โอบาดีห์ 1:3-7
โอบาดีห์ 1:3-7 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ใจหยิ่งจองหองของเจ้าได้ล่อลวงเจ้าเอง เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ที่อาศัยของเจ้าอยู่สูง เจ้ารำพึงอยู่ในใจว่า “ผู้ใดจะทำให้เราลงมายังพื้นดิน” แม้ว่าเจ้าเหินขึ้นไปสูงเหมือนนกอินทรี แม้ว่ารังของเจ้าอยู่ในหมู่ดวงดาว เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ ถ้าขโมยเข้ามาหาเจ้า ถ้าพวกปล้นมาในเวลากลางคืน (เจ้าจะถูกทำลายย่อยยับเพียงใด) เขาจะขโมยแค่เพียงพอแก่ตัวมิใช่หรือ? ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะเก็บโดยเหลือไว้บ้างมิใช่หรือ? เอซาวจะถูกปล้นจนหมดตัว สมบัติที่ซ่อนไว้ก็ถูกค้นออกมา เพื่อนร่วมสาบานทั้งสิ้นของเจ้าได้ล่อลวงเจ้า พวกเขาขับไล่เจ้าไปถึงพรมแดน พันธมิตรของเจ้าสู้ชนะเจ้าแล้ว ผู้ที่กินอาหารของเจ้าก็วางกับดักเจ้า เรื่องนี้ไม่มีใครทราบเลย
โอบาดีห์ 1:3-7 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ความหยิ่งผยองในใจได้หลอกลวงเจ้า เจ้าผู้อาศัยอยู่ในซอกหิน และสร้างบ้านไว้บนที่สูง เจ้าผู้บอกตัวเองว่า ‘ใครเล่าสามารถดึงเราลงไปอยู่ที่พื้นได้?’ ถึงแม้เจ้าเหินฟ้าเหมือนนกอินทรี และสร้างรังไว้กลางหมู่ดาว เราก็จะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “หากขโมยมาหาเจ้า หากโจรบุกมาในยามค่ำคืน เจ้าจะย่อยยับสักปานใด เขาจะไม่ขโมยไปเพียงเท่าที่เขาอยากได้หรือ? หากคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่เหลือไว้บ้างนิดหน่อยหรือ? แต่เอซาวจะถูกปล้นชิงจนหมดสิ้น ทรัพย์สมบัติที่เขาซ่อนไว้ถูกปล้นชิงไปหมด! พันธมิตรทั้งหมดจะบังคับให้เจ้าออกไปจนสุดแดน เพื่อนฝูงจะหลอกและเอาชนะเจ้า เพื่อนร่วมสำรับอาหารเดียวกันกับเจ้าจะวางกับดักเจ้า แต่เจ้าจะไม่ระแคะระคาย”
โอบาดีห์ 1:3-7 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เจ้าหลงตัวเองคิดว่าแน่เหลือเกิน เจ้าได้อาศัยอยู่ตามถ้ำบนผาสูง และบ้านของเจ้าอยู่บนภูเขาสูง เจ้าคิดในใจว่า ‘เราตั้งอยู่สูงขนาดนี้ไม่มีใครดึงให้เราลงไปถึงพื้นดินได้หรอก’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ถึงแม้เจ้าจะทำรังสูงเหมือนนกอินทรี ถึงจะทำรังอยู่ท่ามกลางดวงดาวต่างๆ เราก็จะดึงเจ้าลงมาจากที่นั่น” ถ้าพวกขโมยขึ้นบ้านเจ้าหรือพวกโจรมาบุกในตอนกลางคืน พวกมันก็จะขโมยไปแค่ที่มันอยากได้ ไม่ใช่หรือ หรือเมื่อคนงานมาเก็บองุ่นในไร่ของเจ้า พวกเขาก็ยังเหลือองุ่นทิ้งไว้บ้าง ไม่ใช่หรือ แต่เอโดม ศัตรูของเจ้า จะทำลายเจ้าลงอย่างราบคาบ ศัตรูจะค้นหาทุกซอกทุกมุม และเอาทรัพย์สมบัติที่เอซาวซ่อนไว้ไปจนหมดเกลี้ยง และพันธมิตรทั้งหมดของเจ้าก็จะขับไล่เจ้าออกไปอยู่ที่ชายแดน คนที่ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับเจ้าก็จะทำให้เจ้าตายใจ แล้วยึดครองเจ้า สหายที่เจ้ากินด้วยก็จะให้คนต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานในบ้านเมืองของเจ้าแทนเจ้า ความเฉลียวฉลาดก็จะหมดไปจากแผ่นดินเอโดม
