กษัตริย์อาหับของอิสราเอลจึงเรียกเจ้าหน้าที่ของเขามาคนหนึ่งและพูดว่า “เร็วเข้า ไปพามีคายาห์ลูกชายของอิมลาห์มาที่นี่” กษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ แต่งตัวด้วยชุดกษัตริย์เต็มยศ กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของพวกเขาที่ลานนวดข้าว ตรงทางเข้าประตูเมืองสะมาเรีย พร้อมกับพวกผู้พูดแทนพระเจ้าทุกคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา ที่กำลังอ้างว่าพูดแทนพระเจ้าอยู่ ขณะนั้น ผู้พูดแทนพระเจ้าคนหนึ่ง ชื่อเศเดคียาห์ลูกชายเคนาอะนาห์ได้เอาเหล็กทำเป็นเขาสัตว์ เขาประกาศว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด ‘พวกเจ้าจะใช้เขาสัตว์เหล็กนี้แทงพวกอารัม จนกว่าพวกนั้นจะถูกทำลายจนหมด’” ผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหมดต่างก็ทำนายในสิ่งเดียวกัน พวกเขาพูดว่า “ขึ้นไปที่ราโมท-กิเลอาดและได้รับชัยชนะเถิด เพราะพระยาห์เวห์จะให้มันตกอยู่ในกำมือของกษัตริย์” คนส่งข่าวที่ส่งไปเรียกตัวมีคายาห์พูดกับเขาว่า “ดูสิ ผู้พูดแทนพระเจ้าคนอื่นๆกำลังทำนายความสำเร็จของกษัตริย์อยู่ ขอให้คำพูดของท่านเหมือนกับคำพูดของพวกเขาและพูดแต่สิ่งดีๆด้วยเถิด” แต่มีคายาห์ตอบไปว่า “พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะพูดแต่สิ่งที่พระยาห์เวห์บอกเราเท่านั้น” เมื่อมีคายาห์มาถึง กษัตริย์ถามเขาว่า “มีคายาห์ พวกเราควรจะขึ้นไปรบกับชาวอารัมที่ราโมท-กิเลอาดหรือเปล่า” เขาตอบว่า “ไปรบเถิด แล้วจะได้รับชัยชนะกลับมา เพราะพระยาห์เวห์จะให้มันตกอยู่ในกำมือของกษัตริย์” กษัตริย์พูดกับเขาว่า “เราให้เจ้าสาบานไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ว่าให้เจ้าพูดแต่ความจริงกับเรา ในนามของพระยาห์เวห์” มีคายาห์จึงตอบว่า “เราเห็นอิสราเอลทั้งหมดกระจัดกระจายอยู่ตามเนินเขาเหมือนกับแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง และพระยาห์เวห์พูดว่า ‘ประชาชนเหล่านี้ไม่มีผู้นำแล้ว ปล่อยให้พวกเขากลับไปบ้านอย่างสันติเถิด’” กษัตริย์อาหับของอิสราเอลบอกกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “เห็นไหม เราบอกท่านแล้ว ว่าเขาไม่เคยทำนายสิ่งดีๆเกี่ยวกับเราเลย มีแต่คำทำนายที่ร้ายๆเสมอ” มีคายาห์พูดต่อไปว่า “ฟังคำของพระยาห์เวห์ให้ดี ข้าพเจ้าเห็นพระยาห์เวห์นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับกองทัพสวรรค์ทั้งหมดที่ยืนอยู่รอบๆพระองค์ทั้งด้านขวาและด้านซ้ายของพระองค์ และพระยาห์เวห์พูดว่า ‘ใครจะล่อลวงอาหับให้ไปโจมตีชาวอารัมที่ราโมท-กิเลอาดและไปตายที่นั่นได้บ้าง’ ทูตสวรรค์องค์หนึ่งแนะนำอย่างหนึ่ง และอีกองค์หนึ่งก็แนะนำอีกอย่างหนึ่ง ในที่สุดวิญญาณองค์หนึ่งก็ก้าวออกมายืนอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ และพูดว่า ‘ข้าพเจ้าจะไปล่อลวงเขาเอง’ พระยาห์เวห์ถามเขาว่า ‘ด้วยวิธีไหนหรือ’ เขาตอบว่า ‘เราจะออกไปและไปเป็นวิญญาณที่หลอกลวงอยู่ที่ปากของพวกผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหมดของเขา’ พระยาห์เวห์ตอบว่า ‘เจ้าจะล่อลวงเขาได้สำเร็จแน่ ไปลงมือเถิด’ ดังนั้น ในตอนนี้พระยาห์เวห์ได้มาวางวิญญาณที่หลอกลวงอยู่ที่ปากของผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหมดนี้แล้ว พระยาห์เวห์ได้สั่งให้เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับท่านแล้ว” แล้วเศเดคียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ลูกชายของเคนาอะนาห์ เข้ามาตบหน้ามีคายาห์ เขาถามว่า “จะเป็นไปได้ยังไง ที่พระวิญญาณที่มาจากพระยาห์เวห์จะจากข้าไป เพื่อไปพูดผ่านแก” มีคายาห์ตอบว่า “ท่านจะรู้เองในวันที่ท่านไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องด้านในสุด” กษัตริย์อาหับของอิสราเอลได้สั่งไปว่า “จับตัวมีคายาห์ส่งกลับไปให้กับอาโมนเจ้าเมืองและโยอาชลูกชายของเรา และบอกกับพวกเขาว่า ‘กษัตริย์สั่งว่า ให้เอาตัวเจ้าหมอนี่ไปขังไว้ในคุกและอย่าให้อะไรกับมัน นอกจากขนมปังและน้ำ จนกว่าเราจะกลับมาอย่างปลอดภัย’” มีคายาห์ประกาศไปว่า “ประชาชนทั้งหลาย ฟังให้ดี ถ้าอาหับกลับมาอย่างปลอดภัย ก็แสดงว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้พูดผ่านเรา” กษัตริย์อาหับของอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทของยูดาห์จึงยกขึ้นไปสู้รบกับชาวอารัมที่เมืองราโมท-กิเลอาด กษัตริย์อาหับของอิสราเอลพูดกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “เราจะปลอมตัวเข้าไปรบ แต่ท่านสวมเสื้อกษัตริย์ของท่าน” กษัตริย์อาหับของอิสราเอลจึงปลอมตัวเป็นทหารธรรมดาและเข้าไปสู้รบ ในขณะนั้นกษัตริย์ของชาวอารัมสั่งพวกผู้บัญชาการกองทัพรถรบทั้งสามสิบสองคันของเขาว่า “อย่าไล่ตามใครไป ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ยกเว้นกษัตริย์ของอิสราเอลเท่านั้น” เมื่อพวกผู้บัญชาการกองทัพรถรบเห็นเยโฮชาฟัท พวกเขาพูดว่า “เขาต้องเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลแน่ๆ” พวกเขาจึงได้หันไปสู้กับเยโฮชาฟัท แต่เมื่อเยโอชาฟัทร้องออกมา พวกผู้บัญชาการกองทัพรถรบจึงรู้ว่าเขาไม่ใช่กษัตริย์ของอิสราเอล จึงหยุดไล่ตามเขาไป แต่มีคนหนึ่งโก่งคันธนูของเขายิงออกไปแบบสุ่มๆ ลูกธนูไปถูกกษัตริย์ของอิสราเอลเข้าตรงช่องว่างของเสื้อเกราะ กษัตริย์บอกกับคนขับรถรบของเขาว่า “กลับรถไปและพาเราออกจากสนามรบ เราได้รับบาดเจ็บ” การต่อสู้นั้นดุเดือดและกินเวลายาวนาน กษัตริย์ยืนพิงอยู่ในรถรบและเผชิญหน้ากับชาวอารัม เลือดของเขาไหลจากบาดแผลลงที่พื้นรถรบ และในตอนเย็นวันนั้นเองเขาก็ตาย เมื่ออาทิตย์กำลังจะตกดิน ก็มีเสียงร้องไปทั่วกองทัพว่า “ให้ทุกคนกลับเข้าเมืองของตัวเอง ทุกคนกลับสู่แผ่นดินของตัวเองให้หมด” กษัตริย์อาหับจึงตายไปและถูกนำศพมาที่เมืองสะมาเรีย และพวกเขาก็ฝังศพเขาไว้ที่นั่น พวกเขาล้างรถรบในสระน้ำในเมืองสะมาเรีย (เป็นที่ที่พวกโสเภณีใช้อาบน้ำกัน) และก็มีหมาหลายตัวมาเลียเลือดของเขาซึ่งเป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่เคยประกาศไว้ ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในสมัยของกษัตริย์อาหับ รวมทั้งสิ่งต่างๆที่เขาได้ทำไป วังที่เขาได้สร้างและฝังงาช้างไว้ และเมืองต่างๆที่เขาสร้างขึ้นเป็นป้อม ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล กษัตริย์อาหับตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และอาหัสยาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา เยโฮชาฟัทลูกชายของอาสาขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่สี่ที่กษัตริย์อาหับปกครองอิสราเอล เยโฮชาฟัทมีอายุสามสิบห้าปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่เหนือเยรูซาเล็มเป็นเวลายี่สิบห้าปี แม่ของเขามีชื่อว่าอาซูบาห์เป็นลูกสาวของชิลหิ เขาเดินตามรอยของอาสาพ่อของเขา และไม่ได้หันไปจากทางนั้นเลย เขาทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ แต่พวกสถานที่นมัสการต่างๆก็ไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง และประชาชนก็ยังคงถวายเครื่องสัตวบูชา และเผาเครื่องหอม อยู่ที่นั่น กษัตริย์เยโฮชาฟัททำสัญญาไมตรีกับกษัตริย์ของอิสราเอลด้วย ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเยโฮชาฟัท รวมถึงอำนาจของเขา และความกล้าหาญในการสู้รบของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ เขากำจัดพวกผู้ชายขายตัวที่อยู่ตามศาลเจ้า พวกที่ยังหลงเหลืออยู่จากสมัยของอาสาพ่อของเขา ให้หมดไปจากแผ่นดิน ในสมัยนั้นเอโดมไม่มีกษัตริย์ปกครอง มีแต่ผู้ว่าราชการที่กษัตริย์ยูดาห์เลือกมาให้ปกครองเท่านั้น ในเวลานั้นเยโฮชาฟัทสร้างเรือกำปั่นสินค้าขึ้น เพื่อไปขนทองคำมาจากเมืองโอฟีร์ แต่พวกมันก็ไปไม่ถึงเพราะไปแตกที่เมืองเอซีโอน-เกเบอร์เสียก่อน แล้วกษัตริย์อาหัสยาห์ลูกชายของกษัตริย์อาหับได้เสนอความช่วยเหลือกับกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “ให้คนของเราแล่นเรือไปกับคนของท่านสิ” แต่เยโฮชาฟัทปฏิเสธ เยโฮชาฟัทล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด ที่เป็นบรรพบุรุษของเขา และเยโฮรัมลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา อาหัสยาห์ลูกชายของอาหับขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่สิบเจ็ดของกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ และอาหัสยาห์ปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลาสองปี เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เพราะเขาเดินตามรอยพ่อแม่ของเขาและตามรอยของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ผู้เป็นต้นเหตุทำให้อิสราเอลพลอยหลงไปทำบาป อาหัสยาห์ไปรับใช้และกราบไหว้บูชาพระบาอัล เป็นการยั่วให้พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลโกรธ เหมือนกับที่พ่อของเขาเคยทำมา
อ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 22
แบ่งปัน
เปรียบเทียบพระคัมภีร์ทั้งหมด: 1 พงศ์กษัตริย์ 22:9-53
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่านต่างๆ
วิดีโอ