2 ซามูเอล 2:6-32

2 ซามูเอล 2:6-32 TH1971

บัดนี้ขอพระเจ้าทรงสำแดงความรักมั่นคง และความเที่ยงธรรมแก่ท่าน และข้าพเจ้าจะกระทำความดีต่อท่านทั้งหลาย เพราะท่านได้กระทำการนี้ เพราะฉะนั้น ขอให้มือของท่านทั้งหลายเข้มแข็ง และขอให้ท่านกล้าหาญเถิด เพราะว่าซาอูลเจ้านายของท่านสิ้นพระชนม์เสียแล้ว และพงศ์พันธุ์ยูดาห์ได้เจิมตั้งข้าพเจ้าไว้เป็นกษัตริย์ เหนือเขาทั้งหลาย>> ฝ่ายอับเนอร์บุตรเนอร์แม่ทัพของกองทัพซาอูลได้พา อิชโบเชทราชโอรสของซาอูลข้ามไปที่เมืองมาหะนาอิม และได้สถาปนาท่านให้เป็นกษัตริย์เหนือ เมืองกิเลอาดและคนอาชูร์ และคนยิสเรเอล และคนเอฟราอิม และคนเบนยามิน และคนอิสราเอลทั้งหมด เมื่ออิชโบเชทราชบุตร ของซาอูลเริ่มปกครองเหนืออิสราเอลนั้น มีพระชนมายุสี่สิบปี ทรงครอบครองอยู่สองปี แต่พงศ์พันธุ์ยูดาห์ก็ติดตามดาวิด เวลาที่ดาวิดทรงเป็น กษัตริย์เหนือพงศ์พันธุ์ยูดาห์ในเฮโบรนนั้นเป็นจำนวนเจ็ดปีกับหกเดือน อับเนอร์บุตรเนอร์ และพวกข้าราชการทหารของอิชโบเชทราชบุตรของซาอูล ได้ออกจากมาหะนาอิมไปยังเมืองกิเบโอน และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์กับพวกข้าราชการ ทหารของดาวิด ก็ออกไปพบกับเขาที่สระเมืองกิเบโอนและเขา ทั้งหลายก็นั่งอยู่ที่ขอบสระ พวกหนึ่งอยู่ที่ขอบสระข้างนี้อีกพวกหนึ่งข้างโน้น อับเนอร์จึงพูดกับโยอาบว่า <<ขอให้พวกคนหนุ่มลุกขึ้นรบเล่นกันให้เราดูเถิด>> และโยอาบตอบว่า <<ให้เขาลุกขึ้นเล่นซี>> เขาก็ลุกขึ้นไปตามที่นับไว้ ฝ่ายเบนยามินและฝ่ายอิชโบเชทราชโอรสของ ซาอูลมีสิบสองคน และข้าราชการทหารของดาวิดก็มีสิบสองคน ต่างก็จับศีรษะคู่ต่อสู้ และปักดาบเข้าที่สีข้างของคู่ต่อสู้ล้มตายด้วยกันหมด เขาจึงเรียกที่นั่นว่าเฮลขัทฮัสซูริมซึ่งอยู่ในกิเบโอน การสู้รบในวันนั้นดุเดือดยิ่งนัก อับเนอร์และพวกคนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่อข้าราชการทหารของดาวิด บุตรทั้งสามของนางเศรุยาห์ก็อยู่ที่นั่นคือ โยอาบ อาบีชัย และอาสาเฮล ฝ่ายอาสาเฮลนั้นฝีเท้าเร็วอย่างกับละมั่ง และอาสาเฮลก็ไล่ตามอับเนอร์ไป เมื่อตามไปนั้นก็มิได้เลี้ยวทางขวามือ หรือทางซ้ายมือจากการไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์เหลียวมาดูจึงพูดว่า <<นั่นอาสาเฮลหรือ>> เขาตอบว่า <<ข้าเอง>> อับเนอร์จึงบอกเขาว่า <<จงเลี้ยวไปทางขวาหรือทางซ้าย และจับเอาคนหนุ่มคนใดคนหนึ่ง แล้วก็ริบเอาของของเขาไป>> แต่อาสาเฮลไม่เลี้ยวจากไล่ตามอับเนอร์ อับเนอร์จึงบอกอาสาเฮลอีกครั้งหนึ่งว่า <<จงหันกลับจากตามข้าเสียเถิด จะให้ข้าฟาดเจ้าให้ล้มลงดินทำไมเล่า แล้วข้าจะเงยหน้าขึ้นดูโยอาบพี่ของเจ้าได้อย่างไร>> แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ยอมหันกลับ เพราะฉะนั้น อับเนอร์ก็เอาโคนหอกแทงท้องอาสาเฮล หอกก็ทะลุออกข้างหลังของเขา เขาก็ล้มลงตายอยู่ที่นั่น และทุกคนซึ่งมาเห็นที่ที่อาสาเฮลล้มตายอยู่ก็ยืนนิ่ง แต่โยอาบกับอาบีชัยไล่ตามอับเนอร์ไป ดวงอาทิตย์ก็ตกเมื่อเขามาถึงเนินเขาอัมมาห์ ซึ่งอยู่ตรงกียาห์ตามทางที่จะไปถิ่นทุรกันดารเมืองกิเบโอน และคนเบนยามินก็รวมกันตามอับเนอร์ไป เป็นกลุ่มเดียวกันตั้งอยู่ที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง แล้วอับเนอร์ร้องถามโยอาบว่า <<จะให้ดาบกินเรื่อยไปหรือ ท่านไม่ทราบหรือว่าตอนปลายมือก็ขม อีกนานสักเท่าใดท่านจึงจะสั่งคน ของท่านให้หยุดไล่ตามพี่น้องของเขา>> และโยอาบจึงกล่าวว่า <<พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าท่านไม่พูดขึ้นพวกทหารก็จะ เลิกไล่ตามพวกพี่น้องของเขาพรุ่งนี้เช้า>> โยอาบจึงเป่าเขาสัตว์ขึ้น คนทั้งปวงก็หยุดไม่ไล่ตามอิสราเอลอีก และไม่สู้รบกันอีก อับเนอร์กับคนของท่านก็เดินทางตลอดคืนนั้นในอาราบาห์ เขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเดินไปตามหุบเขาบิทโรน เขาก็มาถึงมาหะนาอิม โยอาบก็กลับจากไล่ตามอับเนอร์ และเมื่อท่านรวบรวมพลเข้าด้วยกันแล้ว ข้าราชการทหารของดาวิดก็ขาดไป สิบเก้าคนไม่นับอาสาเฮล แต่ข้าราชการทหารของดาวิดได้ฆ่าคน เบนยามินและคนของอับเนอร์ตายไปสามร้อยหกสิบคน และเขาก็ยกศพอาสาเฮลไปฝังไว้ในอุโมงค์บิดาของเขา ซึ่งอยู่ที่เมืองเบธเลเฮม โยอาบและคนของท่านก็ เดินทางตลอดคืนไปสว่างที่เมืองเฮโบรน