ชัยชนะเหนือการทดลอง (1 และ 2 เปโตร)ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 6 : วันที่ 3 "เสรีภาพในความจริง"

ลงลึกในพระคำ

เราทุกคนต่างโหยหาอิสรภาพ ความรู้สึกของการมีชีวิตที่ไร้ภาระ โดยที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่มีโซ่ตรวนใด ๆ คอยรั้งเราไว้ แต่มีความจริงที่สำคัญที่เราต้องตระหนัก คือ อะไรก็ตามที่ยึดเราไว้ในที่สุดจะสามารถควบคุมเราได้ กิจวัตรของเรา ความคิดของเรา คำพูดของเรา ล้วนแสดงให้เห็นว่าใครหรืออะไรอยู่ในใจของเรา มันเหมือนกับการพยายามฟังเพลงสองเพลงที่เล่นพร้อมกัน ท่วงทำนองที่ขัดแย้งกัน ทำให้ไม่สามารถชื่นชมบทเพลงได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ การเดินทางฝ่ายวิญญาณของเรา เรากำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน เราจะให้พระเจ้านำทางเรา หรือเราจะเต้นตามจังหวะของโลก?

ผู้สอนเท็จที่มีเสน่ห์เหล่านี้สามารถโน้มน้าวใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขามาพร้อมกับคำพูดล่อลวง คำสัญญาแห่งเสรีภาพ และวิสัยทัศน์แห่งชีวิตที่เราเองเป็นผู้ควบคุมไม่ใช่กฎเกณฑ์หรือศีลธรรมใดใด แต่เมื่อเราเจาะลึกลงไปในข้อความเหล่านั้นกลับเจอแต่แก่นแท้ที่ว่างเปล่า ตรงกันข้าม พวกเขาเองก็ติดกับดัก ถูกผูกมัดด้วยความล่อลวงของความโลภ ตัณหา และความสนุกสนานที่พวกเขาสั่งสอน

ในขณะที่ประกาศเสรีภาพ พวกเขาก็ยังติดอยู่ในโซ่ตรวนของตัวเอง

เสน่ห์ของโลกไม่อาจปฏิเสธได้ มันเปล่งประกายด้วยคำสัญญาถึงความพึงพอใจ ความยินดี และความสุขที่หายวับไปทันที แต่ความเพลิดเพลินชั่วคราวดังกล่าวกลับมาพร้อมกับราคาที่สูง เสรีภาพที่สัญญาไว้นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาในทะเลทรายแห่งชีวิต สิ่งที่เริ่มต้นจากการแสวงหาความสนุกสนานจะกลายเป็นห่วงโซ่ที่ผูกพัน นำไปสู่ความรู้สึกว่างเปล่าและการถูกกักขัง

ตรงกันข้ามกับพระเยซูผู้ทรงเป็นเสรีภาพที่แท้จริงของเรา ความรักของพระองค์ไม่มีเงื่อนไข พระสัญญาของพระองค์ไม่อาจทำลายได้ พระองค์ไม่เพียงเสนอการหลบหนีชั่วคราวเท่านั้น พระองค์ยังเสนอการปลดปล่อยที่ยั่งยืนจากโซ่ตรวนที่ถ่วงเราไว้อีกด้วย พระเยซูทรงเป็นผู้เดียวที่สามารถทำลายโซ่ตรวนของเราและปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ

นี่คือการเดินทางและการเลือกที่ต่อเนื่องทุกวัน การโกหกอาจดูน่าดึงดูด แต่กลับผูกมัดเราไว้ด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น ในทางกลับกัน การโอบรับความจริงที่พระเยซูทรงสอนคือพลังแท้จริงที่จะปลดปล่อยเรา “ความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ” (ยอห์น 8:32) ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น แต่เป็นความจริงสำหรับผู้ที่เลือกเดินในแสงสว่างของพระองค์ เมื่อเราดำเนินชีวิต ขอให้เราแยกแยะความเท็จจากความจริง โดยเลือกเส้นทางที่นำไปสู่อิสรภาพที่แท้จริงและนิรันดร์

อธิษฐาน : ข้าแต่พระเยซูเจ้า ขอนำทางเราให้ห่างจากคำสัญญาอันว่างเปล่าของโลกนี้ โปรดเติมเต็มหัวใจของเราด้วยความจริงของพระองค์ เพื่อเราจะพบเสรีภาพที่แท้จริงในพระองค์ เสริมกำลังเราให้รับรู้และต่อต้านผู้ที่จะนำเราให้หลงทาง อาเมน

*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน

1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?

3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?

4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง