“อย่างน้อยที่สุดยังมีความหวังสำหรับต้นไม้ ถึงมันถูกโค่นก็ยังจะแตกหน่อขึ้นมาอีก และงอกกิ่งใหม่ขึ้นมาแทน รากของมันอาจจะแก่คร่ำคร่าอยู่ในดิน และตอก็ผุพัง แต่เมื่อมันได้กลิ่นอายของน้ำ มันก็สามารถแตกหน่อขึ้นมาใหม่เหมือนต้นอ่อน แต่มนุษย์ตายไปและสิ้นแรง เขาหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วก็ไม่เหลืออะไร น้ำในทะเลสาบแห้งไป และแม่น้ำแห้งเหือดไปฉันใด คนเราก็นอนลงและไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกฉันนั้น ถึงฟ้าดินสิ้นสลาย มนุษย์ก็จะไม่ฟื้นขึ้นมา หรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีก “ถ้าเพียงแต่พระองค์จะซ่อนข้าพระองค์ไว้ในหลุมศพ และพรางข้าพระองค์ไว้จนกว่าพระพิโรธของพระองค์จะผ่านไป! ถ้าเพียงแต่พระองค์จะทรงกำหนดเวลาไว้ให้ข้าพระองค์ และทรงระลึกถึงข้าพระองค์อีก! เมื่อคนเราตายไป เขาจะมีชีวิตอีกหรือ? ข้าพระองค์สู้เหนื่อยยากมาตลอดวันคืน ข้าพระองค์จะรอคอยการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะมาถึง พระองค์จะตรัสเรียก และข้าพระองค์จะขานรับ พระองค์จะทรงคิดถึงพระหัตถกิจของพระองค์ แน่นอน พระองค์จะทรงนับย่างก้าวของข้าพระองค์ แต่ไม่นับบาปของข้าพระองค์ การล่วงละเมิดของข้าพระองค์จะถูกผนึกตราไว้ในถุง จะทรงปกปิดบาปของข้าพระองค์ไว้ “แต่เหมือนภูเขาสึกกร่อนและทลายไป และเหมือนหินถูกย้ายไปจากที่ของมัน เหมือนน้ำกัดกร่อนก้อนหินและกระแสน้ำเชี่ยวพัดพาดินไป พระองค์ก็ทำลายความหวังของมนุษย์อย่างนั้นแหละ พระองค์ทรงกำราบเขาเพียงครั้งเดียว เขาก็ล่วงลับไป พระองค์ทรงเปลี่ยนสีหน้าของเขา แล้วทรงส่งเขาไป แม้ลูกๆ ของเขาจะมีเกียรติ เขาก็ไม่รู้ แม้ลูกๆ ของเขาจะตกต่ำ เขาก็ไม่เห็น เขารู้สึกได้แต่ความเจ็บปวดของร่างกายของตนเอง และคร่ำครวญเพื่อตนเองเท่านั้น”
อ่าน โยบ 14
ฟัง โยบ 14
แบ่งปัน
เปรียบเทียบฉบับแปลทั้งหมด: โยบ 14:7-22
บันทึกข้อพระคำ อ่านแบบออฟไลน์ ดูคลิปการสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย!
หน้าหลัก
พระคัมภีร์
แผนการอ่าน
วิดีโอ