พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
![พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimageproxy.youversionapistaging.com%2Fhttps%3A%2F%2Fs3.amazonaws.com%2Fyvplans-staging%2F53317%2F1280x720.jpg&w=3840&q=75)
อะไรอยู่ในใจคุณ?
เจ้าของรางวัลโนเบลและนักเขียนวรรณกรรมคนสำคัญชาวรัสเซียในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 อเล็กซานเดอร์ โซลเซนิตซิน (1918-2008) เขาถูกจำคุกเป็นเวลา 8 ปีเนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์สตาลิน เขาเขียนไว้ว่า ‘เส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่วนั้น ไม่ได้แบ่งด้วยสถานะ หรือชนชั้น หรือพรรคการเมือง แต่แบ่งด้วยหัวใจของมนุษย์ทุกคน’ พวกเราทุกคนถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้า มนุษย์มีความสามารถในการแสดงความรัก ความกล้าหาญ และความเป็นผู้กล้า แต่ไม่มีพวกเราสักคนเดียว (นอกจากพระเยซู) ที่ปราศจากความบาป คุณรู้หรือไม่ว่าคุณมีอะไรอยู่ในใจ?สุภาษิต 6:30-35
ใจของคุณและความอ่อนแอของตัวมันเอง
ความบาปทั้งสิ้นล้วนละเมิดธรรมบัญญัติของพระเจ้า ดังนั้นความบาปจึงเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมาก แต่ความบาปนั้นมีลำดับในตัวมันเอง ความบาปบางอย่างนั้นเลวร้ายกว่าบาปอื่น ๆ มากนัก
ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตชี้ให้เห็นถึงประเด็นนี้โดยการใช้ตัวอย่างของชายคนหนึ่งที่เป็นขโมยเพราะเขาหิว ใช่แล้ว แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่ผิดและมีการจ่ายราคา (ข้อ 30-31)
แต่ผู้เขียนกล่าวว่าการล่วงประเวณีนั้นร้ายแรงกว่ามาก มันนำไปสู่ ‘ความอัปยศ’ (ข้อ 33ข) ‘ความหวงแหน’ (ข้อ 34ก) ‘แก้แค้น’ (ข้อ 34ข) และเป็นการทำลายชีวิต โดยเฉพาะชีวิตของผู้ที่ล่วงประเวณีเอง: ‘ทำลายจิตวิญญาณ ทำลายตนเอง... ทำลายชื่อเสียงชั่วนิรันดร์’ (ข้อ 32-33, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ผู้เขียนกล่าวว่า ‘เพราะความหวงแหนทำให้สามีเกรี้ยวกราด ในวันที่เขาแก้แค้น เขาจะไม่เพลามือ’ (ข้อ 34) ธรรมชาติของมนุษย์นั้นไม่เปลี่ยนแปลงนานนับหลายพันปี
ไม่มีอะไรผิดในเรื่องเพศหรือเรื่องเงิน แต่มีการทดลองมากมายอยู่รอบ ๆ ทั้งสองสิ่งนี้ ธรรมบัญญัติหลาย ๆ ข้อในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมในวันนี้ได้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อจำกัดขอบเขตคุ้มครองการใช้อย่างเหมาะสม
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับของขวัญซึ่งพระองค์ทรงประทานให้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย และขอบเขตที่พระองค์ทรงให้ไว้เพื่อการใช้อย่างเหมาะสม ขอพระองค์อย่าทรงนำข้าพระองค์ไปสู่การทดลอง แต่ปลดปล่อยข้าพระองค์จากสิ่งชั่วร้าย
