ดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อในดินแดนที่ปราศจากความเชื่อ (ดาเนียล)ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 6 : วันที่ 4 "การรื้อฟื้น"

ลงลึกในพระคำ
แม้ต้องตกเป็นเชลยเป็นเวลาถึง 70 ปี แต่พระเจ้ายังทรงสัตย์ซื่อ เมื่อครบกำหนด พระองค์ก็นำประชากรของพระองค์กลับสู่แผ่นดิน แม้สภาพการณ์จะไม่เหมือนเดิมทุกอย่าง พวกเขาไม่มีกษัตริย์ของตนเอง แต่พระเจ้าอนุญาตให้พวกเขาได้อาศัยในแผ่นดิน สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ และมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่ในยูดาห์

เอสราเป็นผู้นำชาวยิวกลุ่มแรกที่กลับสู่แผ่นดินยูดาห์ แม้จะมีคนจำนวนไม่มากนัก และภารกิจในการสร้างกรุงเยรูซาเล็ม กำแพงเมือง บ้านเรือน และวิหารขึ้นใหม่นั้นดูเหมือนจะเป็นงานที่หนักเกินกำลัง แต่พระเจ้าก็ยังคงเลี้ยงดูประชากรของพระองค์อย่างสัตย์ซื่อครั้งแล้วครั้งเล่า

เศคาริยาห์ได้กลับมายังเยรูซาเล็มในกลุ่มแรกๆ พระเจ้าประทานข่าวสารสำคัญแก่ประชากรของพระองค์ที่กังวลเกี่ยวกับภารกิจข้างหน้า ภารกิจนี้จะไม่สำเร็จโดยกำลังหรือฤทธิ์ของพวกเขา แต่สำเร็จได้โดยพระวิญญาณของพระเจ้า (ดูเศคาริยาห์ 4:6-7)!

เนหะมีย์เดินทางกลับจากบาบิโลนในกลุ่มคนกลุ่มหลัง ประมาณ 13 ปี หลังจากเอสราเดินทางมาถึง เขาช่วยให้กำลังใจและจุดประกายการสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระวิหารและกำแพงเมือง งานก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้หยุดชะงักลง เนื่องจากการต่อต้านอย่างต่อเนื่องจากศัตรูของพวกเขาและความเหนื่อยล้าของผู้คนอันเป็นผลจากการต่อสู้

แล้วหัวใจของผู้คนล่ะ? พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงพวกเขาแล้วหรือยัง? ผู้คนพร้อมที่จะเชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาถึงกับอยากจะทำสัญญากับพระเจ้าด้วยซ้ำ! แม้ว่าพวกเขาจะถูกทดลองและกลับไปทำบาปอีกครั้ง แต่เราก็เห็นความสัตย์ซื่อที่เพิ่มมากขึ้นในท่าทีของประชากรของพระเจ้าในช่วงเวลานี้

พระเจ้ายังคงเปลี่ยนแปลงดวงใจจากความตายสู่ชีวิต และทรงทำเช่นนั้นเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่พระเยซูกลับสู่สวรรค์และทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมา

พระเจ้าทรงเป็นผู้รักษาพระสัญญาที่ยิ่งใหญ่ เราสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้จะเป็นจริง แต่พระองค์ไม่ได้ทำให้พระสัญญาของพระองค์สำเร็จในแบบที่เราคาดหวังหรืออยากให้เป็นเสมอไป เราสามารถวางใจได้ว่า ทางของพระองค์นั้นดีที่สุด พระองค์ทรงชอบธรรมและกระทำอย่างซื่อสัตย์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ ความรักของพระองค์ผลักดันทุกสิ่งที่พระองค์ทำ ซึ่งประทานพระคุณแก่เราครั้งแล้วครั้งเล่า

อธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ชอบธรรมและสัตย์ซื่อในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ บ่อยครั้งที่ลูกสงสัยในความสัตย์ซื่อของพระองค์ เพราะพระองค์ไม่ได้ทำในสิ่งที่ลูกต้องการ ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้อภัยลูก ลูกอธิษฐานขอให้ไม่ใช่ตามใจของลูก แต่ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ ลูกขอบพระคุณที่ลูกสามารถวางใจและพึ่งพาพระคำของพระองค์ อาเมน

*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน

1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?

3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?

4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง