทั้งหลาย หนีไปจากมันอย่างฉับพลัน เหมือนอย่างสิงห์ขึ้นมาจากดงลุ่มแม่น้ำ จอร์แดนโจนเข้าใส่คอกแกะที่แข็งแรง และเราจะแต่งตั้งผู้ที่เราเลือกสรรไว้เหนือมัน ใครเป็นอย่างเราเล่า ใครจะนัดเราเล่า ผู้เลี้ยงแกะคนใดจะทนยืนอยู่ต่อหน้าเราได้ เพราะฉะนั้น จงฟังแผนงานซึ่งพระเจ้าทรง กระทำไว้ต่อสู้เมืองเอโดม และบรรดาพระประสงค์ซึ่ง พระองค์ได้ดำริขึ้นต่อสู้ชาวเมืองเทมาน คือถึงตัวเล็กๆที่อยู่ในฝูงก็ต้องถูกลากเอาไป แน่ละคอกของเขานั้นจะครั่นคร้ามเพราะเคราะห์กรรมของตน แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือนเพราะเสียงที่มันล้ม เสียงคร่ำครวญของเขาจะได้ยินถึงทะเลแดง ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเหาะขึ้นและโฉบลงเหมือนนกอินทรี และกางปีกของมันออกสู้โบสราห์ และจิตใจของนักรบแห่งเอโดมใน วันนั้นจะเป็นเหมือนจิตใจของหญิงปวดท้องคลอดบุตร>> เกี่ยวด้วยเรื่องเมืองดามัสกัส <<เมืองฮามัท และเมืองอารปัดได้ขายหน้า เพราะเขาทั้งหลายได้ยินข่าวร้าย เขาก็กลัวลาน เขาก็ทุรนทุรายเหมือนทะเล ซึ่งสงบลงไม่ได้ เมืองดามัสกัสก็อ่อนเพลียแล้วเขาหันหนี และความกลัวจนตัวสั่นจับเขาไว้ ความแสนระทมและความเศร้ายึดเขาไว้ อย่างผู้หญิงกำลังคลอดบุตร เมืองที่มีชื่อเสียงนั้นถูกทอดทิ้งแล้วหนอ คือเมืองที่เต็มด้วยความชื่นบานนั่นน่ะ เพราะฉะนั้นคนหนุ่มๆของเมืองนั้นจะล้มลงตามลานเมือง และบรรดาทหารของเมืองนั้นจะถูกทำลายในวันนั้น พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ และเราจะก่อไฟขึ้นในกำแพงเมืองดามัสกัส และไฟนั้นจะกินพระราชวังของเบนฮาดัดเสีย>> เกี่ยวด้วยเรื่องเผ่าเคดาร์และราชอาณาจักรฮาโซร์ ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนโจมตี พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงลุกขึ้น รุดเข้าไปสู้เผ่าเคดาร์ จงทำลายประชาชนแห่งตะวันออกเสีย เต็นท์และฝูงแพะแกะของเขาจะถูกริบเสีย ทั้งม่านและข้าวของทั้งสิ้นของเขา อูฐของเขาจะถูกนำเอาไปจากเขา และคนจะร้องแก่เขาว่า <ความสยดสยองทุกด้าน> พระเจ้าตรัสว่า ชาวเมืองฮาโซร์เอ๋ย หนีเถิด จงสัญจรไปไกลไปอาศัยในที่ลึก เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน ได้ดำริแผนงานต่อสู้เจ้า และก่อตั้งความประสงค์ไว้สู้เจ้า พระเจ้าตรัสว่า <<จงลุกขึ้นรุดหน้าไปสู้ประชาชาติหนึ่งที่อยู่สบาย ซึ่งอาศัยอยู่อย่างมั่นคง ไม่มีประตูเมืองและไม่มีดาลประตู อยู่แต่ลำพัง อูฐของเขาทั้งหลายจะกลายเป็นของที่ปล้นมาได้ และฝูงโคของเขาจะเป็นของที่ริบมา พระเจ้าตรัสว่า เราจะกระจายเขาไปทุกทิศลม คือเขาที่โกนผมจอนหูของเขา และเราจะนำภัยพิบัติ มาจากทุกด้านของเขา เมืองฮาโซร์จะเป็นที่อาศัยของหมาป่า เป็นที่ทิ้งร้างอยู่เป็นนิตย์ ไม่มีใครจะพำนักที่นั่น ไม่มีมนุษย์คนใดจะอาศัยในนั้น>> พระวจนะของพระเจ้า