เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

“ฟ้าเอ๋ย ช่วย​ฟัง​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​จะ​พูด แผ่นดินเอ๋ย ช่วย​ฟัง​คำพูด​จาก​ปาก​ข้าพเจ้า คำสอน​ข้าพเจ้า จะ​ตกลง​มา​เหมือน​ฝน คำพูด​ข้าพเจ้า จะ​ลง​มา​เหมือน​หมอก เหมือน​สายฝน​พรำๆ​บน​หญ้าอ่อน เหมือน​หยาดฝน​บน​พืช​เกิด​ใหม่ เพราะ​ข้าพเจ้า​จะ​ประกาศ​ชื่อ​ของ​พระยาห์เวห์ สรรเสริญ​ความ​ยิ่งใหญ่​ของ​พระเจ้า​ของ​เรา พระศิลา งาน​ของ​พระองค์​สมบูรณ์แบบ​ยิ่งนัก ทาง​ทุกทาง​ของ​พระองค์​ถูกต้อง พระเจ้า​ซื่อสัตย์ พระองค์​ไม่​เคย​ทำ​ผิด พระเจ้า​เที่ยงตรง พระองค์​ไว้วางใจ​ได้ พวกเจ้า​ไม่​ได้​เป็น​ลูกหลาน​ของ​พระองค์ เพราะ​ความผิด​ของ​พวกเจ้า พวกเจ้า​ได้​ทำ​ผิด​ต่อ​พระองค์ พวกคน​หลอกลวง​และ​เจ้าเล่ห์ พวกเจ้า​จะ​ตอบแทน​พระยาห์เวห์​ด้วย​วิธีนี้​หรือ พวก​คนโง่​และ​ไร้สาระ พระองค์​ไม่ใช่​พ่อ​ของ​เจ้า​ผู้ที่​สร้าง​เจ้า​มา​หรือ พระองค์​ไม่ใช่​ผู้ที่​สร้าง​เจ้า​และ​ทำให้​เจ้า​เกิด​มา​เป็น​ชนชาติ​หนึ่ง​หรือ จำ​วัน​เก่าๆ​เหล่านั้น​ไว้ คิดถึง​ปี​ที่​คน​รุ่น​ก่อนๆ​ได้​ผ่าน​มา ถาม​พ่อ​ของ​เจ้า​และ​เขา​จะ​บอก​เจ้า ถาม​ผู้นำ​อาวุโส​ของ​เจ้า​และ​พวกเขา​จะ​บอก​เจ้า​เกี่ยวกับ​อดีต เมื่อ​พระเจ้า​ผู้สูงสุด​แบ่ง​ชนชาติ​ออก เมื่อ​พระองค์​แบ่ง​แยก​เชื้อชาติ​มนุษย์ พระองค์​กำหนด​เขตแดน​ของ​ประชาชน ให้​เท่าเทียม​กับ​จำนวน​ทูตสวรรค์​ที่​มี​อยู่ แต่​ส่วนแบ่ง​ของ​พระยาห์เวห์​คือ​ประชาชน​ของ​พระองค์ ยาโคบ​คือ​ส่วนแบ่ง​ของ​พระองค์ พระองค์​พบ​เขา​ใน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง ใน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง​ที่​ร้าง และ​ลม​แรง พระองค์​อยู่​รอบๆ​ตัว​เขา​และ​ดูแล​เขา พระองค์​ปกป้อง​เขา​เหมือน​แก้วตา​ของ​พระองค์ เหมือน​นก​อินทรี​ที่​คอย​ขยับ​รัง ของ​มัน และ​บิน​โฉบ​ไป​ที่​ลูก​ของ​มัน ดัง​นั้น พระยาห์เวห์​กาง​ปีก​ของ​พระองค์​ออก​และ​จับ​พวกเขา​ไว้ และ​แบก​พวกเขา​ไว้​บน​ปีก​ของ​พระองค์ พระยาห์เวห์​เท่านั้น​ที่​นำ​พวกเขา​ผ่าน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง ไม่​มี​พระ​อื่น​ใด​ที่​มา​ช่วย​พระองค์ พระองค์​ทำ​ให้​ยาโคบ​มี​อำนาจ​เหนือ​พื้นที่​ใน​แถบ​ภูเขา และ​เลี้ยง​เขา​ด้วย​พืชผล​ใน​ไร่นา พระองค์​ได้​ให้​เขา​ดูด​น้ำเชื่อม​ผลไม้​จาก​ก้อน​หิน และ​น้ำมัน​มะกอก​จาก​หิน​แข็ง พระยาห์เวห์​ได้​ให้​เนย​จาก​วัว​และ​นม​จาก​แพะ กับ​ไขมัน​จาก​ลูกแกะ​และ​แกะ​ตัวผู้ ฝูง​วัว​จาก​บาชาน​และ​แพะ​ตัวผู้​กับ​ข้าว​สาลี​ที่​ดี​ที่​สุด และ​พวกเจ้า​ได้​ดื่ม​เหล้าองุ่น​หมัก​เลือด​ของ​องุ่น แต่​เยชุรุน อ้วน​ขึ้น​และ​เริ่ม​เตะ​เจ้า​ของ เจ้า​เริ่ม​อ้วน หนา​และ​ตะกละ เยชุรูน​ทอดทิ้ง​พระเจ้า​ที่​สร้าง​เขา​ขึ้น​มา และ​เขา​ไม่​ให้​เกียรติ​พระศิลา​ที่​ช่วย​ชีวิต​เขา พวกเขา​ทำ​ให้​พระองค์​หึงหวง​ด้วย​พระ​แปลก​หน้า พวกเขา​ทำ​ให้​พระองค์​โกรธ​ด้วย​รูปเคารพ​ที่​น่า​รังเกียจ พวกเขา​บูชา​วิญญาณ​ที่​ไม่ใช่​พระเจ้า พวกเขา​บูชา​พระ​ที่​พวกเขา​ไม่​รู้จัก​มา​ก่อน เป็น​พระ​ใหม่ มา​ถึง​ไม่​นาน บรรพบุรุษ​ของ​เจ้า​ไม่​เคย​เคารพ​ยำเกรง​พระ​เหล่านั้น​มา​ก่อน เจ้า​ลืม​พระศิลา​ที่​ให้​กำเนิด​เจ้า เจ้า​ลืม​พระเจ้า​ที่​คลอด​เจ้า​มา​ด้วย​ความ​เจ็บปวด

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหู ข้าพเจ้าจะพูด ขอแผ่นดินโลกจงฟังถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างหยาดฝนอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือพรรณพืช เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระยาห์เวห์ จงถวายความยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าของเรา “พระศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ก็ยุติธรรม พระเจ้าผู้ทรงเที่ยงธรรมและปราศจากความอธรรม พระองค์ทรงยุติธรรมและทรงเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าต่อพระองค์ เขาจึงไม่ได้เป็นบุตรของพระองค์ต่อไป เพราะเขามีตำหนิ เขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่วิปริตและคดโกง ชนชาติโง่เขลาและเบาปัญญาเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระยาห์เวห์อย่างนี้หรือ? พระองค์ไม่ใช่พระบิดา ผู้ทรงสร้างท่าน ผู้ทรงสรรค์ท่าน และสถาปนาท่านไว้หรือ? จงระลึกถึงอดีตกาล จงตรองถึงจำนวนปีที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคน จงถามบิดาของท่าน แล้วเขาจะบอกท่าน จงถามพวกผู้อาวุโสของท่าน แล้วเขาจะตอบท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ พระองค์ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระยาห์เวห์คือประชากรของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์ “พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่ร้างเปล่าวังเวง พระองค์ทรงโอบล้อมเขา และทรงดูแลเขา ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกเหนือลูกนก กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระยาห์เวห์องค์เดียวทรงนำเขา ไม่มีพระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์ทรงให้เขาขี่ไปบนที่สูงของโลก ให้เขาบริโภคพืชผลที่ได้จากนา พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา และน้ำมันจากหินแข็ง ให้ได้นมข้นจากโคและน้ำนมจากแพะแกะ ได้ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้พันธุ์บาชานและจากแพะ กับข้าวสาลีอย่างดีที่สุด และจากเลือดขององุ่น ท่านได้ดื่มเหล้าองุ่น “แต่เยชูรูนอ้วนขึ้นแล้วมีพยศ เจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่ม แล้วเขาได้ทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามา และดูหมิ่นพระศิลาแห่งความรอดของเขา เขาทำให้พระองค์ทรงหวงแหนด้วยพระต่างด้าว เขายั่วยุให้พระองค์กริ้วด้วยสิ่งน่ารังเกียจทั้งหลาย เขาบูชาพวกปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว ท่านไม่ใส่ใจในพระศิลาที่ให้กำเนิดท่าน ท่านลืมพระเจ้าซึ่งให้ท่านเกิดมา

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