มาระโก 14:43-72
ใจของคุณและผลของมัน
ธรรมชาติความบาปของมนุษย์นั้นนำไปสู่การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู ความท้าทายคือการใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป:
1.\tจงเป็นของแท้
ยูดาสทรยศพระเยซูด้วยการจูบ เขากล่าวว่า ‘เราจูบคำนับใครก็คือคนผู้นั้นแหละ’ (ข้อ 44ก) เขาเข้ามาหาพระเยซูและ ‘จูบพระองค์’ (ข้อ 45)
ในภาษากรีก คำว่าหน้าซื่อใจคดมีความหมายเหมือนคำว่าหน้ากาก (คำว่าหน้ากาก ในกรีกโบราณใช้ สำหรับการแสดง) ภายนอกนั้นยูดาสสวมหน้ากากแห่งความรักเข้าหาพระเยซู แต่ในความเป็นจริงเขากำลังทรยศพระองค์อันนำไปสู่ถูกตรึงกางเขน การจูบเป็นการแสดงถึงความหน้าซื่อใจคดอย่างถึงที่สุด
จอยซ์ ไมเยอร์เขียนเรื่องที่ชื่อว่า ‘Judas kiss test’ คือบททดสอบของการถูกทรยศโดยเพื่อนที่เรารัก เคารพ และไว้ใจ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งของผู้นำมักจะประสบกับสิ่งนี้ คุณต้อง ‘ให้อภัยผู้ที่กระทำผิด และไม่ปล่อยให้เขาหรือเธอมาเป็นเหตุทำให้คุณล้มเหลว หรือล่าช้าในการทำสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณทำ’
2.\tจงพูดความจริง
เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ใช้ในการต่อต้านพระเยซู พวกเขาจึงต้องพึ่งพาพยานเท็จ ทว่าดูเหมือนหลายคนพร้อมที่จะเป็นพยานปรักปรำพระองค์ (ข้อ 56) จากการทำงานเป็นทนายความผมได้เห็นกับตาตนเองว่ามีบางคนยังคงเตรียมที่จะ ‘ให้การเท็จ’ ในศาล
3.\tจงต่อสู้กับการทุจริต
ผู้พิพากษาที่ทุจริตยังคงเป็นรูปแบบของโลกในปัจจุบัน พวกเขารู้หรือควรจะรู้ว่าพระเยซูทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ ‘คนทั้งหลายจึงเห็นพร้อมกันว่าควรจะลงโทษถึงตาย’ (ข้อ 64ข) มันจะต้องแย่มากที่ต้องใช้ชีวิตในสังคมที่ปราศจากหลักนิติธรรม ในสังคมที่ซึ่งผู้พิพากษานั้นไม่สามารถเชื่อถือได้
4.\tจงยอมรับพระเยซู
ผมรู้สึกเห็นใจอย่างที่สุดที่เปโตรปฏิเสธพระเยซู เขามีความตั้งใจจริงที่จะไม่ทำเช่นนั้นแต่เขาก็ล้มเหลว ผมรู้ว่าธรรมชาติของมนุษย์ในตัวผมนั้นอ่อนแอเพียงใดการปฏิเสธพระเยซูของเปโตรนั้นมาจากตัวของเปโตรเองผู้ซึ่งเป็นคนเปิดกว้างเป็นพิเศษและเป็นคนอ่อนแอ เขาได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและความล้มเหลวของตัวเอง
เมื่อพระเยซูทรงเผชิญกับปัญหาหนัก ‘สาวกทั้งหมดก็ละทิ้งพระองค์ไว้และพากันหนีไป’ (ข้อ 50)
อย่างไรก็ดีเปโตรมีความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะติดตามพระเยซูไป ‘จนเข้าไปถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต’ (ข้อ 54) แม้ว่าจะติดตามไปห่าง ๆ เพื่อจะได้มองเห็นพระเยซูและการสอบสวนก็ตาม ผมสงสัยว่าเมื่อมาถึง จุดนี้ผมอาจจะอยู่กับเหล่าสาวกคนอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปกาลิลี!