ซึ่งมายังเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะเกี่ยวด้วยเรื่องเมืองเอลาม ในตอนต้นรัชกาลเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า <<ดูเถิด เราจะหักคันธนูของเอลาม ซึ่งเป็นหัวใจแห่งกำลังของเขาทั้งหลาย และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากฟ้าทั้งสี่ส่วนมาสู้เอลาม และเราจะกระจายเขาไปตามลมเหล่านั้นทั้งหมด จะไม่มีประชาชาติใดซึ่งผู้ถูกขับไล่ออกไป จากเอลามจะมาไม่ถึง เราจะกระทำให้เอลามสยดสยองต่อหน้าศัตรู ของเขาทั้งหลาย และต่อหน้าผู้ที่แสวงหาชีวิตของเขา พระเจ้าตรัสว่า เราจะนำเหตุร้ายมาถึงเขาทั้งหลาย คือความพิโรธอันแรงกล้า เราจะใช้ให้ดาบไล่ตามเขาทั้งหลาย จนกว่าเราจะได้เผาผลาญเขาเสีย และเราจะตั้งพระที่นั่งของเราในเอลาม และ ทำลายกษัตริย์ และบรรดาเจ้านายของเขาทั้งหลาย พระเจ้าตรัสดังนี้ พระเจ้าตรัสว่า แต่ในกาลต่อไปเราจะให้เอลามกลับสู่สภาพเดิม>>
เยเรมีย์ 49:5-39 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เราจะนำความสยดสยอง จากประเทศเพื่อนบ้านทั้งปวงมายังเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศว่า “พวกเจ้าทุกคนจะถูกขับไล่ออกไป และจะไม่มีใครรวบรวมบรรดาผู้ลี้ภัยได้ “แต่ภายหลังเราจะให้ชาวอัมโมนกลับสู่สภาพดี” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น พระดำรัสของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ เกี่ยวกับเอโดมความว่า “ในเทมานไม่มีสติปัญญาอีกแล้วหรือ? คำปรึกษาหารือสูญสิ้นไปจากคนชาญฉลาดแล้วหรือ? สติปัญญาของเขาเน่าเปื่อยไปหมดแล้วหรือ? ชาวเดดานเอ๋ย จงหันหนีไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึก เพราะเราจะนำหายนะมาสู่เอซาว ในเวลาที่เราจะลงโทษเขา หากคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่เหลือไว้บ้างนิดหน่อยหรือ? หากขโมยมาในยามค่ำคืน เขาจะไม่ขโมยไปเพียงเท่าที่เขาอยากได้หรือ? แต่เราจะกวาดล้างดินแดนของเอซาวจนโล่งเตียน เราจะเผยที่ซ่อนของเขา จนเขาไม่สามารถหลบซ่อนได้ ลูกหลาน ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านของเขาจะพินาศ และเอซาวเองก็จะสูญสิ้น ทิ้งลูกกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะคุ้มครองชีวิตของพวกเขา แม่ม่ายของเจ้าก็พึ่งพาเราได้” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “หากผู้ที่ไม่สมควรรับโทษยังต้องดื่มจากถ้วยแห่งโทษทัณฑ์ แล้วเจ้าจะลอยนวลพ้นโทษไปได้หรือ? เจ้าจะไม่พ้นโทษไปได้หรอก เจ้าก็ต้องดื่มด้วย” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เราปฏิญาณโดยอ้างตัวเราเองว่า โบสราห์จะกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์และติเตียนสาปแช่ง หัวเมืองทั้งปวงของมันจะเป็นซากปรักหักพังตลอดไป” ข้าพเจ้าได้ยินพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า