พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 30 จาก 365

พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของคุณทั้งหมดไหม

ผมรักกีฬาคริกเก็ต อย่างน้อยก็ชอบดูมันแต่เล่นไม่เก่งเอาซะเลย แต่ผมรู้ว่าหลายคนไม่ชอบคริกเก็ต และไม่เข้าใจกฎของมันด้วยซ้ำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขามาจากประเทศที่ไม่ได้เป็นกีฬายอดนิยม) ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะให้อภัยที่ผมใช้คริกเก็ตในการเปรียบเทียบนี้ เมื่อมือตีลูกสองคนกำลังวิ่งไปมาระหว่างไม้คริกเก็ตในสนาม พวกเขาจำเป็นต้องประสานงานกันในการตัดสินใจว่าจะวิ่งหรือไม่ คนหนึ่งจะตะโกนบอกอีกคนว่า ‘ใช่' (นั่นคือ ‘ไปกันเลย’) หรือ ‘ไม่’ (นั่นคือ ‘อยู่กับที่’) หรือ ‘รอก่อน’ (นั่นคือ ‘มาดูซิว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือไม่’) พระเจ้าทรงสดับฟังคำอธิษฐานทั้งสิ้นของคุณ (สดุดี 139:4,1 ยอห์น 5:14–15, 1เปโตร 3:12) และในอีกแง่หนึ่งพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานทั้งหมดของคุณด้วยเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเราไม่ได้รับสิ่งที่เราขอเสมอไป เมื่อเราขออะไรจากพระเจ้าคำตอบจะเป็น ‘ได้’ หรือ ‘ไม่ได้’ หรือ ‘รอก่อน’ จอห์น สตอตต์ เขียนไว้ว่าพระเจ้าจะตอบว่า ‘ไม่’ หากสิ่งที่เราขอนั้น ‘ไม่ดีในตัวมันเองหรือไม่ดีสำหรับเราหรือสำหรับคนอื่น ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทันทีหรือท้ายที่สุด’ เราไม่อาจรู้เหตุผลเสมอไปว่าทำไมคำตอบคือ ‘ไม่ได้’ เราต้องระลึกไว้เสมอว่าพระเจ้ามองเห็นสิ่งต่างๆจากมุมมองของชีวิตนิรันดร์และมีบางสิ่งที่เราอาจไม่เคยเข้าใจในชีวิตนี้ ในพระธรรมวันนี้เราจะเห็นตัวอย่างของการตอบสามอย่างจากพระเจ้า

สดุดี 17:13-15

เมื่อพระเจ้าตอบว่า ‘ได้’

สิ่งแรกที่คุณทำเมื่อตื่นนอนตอนเช้าคืออะไร ดาวิดยกตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมให้เรา ‘ส่วนข้าพระองค์...ข้าพระองค์จะอิ่มเอิบใจด้วยพระลักษณะของพระองค์และมีความสนิทสนมอันหวานชื่นกับพระองค์’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) เขาเริ่มต้นทุกวันด้วยการแสวงหาการทรงสถิตของพระเจ้าและความพอพระทัยของพระองค์

หัวใจสำคัญของการอธิษฐาน ไม่ใช่แค่การขอสิ่งต่างๆเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับการแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า และชื่นบานไปกับ ‘ความสนิทสนมอันหวานชื่นกับพระองค์'

นี่คือบริบทของคำอธิษฐานของดาวิด เขาได้ร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู (ข้อ 13–14) พระเจ้าทรงสดับฟังและตอบคำอธิษฐานของเขาด้วยการตอบสนองเชิงบวกว่า ‘ได้’

ข้าแต่พระเจ้า ทุกวันเมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น โปรดเมตตาให้ข้าพระองค์มีความสุขกับการติดสนิทกับพระองค์และ ‘อิ่มเอมใจด้วยพระลักษณะของพระองค์’ (ข้อ 15ข)