“​โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหู​ฟัง ข้าพเจ้าจะพูด โอ พิภพโลก ขอจงสดับถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้​คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างฝนตกปรอยๆอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือผักสด เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระเยโฮวาห์ จงถวายความยิ่งใหญ่​แด่​พระเจ้าของเรา พระองค์​ทรงเป็นศิ​ลา พระราชกิจของพระองค์​ก็​สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งหลายของพระองค์​ก็​ยุติธรรม พระเจ้าที่​เท​ี่ยงธรรมและปราศจากความชั่วช้า พระองค์​ทรงยุ​ติ​ธรรมและเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าแล้ว ตำหนิ​ของเขาทั้งหลายหาใช่เป็นตำหนิของบุตรของพระองค์ เขาเป็นยุควิปลาสและคดโกง โอ ชนชาติ​โฉดเขลาและเบาความเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระเยโฮวาห์​อย่างนี้​ละหรือ พระองค์​มิใช่​พระบิดา ผู้​ทรงไถ่ท่านไว้ดอกหรือ ผู้​ทรงสรรค์​ท่าน และตั้งท่านไว้​แล้ว จงระลึกถึงโบราณกาล จงพิจารณาถึงจำนวนปี​ที่​ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้​วน​ั้น จงถามบิดาของท่าน แล​้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ จงถามพวกผู้​ใหญ่​ของท่าน แล​้วเขาจะบอกท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกลูกหลานของอาดัม พระองค์​ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลายตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระเยโฮวาห์คือประชาชนของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์​เอง พระองค์​ทรงพบเขาในแผ่นดินทุ​รก​ันดาร ในที่​เปล​ี่ยวเปล่าซึ่​งม​ี​แต่​เสียงเห่าหอน พระองค์​ทรงนำเขาไปทั่ว และทรงสอนเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรี​ที่​กวนรังของมัน กระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรั​บลู​กไว้​ให้​เกาะอยู่บนปีก พระเยโฮวาห์​องค์​เดียวก็ทรงนำเขามา ไม่มี​พระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์​ทรงโปรดเขาให้​ขี่​ไปบนโลกส่วนสูง ให้​เขากินพืชผลที่​ได้​จากนา พระองค์​ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิ​ลา และให้ดื่​มน​้ำมันจากหินแข็งกล้า ให้​ได้​นมเปรี้ยวจากวัว และให้​ได้​น้ำนมจากแพะแกะ ได้​ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้​พันธุ์​บาชาน และฝูงแพะ กับข้าวสาลี​อย่างดี​ที่สุด และท่านได้ดื่มเลือดขององุ่น คือน้ำองุ่น แต่​เยชุ​รู​นอ​้วนพีขึ้นแล้​วก​็​มี​พยศ พอเจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่​มน​ิ่ม เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา แล​้วดูหมิ่นศิลาแห่งความรอดของเขา เขายั่วยุ​ให้​พระองค์​ทรงอิจฉาด้วยพระต่างด้าว ด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายเขาก็​ยั่วยุ​ให้​พระองค์​ทรงกริ้ว เขาบูชาพวกปีศาจแทนพระเจ้า บูชาพระซึ่งเขาไม่​รู้​จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆซึ่งเกิดมาเร็วๆนี้ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่​เกรงกลัว ท่านมิ​ได้​ใส่​ใจในศิลาที่​ให้​กำเนิดท่านมา ท่านหลงลืมพระเจ้าซึ่งทรงปั้นท่าน

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหูฟัง ข้าพเจ้าจะพูด ขอพิภพโลกจงสดับถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างฝนตกปรอยๆอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือผักสด เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระเจ้า จงถวายความยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าของเรา <<พระศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งหลายของพระองค์ก็ยุติธรรม พระเจ้าที่เที่ยงธรรมและปราศจากความผิด พระองค์ทรงยุติธรรมและเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าต่อพระองค์ เพราะเขาทั้งหลายมีตำหนิ เขาจึงไม่ได้เป็นบุตรของพระองค์ต่อไป เขาเป็นพงศ์พันธุ์วิปลาสและคดโกง ชนชาติโฉดเขลาและเบาความเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระเจ้าอย่างนี้ละหรือ พระองค์มิใช่พระบิดา ผู้ทรงสร้างท่านมาดอกหรือ ผู้ทรงสรรค์ท่าน และทำนุบำรุงท่านไว้ จงระลึกถึงโบราณกาล จงตรองถึงจำนวนปีที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น จงถามบิดาของท่าน แล้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ จงถามพวกผู้ใหญ่ของท่านแล้วเขาจะบอกท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ พระองค์ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระเจ้าคือ ประชากรของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์เอง <<พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่ามีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงโอบล้อมเขาไว้ และทรงดูแลเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมันกระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระเจ้าองค์เดียวก็ทรงนำเขามา ไม่มีพระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์ทรงโปรดเขาให้ขี่ไปบนโลกส่วนสูง ให้เขากินพืชผลที่ได้จากนา พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา และให้ดื่มน้ำมันจากหินแข็งกล้า ให้ได้นมเปรี้ยวจากวัว และให้ได้น้ำนมจากแพะแกะ ได้ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้ พันธุ์บาชานและจากฝูงแพะ กับข้าวสาลีอย่างดีที่สุด และจากเลือดขององุ่น ท่านได้ดื่มเหล้าองุ่น แต่เยชุรูนอ้วนพีขึ้นแล้วก็มีพยศ พอเจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่มนิ่ม เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา แล้วดูหมิ่นพระศิลาแห่งความรอดของเขา เขาทำให้พระองค์ทรงอิจฉาด้วยพระอื่น ด้วยกระทำสิ่งที่พึงรังเกียจเขาจึงทำให้พระองค์ทรงกริ้ว เขาบูชาเทวดาซึ่งไม่เป็นพระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเกิดมาเร็วๆนี้ ซึ่งปู่ย่าตายายของท่านไม่เกรงกลัว ท่านมิได้ใส่ใจในพระศิลาที่ให้กำเนิดท่านมา ท่านหลงลืมพระเจ้าซึ่งให้ท่านเกิด

