ลูกเอ๋ย หากเจ้าไปค้ำประกันหนี้ให้กับเพื่อนบ้านของเจ้า คือไปจับมือรับปากประกันหนี้ให้กับคนอื่น เจ้าได้ตกหลุมพรางแล้วที่ไปรับปากเขาอย่างนั้น คำพูดของเจ้าทำให้เจ้าติดกับดักแล้ว ลูกเอ๋ย ให้เจ้าทำอย่างนี้ เพื่อเจ้าจะได้รอดตัวไปจากเรื่องนี้ ให้ไปหาเพื่อนบ้านคนนั้นอย่างถ่อมสุภาพ และขอร้องเพื่อนบ้านคนนั้นของเจ้า เพราะเจ้าตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว อย่าได้นอนตาหลับ หรือปล่อยให้หนังตาปรือ เอาตัวรอดไว้ก่อน เหมือนกับกวางที่หนีจากนายพราน หรือเหมือนกับนกที่หนีจากเงื้อมมือของนายพรานล่านก เจ้าคนขี้เกียจ ไปดูมดไป ไปดูชีวิตของมันซะ จะได้ฉลาดขึ้น มดไม่มีผู้สั่งการ ไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปกครอง แต่มันหาอาหารในช่วงฤดูร้อน และเก็บสะสมในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เจ้าคนขี้เกียจ เจ้าจะนอนอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่เจ้าถึงจะลุกขึ้นจากที่นอน คนเกียจคร้านพูดว่า “ขอนอนอีกสักงีบ ขอพักอีกสักหน่อย ขอนอนกอดอกอีกสักนิด” แล้วเมื่อนั้น ความยากจนก็จะจู่โจมเข้าใส่เจ้าเหมือนกับโจรบุกปล้น และความอดอยากก็จะจู่โจมเข้ามาเหมือนนักรบ คนชอบก่อเรื่อง คือคนชั่วร้ายที่ชอบพูดโกหกไปทั่ว พร้อมทั้งขยิบหูหยิบตา ส่งสัญญาณด้วยมือและเท้า เขาก่อการทะเลาะวิวาทอยู่เสมอ ด้วยจิตใจคดโกงที่วางแผนการชั่วร้าย ดังนั้น ความหายนะจะเกิดขึ้นกับเขาทันทีทันใด และเขาจะถูกทำลายอย่างย่อยยับภายในพริบตา เกินกว่าที่จะเยียวยารักษาได้ มีหกสิ่งที่พระยาห์เวห์เกลียดชัง อันที่จริงมีเจ็ดสิ่งที่พระองค์สะอิดสะเอียน คือดวงตาที่หยิ่งยโส ลิ้นที่พูดโกหก มือที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ จิตใจที่คิดแผนการชั่วร้าย เท้าที่รีบวิ่งไปทำความชั่ว อีกทั้งพยานเท็จที่พูดโกหก และคนที่ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันในหมู่พี่น้อง
อ่าน สุภาษิต 6
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: สุภาษิต 6:1-19
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