มัทธิว 20:20-34

เมื่อพระเจ้าตอบว่า “ไม่ได้” ในคำร้องขออันหนึ่ง และ “ได้” ในคำร้องขออีกอัน

ริค วอร์เรน กล่าวว่า ‘เมื่อคำอธิษฐานไม่ถูกต้องพระเจ้าตอบว่า “ไม่ได้” เมื่อขอไม่ถูกเวลาพระเจ้าตอบว่า “ช้าก่อน” เมื่อคุณมีท่าทีที่ผิด พระเจ้าตอบว่าจง “เติบโต” แต่เมื่อคำทูลขอนั้นถูกต้องและถูกเวลาและคุณพร้อม พระเจ้าก็ตอบว่า “ได้เลย”'

ในพระธรรมตอนนี้เราเห็นคำทูลขอสองข้อ คำขอแรกจะได้รับคำตอบว่า ‘ไม่’ (ข้อ 20–28) และคำตอบที่สองคือ ‘ได้’ (ข้อ 29–34)

1.\tสองคำขอ

ในทั้งสองเหตุการณ์พระเยซูถามว่า ‘ท่านปรารถนาอะไร?’ พระองค์ตรัสกับมารดาของบุตรชายของเศเบดีว่า ‘ท่านปรารถนาอะไร?’ (ข้อ 21) เช่นเดียวกันพระองค์ตรัสกับชายตาบอดทั้งสองว่า ‘ท่านทั้งสองต้องการให้เราทำอะไรเพื่อท่าน’ (ข้อ 32)

เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเขาต้องการอะไร (ในกรณีของคนเขาตาบอด พวกเขาก็ต้องอยากเห็น) แต่พระเจ้าต้องการให้เรามีส่วนร่วมกับพระองค์ อัครทูตยากอบกล่าวว่า ‘ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ’ (ยากอบ 4:2) พระเยซูตรัสว่า ‘จงขอแล้วจะได้เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้’ (มัทธิว 7:7–8) ดูเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุด แต่จุดเริ่มต้นของการตอบคำอธิษฐานจากพระเจ้าคือ การที่เราต้องอธิษฐานขอนั่นเอง

2. สองคำตอบ

สิ่งที่ชายตาบอดทูลขอพระเยซูทรงตอบว่า ‘ได้’ ‘พระเยซูทรงแตะต้องนัยน์ตาของเขาทั้งสองด้วยพระทัยสงสาร ในทันใดนั้นเขาทั้งสองก็มองเห็น และติดตามพระองค์ไป’ (ข้อ 34)

ในทางกลับกันพระเยซูตรัสว่า ‘ไม่’ กับมารดาของบุตรของเศเบดี การตอบสนองนี้กรั่นมาจากความเมตตา คำขอของเธอนั่นเพื่อความรุ่งโรจน์ อำนาจและตำแหน่งสำหรับลูก ๆ ของเธอ พระองค์ชี้ให้เห็นว่าเธอดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดของคำทูลขอนี้

พระองค์ตรัสว่า ‘ถ้วยที่เราจะดื่มนั้นท่านจะดื่มได้หรือ?' (ข้อ 22) ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิมได้กล่าวถึง ‘จอกแห่งพระพิโรธของ (พระเจ้า) พระองค์’ ในหลาย ๆ ตอน (อิสยาห์ 51:17–22 เยเรมีย์ 25:15–29)

น่าสะเทือนใจที่พระเยซูตรัสถึงการดื่มถ้วยนี้ด้วยพระองค์เอง พระองค์กำลังจะ ‘ให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก’ (มัทธิว 20:28) คำว่า ‘เพื่อ’ (‘anti’) ในภาษากรีกหมายถึง ‘แทนที่’ นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับพระเยซูในพระคัมภีร์ใหม่ที่อธิบายถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์แทนที่เรา

3. สองเหตุผล

อัครทูตยากอบเขียนไว้ว่า ‘พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด’ (ยากอบ 4:3) เบื้องหลังคำทูลขอนี้มีแรงจูงใจที่แตกต่างไป คำขอทั้งสองเกี่ยวข้องกับอำนาจของพระเจ้า โดยคำขอของชายตาบอดมาจากการยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและปรารถนาในสิ่งที่ดี (มัทธิว 20:30–33) ในทางกลับกันพระเยซูทรงชี้ให้เห็นว่า คำขอของมารดานั้นมาจากความปรารถนาที่จะให้ ‘เป็นใหญ่’ เหนือผู้อื่น (ข้อ 25)

ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงไม่ได้มาจากการเป็นใหญ่เหนือผู้อื่นหรือจากสิ่งที่โลกถือว่าเป็นความสำเร็จ (ความมั่งคั่ง ตำแหน่ง ชื่อเสียงหรือการมีพันธกิจที่ ‘ประสบความสำเร็จ’) แต่พระเยซูตรัสว่าความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงมาจากการเป็น ‘ผู้รับใช้’ เราสามารถทำตามแบบอย่างพระองค์ในการที่ ‘ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อปรนนิบัติคนอื่น’ (ข้อ 26–28) นี่คือตัวอย่างท่าทีของสาวกที่ผิดและพระเจ้าตรัสว่าจง ‘เติบโต’

ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นในชีวิต จากช่วงที่คำอธิษฐานเหมือนจะไม่ได้ มากกว่าช่วงเวลาที่ ‘ได้' แน่นอนว่าเหล่าสาวกต้องเรียนรู้อย่างมากมายจากการที่พระเจ้า ‘ไม่ตอบคำอธิษฐาน' นี้

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับบทเรียนที่เราได้เรียนรู้จากการที่ทรง ‘ไม่ตอบคำอธิษฐาน’ ขอบคุณพระองค์ที่ทรงแสดงให้เราเห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง โปรดเมตตาข้าพระองค์ให้อุทิศชีวิตเพื่อรับใช้พระองค์และรับใช้ผู้อื่นต่อไป

โยบ 15:1-18:21

เมื่อพระเจ้าบอกว่า “รอก่อน”

คุณรู้ไหมว่าไม่ว่าคุณกำลังเผชิญกับความยากลำบากอะไรตอนนี้ พระเยซูกำลังอธิษฐานเผื่อคุณอยู่?

โยบผู้น่าสงสารต้องทนกับคำพูดที่บั่นทอนจิตใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งพวกเขากล่าวโทษโยบหนักขึ้น โดยกล่าวหาเขาอย่างผิด ๆ โยบอธิบายว่าพวกเขาเป็น ‘ผู้ปลอบโยนที่ทำให้ยิ่งทุกข์ใจ’ (16:2) โดยใช้ ‘คำลม ๆ แล้ง ๆ’ (ข้อ 3 ก) พวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย (ข้อ 4)

บางคน - อย่างเช่น ‘เพื่อน’ ของโยบ มีความเชื่ออย่างผิด ๆ ว่าความทุกข์ของเราในชีวิตนี้มักเกิดจากบาปของเราเอง หรือแม้กระทั่งบาปในอดีต ดังนั้นหากผู้คนเกิดมายากจนหรือมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ก็ต้องเป็นความผิดของพวกเขาด้วยเช่นกัน คำตำหนินี้ต้องเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ทรมานที่โหดร้ายมากอย่างไม่จำเป็นเอาเสียเลย (แนวคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงในพระคัมภีร์ ดู ฮีบรู 9:27)

เมื่อเพื่อนของคุณมีความทุกข์ให้หลีกเลี่ยงการเป็นผู้ปลอบโยนที่ทำให้ยิ่ง ‘ทุกข์ใจ’ (โยบ 16: 2) แต่ให้ทำตามที่โยบแนะนำคือ ‘หนุนใจ’ ‘ปลอบโยน’ และ ‘เสริมสร้าง’ และ ‘บรรเทาความเจ็บปวด’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จากฉบับมาตรฐาน และ The Message โดยผู้แปล)