โอบาดีห์ 1:3-7 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้าได้ล่อลวงเจ้าเอง เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ที่อาศัยของเจ้าอยู่สูง เจ้ารำพึงอยู่ในใจว่า “ผู้ใดจะให้เราลงมายังพื้นดิน” แม้ว่าเจ้าเหินขึ้นไปสูงเหมือนนกอินทรี แม้ว่ารังของเจ้าอยู่ในหมู่ดวงดาวทั้งหลาย เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ ถ้าขโมยเข้ามาหาเจ้า ถ้าพวกปล้นเข้ามาในเวลากลางคืน (เจ้าจะถูกทำลายสักเท่าใด) เขาจะไม่ขโมยเพียงพอแก่ตัวของเขาเท่านั้นหรือ ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ ข้าวของของเอซาวได้ถูกรื้อค้นสักเท่าใดหนอ ทรัพย์สมบัติซึ่งซ่อนไว้ก็ถูกค้นไปหมด พันธมิตรทั้งสิ้นของเจ้าได้ขับเจ้าไปถึงพรมแดน สหมิตรของเจ้าได้ล่อลวงเจ้า เขากลับสู้ชนะเจ้าเสียแล้ว มิตรที่กินข้าวหม้อเดียวกับเจ้าก็วางกับดักเจ้า เรื่องนี้ไม่มีใครเข้าใจอะไรเสียเลย
โอบาดีห์ 1:3-7 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ความเห่อเหิมแห่งใจของเจ้าได้ล่อลวงเจ้าเอง เจ้าผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในซอกหิน ที่อาศัยของเจ้าอยู่สูง เจ้ารำพึงอยู่ในใจว่า <<ผู้ใดจะให้เราลงมายังพื้นดิน>> แม้ว่าเจ้าเหินขึ้นไปสูงเหมือนนกอินทรี แม้ว่ารังของเจ้าอยู่ในหมู่ดวงดาวทั้งหลาย เราจะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ ถ้าขโมยเข้ามาหาเจ้า ถ้าพวกปล้นเข้ามาในเวลากลางคืน (เจ้าถูกทำลายย่อยยับปานใด) เขาจะไม่ขโมยเพียงพอแก่ตัวของเขาเท่านั้นหรือ ถ้าคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า เขาจะไม่ทิ้งองุ่นตกค้างไว้บ้างหรือ เอซาวได้ถูกปล้นอย่างร้ายแรงแล้ว ปานใดหนอ ทรัพย์สมบัติก็ถูกค้นไปหมด พันธมิตรทั้งสิ้นของเจ้าได้ล่อลวงเจ้า เขาได้ขับเจ้าไปถึงพรมแดน สหมิตรของเจ้าได้กลับสู้ชนะเจ้าเสียแล้ว มิตรที่กินข้าวหม้อเดียวกับเจ้า ก็วางกับดักเจ้า เรื่องนี้ไม่มีใครเข้าใจอะไรเสียเลย
โอบาดีห์ 1:3-7 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
ใจหยิ่งยโสของเจ้าได้ลวงเจ้าแล้ว เจ้าอาศัยอยู่ในซอกหิน และทำที่อยู่อาศัยบนภูเขาสูง เจ้าคิดในใจว่า ‘ใครจะทำให้เราลงมายังพื้นดินได้’ แม้ว่าเจ้าจะโผบินอย่างนกอินทรี แม้รังของเจ้าจะถูกวางในหมู่ดาว เราก็จะทำให้เจ้าลงมาจากที่นั่น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “ถ้าพวกขโมยมาหาเจ้า ถ้านักปล้นมาในเวลากลางคืน โอ ความทุกข์ร้อนรอเจ้าอยู่เพียงไร พวกเขาจะขโมยทุกสิ่งที่ต้องการ ถ้าพวกคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า พวกเขาจะเหลือให้คนยากไร้เก็บบ้างมิใช่หรือ เอซาวถูกปล้นจนหมดสิ้น สมบัติของเขาที่ซ่อนไว้ก็ถูกค้นหาทุกซอกทุกมุม มิตรสหายของเจ้าทุกคนได้ขับไล่เจ้าไปถึงชายแดนของเจ้า บรรดาผู้ที่เป็นมิตรกับเจ้าได้ลวงเจ้า และข่มเจ้า บรรดาผู้รับประทานอาหารของเจ้าได้วางกับดักจับเจ้า แต่เจ้าจะไม่ทราบเลย”