ชัยชนะเหนือการทดลอง (1 และ 2 เปโตร)ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 3 : วันที่ 2 "แสวงหาสันติภาพท่ามกลางความขัดแย้ง"

ลงลึกในพระคำ

การเลือกที่จะรักชีวิตและการรอวันที่ดีในวันข้างหน้าของเรา ไม่ใช่ความคิดที่แปลก มันคือท่าทีแห่งความเชื่อ ซึ่งมีรากฐานมาจากอำนาจอธิปไตยของพระเจ้าเหนือโลกของเรา ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและความท้าทายที่เราทุกคนเผชิญ เรายึดมั่นในพระสัญญาที่ว่าวันที่สดใสรออยู่ข้างหน้าสำหรับผู้ที่รู้จักและรักองค์พระผู้เป็นเจ้า

การใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่การนิ่งเฉย แต่เป็นการระวังคำพูดที่เราพูดกับผู้อื่นและตัวเราเองอย่างขะมักเขม้น การทำให้แน่ใจว่าเรากำลังพูดด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง คำพูดของเราสามารถเสริมสร้างหรือทำลายได้ (ยากอบ 3:1-12) ข้อพระคำเหล่านี้เตือนเราให้เลือกถ้อยคำที่จริงใจและให้ชีวิต ไม่ใช่คำหลอกลวงหรือทำลายล้าง ลิ้นของเราอาจเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราหรือเป็นศัตรูที่ดุร้ายที่สุดก็ได้ ทั้งชีวิตและความตายสามารถพบได้ในถ้อยคำที่เราพูด (สุภาษิต 18:21)

ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะผู้ติดตามพระคริสต์ เราถูกเรียกให้ละทิ้งความชั่วด้วยความเด็ดเดี่ยวและแสวงหาความดีอย่างกระตือรือร้น เราได้รับมอบหมายให้แสวงหาสันติภาพ สันติสุขที่อาจจะไม่ตรงกับความอิ่มเอมใจหรือความสงบ แต่เป็นสันติสุขที่แสวงหาความสามัคคีและเอกภาพเท่าที่ขึ้นอยู่กับเรา (โรม 12:18) เรารู้ว่าในโลกที่แตกสลายนี้ สันติสุขที่สมบูรณ์แบบกับทุกคนอาจไม่สามารถเป็นจริงได้ (โรม 14:19) แต่เราก็พยายามดิ้นรนที่สุดเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งนั้นมา

การรู้ว่าพระเจ้ามองเห็นทุกสิ่งที่เราเผชิญ ถือเป็นความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง เมื่อเราถูกข่มเหงหรือเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากพระองค์ สายตาที่เปี่ยมด้วยความรักของพระองค์จับจ้องมาที่เรา และพระองค์ได้ยินคำอธิษฐานของเรา ในเวลาและโดยวิธีของพระองค์ ความยุติธรรมจะมีชัย ในระหว่างนี้ เราได้รับการเตือนให้อธิษฐานเผื่อคนที่ทำผิดต่อเรา ความยุติธรรมจะต้องอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าไม่ใช่ในมือของเรา เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าทอดพระเนตรทุกอย่าง เราสามารถวางใจพระองค์ในเรื่องผลลัพธ์ได้ ผู้ที่ทำความชั่วจะไม่มีทางหนีพ้นจากการลงโทษไปได้

ในความไว้วางใจนี้ เราจะพบอิสรภาพของเรา การที่รู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุม ทำให้เราสามารถรักชีวิตของเรา คาดหวังวันดีๆ และมอบความเจ็บปวดและความผิดพลาดของเราไว้ในพระหัตถ์อันเปี่ยมไปด้วยความรักและความสามารถของพระองค์ได้

อธิษฐาน : ข้าแต่พระเยซูเจ้า ขอช่วยให้ข้าพระองค์ควบคุมลิ้น พูดถ้อยคำแห่งชีวิต และไม่ทำอันตราย โปรดช่วยให้ข้าพระองค์หันจากความชั่วร้ายและแสวงหาความดีและสันติสุขในชีวิต ในช่วงเวลาของการข่มเหงหรือความยากลำบาก ขอเตือนข้าพระองค์ว่า พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่ง และความยุติธรรมของพระองค์สมบูรณ์แบบ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์วางใจในพระองค์สำหรับผลลัพธ์ที่ตามมา ให้รักและอธิษฐานเพื่อคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ อาเมน

*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน

1.S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

2.O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?

3.A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?

4.P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง