มาระโก 14:12-54

มาระโก 14:12-54 THA-ERV

ใน​วัน​แรก​ของ​เทศกาล​กิน​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ ซึ่ง​เป็น​วัน​ที่​พวก​ยิว​จะ​ฆ่า​ลูกแกะ​ถวาย​พระเจ้า สำหรับ​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย ด้วย พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ได้​ถาม​พระองค์​ว่า “จะ​ให้​พวก​เรา​ไป​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย​ให้​กับ​อาจารย์​ที่​ไหน​ดี​ครับ” พระเยซู​ส่ง​ศิษย์​สอง​คน​ไป พระองค์​สั่ง​ว่า “เข้า​ไป​ใน​เมือง​แล้ว​จะ​เจอ​ผู้ชาย​ที่​แบก​เหยือก​น้ำ ให้​ตาม​เขา​ไป ให้​พูด​กับ​เจ้าของ​บ้าน​ที่​ชาย​คน​นั้น​เข้า​ไป​ว่า ‘อาจารย์​ให้​ถาม​ว่า​ห้อง​ที่​เรา​จะ​ใช้​กิน​อาหาร​ใน​เทศกาลวัน​ปลด​ปล่อย​กับ​พวก​ศิษย์​นั้น​อยู่​ที่​ไหน’ แล้ว​เขา​จะ​พา​คุณ​ไป​ดู​ห้อง​ใหญ่​ชั้น​บน​ที่​เตรียม​ไว้​พร้อม​แล้ว ให้​จัด​อาหาร​ที่​นั่น” แล้ว​ศิษย์​ทั้ง​สอง​ก็​เข้า​ไป​ใน​เมือง และ​มัน​ก็​เป็น​ไป​ตาม​ที่​พระเยซู​บอก​ทุก​อย่าง พวก​เขา​จึง​จัด​เตรียม​อาหาร​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปลด​ปล่อย​ที่​นั่น เมื่อ​ถึง​ตอนเย็น พระเยซู​มา​ถึง​บ้าน​หลัง​นั้น​พร้อม​กับ​พวก​ศิษย์​เอก​ทั้ง​สิบสอง​คน ใน​ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​อยู่​นั้น พระเยซู​พูด​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​จะ​หักหลัง​เรา และ​เขา​ก็​นั่ง​กิน​อยู่​กับ​เรา​ที่​นี่​ด้วย” พวก​ศิษย์​รู้สึก​เป็น​ทุกข์​มาก ต่าง​คน​ต่าง​ก็​ถาม​พระองค์​ว่า “คง​ไม่​ใช่​ผมนะ​อาจารย์” พระเยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “คน​หนึ่ง​ใน​พวก​คุณ​สิบ​สอง​คน​นี่​แหละ คน​ที่​จุ่ม​ขนมปัง​ใน​ชาม​เดียว​กับ​เรา บุตร​มนุษย์​จะ​ต้อง​ตาย​เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์ ได้​เขียน​ไว้​แล้ว แต่​คน​ที่​ได้​หักหลัง​บุตร​มนุษย์​นั้น​น่า​ละอาย​จริงๆ ถ้า​เขา​ไม่​ได้​เกิด​มา​ก็​คง​จะ​ดี​กว่า” ขณะ​ที่​กำลัง​กิน​อาหาร​อยู่​นั้น พระเยซู​ได้​หยิบ​ขนมปัง​ขึ้น​มา​ขอบคุณ​พระเจ้า จาก​นั้น​ก็​หัก​แบ่ง​ให้​พวก​ศิษย์​แล้ว​พูด​ว่า “รับ​ไป​กิน​สิ นี่​คือ​ร่างกาย​ของ​เรา” แล้ว​พระองค์​หยิบ​ถ้วย​ขึ้น​มา​ขอบคุณ​พระเจ้า​และ​ยื่น​ให้​กับ​พวก​ศิษย์ พวก​เขา​ก็​ได้​ดื่ม​จาก​ถ้วย​นั้น​ทุก​คน แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “นี่​คือ​เลือด​ของ​เรา พระเจ้า​ทำ​สัญญา​ขึ้น​มา​ด้วย​เลือดนี้ มัน​ได้​หลั่งไหล​ออก​มา​เพื่อ​คน​เป็น​จำนวน​มาก เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​อีก​เลย​จน​กว่า​จะ​ถึง​วัน​นั้น​ที่​เรา​จะ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​ใหม่​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า” เมื่อ​พวก​เขา​ได้​ร้องเพลง​สรรเสริญ​พระเจ้า​แล้ว ก็​ออก​ไป​ที่​ภูเขา​มะกอกเทศ พระเยซู​พูด​กับ​พวก​ศิษย์​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ทิ้ง​เรา​ไป​กัน​หมด​ทุก​คน เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘เรา​จะ​ฆ่า​คน​เลี้ยง​แกะ และ​แกะ​นั้น​ก็​จะ​กระเจิด​กระเจิง​ไป’ แต่​เมื่อ​เรา​ฟื้นขึ้น​จาก​ความตาย เรา​จะ​ล่วงหน้า​พวก​คุณ​ไป​ที่​แคว้น​กาลิลี​ก่อน” แต่​เปโตร​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “ถึง​คน​อื่น​จะ​ทิ้ง​อาจารย์​ไป​หมด ผม​ก็​จะ​ไม่​มี​วัน​ทิ้ง​อาจารย์​ไป​อย่าง​เด็ดขาด” พระเยซู​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​ว่า คืนนี้​แหละ​ก่อน​ไก่​ขัน​ครั้ง​ที่​สอง คุณ​จะ​พูด​ว่า​ไม่​รู้จัก​เรา​สาม​ครั้ง” แต่​เปโตร​ก็​ยัง​ยืนยัน​เสียงแข็ง​ว่า “ถึง​ผมจะ​ต้อง​ตาย​กับ​อาจารย์ ผม​ก็​ไม่​มี​วัน​พูด​ไม่​รู้จัก​อาจารย์” และ​พวก​ศิษย์​ทั้งหมด ก็​พูด​อย่าง​เดียว​กัน พวก​เขา​มา​ถึง​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​เรียกว่า เกทเสมนี พระเยซู​บอก​กับ​พวก​ศิษย์​ว่า “นั่ง​คอย​อยู่​ที่​นี่​นะ เรา​จะ​ไป​อธิษฐาน” พระองค์​พา​เปโตร ยากอบ และ​ยอห์น​ไป​ด้วย แล้ว​พระองค์​ก็​เริ่ม​โศกเศร้า​เสียใจ​และ​เป็น​ทุกข์​ยิ่ง​นัก จึง​บอก​พวก​เขา​ว่า “เรา​ทุกข์ใจ​มาก​จน​แทบ​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว ให้​ตื่น​และ​เฝ้า​ระวัง​อยู่” พระองค์​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​อีก​หน่อย​หนึ่ง แล้ว​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้นดิน อธิษฐาน​ว่า ถ้า​เป็น​ไป​ได้​ขอ​ให้​เวลา​แห่ง​ความ​ทุกข์ยาก​นี้​ผ่าน​พ้น​ไป​จาก​พระองค์ พระองค์​พูด​ว่า “อับบา พระบิดา ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​เป็น​ไป​ได้​สำหรับ​พระองค์ ขอ​ช่วย​เอา​ถ้วย แห่ง​ความ​ทุกข์ยาก​นี้​พ้น​ไป​จาก​ลูก​ด้วย​เถิด แต่​ขอ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ใจ​พระบิดา ไม่​ใช่​ตาม​ใจ​ลูก” แล้ว​พระองค์​ก็​เดิน​กลับ​มา เห็น​พวก​ศิษย์​นอนหลับ​อยู่ พระองค์​จึง​พูด​กับ​เปโตร​ว่า “ซีโมน ยัง​จะ​หลับ​อยู่​อีก​หรือ คุณ​จะ​ตื่น​เป็น​เพื่อน​เรา​สัก​ชั่วโมง​ไม่​ได้​เลย​หรือ พวก​คุณ​ต้อง​เฝ้า​ระวัง​และ​อธิษฐาน จะ​ได้​ไม่​แพ้​ต่อ​การยั่วยวน ถึง​แม้​จิตใจ​อยาก​จะ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง แต่​ร่างกาย​ก็​ยัง​อ่อนแอ​อยู่” พระองค์​เดิน​ไป​อธิษฐาน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​และ​พูด​เหมือน​เดิม พอ​เดิน​กลับ​มา ก็​เจอ​พวก​ศิษย์​ยัง​นอนหลับ​อยู่ เปลือกตา​เขา​หนัก​อึ้ง​ลืม​ไม่​ขึ้น เขา​ไม่​รู้​จะ​พูด​อะไร​กับ​พระองค์ ต่อมา​พระองค์​ก็​เดิน​กลับ​มา​ดู​พวก​เขา​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่​สาม และ​พูด​ว่า “ยัง​นอน​หลับ​พักผ่อน​กัน​อยู่​อีก​เหรอ นอน​พอ​แล้ว ชั่วโมง​ที่​บุตร​มนุษย์​จะ​ถูก​หักหลัง​ให้​ไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​พวก​คน​บาปนั้น​มา​ถึง​แล้ว ลุก​ขึ้น​ไป​กัน​เถอะ นั่นไง คน​ที่​หักหลัง​เรา​มา​ถึง​แล้ว” พระเยซู​พูด​ยัง​ไม่ทัน​ขาดคำ ยูดาส ศิษย์​คน​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​คน​ก็​มา​ถึง​พร้อม​กับ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ที่​ถือ​ดาบ​และ​ไม้กระบอง คน​พวกนี้​ถูก​ส่ง​มา​จาก​พวก​หัวหน้า​นักบวช พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ และ​พวก​ผู้​อาวุโส ยูดาส​ได้​ตกลง​กับ​พวก​นั้น​ไว้​ก่อน​ล่วงหน้า​แล้ว​ว่า “คน​ที่​ผม​จูบ​คือ​คนๆ​นั้น เข้า​ไป​จับกุม​และ​ควบคุม​ตัว​ไป​เลย” เมื่อ​ยูดาส​มา​ถึง​ก็​เดิน​เข้า​ไป​หา​พระเยซู​และ​พูด​ว่า “อาจารย์​ครับ” แล้ว​จูบ​พระองค์ พวก​นั้น​ก็​เข้า​มา​จับ​ตัว​พระองค์​และ​คุมตัว​ไว้ คน​หนึ่ง​ใน​พวก​พระเยซู​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้ๆ​นั้น ได้​ชัก​ดาบ​ออก​มา แล้ว​ก็​ฟัน​ถูก​หู​ทาส​คน​หนึ่ง​ของ​นักบวช​สูงสุด​ขาด​ไป พระเยซู​พูด​กับ​พวก​นั้น​ว่า “เห็น​เรา​เป็น​โจร​หรือ​ยังไง ถึง​ได้​ถือ​ดาบ​และ​ไม้​กระบอง​มา​จับ​เรา เรา​อยู่​กับ​พวก​คุณ​ทุก​วัน สอน​อยู่​ใน​วิหาร แต่​พวก​คุณ​ก็​ไม่​จับ แต่​ทุก​อย่าง​ก็​ต้อง​เป็น​ไป​ตาม​ที่​ได้​เขียน​ไว้​แล้ว​ใน​พระคัมภีร์” ส่วน​พวก​ศิษย์​วิ่งหนี​ทิ้ง​พระองค์​ไป​กัน​จน​หมด มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​ติดตาม​พระองค์​มา ไม่​ได้​สวม​ใส่​อะไร​เลย นอก​จาก​ห่ม​ผ้า​ป่าน​ผืน​หนึ่ง เมื่อ​พวก​นั้น​พยายาม​จะ​จับ​เขา เขา​ก็​ได้​สลัด​ผ้า​ป่าน​ทิ้ง​แล้ว​เปลือยกาย​วิ่งหนี​ไป พวก​เขา​นำ​ตัว​พระเยซู​ไป​พบ​นักบวช​สูงสุด พวก​หัวหน้า​นักบวช พวก​ผู้นำ​ชาวยิว และ​พวก​ครู​สอน​กฎปฏิบัติ​ได้​อยู่​ชุมนุม​กัน​ที่​นั่น เปโตร​ตาม​พระเยซู​มา​ห่างๆ​เข้า​ไป​ยัง​ลาน​บ้าน​ของ​นักบวช​สูงสุด​ด้วย เขา​ไป​นั่ง​ผิง​ไฟ​ให้​ตัว​อุ่น​อยู่​กับ​พวก​ผู้​คุม