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ฟังเถิดที่ข้าพเจ้าจะกล่าว แผ่นดินโลกเอ๋ย จงสดับวาจาจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าพรั่งพรูลงมาดั่งฝน และให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าหยาดหยดมาดุจน้ำค้าง เหมือนสายฝนโปรยปรายลงบนหญ้าอ่อน เหมือนฝนชุ่มรินรดพืชพันธุ์เขียวสด ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระยาห์เวห์ ขอสดุดีความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเรา! พระองค์ทรงเป็นพระศิลา พระราชกิจของพระองค์สมบูรณ์พร้อม และวิถีทางของพระองค์ล้วนยุติธรรม ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ผู้ไม่ทำสิ่งที่ผิดใดๆ เลย พระองค์ทรงชอบธรรมและยุติธรรม พวกเขาทำตัวเสื่อมทรามต่อพระองค์ น่าอับอายขายหน้าเกินกว่าจะเป็นลูกของพระเจ้าต่อไป พวกเขาเป็นคนรุ่นที่วิปริตและกลับกลอก ท่านตอบสนองต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้หรือ ประชากรที่โง่เขลาเบาปัญญา? พระเจ้าไม่ใช่พระบิดาพระผู้สร้างของท่าน ผู้ทรงก่อร่างสร้างท่านขึ้นมาหรือ? จงระลึกถึงวันคืนเก่าก่อน คิดถึงชั่วอายุตั้งแต่อดีตนานมา ถามบิดาของท่านดูเถิด เขาจะบอกท่านได้ ถามบรรดาผู้อาวุโสเถิด พวกเขาจะอธิบายให้ฟัง เมื่อองค์ผู้สูงสุดประทานกรรมสิทธิ์แก่ชนชาติต่างๆ เมื่อทรงแยกมวลมนุษยชาติ พระองค์ทรงกำหนดเขตชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนบุตรของอิสราเอล ส่วนขององค์พระผู้เป็นเจ้าคือประชากรของพระองค์ ยาโคบคือส่วนกรรมสิทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงพบเขาในถิ่นกันดารอันเริศร้าง และเต็มไปด้วยเสียงโหยหวน พระองค์ทรงปกป้องและดูแลเขา พระองค์ทรงพิทักษ์เขาดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีตะกุยรังของมัน และบินร่อนอยู่เหนือลูกอ่อน กางปีกออกรองรับ ประคับประคองพาลูกบินไป องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เดียวทรงนำเขาไป ไม่มีพระต่างด้าวอยู่กับเขา พระองค์ทรงทำให้เขาทะยานไปตามเบื้องสูงแห่งแผ่นดิน และทรงเลี้ยงดูเขาด้วยผลผลิตจากท้องทุ่ง ทรงบำรุงเลี้ยงเขาด้วยน้ำผึ้งจากศิลา และด้วยน้ำมันจากหินผา ด้วยน้ำนมและนมข้นจากฝูงสัตว์ และด้วยแพะแกะอ้วนพี กับแกะผู้ชั้นเยี่ยมแห่งบาชาน และข้าวสาลีที่ดีที่สุด เขาดื่มน้ำองุ่นสีแดงก่ำที่มีฟอง เยชูรุน อ้วนพีขึ้นก็พยศ ครั้นอิ่มหนำก็อ้วนใหญ่ ขนเป็นมันปลาบ เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขา ปฏิเสธพระศิลาพระผู้ช่วยให้รอดของตน พวกเขายั่วยุให้พระองค์อิจฉาด้วยพระต่างด้าวทั้งปวงของเขา และยั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยรูปเคารพอันน่าชิงชังทั้งหลาย พวกเขาเซ่นสังเวยแก่ภูตผีปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า เป็นพระซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก พระซึ่งเพิ่งปรากฏ พระซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว ท่านได้ทอดทิ้งพระศิลาผู้ให้กำเนิดท่าน ท่านลืมพระเจ้าผู้ทรงให้ท่านเกิดมา

เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

