ชัยชนะเหนือการทดลอง (1 และ 2 เปโตร)ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 4 : วันที่ 2 "มอบความกังวลของคุณไว้กับพระเจ้า"

ลงลึกในพระคำ

ทางของพระเจ้าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทางของโลกที่ปรบมือให้กับผู้ที่ดังที่สุดและกล้าหาญที่สุด เราไม่ได้ถูกเรียกให้ปีนบันไดเพื่อไปสู่ความรุ่งโรจน์ แต่เราได้รับเชิญให้เข้าสู่ท่าทีถ่อมใจของการยอมจำนนและความไว้วางใจ ราวกับพระเจ้าทรงเตือนเราอย่างอ่อนโยนว่า เริ่มจากไม้กางเขน แล้วตามด้วยสวมมงกุฎ เริ่มที่ความทุกข์ยาก จากนั้นตามด้วยความรุ่งโรจน์

จังหวะเวลาของพระเจ้าไม่มีที่ติ กำลังเปิดเผยตามทางที่เหนือความเข้าใจของเรา พระองค์คือผู้ที่เชิดหน้าของเราอย่างอ่อนโยน และยกเราขึ้นในเวลาแน่นอนที่สอดคล้องกับแผนการอันสมบูรณ์แบบของพระองค์ พระองค์แสวงหาหัวใจที่เปิดกว้างและไว้วางใจ ไม่ใช่ใจที่ต้องการจะควบคุมอย่างแรงกล้า ในการเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ เราวางใจในลำดับเหตุการณ์ของพระองค์ไม่ใช่ของเราเอง เรายืนหยัดในพระสัญญาที่ว่า ในเวลาและวิธีที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ พระองค์จะทรงยกเราขึ้น ไม่ว่าชีวิตในโลกนี้หรือในชีวิตอันรุ่งโรจน์ที่กำลังจะมา

ต้องใช้ความถ่อมใจอย่างแท้จริงในการยอมรับว่า เราต้องการความช่วยเหลือ ลดการป้องกันใจของเราลง ยอมรับการดูแลและการสนับสนุนที่เราต้องการ เมื่อเราอยู่ในจุดที่อ่อนแอและถ่อมตัวเองลง เมื่อเราละทิ้งความหยิ่งของเราและพูดว่า “ฉันทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองไม่ได้” เมื่อนั้นเราจะพบกับพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรัก ที่พร้อมและรอคอยที่จะช่วยเหลือ พระเจ้าสามารถส่งความช่วยเหลือมาได้หลายรูปแบบ อาจเป็นการสนับสนุนของเพื่อนที่โบสถ์ ความสงบสุขในสถานการณ์ที่วุ่นวาย ความเข้มแข็งอย่างฉับพลันที่จะก้าวไปข้างหน้า หรือแม้แต่ความสามารถในการผ่านพ้นไปได้อีกวัน

เพื่อนที่รัก พระเจ้าไม่ได้อยู่ห่างไกลหรือไม่สนใจการต่อสู้ดิ้นรนของคุณ พระองค์ใส่ใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่คุณกำลังประสบ เมื่อคุณรู้สึกหนักใจเพราะภาระ ความกังวล และความเครียด จำไว้ว่าคุณมีพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักผู้สามารถแบกภาระเหล่านั้นแทนคุณได้ เมื่อคุณยืนกรานที่จะแบกภาระทั้งหมดด้วยตัวเอง คุณกำลังบอกว่าคุณไม่ไว้วางใจให้พระเจ้าจัดการภาระเหล่านั้น

อย่าลืมว่าพระเจ้ารักคุณด้วยความรักนิรันดร์ ตลอดไป และเสมอไป พระองค์เห็นคุณ รู้จักคุณ และเชิญคุณเข้าสู่สถานที่แห่งการหยุดพักและวางใจในการดูแลของพระองค์ จงมอบภาระของคุณไว้กับพระองค์ พระองค์สามารถจัดการมันได้ ปล่อยให้พระองค์รับเอาความวิตกกังวล ความกระวนกระวาย และความเครียดของคุณไป โดยรู้ว่าพระองค์สามารถแบกสิ่งที่หนักเกินกว่าที่คุณจะแบกรับได้เพียงลำพัง

อธิษฐาน : ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดสอนข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ วางใจในจังหวะเวลาและความดีของพระองค์ ช่วยข้าพระองค์ให้ยอมจำนนมอบปัญหาภาระหนักไว้กับความรักและความมั่นคงของพระองค์ โดยรู้ว่าพระองค์ห่วงใยข้าพระองค์อย่างสุดซึ้ง ขอให้ข้าพระองค์พึ่งพาพระองค์ในทุกสถานการณ์ ให้ได้พบกับสันติสุขและการพักสงบในความรักของพระองค์ อาเมน

*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน

1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?

3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?

4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง