“ ‘หลังจากวันสะบาโต วันที่ได้นำฟ่อนข้าวมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวาย จงนับจากวันนั้นไปจนครบเจ็ดสัปดาห์เต็ม นับไปจนครบห้าสิบวันจนถึงวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ด แล้วจงนำเมล็ดข้าวใหม่มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด จงนำขนมปังสองก้อนที่ทำจากแป้งละเอียดประมาณ 4.5 ลิตร ใส่เชื้อมาเป็นเครื่องบูชายื่นถวายจากผลแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมกับขนมปังนี้ให้นำลูกแกะตัวผู้ไม่มีตำหนิอายุหนึ่งขวบเจ็ดตัว วัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะผู้สองตัวมาเป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชา ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องเผาบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย จากนั้นจงถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และลูกแกะอายุหนึ่งขวบสองตัวเป็นเครื่องสันติบูชา ปุโรหิตต้องยื่นถวายลูกแกะสองตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นเครื่องบูชายื่นถวายพร้อมกับขนมปังของผลแรก เป็นเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับปุโรหิต จงประกาศให้วันนั้นมีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ และอย่าทำงานในวันนั้นเลย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด “ ‘เมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผล อย่าเก็บจนเกลี้ยงไปถึงขอบนา อย่าเก็บเมล็ดข้าวที่ตกเกลื่อนกลาด จงปล่อยไว้ให้เป็นส่วนของคนยากไร้และคนต่างด้าว เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘ให้ถือวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ดเป็นวันหยุดพัก มีการฉลองด้วยเสียงแตรกระหึ่ม เป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ ให้หยุดทำงานทุกอย่าง แต่จงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “วันที่สิบของเดือนที่เจ็ดเป็นวันลบบาป ให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ จงบังคับตนและถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าทำงานใดๆ ในวันนั้นเพราะเป็นวันลบบาป เพื่อลบบาปให้แก่เจ้าต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ใดไม่ได้บังคับตนในวันนั้น จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา ผู้ที่ทำงานใดๆ ในวันนั้น เราจะทำลายจากหมู่ประชากร เจ้าอย่าทำงานใดๆ เลย นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ให้ถือเป็นวันสะบาโตแห่งการหยุดพักสำหรับเจ้า และเจ้าต้องบังคับตนตั้งแต่เย็นวันที่เก้าเดือนนั้นจนถึงเย็นวันรุ่งขึ้น เจ้าจะต้องถือรักษาสะบาโตของเจ้า” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘วันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดเป็นวันเริ่มฉลองเทศกาลอยู่เพิงขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ฉลองไปจนครบเจ็ดวัน ในวันแรกเป็นวันประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำงานใดๆ เลย ทุกวันในช่วงเทศกาลนี้ จงถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน และในวันที่แปดให้มีการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์และถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นพิธีปิดการประชุม อย่าทำงานใดๆ เลย (“ ‘ต่อไปนี้คือเทศกาลที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ ซึ่งเจ้าจะต้องประกาศให้เป็นการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำเครื่องบูชาด้วยไฟมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า คือเครื่องเผาบูชา เครื่องธัญบูชา เครื่องสัตวบูชาและเครื่องดื่มบูชาตามที่กำหนดไว้แต่ละวัน เครื่องบูชาเหล่านี้เพิ่มเติมจากเครื่องถวายเพื่อสะบาโตต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเพิ่มเติมจากของถวายต่างๆ ตามคำปฏิญาณและของถวายตามความสมัครใจแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า) “ ‘จงฉลองเทศกาลแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเจ็ดวัน เริ่มตั้งแต่วันที่สิบห้าเดือนที่เจ็ดซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ให้ถือวันแรกสุดและวันที่แปดเป็นวันแห่งการหยุดพัก เจ้าจงนำสิ่งเหล่านี้มาในวันแรกคือผลไม้คัดอย่างดี กิ่งอินทผลัม กิ่งไม้ใบดก กิ่งปอปลาร์ และจงรื่นเริงยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าตลอดเจ็ดวัน ในเดือนที่เจ็ดของทุกปี เจ้าจงฉลองเทศกาลแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ ชาวอิสราเอลโดยกำเนิดทุกคนต้องอยู่ในเพิงตลอดเจ็ดวัน เพื่อลูกหลานของเจ้าจะรู้ว่าเราได้ให้ชนอิสราเอลอาศัยอยู่ในเพิง เมื่อเรานำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ ” ดังนั้นโมเสสจึงประกาศเทศกาลเหล่านี้ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดแก่ชนอิสราเอล
อ่าน เลวีนิติ 23
ฟัง เลวีนิติ 23
แบ่งปัน
เปรียบเทียบพระคัมภีร์ทั้งหมด: เลวีนิติ 23:15-44
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่านต่างๆ
วิดีโอ