มีทูตคนหนึ่งถูกส่งออกไปยังประชาชาติต่างๆ เพื่อแจ้งว่า “จงรวมกำลังกันไปบุกโจมตีเมืองนั้น! ยกทัพไปรบเถิด!” “บัดนี้เราจะทำให้เจ้าเล็กกระจ้อยร่อยในหมู่ประชาชาติ เป็นที่เหยียดหยามในหมู่ผู้คน ความสยดสยองที่เจ้าคิดขึ้น และความหยิ่งผยองในใจได้หลอกลวงเจ้า เจ้าผู้อาศัยอยู่ในซอกหิน ผู้ครอบครองยอดเขา แม้เจ้าจะสร้างรังไว้สูงเหมือนรังนกอินทรี เราก็จะฉุดเจ้าให้ตกลงมา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เอโดมจะกลายเป็นเป้าของความสยดสยอง บรรดาคนที่ผ่านไปมาจะตกตะลึงและจะเยาะเย้ยถากถาง เนื่องด้วยบาดแผลทั้งสิ้นของมัน” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “โสโดมและโกโมราห์ถูกทำลาย พร้อมทั้งเมืองใกล้เคียงฉันใด เอโดมก็จะไม่มีใครอยู่ ไม่มีใครอาศัยอีกต่อไปฉันนั้น “ดุจสิงโตพุ่งออกมาจากพงไพรแห่งจอร์แดน สู่ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ เราจะขับไล่เอโดมออกจากดินแดนของมันในชั่วพริบตา ใครคือผู้ที่เราเลือกสรรแต่งตั้งเพื่อการนี้? ใครจะเสมอเหมือนเราและใครจะท้าทายเราได้? และคนเลี้ยงแกะหน้าไหนจะต้านทานเราได้?” ฉะนั้นจงฟังแผนการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับเอโดม สิ่งที่พระองค์ทรงดำริไว้ต่อสู้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเทมาน ลูกอ่อนในฝูงจะถูกลากไป พระองค์จะทรงทำลายล้างทุ่งหญ้าของพวกเขาเพราะตัวพวกเขา ทั่วโลกจะสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเสียงเอโดมล่มสลาย เสียงร้องของชาวเอโดมจะดังไปถึงทะเลแดง ดูเถิด! นกอินทรีตัวหนึ่งจะบินร่อนและโฉบลงมา คลี่ปีกเหนือโบสราห์ วันนั้นจิตใจของนักรบเอโดม จะเหมือนจิตใจของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก พระดำรัสเกี่ยวกับดามัสกัสความว่า “ฮามัทและอารปัดท้อแท้หดหู่ เพราะได้ยินข่าวร้าย จิตใจของเขาจึงระย่อ ทุรนทุรายเหมือนทะเลปั่นป่วน ดามัสกัสก็หมดแรง เขาหันหนี และหวาดหวั่นจับใจ ความทุกข์ทรมานร้าวรานจู่โจมจับหัวใจ เจ็บปวดรวดร้าวดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก นครเลื่องชื่อซึ่งเราปีติยินดี ถูกทอดทิ้งแล้วไม่ใช่หรือ? แน่นอน หนุ่มฉกรรจ์ของกรุงนั้นจะล้มลงกลางถนน ทหารทุกคนจะถูกสยบในวันนั้น” พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น “เราจะจุดไฟเผากำแพงดามัสกัส มันจะเผาผลาญป้อมต่างๆ ของเบนฮาดัด” พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับเคดาร์และอาณาจักรต่างๆ ของฮาโซร์ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้บุกโจมตีความว่า “จงลุกขึ้น บุกเข้าโจมตีเคดาร์ และทำลายล้างชาวถิ่นตะวันออก เต็นท์และฝูงสัตว์ของเขาจะถูกยึดไป ที่พักพิงของเขาจะถูกริบไป พร้อมกับอูฐและข้าวของทั้งปวง ผู้คนจะร้องบอกพวกเขาว่า ‘ความสยดสยองอยู่รอบด้าน!’ “ชนชาวฮาโซร์เอ๋ย จงหนีเร็ว! ไปซ่อนตัวในถ้ำลึกเถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้วางแผนต่อสู้เจ้า และคิดเล่นงานเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “จงลุกขึ้นโจมตีประชาชาติ ซึ่งเอกเขนกเอ้อระเหยอยู่อย่างมั่นใจ ชนชาติซึ่งไม่มีประตูเมือง ไม่มีดาลประตู อาศัยอยู่โดดเดี่ยวลำพัง อูฐของพวกเขาจะกลายเป็นของปล้น สัตว์ฝูงใหญ่ของพวกเขาจะกลายเป็นของริบ เราจะทำให้คนที่อยู่ห่างไกลกระจัดกระจายไปกับสายลม และจะนำภัยพิบัติรอบด้านมายังพวกเขา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ฮาโซร์จะกลายเป็นถิ่นหมาใน เป็นที่ถูกทิ้งร้างตลอดกาล ไม่มีคนอยู่ที่นั่น ไม่มีใครอาศัยที่นั่น” พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับเอลามซึ่งมีมาถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ในต้นรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ความว่า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า “ดูเถิด เราจะหักธนูของเอลาม ขุมกำลังของเขา เราจะนำลมทั้งสี่จากย่านทั้งสี่ของฟ้าสวรรค์ มาเล่นงานคนเอลาม เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปตามลมทั้งสี่ ไม่มีชาติไหนที่เอลาม ไม่ได้ตกเป็นเชลย เราจะทำให้เอลามแหลกป่นปี้ต่อหน้าศัตรู ต่อหน้าคนที่หมายเอาชีวิตของเขา เราจะนำภัยพิบัติ และโทสะเกรี้ยวกราดลงมาเหนือเขา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เราจะใช้ดาบตามล่าพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะถึงจุดจบ เราจะตั้งบัลลังก์ของเราไว้ในเอลาม และทำลายกษัตริย์กับเหล่าขุนนาง” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “แต่ในภายภาคหน้า เราจะให้เอลามกลับสู่สภาพดี” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
เยเรมีย์ 49:5-39 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าหวาดกลัว จากทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างเจ้า และเจ้าจะถูกขับไล่ออกไป ทุกคนจะรีบหนีไปโดยไม่ห่วงหน้าห่วงหลัง จะไม่มีผู้ใดรวบรวมพลังคนเข้าด้วยกันอีก แต่ในภายหลัง เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของอัมโมน กลับคืนสู่สภาพเดิม” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวถึงเอโดมดังนี้ “ไม่มีผู้มีสติปัญญาในเทมานอีกเลยหรือ ไม่มีคำปรึกษาจากคนฉลาดรอบคอบอีกหรือ สติปัญญาของพวกเขาสูญหายไปแล้วหรือ โอ บรรดาผู้อยู่อาศัยของเดดานเอ๋ย จงหันกลับและหนีไป ไปซ่อนตัวในถ้ำ เพราะเราจะนำความวิบัติมาสู่พงศ์พันธุ์เอซาว ในเวลาที่เราลงโทษเขา ถ้าพวกคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า พวกเขาจะเก็บองุ่นจนเกลี้ยงเถาหรือ ถ้าพวกขโมยมาในเวลากลางคืน พวกเขาจะขโมยเท่าที่พวกเขาต้องการมิใช่หรือ แต่เราได้ริบทุกสิ่งไปจากพงศ์พันธุ์เอซาวจนหมดสิ้น เราได้รื้อแหล่งที่ซ่อนตัวของเขา