เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
“ฟ้าเอ๋ย ช่วยฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าจะพูด แผ่นดินเอ๋ย ช่วยฟังคำพูดจากปากข้าพเจ้า คำสอนข้าพเจ้า จะตกลงมาเหมือนฝน คำพูดข้าพเจ้า จะลงมาเหมือนหมอก เหมือนสายฝนพรำๆบนหญ้าอ่อน เหมือนหยาดฝนบนพืชเกิดใหม่ เพราะข้าพเจ้าจะประกาศชื่อของพระยาห์เวห์ สรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเรา พระศิลา งานของพระองค์สมบูรณ์แบบยิ่งนัก ทางทุกทางของพระองค์ถูกต้อง พระเจ้าซื่อสัตย์ พระองค์ไม่เคยทำผิด พระเจ้าเที่ยงตรง พระองค์ไว้วางใจได้ พวกเจ้าไม่ได้เป็นลูกหลานของพระองค์ เพราะความผิดของพวกเจ้า พวกเจ้าได้ทำผิดต่อพระองค์ พวกคนหลอกลวงและเจ้าเล่ห์ พวกเจ้าจะตอบแทนพระยาห์เวห์ด้วยวิธีนี้หรือ พวกคนโง่และไร้สาระ พระองค์ไม่ใช่พ่อของเจ้าผู้ที่สร้างเจ้ามาหรือ พระองค์ไม่ใช่ผู้ที่สร้างเจ้าและทำให้เจ้าเกิดมาเป็นชนชาติหนึ่งหรือ จำวันเก่าๆเหล่านั้นไว้ คิดถึงปีที่คนรุ่นก่อนๆได้ผ่านมา ถามพ่อของเจ้าและเขาจะบอกเจ้า ถามผู้นำอาวุโสของเจ้าและพวกเขาจะบอกเจ้าเกี่ยวกับอดีต เมื่อพระเจ้าผู้สูงสุดแบ่งชนชาติออก เมื่อพระองค์แบ่งแยกเชื้อชาติมนุษย์ พระองค์กำหนดเขตแดนของประชาชน ให้เท่าเทียมกับจำนวนทูตสวรรค์ที่มีอยู่ แต่ส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์คือประชาชนของพระองค์ ยาโคบคือส่วนแบ่งของพระองค์ พระองค์พบเขาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งที่ร้าง และลมแรง พระองค์อยู่รอบๆตัวเขาและดูแลเขา พระองค์ปกป้องเขาเหมือนแก้วตาของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่คอยขยับรัง ของมัน และบินโฉบไปที่ลูกของมัน ดังนั้น พระยาห์เวห์กางปีกของพระองค์ออกและจับพวกเขาไว้ และแบกพวกเขาไว้บนปีกของพระองค์ พระยาห์เวห์เท่านั้นที่นำพวกเขาผ่านที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ไม่มีพระอื่นใดที่มาช่วยพระองค์ พระองค์ทำให้ยาโคบมีอำนาจเหนือพื้นที่ในแถบภูเขา และเลี้ยงเขาด้วยพืชผลในไร่นา พระองค์ได้ให้เขาดูดน้ำเชื่อมผลไม้จากก้อนหิน และน้ำมันมะกอกจากหินแข็ง พระยาห์เวห์ได้ให้เนยจากวัวและนมจากแพะ กับไขมันจากลูกแกะและแกะตัวผู้ ฝูงวัวจากบาชานและแพะตัวผู้กับข้าวสาลีที่ดีที่สุด และพวกเจ้าได้ดื่มเหล้าองุ่นหมักเลือดขององุ่น แต่เยชุรุน อ้วนขึ้นและเริ่มเตะเจ้าของ เจ้าเริ่มอ้วน หนาและตะกละ เยชุรูนทอดทิ้งพระเจ้าที่สร้างเขาขึ้นมา และเขาไม่ให้เกียรติพระศิลาที่ช่วยชีวิตเขา พวกเขาทำให้พระองค์หึงหวงด้วยพระแปลกหน้า พวกเขาทำให้พระองค์โกรธด้วยรูปเคารพที่น่ารังเกียจ พวกเขาบูชาวิญญาณที่ไม่ใช่พระเจ้า พวกเขาบูชาพระที่พวกเขาไม่รู้จักมาก่อน เป็นพระใหม่ มาถึงไม่นาน บรรพบุรุษของเจ้าไม่เคยเคารพยำเกรงพระเหล่านั้นมาก่อน เจ้าลืมพระศิลาที่ให้กำเนิดเจ้า เจ้าลืมพระเจ้าที่คลอดเจ้ามาด้วยความเจ็บปวด
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหู ข้าพเจ้าจะพูด ขอแผ่นดินโลกจงฟังถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างหยาดฝนอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือพรรณพืช เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระยาห์เวห์ จงถวายความยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าของเรา “พระศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ก็ยุติธรรม พระเจ้าผู้ทรงเที่ยงธรรมและปราศจากความอธรรม พระองค์ทรงยุติธรรมและทรงเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าต่อพระองค์ เขาจึงไม่ได้เป็นบุตรของพระองค์ต่อไป เพราะเขามีตำหนิ เขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่วิปริตและคดโกง ชนชาติโง่เขลาและเบาปัญญาเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระยาห์เวห์อย่างนี้หรือ? พระองค์ไม่ใช่พระบิดา ผู้ทรงสร้างท่าน ผู้ทรงสรรค์ท่าน และสถาปนาท่านไว้หรือ? จงระลึกถึงอดีตกาล จงตรองถึงจำนวนปีที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคน จงถามบิดาของท่าน แล้วเขาจะบอกท่าน จงถามพวกผู้อาวุโสของท่าน แล้วเขาจะตอบท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ พระองค์ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระยาห์เวห์คือประชากรของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์ “พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่ร้างเปล่าวังเวง พระองค์ทรงโอบล้อมเขา และทรงดูแลเขา ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกเหนือลูกนก กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระยาห์เวห์องค์เดียวทรงนำเขา ไม่มีพระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์ทรงให้เขาขี่ไปบนที่สูงของโลก ให้เขาบริโภคพืชผลที่ได้จากนา พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา และน้ำมันจากหินแข็ง ให้ได้นมข้นจากโคและน้ำนมจากแพะแกะ ได้ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้พันธุ์บาชานและจากแพะ กับข้าวสาลีอย่างดีที่สุด และจากเลือดขององุ่น ท่านได้ดื่มเหล้าองุ่น “แต่เยชูรูนอ้วนขึ้นแล้วมีพยศ เจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่ม แล้วเขาได้ทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามา และดูหมิ่นพระศิลาแห่งความรอดของเขา เขาทำให้พระองค์ทรงหวงแหนด้วยพระต่างด้าว เขายั่วยุให้พระองค์กริ้วด้วยสิ่งน่ารังเกียจทั้งหลาย เขาบูชาพวกปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้น ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว ท่านไม่ใส่ใจในพระศิลาที่ให้กำเนิดท่าน ท่านลืมพระเจ้าซึ่งให้ท่านเกิดมา
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
“โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหูฟัง ข้าพเจ้าจะพูด โอ พิภพโลก ขอจงสดับถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างฝนตกปรอยๆอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือผักสด เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระเยโฮวาห์ จงถวายความยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าของเรา พระองค์ทรงเป็นศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งหลายของพระองค์ก็ยุติธรรม พระเจ้าที่เที่ยงธรรมและปราศจากความชั่วช้า พระองค์ทรงยุติธรรมและเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าแล้ว ตำหนิของเขาทั้งหลายหาใช่เป็นตำหนิของบุตรของพระองค์ เขาเป็นยุควิปลาสและคดโกง โอ ชนชาติโฉดเขลาและเบาความเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระเยโฮวาห์อย่างนี้ละหรือ พระองค์มิใช่พระบิดา ผู้ทรงไถ่ท่านไว้ดอกหรือ ผู้ทรงสรรค์ท่าน และตั้งท่านไว้แล้ว จงระลึกถึงโบราณกาล จงพิจารณาถึงจำนวนปีที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น จงถามบิดาของท่าน แล้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ จงถามพวกผู้ใหญ่ของท่าน แล้วเขาจะบอกท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกลูกหลานของอาดัม พระองค์ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลายตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระเยโฮวาห์คือประชาชนของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์เอง พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่าซึ่งมีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงนำเขาไปทั่ว และทรงสอนเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระเยโฮวาห์องค์เดียวก็ทรงนำเขามา ไม่มีพระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์ทรงโปรดเขาให้ขี่ไปบนโลกส่วนสูง ให้เขากินพืชผลที่ได้จากนา พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา และให้ดื่มน้ำมันจากหินแข็งกล้า ให้ได้นมเปรี้ยวจากวัว และให้ได้น้ำนมจากแพะแกะ ได้ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้พันธุ์บาชาน และฝูงแพะ กับข้าวสาลีอย่างดีที่สุด และท่านได้ดื่มเลือดขององุ่น คือน้ำองุ่น แต่เยชุรูนอ้วนพีขึ้นแล้วก็มีพยศ พอเจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่มนิ่ม เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา แล้วดูหมิ่นศิลาแห่งความรอดของเขา เขายั่วยุให้พระองค์ทรงอิจฉาด้วยพระต่างด้าว ด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายเขาก็ยั่วยุให้พระองค์ทรงกริ้ว เขาบูชาพวกปีศาจแทนพระเจ้า บูชาพระซึ่งเขาไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆซึ่งเกิดมาเร็วๆนี้ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว ท่านมิได้ใส่ใจในศิลาที่ให้กำเนิดท่านมา ท่านหลงลืมพระเจ้าซึ่งทรงปั้นท่าน
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<โอ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหูฟัง ข้าพเจ้าจะพูด ขอพิภพโลกจงสดับถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างฝนตกปรอยๆอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือผักสด เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระเจ้า จงถวายความยิ่งใหญ่แด่พระเจ้าของเรา <<พระศิลา พระราชกิจของพระองค์ก็สมบูรณ์ พระมรรคาทั้งหลายของพระองค์ก็ยุติธรรม พระเจ้าที่เที่ยงธรรมและปราศจากความผิด พระองค์ทรงยุติธรรมและเที่ยงตรง เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าต่อพระองค์ เพราะเขาทั้งหลายมีตำหนิ เขาจึงไม่ได้เป็นบุตรของพระองค์ต่อไป เขาเป็นพงศ์พันธุ์วิปลาสและคดโกง ชนชาติโฉดเขลาและเบาความเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระเจ้าอย่างนี้ละหรือ พระองค์มิใช่พระบิดา ผู้ทรงสร้างท่านมาดอกหรือ ผู้ทรงสรรค์ท่าน และทำนุบำรุงท่านไว้ จงระลึกถึงโบราณกาล จงตรองถึงจำนวนปีที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น จงถามบิดาของท่าน แล้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ จงถามพวกผู้ใหญ่ของท่านแล้วเขาจะบอกท่าน เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ พระองค์ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนของพระเจ้าคือ ประชากรของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์เอง <<พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่เปลี่ยวเปล่ามีแต่เสียงเห่าหอน พระองค์ทรงโอบล้อมเขาไว้ และทรงดูแลเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมันกระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระเจ้าองค์เดียวก็ทรงนำเขามา ไม่มีพระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา พระองค์ทรงโปรดเขาให้ขี่ไปบนโลกส่วนสูง ให้เขากินพืชผลที่ได้จากนา พระองค์ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิลา และให้ดื่มน้ำมันจากหินแข็งกล้า ให้ได้นมเปรี้ยวจากวัว และให้ได้น้ำนมจากแพะแกะ ได้ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้ พันธุ์บาชานและจากฝูงแพะ กับข้าวสาลีอย่างดีที่สุด และจากเลือดขององุ่น ท่านได้ดื่มเหล้าองุ่น แต่เยชุรูนอ้วนพีขึ้นแล้วก็มีพยศ พอเจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่มนิ่ม เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา แล้วดูหมิ่นพระศิลาแห่งความรอดของเขา เขาทำให้พระองค์ทรงอิจฉาด้วยพระอื่น ด้วยกระทำสิ่งที่พึงรังเกียจเขาจึงทำให้พระองค์ทรงกริ้ว เขาบูชาเทวดาซึ่งไม่เป็นพระเจ้า บูชาพระซึ่งไม่รู้จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆ ซึ่งเกิดมาเร็วๆนี้ ซึ่งปู่ย่าตายายของท่านไม่เกรงกลัว ท่านมิได้ใส่ใจในพระศิลาที่ให้กำเนิดท่านมา ท่านหลงลืมพระเจ้าซึ่งให้ท่านเกิด
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ฟังเถิดที่ข้าพเจ้าจะกล่าว แผ่นดินโลกเอ๋ย จงสดับวาจาจากปากของข้าพเจ้า ขอให้คำสอนของข้าพเจ้าพรั่งพรูลงมาดั่งฝน และให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าหยาดหยดมาดุจน้ำค้าง เหมือนสายฝนโปรยปรายลงบนหญ้าอ่อน เหมือนฝนชุ่มรินรดพืชพันธุ์เขียวสด ข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระยาห์เวห์ ขอสดุดีความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเรา! พระองค์ทรงเป็นพระศิลา พระราชกิจของพระองค์สมบูรณ์พร้อม และวิถีทางของพระองค์ล้วนยุติธรรม ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ผู้ไม่ทำสิ่งที่ผิดใดๆ เลย พระองค์ทรงชอบธรรมและยุติธรรม พวกเขาทำตัวเสื่อมทรามต่อพระองค์ น่าอับอายขายหน้าเกินกว่าจะเป็นลูกของพระเจ้าต่อไป พวกเขาเป็นคนรุ่นที่วิปริตและกลับกลอก ท่านตอบสนองต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้หรือ ประชากรที่โง่เขลาเบาปัญญา? พระเจ้าไม่ใช่พระบิดาพระผู้สร้างของท่าน ผู้ทรงก่อร่างสร้างท่านขึ้นมาหรือ? จงระลึกถึงวันคืนเก่าก่อน คิดถึงชั่วอายุตั้งแต่อดีตนานมา ถามบิดาของท่านดูเถิด เขาจะบอกท่านได้ ถามบรรดาผู้อาวุโสเถิด พวกเขาจะอธิบายให้ฟัง เมื่อองค์ผู้สูงสุดประทานกรรมสิทธิ์แก่ชนชาติต่างๆ เมื่อทรงแยกมวลมนุษยชาติ พระองค์ทรงกำหนดเขตชนชาติทั้งหลาย ตามจำนวนบุตรของอิสราเอล ส่วนขององค์พระผู้เป็นเจ้าคือประชากรของพระองค์ ยาโคบคือส่วนกรรมสิทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงพบเขาในถิ่นกันดารอันเริศร้าง และเต็มไปด้วยเสียงโหยหวน พระองค์ทรงปกป้องและดูแลเขา พระองค์ทรงพิทักษ์เขาดั่งแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีตะกุยรังของมัน และบินร่อนอยู่เหนือลูกอ่อน กางปีกออกรองรับ ประคับประคองพาลูกบินไป องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เดียวทรงนำเขาไป ไม่มีพระต่างด้าวอยู่กับเขา พระองค์ทรงทำให้เขาทะยานไปตามเบื้องสูงแห่งแผ่นดิน และทรงเลี้ยงดูเขาด้วยผลผลิตจากท้องทุ่ง ทรงบำรุงเลี้ยงเขาด้วยน้ำผึ้งจากศิลา และด้วยน้ำมันจากหินผา ด้วยน้ำนมและนมข้นจากฝูงสัตว์ และด้วยแพะแกะอ้วนพี กับแกะผู้ชั้นเยี่ยมแห่งบาชาน และข้าวสาลีที่ดีที่สุด เขาดื่มน้ำองุ่นสีแดงก่ำที่มีฟอง เยชูรุน อ้วนพีขึ้นก็พยศ ครั้นอิ่มหนำก็อ้วนใหญ่ ขนเป็นมันปลาบ เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขา ปฏิเสธพระศิลาพระผู้ช่วยให้รอดของตน พวกเขายั่วยุให้พระองค์อิจฉาด้วยพระต่างด้าวทั้งปวงของเขา และยั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยรูปเคารพอันน่าชิงชังทั้งหลาย พวกเขาเซ่นสังเวยแก่ภูตผีปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้า เป็นพระซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก พระซึ่งเพิ่งปรากฏ พระซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว ท่านได้ทอดทิ้งพระศิลาผู้ให้กำเนิดท่าน ท่านลืมพระเจ้าผู้ทรงให้ท่านเกิดมา
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:1-18 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
“ฟ้าสวรรค์จงฟังเถิด แล้วเราจะพูด ขอให้ผืนแผ่นดินได้ยินคำจากปากของเรา ขอให้คำสั่งสอนของเราหลั่งลงดั่งหยาดฝน คำพูดของเราหยดลงดั่งหยาดน้ำค้าง ประหนึ่งหยดฝนบนใบหญ้า และดุจดังละอองฝนโปรยลงบนพืชพรรณไม้ ด้วยว่าเราจะประกาศพระนามของพระผู้เป็นเจ้า จงยอมรับว่า พระเจ้าของพวกเรายิ่งใหญ่ พระองค์เป็นศิลา การงานของพระองค์เพียบพร้อมทุกประการ ด้วยว่าทุกวิถีทางของพระองค์เที่ยงธรรม พระเจ้าแห่งความสัตย์จริงและปราศจากความผิด พระองค์เที่ยงธรรมและมีความชอบธรรม เขาทั้งหลายประพฤติเลวทรามต่อพระองค์ เขาไม่ใช่บุตรของพระองค์อีกต่อไปแล้วเพราะมลทินของเขา และเป็นคนในยุคที่บิดเบือนและไม่ซื่อตรง ท่านโง่เขลาและไม่มีสติยั้งคิด ท่านกระทำตอบพระผู้เป็นเจ้าเช่นนี้หรือ พระองค์มิใช่พระบิดาของท่านหรอกหรือที่เป็นผู้บันดาลท่านขึ้นมา ผู้สร้างและทำให้ท่านมั่นคง จงจำสมัยดึกดำบรรพ์ นึกถึงสมัยที่ผ่านพ้นมานานแล้ว จงถามบิดาของท่าน และเขาจะบอกท่าน ถามพวกอาวุโสของท่าน แล้วพวกเขาจะเล่าให้ท่านทราบ เมื่อองค์ผู้สูงสุดมอบมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์แยกบรรดาบุตรของมนุษย์ให้จากกัน พระองค์กั้นเขตแดนให้บรรดาชนชาติได้อยู่อาศัย ตามแต่จำนวนบุตรของอิสราเอล และส่วนที่พระผู้เป็นเจ้าได้รับก็คือชนชาติของพระองค์ ชาวอิสราเอลเป็นผู้สืบมรดกของพระองค์ที่ได้มั่นหมายไว้ พระองค์พบพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร ในที่ร้างอันแร้นแค้นปราศจากผู้คน พระองค์อารักขาและดูแลเขา พระองค์ปกปักรักษาเขาดั่งแก้วตาของพระองค์ ดั่งนกอินทรีที่เขี่ยกระตุ้นรังของมัน ที่บินวนเวียนอยู่ใกล้ลูกน้อย กางปีกของมันออกคอยโอบ ประคับประคองให้ลูกๆ พักพิงบนปีกของมัน พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่นำพวกเขาไป โดยไม่มีเทพเจ้าต่างชาติเกี่ยวข้องด้วย พระองค์ให้พวกเขาปกครองในที่สูงแห่งแผ่นดินโลก และพวกเขาได้รับประทานผลผลิตจากทุ่งนา พระองค์ให้เขาดื่มน้ำผึ้งจากซอกหิน และน้ำมันจากหินเหล็กไฟ โยเกิร์ตจากนมโค และน้ำนมจากฝูงแพะแกะ ลูกแกะ อีกทั้งแพะ และแกะตัวผู้ของบาชานอันอ้วนพี กับข้าวสาลีชนิดดีที่สุด และท่านได้ดื่มเหล้าองุ่นแดงพันธุ์ดี เยชูรูนอ้วนพีและขัดขืน เจ้าอ้วนใหญ่ขึ้น ตัวหนา และอ้วนท้วน เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา และเยาะเย้ยศิลาแห่งความรอดพ้นของเขา พวกเขากระตุ้นให้ความหวงแหนของพระองค์พลุ่งขึ้นด้วยบรรดาเทพเจ้าต่างชาติ เขายั่วโทสะพระองค์ด้วยรูปเคารพที่น่าชัง พวกเขามอบเครื่องบูชาแก่มารซึ่งไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเทพเจ้าที่ไม่เคยรู้จัก เป็นบรรดาเทพเจ้าใหม่ๆ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านก็ไม่เคยเกรงกลัว ท่านเพิกเฉยต่อศิลาผู้บังเกิดเกล้าของท่าน และท่านลืมพระเจ้าผู้ให้กำเนิดแก่ท่าน