1 พงศ์กษัตริย์ 22:9-53

1 พงศ์กษัตริย์ 22:9-53 THA-ERV

กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​จึง​เรียก​เจ้าหน้าที่​ของ​เขา​มา​คนหนึ่ง​และ​พูด​ว่า “เร็วเข้า ไป​พา​มีคายาห์​ลูกชาย​ของ​อิมลาห์​มา​ที่นี่” กษัตริย์​อาหับ​แห่ง​อิสราเอล​และ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​แห่ง​ยูดาห์ แต่งตัว​ด้วย​ชุด​กษัตริย์​เต็มยศ กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​ของ​พวก​เขา​ที่​ลานนวดข้าว ตรง​ทางเข้า​ประตู​เมือง​สะมาเรีย พร้อมกับ​พวก​ผู้พูดแทน​พระเจ้า​ทุกคน​ที่​อยู่​ต่อหน้า​พวกเขา ที่​กำลัง​อ้าง​ว่า​พูดแทน​พระเจ้า​อยู่ ขณะนั้น ผู้พูดแทน​พระเจ้า​คนหนึ่ง ชื่อ​เศเดคียาห์​ลูกชาย​เคนาอะนาห์​ได้​เอา​เหล็ก​ทำ​เป็น​เขา​สัตว์ เขา​ประกาศ​ว่า “นี่คือ​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​พูด ‘พวกเจ้า​จะ​ใช้​เขา​สัตว์​เหล็กนี้​แทง​พวก​อารัม จน​กว่า​พวกนั้น​จะ​ถูก​ทำลาย​จน​หมด’” ผู้พูดแทน​พระเจ้า​ทั้งหมด​ต่างก็​ทำนาย​ใน​สิ่ง​เดียวกัน พวก​เขา​พูด​ว่า “ขึ้น​ไป​ที่​ราโมท-กิเลอาด​และ​ได้รับ​ชัยชนะเถิด เพราะ​พระยาห์เวห์​จะ​ให้​มัน​ตก​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​กษัตริย์” คน​ส่งข่าว​ที่​ส่ง​ไป​เรียก​ตัว​มีคายาห์​พูด​กับ​เขา​ว่า “ดูสิ ผู้พูดแทน​พระเจ้า​คน​อื่นๆ​กำลัง​ทำนาย​ความ​สำเร็จ​ของ​กษัตริย์​อยู่ ขอ​ให้​คำพูด​ของ​ท่าน​เหมือน​กับ​คำพูด​ของ​พวก​เขา​และ​พูด​แต่​สิ่ง​ดีๆ​ด้วย​เถิด” แต่​มีคายาห์​ตอบ​ไป​ว่า “พระยาห์เวห์​มี​ชีวิต​อยู่​แน่​ขนาด​ไหน ก็​ให้​แน่ใจ​ขนาดนั้น​เลย​ว่า เรา​จะ​พูด​แต่​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​บอก​เรา​เท่านั้น” เมื่อ​มีคายาห์​มา​ถึง กษัตริย์​ถาม​เขา​ว่า “มีคายาห์ พวกเรา​ควร​จะ​ขึ้นไป​รบ​กับ​ชาวอารัม​ที่​ราโมท-กิเลอาด​หรือเปล่า” เขา​ตอบ​ว่า “ไป​รบ​เถิด แล้ว​จะ​ได้รับ​ชัยชนะ​กลับ​มา เพราะ​พระยาห์เวห์​จะ​ให้​มัน​ตก​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​กษัตริย์” กษัตริย์​พูด​กับ​เขา​ว่า “เรา​ให้​เจ้า​สาบาน​ไม่​รู้​กี่​ครั้งแล้ว ว่า​ให้​เจ้า​พูด​แต่​ความจริง​กับ​เรา ใน​นาม​ของ​พระยาห์เวห์” มีคายาห์​จึง​ตอบ​ว่า “เรา​เห็น​อิสราเอล​ทั้งหมด​กระจัด​กระจาย​อยู่​ตาม​เนินเขา​เหมือน​กับ​แกะ​ที่​ไม่​มี​คนเลี้ยง และ​พระยาห์เวห์​พูด​ว่า ‘ประชาชน​เหล่านี้​ไม่​มี​ผู้นำ​แล้ว ปล่อย​ให้​พวกเขา​กลับ​ไป​บ้าน​อย่าง​สันติเถิด’” กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​บอก​กับ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ว่า “เห็นไหม เรา​บอก​ท่าน​แล้ว ว่า​เขา​ไม่​เคย​ทำนาย​สิ่งดีๆ​เกี่ยวกับ​เราเลย มี​แต่​คำ​ทำนาย​ที่​ร้ายๆ​เสมอ” มีคายาห์​พูด​ต่อ​ไป​ว่า “ฟัง​คำ​ของ​พระยาห์เวห์​ให้​ดี ข้าพเจ้า​เห็น​พระยาห์เวห์​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​พร้อม​กับ​กองทัพ​สวรรค์​ทั้งหมด​ที่​ยืน​อยู่​รอบๆ​พระองค์​ทั้ง​ด้านขวา​และ​ด้านซ้าย​ของ​พระองค์ และ​พระยาห์เวห์​พูด​ว่า ‘ใคร​จะ​ล่อลวง​อาหับ​ให้​ไป​โจม​ตี​ชาว​อารัม​ที่​ราโมท-กิเลอาด​และ​ไป​ตาย​ที่นั่น​ได้​บ้าง’ ทูตสวรรค์​องค์​หนึ่ง​แนะนำ​อย่างหนึ่ง และ​อีก​องค์​หนึ่ง​ก็​แนะนำ​อีก​อย่างหนึ่ง ใน​ที่สุด​วิญญาณ​องค์​หนึ่ง​ก็​ก้าว​ออก​มา​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ และ​พูด​ว่า ‘ข้าพเจ้า​จะ​ไป​ล่อลวง​เขาเอง’ พระยาห์เวห์​ถาม​เขา​ว่า ‘ด้วย​วิธี​ไหน​หรือ’ เขา​ตอบ​ว่า ‘เรา​จะ​ออก​ไป​และ​ไป​เป็น​วิญญาณ​ที่​หลอกลวง​อยู่​ที่​ปาก​ของ​พวกผู้พูดแทน​พระเจ้า​ทั้งหมด​ของ​เขา’ พระยาห์เวห์​ตอบ​ว่า ‘เจ้า​จะ​ล่อลวง​เขา​ได้​สำเร็จ​แน่ ไป​ลงมือเถิด’ ดังนั้น ใน​ตอนนี้​พระยาห์เวห์​ได้​มา​วาง​วิญญาณ​ที่​หลอกลวง​อยู่​ที่​ปาก​ของ​ผู้พูดแทน​พระเจ้า​ทั้งหมด​นี้แล้ว พระยาห์เวห์​ได้​สั่ง​ให้​เรื่อง​ร้ายๆ​เกิดขึ้น​กับ​ท่านแล้ว” แล้ว​เศเดคียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า ลูกชาย​ของ​เคนาอะนาห์ เข้ามา​ตบหน้า​มีคายาห์ เขา​ถาม​ว่า “จะ​เป็น​ไป​ได้​ยังไง ที่​พระวิญญาณ​ที่​มา​จาก​พระยาห์เวห์​จะ​จาก​ข้า​ไป เพื่อ​ไป​พูด​ผ่านแก” มีคายาห์​ตอบ​ว่า “ท่าน​จะ​รู้เอง​ใน​วัน​ที่​ท่าน​ไป​หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ห้อง​ด้าน​ในสุด” กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​ได้​สั่ง​ไป​ว่า “จับ​ตัว​มีคายาห์​ส่ง​กลับ​ไป​ให้​กับ​อาโมน​เจ้าเมือง​และ​โยอาช​ลูกชาย​ของเรา และ​บอก​กับ​พวกเขา​ว่า ‘กษัตริย์​สั่ง​ว่า ให้​เอา​ตัว​เจ้า​หมอนี่​ไป​ขังไว้​ใน​คุก​และ​อย่า​ให้​อะไร​กับ​มัน นอกจาก​ขนมปัง​และ​น้ำ จน​กว่า​เรา​จะ​กลับ​มา​อย่าง​ปลอดภัย’” มีคายาห์​ประกาศ​ไป​ว่า “ประชาชน​ทั้งหลาย ฟัง​ให้ดี ถ้า​อาหับ​กลับ​มา​อย่าง​ปลอดภัย ก็​แสดง​ว่า​พระยาห์เวห์​ไม่ได้​พูด​ผ่านเรา” กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​และ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ของ​ยูดาห์​จึง​ยก​ขึ้น​ไป​สู้รบ​กับ​ชาว​อารัม​ที่​เมือง​ราโมท-กิเลอาด กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​พูด​กับ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ว่า “เรา​จะ​ปลอมตัว​เข้า​ไป​รบ แต่​ท่าน​สวม​เสื้อ​กษัตริย์​ของ​ท่าน” กษัตริย์​อาหับ​ของ​อิสราเอล​จึง​ปลอมตัว​เป็น​ทหาร​ธรรมดา​และ​เข้า​ไป​สู้รบ ใน​ขณะนั้น​กษัตริย์​ของ​ชาว​อารัม​สั่ง​พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​ทั้ง​สามสิบสอง​คัน​ของเขา​ว่า “อย่า​ไล่​ตาม​ใครไป ไม่​ว่า​จะ​เล็ก​หรือ​ใหญ่ ยกเว้น​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​เท่านั้น” เมื่อ​พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​เห็น​เยโฮชาฟัท พวก​เขา​พูด​ว่า “เขา​ต้อง​เป็น​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​แน่ๆ” พวก​เขา​จึง​ได้​หัน​ไป​สู้​กับ​เยโฮชาฟัท แต่​เมื่อ​เยโอชาฟัท​ร้อง​ออก​มา พวก​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​รถรบ​จึง​รู้​ว่า​เขา​ไม่ใช่​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล จึง​หยุด​ไล่ตาม​เขา​ไป แต่​มี​คน​หนึ่ง​โก่ง​คัน​ธนู​ของ​เขา​ยิง​ออก​ไป​แบบ​สุ่มๆ ลูกธนู​ไป​ถูก​กษัตริย์​ของ​อิสราเอล​เข้า​ตรง​ช่อง​ว่าง​ของ​เสื้อ​เกราะ กษัตริย์​บอก​กับ​คน​ขับ​รถรบ​ของ​เขา​ว่า “กลับ​รถ​ไป​และ​พา​เรา​ออก​จาก​สนาม​รบ เรา​ได้รับ​บาดเจ็บ” การ​ต่อสู้นั้น​ดุเดือด​และ​กิน​เวลา​ยาวนาน กษัตริย์​ยืน​พิง​อยู่​ใน​รถรบ​และ​เผชิญหน้า​กับ​ชาว​อารัม เลือด​ของ​เขา​ไหล​จาก​บาดแผล​ลง​ที่​พื้น​รถรบ และ​ใน​ตอน​เย็น​วันนั้นเอง​เขา​ก็ตาย เมื่อ​อาทิตย์​กำลัง​จะ​ตก​ดิน ก็​มี​เสียง​ร้อง​ไป​ทั่ว​กองทัพ​ว่า “ให้​ทุก​คน​กลับ​เข้า​เมือง​ของ​ตัวเอง ทุกคน​กลับ​สู่​แผ่นดิน​ของ​ตัวเอง​ให้​หมด” กษัตริย์​อาหับ​จึง​ตายไป​และ​ถูก​นำ​ศพ​มา​ที่​เมือง​สะมาเรีย และ​พวก​เขา​ก็​ฝังศพ​เขา​ไว้​ที่​นั่น พวกเขา​ล้าง​รถรบ​ใน​สระ​น้ำ​ใน​เมือง​สะมาเรีย (เป็น​ที่​ที่​พวก​โสเภณี​ใช้​อาบน้ำ​กัน) และ​ก็​มี​หมา​หลาย​ตัว​มา​เลีย​เลือด​ของ​เขา​ซึ่ง​เป็น​ไป​ตาม​คำพูด​ของ​พระยาห์เวห์​ที่​เคย​ประกาศไว้ ส่วน​เหตุการณ์​อื่นๆ​ใน​สมัย​ของ​กษัตริย์​อาหับ รวมทั้ง​สิ่ง​ต่างๆ​ที่​เขา​ได้ทำไป วัง​ที่​เขา​ได้​สร้าง​และ​ฝัง​งา​ช้างไว้ และ​เมือง​ต่างๆ​ที่​เขา​สร้างขึ้น​เป็น​ป้อม ได้​จดบันทึก​ไว้​แล้ว​ใน​หนังสือ​ประวัติ​ของ​บรรดา​กษัตริย์​แห่งอิสราเอล กษัตริย์​อาหับ​ตาย​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา และ​อาหัสยาห์​ลูกชาย​ของ​เขา​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​สืบต่อ​จากเขา เยโฮชาฟัท​ลูกชาย​ของ​อาสา​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​ของ​ยูดาห์ ตรง​กับ​ปี​ที่สี่​ที่​กษัตริย์​อาหับ​ปกครอง​อิสราเอล