“ฟ้า​สวรรค์​จง​ฟัง​เถิด แล้ว​เรา​จะ​พูด ขอ​ให้​ผืน​แผ่นดิน​ได้ยิน​คำ​จาก​ปาก​ของ​เรา ขอ​ให้​คำ​สั่งสอน​ของ​เรา​หลั่ง​ลง​ดั่ง​หยาด​ฝน คำ​พูด​ของ​เรา​หยด​ลง​ดั่ง​หยาด​น้ำค้าง ประหนึ่ง​หยด​ฝน​บน​ใบ​หญ้า และ​ดุจ​ดัง​ละออง​ฝน​โปรย​ลง​บน​พืช​พรรณ​ไม้ ด้วย​ว่า​เรา​จะ​ประกาศ​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า จง​ยอมรับ​ว่า พระ​เจ้า​ของ​พวก​เรา​ยิ่งใหญ่ พระ​องค์​เป็น​ศิลา การ​งาน​ของ​พระ​องค์​เพียบพร้อม​ทุก​ประการ ด้วย​ว่า​ทุก​วิถีทาง​ของ​พระ​องค์​เที่ยงธรรม พระ​เจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง​และ​ปราศจาก​ความ​ผิด พระ​องค์​เที่ยงธรรม​และ​มี​ความ​ชอบธรรม เขา​ทั้ง​หลาย​ประพฤติ​เลว​ทราม​ต่อ​พระ​องค์ เขา​ไม่​ใช่​บุตร​ของ​พระ​องค์​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว​เพราะ​มลทิน​ของ​เขา และ​เป็น​คน​ใน​ยุค​ที่​บิดเบือน​และ​ไม่​ซื่อ​ตรง ท่าน​โง่​เขลา​และ​ไม่​มี​สติ​ยั้ง​คิด ท่าน​กระทำ​ตอบ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เช่น​นี้​หรือ พระ​องค์​มิ​ใช่​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​หรอก​หรือ​ที่​เป็น​ผู้​บันดาล​ท่าน​ขึ้น​มา ผู้​สร้าง​และ​ทำ​ให้​ท่าน​มั่นคง จง​จำ​สมัย​ดึกดำบรรพ์ นึก​ถึง​สมัย​ที่​ผ่าน​พ้น​มา​นาน​แล้ว จง​ถาม​บิดา​ของ​ท่าน และ​เขา​จะ​บอก​ท่าน ถาม​พวก​อาวุโส​ของ​ท่าน แล้ว​พวก​เขา​จะ​เล่า​ให้​ท่าน​ทราบ เมื่อ​องค์​ผู้​สูง​สุด​มอบ​มรดก​แก่​บรรดา​ประชา​ชาติ เมื่อ​พระ​องค์​แยก​บรรดา​บุตร​ของ​มนุษย์​ให้​จาก​กัน พระ​องค์​กั้น​เขตแดน​ให้​บรรดา​ชน​ชาติ​ได้​อยู่​อาศัย ตาม​แต่​จำนวน​บุตร​ของ​อิสราเอล และ​ส่วน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​รับ​ก็​คือ​ชน​ชาติ​ของ​พระ​องค์ ชาว​อิสราเอล​เป็น​ผู้​สืบ​มรดก​ของ​พระ​องค์​ที่​ได้​มั่น​หมาย​ไว้ พระ​องค์​พบ​พวก​เขา​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร ใน​ที่​ร้าง​อัน​แร้นแค้น​ปราศจาก​ผู้​คน พระ​องค์​อารักขา​และ​ดูแล​เขา พระ​องค์​ปกปัก​รักษา​เขา​ดั่ง​แก้วตา​ของ​พระ​องค์ ดั่ง​นก​อินทรี​ที่​เขี่ย​กระตุ้น​รัง​ของ​มัน ที่​บิน​วนเวียน​อยู่​ใกล้​ลูก​น้อย กาง​ปีก​ของ​มัน​ออก​คอย​โอบ ประคับ​ประคอง​ให้​ลูกๆ พักพิง​บน​ปีก​ของ​มัน พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เท่า​นั้น​ที่​นำ​พวก​เขา​ไป โดย​ไม่​มี​เทพเจ้า​ต่าง​ชาติ​เกี่ยวข้อง​ด้วย พระ​องค์​ให้​พวก​เขา​ปกครอง​ใน​ที่​สูง​แห่ง​แผ่นดิน​โลก และ​พวก​เขา​ได้​รับประทาน​ผลผลิต​จาก​ทุ่ง​นา พระ​องค์​ให้​เขา​ดื่ม​น้ำ​ผึ้ง​จาก​ซอก​หิน และ​น้ำมัน​จาก​หิน​เหล็ก​ไฟ โยเกิร์ต​จาก​นม​โค และ​น้ำ​นม​จาก​ฝูง​แพะ​แกะ ลูก​แกะ อีก​ทั้ง​แพะ และ​แกะ​ตัว​ผู้​ของ​บาชาน​อัน​อ้วน​พี กับ​ข้าว​สาลี​ชนิด​ดี​ที่​สุด และ​ท่าน​ได้​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​แดง​พันธุ์​ดี เยชูรูน​อ้วน​พี​และ​ขัดขืน เจ้า​อ้วน​ใหญ่​ขึ้น ตัว​หนา และ​อ้วน​ท้วน เขา​ทอดทิ้ง​พระ​เจ้า​ผู้​สร้าง​เขา​มา และ​เยาะ​เย้ย​ศิลา​แห่ง​ความ​รอดพ้น​ของ​เขา พวก​เขา​กระตุ้น​ให้​ความ​หวงแหน​ของ​พระ​องค์​พลุ่ง​ขึ้น​ด้วย​บรรดา​เทพเจ้า​ต่าง​ชาติ เขา​ยั่ว​โทสะ​พระ​องค์​ด้วย​รูป​เคารพ​ที่​น่า​ชัง พวก​เขา​มอบ​เครื่อง​บูชา​แก่​มาร​ซึ่ง​ไม่​ใช่​พระ​เจ้า แต่​เป็น​เทพเจ้า​ที่​ไม่​เคย​รู้จัก เป็น​บรรดา​เทพเจ้า​ใหม่ๆ ซึ่ง​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​ก็​ไม่​เคย​เกรงกลัว ท่าน​เพิกเฉย​ต่อ​ศิลา​ผู้​บังเกิด​เกล้า​ของ​ท่าน และ​ท่าน​ลืม​พระ​เจ้า​ผู้​ให้​กำเนิด​แก่​ท่าน