กระนั้น มีพระคำที่ไม่อาจลืมได้เกี่ยวกับการปล่อยใจตัวเองของอัครสาวกเปโตรผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะที่พระเยซูผู้ทรงเป็นเพื่อนและผู้นำของเขาถูกสอบสวนอยู่ เปโตร ‘ไปนั่งผิงไฟอยู่กับพวกทหารยาม’ (ข้อ 54,67)
เมื่อเปโตรเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระเยซู และสิ่งที่พระองค์จะต้องทนทุกข์ เปโตรก็ยิ่งห่างจากพระเยซูออกไป (ข้อ 54ก) เมื่อเขาได้เริ่มไปในทิศทางนั้น ขั้นต่อไปก็คือการปฏิเสธพระองค์ เส้นทางนี้นำเขาไปสู่การโกหก เขาจบลงด้วยการกล่าวว่า ‘คนที่เจ้าพูดถึงนั้นข้าไม่รู้จัก’ (ข้อ 71ข)
ผมแน่ใจว่าเปโตรไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้เรื่องเลยเถิดไปไกลเมื่อเขารักษาระยะห่างจากพระเยซู แต่สำหรับพวกเราทุกคน บาปอย่างหนึ่งนำเราไปสู่อีกบาปหนึ่งได้อย่างง่ายดายก่อนที่เราจะรู้ตัวและเราก็จบลงด้วย การทำสิ่งที่เราต้องเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อเปโตรรู้ตัวว่าเขาได้ทำอะไรลงไป ‘เปโตรกลั้นความรู้สึกไม่ อยู่ก็ร้องไห้’ (ข้อ 72ค)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับการทรงหนุนใจ ที่แม้กระทั่งอัครสาวกเปโตรเคยล้มเหลว และผิดพลาดเพียงไร แต่พระองค์ยังทรงให้อภัยเขา ฟื้นฟูเขาและทรงใช้เขาอย่างอานุภาพ ขอบคุณพระองค์สำหรับพระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ของพระองค์
เลวีนิติ 19:1-20:27
ใจของคุณและธรรมบัญญัติของพระเจ้า
พระเจ้าต้องการให้เรามีชีวิตที่บริสุทธิ์และสะอาด เราต้องสะท้อนให้เห็นความเป็นพระองค์ และนำผู้คนไปสู่พระองค์ พระคำตอนนี้ในพระธรรมเลวีนิติเรียกว่า ‘กฎเกณฑ์แห่งความบริสุทธิ์’ คือ ‘เจ้าทั้งหลายต้องบริสุทธิ์ เพราะเรายาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์’ (19:2)
เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์มีด้านที่ไม่เชื่อฟังจึงต้องมีกฎมาบังคับ เหมือนในทุก ๆ สังคมที่มีทั้งกฎหมายแพ่งและอาญา กฎหมายบางข้อมีความเฉพาะเจาะจงและมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของอิสราเอลโบราณ ส่วนข้ออื่น ๆ นั้นเป็นกฎทั่วไปที่สามารถใช้ได้กับสังคมส่วนใหญ่ทั่วไป
กฎหมายเกี่ยวกับพิธีกรรมปัจจุบันนี้เลิกใช้ไปแล้ว ส่วนกฎหมายเกี่ยวกับอาหารได้ถูกแทนที่โดยพระเยซูและเครื่องบูชานั้นสมบูรณ์แล้วโดยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ กฎหมายแพ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเหมาะสมกับชนชาติอื่นเสมอไป บางฉบับก็มีมนุษยธรรม และบางฉบับก็มีความรุนแรง ดูเหมือนว่ากฎเหล่านี้มีความจำเป็นในช่วงต้นของประวัติศาสตร์อิสราเอล แต่ก็ไม่ได้มีผลบังคับใช้ถาวรหรือเป็นสากลทั้งหมด
กฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรม ยังคงมีผลบังคับใช้เพื่อที่จะเปิดเผยถึงพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อประชาชนของพระองค์ ดังที่พระเยซูทรงเพิ่มและลงลึกเอาไว้ และดังที่เหล่าอัครสาวกสะท้อนไว้ในจดหมายฝาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสอดคล้องในเชิงบวกกับข้อห้ามทางกฎหมาย
กฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรมพระเยซูทรงสรุปไว้ว่า ‘พวกท่านจงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน... และ... จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ (ลูกา 10:27) ย้อนกลับไปในข้อพระคัมภีร์ของวันนี้ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ (เลวีนิติ 19:18ข) กฎคือประชาชนของพระเจ้าควรจะบริสุทธิ์ (ข้อ 2ข) กฎข้อที่เหลือเป็นข้อชี้แนะว่าเราจะรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเองและเป็นคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร
กฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรมที่บังคับใช้กับเราขณะนี้นั้นรวมถึงกฎที่ใช้ปกป้องคนยากจน (ข้อ 10) กฎที่ต่อต้านการเหยียดชนชาติ (ตัวอย่างในข้อ 33-34) และที่เห็นได้ชัดคือกฎเกี่ยวกับการลักทรัพย์ (ข้อ 11) การบีบคั้นและการปล้น (ข้อ 13ก) และอื่น ๆ
มักจะมีหลักการสำคัญที่ถูกนำมาใช้จริงในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ‘ห้ามให้ค่าจ้างของลูกจ้างค้างอยู่กับเจ้าจนถึงรุ่งเช้า’ (ข้อ 13ข) เป็นการท้าทายเราให้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ตรงเวลา มีแนวโน้มในการชะลอการชำระค่าใช้จ่ายจนกว่าจะมีการแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายเพิ่มมากขึ้น ประชาชนของพระเจ้าถูกเรียกให้ใช้ชีวิตที่แตกต่าง นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็ก ๆ ที่จะสื่อถึงความหมายของการเป็นคนบริสุทธิ์
เพื่อที่จะรักษาให้ใจของคุณบริสุทธิ์ คุณต้องหันเหไปจากสิ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณเสื่อมเสีย ในบรรดาความบาปที่ชัดเจนที่ได้ระบุไว้ในพระธรรมตอนนี้ (ข้อ 3-31) มีบาปอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ ‘คนชอบนินทา’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) และ ‘การผูกพยาบาท’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) จงรักษาความลับและพยายามอย่าผูกพยาบาทกับใคร การผูกพยาบาทถือเป็นการปล่อยให้ใครสักคนอาศัยพื้นที่อยู่ในหัวคุณฟรี ๆ
นอกจากนี้ยังมีการเตือนเกี่ยวกับอันตรายของการ ‘เป็นหมอดูหรือเป็นหมอผี’ (ข้อ 26ข) หลีกเลี่ยงการดูดวง การไปหาคนทรง การทำนายดวงชะตา การดูลายมือ ไพ่ทาโร่ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์คาถาทุกประเภท (ข้อ 31) ถ้าคุณได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ คุณสามารถได้รับการให้อภัย จงกลับใจและกำจัดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเหล่านี้ เช่น หนังสือ เครื่องราง ดีวีดี และนิตยสาร (กิจการ 19:19)
อีกแง่มุมหนึ่งของกฎหมาย คือการนำความบาปไปสู่แสงสว่าง และนำไปสู่การกลับใจและการพึ่งพาในพระคุณของพระเจ้า เมื่อผมอ่านกฎเหล่านี้ผมได้เห็นว่าพวกเขาต้องดำเนินชีวิตอย่างหนักหนาเพียงใด ผมตกจากมาตรฐานของพระเจ้าไปไกลแค่ไหน และผมต้องการการอภัยจากพระองค์ และความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์มากเท่าใด
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อปลดปล่อยเราเป็นอิสระจากกฎเหล่านี้ ขอบพระคุณพระองค์ที่ในตอนนี้ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ ขอทรงเติมข้าพระองค์ให้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และช่วยให้ข้าพระองค์มีชีวิตที่บริสุทธิ์
Pippa Adds
เลวีนิติ 19:10
‘ห้ามเก็บผลที่สวนองุ่นจนหมด ห้ามเก็บองุ่นที่ตกในสวนของเจ้า จงเหลือไว้ให้คนยากจนและคนต่างด้าวบ้าง เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’
เมื่อฉันยังเด็ก เราอาศัยอยู่ข้าง ๆ สวนแอปเปิ้ลขนาดใหญ่ เราเดินผ่านสวนนั้นเป็นประจำ เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจะเป็นการเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลทั้งหมดครั้งใหญ่ แต่หลังจากนั้นแอปเปิ้ลผลที่ตกหรือไม่สุกตามเวลาก็จะถูกเก็บรวม เป็นกองแอปเปิ้ลเน่ากองใหญ่
การปล่อยให้คนยากจนเก็บอาหารอาจดูไม่สมเหตุสมผลทางด้านเศรษฐกิจ แต่หลักการในพระคัมภีร์คือควรให้อาหารแก่คนยากจนและอาหารนั้นไม่ควรเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
![พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimageproxy.youversionapistaging.com%2Fhttps%3A%2F%2Fs3.amazonaws.com%2Fyvplans-staging%2F53317%2F1280x720.jpg&w=3840&q=75)
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th