เยโฮชาฟัท​มี​อายุ​สามสิบห้า​ปี​เมื่อ​เขา​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์ และ​เขา​ครอง​บัลลังก์​อยู่​เหนือ​เยรูซาเล็ม​เป็น​เวลา​ยี่สิบห้า​ปี แม่​ของ​เขา​มี​ชื่อ​ว่า​อาซูบาห์​เป็น​ลูกสาว​ของ​ชิลหิ เขา​เดิน​ตาม​รอย​ของ​อาสา​พ่อ​ของ​เขา และ​ไม่​ได้​หัน​ไป​จาก​ทางนั้น​เลย เขา​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​ใน​สายตา​ของ​พระยาห์เวห์ แต่​พวก​สถานที่​นมัสการ​ต่างๆ​ก็​ไม่​ได้​ถูก​รื้อทิ้ง และ​ประชาชน​ก็​ยัง​คง​ถวาย​เครื่อง​สัตวบูชา และ​เผา​เครื่อง​หอม อยู่​ที่นั่น กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ทำ​สัญญา​ไมตรี​กับ​กษัตริย์​ของ​อิสราเอลด้วย ส่วน​เหตุการณ์​อื่นๆ​ใน​สมัย​ของ​เยโฮชาฟัท รวมถึง​อำนาจ​ของ​เขา และ​ความ​กล้าหาญ​ใน​การ​สู้รบ​ของ​เขา ได้​จดบันทึก​ไว้​แล้ว​ใน​หนังสือ​ประวัติ​ของ​บรรดา​กษัตริย์​แห่งยูดาห์ เขา​กำจัด​พวก​ผู้ชาย​ขายตัว​ที่​อยู่​ตาม​ศาลเจ้า พวก​ที่​ยัง​หลงเหลือ​อยู่​จาก​สมัย​ของ​อาสา​พ่อ​ของเขา ให้​หมด​ไป​จาก​แผ่นดิน ใน​สมัยนั้น​เอโดม​ไม่​มี​กษัตริย์​ปกครอง มี​แต่​ผู้ว่า​ราชการ​ที่​กษัตริย์​ยูดาห์​เลือก​มา​ให้​ปกครอง​เท่านั้น ใน​เวลานั้น​เยโฮชาฟัท​สร้าง​เรือ​กำปั่น​สินค้า​ขึ้น เพื่อ​ไป​ขน​ทองคำ​มา​จาก​เมือง​โอฟีร์ แต่​พวก​มัน​ก็​ไป​ไม่​ถึง​เพราะ​ไป​แตก​ที่​เมือง​เอซีโอน-เกเบอร์​เสียก่อน แล้ว​กษัตริย์​อาหัสยาห์​ลูกชาย​ของ​กษัตริย์​อาหับ​ได้​เสนอ​ความ​ช่วยเหลือ​กับ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​ว่า “ให้​คน​ของ​เรา​แล่น​เรือ​ไป​กับ​คน​ของ​ท่านสิ” แต่​เยโฮชาฟัท​ปฏิเสธ เยโฮชาฟัท​ล่วงลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​เขา​และ​ถูก​ฝัง​อยู่​กับ​พวก​เขา​ใน​เมือง​ของ​ดาวิด ที่​เป็น​บรรพบุรุษ​ของ​เขา และ​เยโฮรัม​ลูกชาย​ของ​เขา​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​สืบต่อ​จากเขา อาหัสยาห์​ลูกชาย​ของ​อาหับ​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ใน​เมือง​สะมาเรีย ตรง​กับ​ปี​ที่​สิบเจ็ด​ของ​กษัตริย์​เยโฮชาฟัท​แห่ง​ยูดาห์ และ​อาหัสยาห์​ปกครอง​อยู่​เหนือ​อิสราเอล​เป็น​เวลา​สองปี เขา​ทำ​ความชั่ว​ใน​สายตา​ของ​พระยาห์เวห์ เพราะ​เขา​เดินตาม​รอย​พ่อ​แม่​ของ​เขา​และ​ตาม​รอย​ของ​เยโรโบอัม​ลูกชาย​ของ​เนบัท ผู้​เป็น​ต้นเหตุ​ทำ​ให้​อิสราเอล​พลอย​หลง​ไป​ทำบาป อาหัสยาห์​ไป​รับใช้​และ​กราบไหว้​บูชา​พระ​บาอัล เป็น​การ​ยั่ว​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอลโกรธ เหมือน​กับ​ที่​พ่อ​ของ​เขา​เคย​ทำมา