และเขาไม่สามารถหลบหนีไปได้ บุตรหลานของเขาจะสิ้นชีวิต รวมทั้งพี่น้องและเพื่อนบ้านของเขา ไม่มีใครเหลือสักคน ปล่อยเด็กกำพร้าไว้ เราจะปกป้องชีวิตพวกเขา และให้แม่ม่ายของพวกเจ้าไว้วางใจเรา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “ถ้าบรรดาผู้ที่ไม่สมควรจะถูกลงโทษ ต้องถูกลงโทษ แล้วเจ้าจะพ้นจากการลงโทษหรือ เจ้าจะไม่พ้นจากการลงโทษ แต่เจ้าจะถูกลงโทษ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “เพราะเราได้ปฏิญาณโดยตัวเราเองแล้วว่า เมืองโบสราห์จะเป็นที่น่าหวาดกลัว เป็นที่หัวเราะเยาะ เป็นที่รกร้าง และเป็นคำสาปแช่ง และเมืองต่างๆ จะเป็นที่รกร้างตลอดไป” ข้าพเจ้าได้รับข้อความจากพระผู้เป็นเจ้า และผู้ส่งข่าวผู้หนึ่งถูกส่งให้ไปยังบรรดาประชาชาติ เพื่อบอกดังนี้ว่า “จงเรียกประชุมกองทัพเข้าด้วยกัน ไปต่อต้านเอโดมและพร้อมที่จะสู้รบ ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าด้อยในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ทุกคนจะดูหมิ่นเจ้า ความน่ากลัวของเจ้าที่มีต่อผู้อื่น และใจหยิ่งยโสของเจ้าได้ลวงเจ้าแล้ว เจ้าอาศัยอยู่ในซอกหิน อยู่บนภูเขาสูง แม้ว่าเจ้าจะทำรังของเจ้าให้อยู่สูงเท่ากับรังนกอินทรี เราก็จะทำให้เจ้าลงมาจากที่นั่น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เอโดมจะกลายเป็นที่น่าหวาดกลัว ทุกคนที่ผ่านไปก็จะหวาดผวาและเหน็บแนมเพราะความวิบัติทั้งสิ้น” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “เช่นเดียวกับเวลาที่โสโดมและโกโมราห์และเมืองที่อยู่รอบข้างถูกทำลาย จะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น จะไม่มีบุตรมนุษย์คนใดเดินทางผ่านไปที่นั่นอีก ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเป็นเหมือนสิงโตที่ขึ้นมาจากป่าที่ข้างแม่น้ำจอร์แดน มายังทุ่งอันเขียวชอุ่ม เราจะทำให้เขาเตลิดหนีไปจากที่นั่นทันที และเราจะแต่งตั้งผู้ที่เราเลือกให้ปกครองชาตินั้น ใครจะเป็นเหมือนเรา ใครจะท้าทายเรา ไม่มีผู้เลี้ยงดูฝูงแกะคนใดที่จะขัดขวางเราได้” ฉะนั้น จงฟังว่า พระผู้เป็นเจ้าได้วางแผนทำอย่างไรต่อเอโดม และพระองค์ประสงค์จะทำอย่างไรต่อบรรดาผู้อยู่อาศัยของเทมาน แม้แต่พวกเด็กน้อยในฝูงก็จะถูกลากตัวไป พระองค์จะทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขาอย่างแน่นอนก็เพราะพวกเขา เมื่อพวกเอโดมล้ม แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน เสียงร้องของพวกเขาจะเป็นที่ได้ยินไปจนถึงทะเลแดง ดูเถิด ผู้หนึ่งจะลุกขึ้นและบินโฉบมาอย่างนกอินทรี และกางปีกออกโจมตีโบสราห์ และใจของบรรดานักรบของเอโดมจะเป็นอย่างใจของผู้หญิงที่เจ็บครรภ์ พระองค์กล่าวถึงดามัสกัสว่า “เมืองฮามัทและอาร์ปัดต้องอับอาย เพราะพวกเขาได้ทราบข่าวร้าย พวกเขาท้อใจด้วยความกลัว และวิตกเหมือนทะเลที่ปั่นป่วนอย่างไม่หยุดยั้ง ดามัสกัสกลายเป็นพวกอ่อนแอ และหันหลังเตลิดหนี ตื่นตระหนกเป็นที่สุด เป็นทุกข์และปวดร้าวยิ่งนัก ราวกับหญิงที่เจ็บครรภ์ เมืองที่มีชื่อเสียง เมืองแห่งความยินดีของเรา ถูกทอดทิ้งเสียแล้ว ฉะนั้น ชายหนุ่มของเมืองจะล้มตายที่ถนนหนทาง และทหารทั้งปวงจะถูกสังหารในวันนั้น” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น “และเราจะจุดไฟให้ลุกกำแพงเมืองดามัสกัส และไฟจะเผาผลาญวังของเบนฮาดัด” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถึงเคดาร์และอาณาจักรของฮาโซร์ที่เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนโจมตีดังนี้ “จงลุกขึ้นบุกและโจมตีเคดาร์ กำจัดประชาชนที่อยู่ในเขตตะวันออก พวกเขาจะยึดกระโจมและฝูงแพะแกะ และจะขนไปเป็นของตน รวมทั้งม่าน สินค้าทั้งสิ้น และอูฐ และจะตะโกนต่อพวกเขาว่า ‘ความน่ากลัวอยู่รอบด้าน’ โอ บรรดาผู้อยู่อาศัยของฮาโซร์เอ๋ย จงวิ่งหนีไปให้ไกล ไปซ่อนตัวในถ้ำ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น “เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้วางแผนโจมตีเจ้า และมียุทธวิธีที่จะบุกรุกเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศว่า “จงลุกขึ้นบุกและโจมตีประชาชาติหนึ่งที่นิ่งนอนใจ และอยู่กันอย่างปลอดภัย ไม่มีประตูเมืองหรือดาลประตู อยู่อย่างโดดเดี่ยว” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนี้ว่า “ฝูงอูฐของพวกเขาจะถูกปล้น ฝูงโคจะเป็นสิ่งที่ศัตรูริบไป เราจะทำให้พวกที่ตัดผมที่จอนหู ต้องกระจัดกระจายออกไป เราจะให้พวกเขาประสบกับความวิบัติจากรอบด้าน ฮาโซร์จะกลายเป็นที่อยู่ของหมาใน เป็นที่รกร้างไปตลอดกาล จะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น จะไม่มีผู้ใดเดินทางผ่านไปที่เมืองนั้นอีก” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าถึงเอลาม ในต้นรัชสมัยของเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “ดูเถิด เราจะหักคันธนูของเอลาม ซึ่งเป็นพลังสำคัญของพวกเขา และเราจะทำให้ลมทั้ง 4 ทิศจากทุกมุมสวรรค์กระหน่ำลงที่เอลาม และเราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ และทุกประชาชาติจะมีผู้ลี้ภัยของเอลาม ซึ่งระหกระเหินไปอยู่ด้วย เราจะทำให้เอลามตกใจกลัวต่อหน้าศัตรูและพวกที่ต้องการจะฆ่าพวกเขา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เราจะนำความพินาศอันเกิดจากความกริ้วของเรามาสู่พวกเขา เราจะส่งคนมาสังหารพวกเขาจนกว่าเราจะกำจัดพวกเขาจนหมดสิ้น และเราจะให้บัลลังก์ของเราอยู่ที่เอลาม และกำจัดกษัตริย์และบรรดาผู้นำของพวกเขา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “แต่ในภายหลัง เราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของเอลามคืนสู่สภาพเดิม” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น