สิ่งหนึ่งที่คุณทำได้เสมอคือร้องขอ (อธิษฐานเผื่อพวกเขา) เพื่อพวกเขา โยบกล่าวว่า

|‘เพื่อนๆ ของข้าด่าข้า
||ดวงตาของข้าเทน้ำตาออกถวายพระเจ้า
|||ขอให้พยานนั้นร้องทูลพระเจ้าเพื่อมนุษย์
||||อย่างที่มนุษย์ทำเพื่อเพื่อนบ้านของเขา’ (ข้อ 20–21)

เราไม่รู้เเน่ชัดว่าพยานนั้นเป็นใคร แต่จะเป็นใครก็ตาม เขาคนนั้นเป็นเพื่อนแท้ของโยบเพราะเขาวิงวอนร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อโยบ

คำอธิษฐานของพยานอาจดูเหมือนจะไม่ได้รับคำตอบในทันที แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นช่วงเวลาที่พระเจ้านำโยบคืนสู่สภาพดี คำตอบของคำร้องทูลของพยานและชีวิตของโยบคือ ‘รอ’ หลังจากนั้นเป็นคำอธิษฐานของโยบต่อผู้อื่นซึ่งเป็นสาเหตุให้ได้เขากลับคืนสู่สภาพดีโดยทันที (42:8–10)

พยานของโยบคือใคร เขากล่าวว่า ‘ดูเถิด เดี๋ยวนี้พยานของข้าก็ประทับในฟ้าสวรรค์ และท่านผู้รับรองข้าก็ประทับในที่สูง’ (16:19) ในพันธสัญญาใหม่เราเห็นว่าผู้ที่ ‘เป็นตัวแทนของมนุษย์ต่อหน้าพระเจ้า’ (16:21 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คือพระเยซู พระองค์ทรงเป็น ‘ผู้ทูลแก้ต่างต่อพระบิดา’ เพื่อคุณ (1 ยอห์น 2:1 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Revised Standard Version โดยผู้แปล) พระองค์กำลังอธิษฐานวิงวอนเพื่อคุณ (ฮีบรู 7:24–25)

พระเยซูเป็นผู้แก้ต่างให้โยบ พระองค์ทรงวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อเขา ‘อย่างที่มนุษย์ทำเพื่อเพื่อนบ้านของเขา’ (โยบ 16:21) ประสบการณ์ของโยบกับเปโตรมีความคล้ายคลึงกัน พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า ‘ซีโมน ซีโมนเอ๋ย นี่แน่ะ ซาตานขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลี แต่เราอธิษฐานเผื่อตัวท่าน เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้ขาด และเมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน’ (ลูกา 22:31–32)

ดังที่จอห์น วิมเบอร์เคยกล่าวไว้ว่า ‘ข่าวดีก็คือพระเยซูกำลังอธิษฐานเผื่อคุณ ข่าวร้ายก็คือคุณกำลังต้องการมัน’

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงเป็นผู้แก้ต่างให้ข้าพระองค์ ในช่วงเวลาเช่นเดียวกับโยบหรือเปโตรที่ซาตานกำลังฝัดร่อนข้าพระองค์ดั่งข้าวสาลี แต่พระองค์กำลังอธิษฐานเพื่อข้าพระองค์อยู่ ขอบคุณพระองค์ที่ข้าพระองค์รู้ว่า แม้จะต้องรอคอยนานแค่ไหน แต่จะทรงตอบคำร้องทูลของผู้แก้ต่างจากสวรรค์ว่า ‘ได้’

Pippa Adds

มัทธิว 20:20–28

มารดาของบุตรทั้งสองของเศเบดีดูเหมือนจะผลักดันมากเกินไป เราทุกคนสามารถทะเยอทะยานเพื่อลูก ๆ ได้ มีทั้งท่าทีของความทะเยอทะยานที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องสำหรับลูก ๆ ของเรา พระเยซูตรัสว่า ‘พวกท่านไม่เข้าใจในสิ่งที่ขอนั้น’ (มัทธิว 20:22) สิ่งสำคัญคือต้องขะมักเขม้นในการอธิษฐานเพื่อลูก ๆ ของเราตามน้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ใช่ตามวาระของเราหรือของโลกนี้

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 29วันที่ 31

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th