พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 40 จาก 365

ห้าข้อแก้ตัว

*My Way* เป็นเพลงที่เล่นบ่อยที่สุดในพิธีงานศพของอังกฤษ นับเป็นเพลงที่นำกลับมาทำใหม่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แฟรงค์ ซินาตร้าได้รับความนิยมในอัลบั้มปี 1969 ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ เพลงนี้เป็นที่นิยมร้องกันอย่างมากในร้านคาราโอเกะจนถูกประกาศให้ยกเลิกการใช้เพลงนี้เนื่องจากเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายอันเกิดมาจากความขัดแย้งระหว่างการร้องเพลงนี้ ที่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างร้ายแรงในที่สุด! *‘And did it my way! Yes, it was my way!’* ‘ฉันได้ทำตามหนทางของฉัน’ (‘I did it my way’) มันคือหนทางของโลก ไม่ใช่หนทางของพระเยซู พระเยซูตรัสว่า ‘*อย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์* แต่ให้*เป็นไปตามพระทัยของพระองค์’* (มัทธิว 26:39) พระเยซูอธิษฐานว่า ‘ขอให้เป็นไป*ตามพระทัยของพระองค์’* (ข้อ 42) พระองค์ไม่ได้มีข้ออ้างใด ๆ แต่ทรงยอมทำตามวิธีของพระเจ้า ในทางกลับกัน ในวันนี้เราจะเห็น 5 ข้อแก้ตัวของโมเสส ก่อนที่เขาจะยอมทำตามวิถีทางของพระเจ้าในที่สุด

สุภาษิต 4:10-19

‘หนทางแห่งสติปัญญา’

การเติบโตฝ่ายวิญญาณก็เหมือนกับการเดินทาง คุณก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ว่าคุณไปได้ไกลแค่ไหน แต่คือการมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ถูกต้องและดำเนินต่อไปต่างหาก

หนังสือพระธรรมสุภาษิตบอกเราว่ามีสองทางคือ ‘..วิถีของคนอธรรม...ทางของคนชั่ว’ (ข้อ 14) และ ‘ทางแห่งปัญญา…’ (ข้อ 11) ‘วิถีของคนชอบธรรม’ (ข้อ 18) เราไม่ได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงคนชั่วร้าย (นั่นหมายถึงการถอนตัวจากโลก) แต่เราได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงหนทางของพวกเขา คือการหลีกเลี่ยงที่จะกระทำในสิ่งที่พวกเขาทำ หากคุณทำตามคำแนะนำของพระเจ้า พระองค์สัญญาว่าจะนำคุณไปสู่ ‘ทางแห่งปัญญา’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

หนทางของพระเจ้าอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีความชื่นชมยินดีและน่าตื่นเต้นอย่างมากที่จะดำเนินตามทางของพระองค์ ‘แต่วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุณ ซึ่งฉายสุกใสยิ่ง ๆ ขึ้นจนสว่างเต็มที่’ (ข้อ 18) ‘ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งส่องสว่างขึ้นทุกวัน’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงสัญญาว่าจะนำข้าพระองค์ไปในทางตรง โปรดช่วยข้าพระองค์ในวันนี้ให้ดำเนินอยู่บนหนทางของพระองค์

มัทธิว 26:31-46

ทางของคุณ

วิธีการของพระเยซูคือ การทูลกับองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘อย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์’ พระเยซูไม่เพียงแต่สอนให้เราอธิษฐานว่า ขอให้ ‘เป็นไปตามพระทัยของพระองค์’ เท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงอธิษฐานด้วยพระองค์เองว่า ‘โอ พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยแห่งความทุกข์ยากนี้ผ่านพ้นไปจากลูกด้วยเถิด อย่าให้เป็นตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์’ (ข้อ 39, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์อธิษฐานเป็นครั้งที่สองว่า ‘โอ พระบิดาของข้าพเจ้า ถ้าถ้วยนี้เคลื่อนไปจากข้าพเจ้าไม่ได้ และข้าพเจ้าจำต้องดื่มแล้ว ก็ให้เป็นไปตามนํ้าพระทัยของพระองค์’ (ข้อ 42, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นี่ไม่ใช่คำอธิษฐานเพื่อการหลีกเลี่ยง แต่เป็นการอธิษฐานด้วยความกล้าหาญ ที่เต็มใจจะกระทำตามวิถีทางของพระเจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ในข้อนี้เราจะเห็นความเป็นมนุษย์ของพระเยซู ‘พระองค์เริ่มแสดงความเศร้าโศกและความทุกข์ใจและหดหู่อย่างมาก’ (ข้อ 37, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) พระองค์มีสหายสนิทที่สุดสามคนอยู่ด้วย และเป็นสามคนเดียวกับที่ได้เห็นพระรัศมีของพระองค์เมื่อทรงจำแลงกาย ซึ่งตอนนี้ได้เห็นพระเยซูในส่วนลึกของความเศร้าโศกของมนุษย์ พระเยซูทูลอ้อนวอนให้พระเจ้าพระบิดาให้ทรงสำแดงหากมีทางเลือกอื่น อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงเต็มใจที่จะทำตามพระประสงค์ของพระบิดาไม่ว่าจะต้องจ่ายราคาเท่าใดก็ตาม

สำหรับพระเยซู ราคาที่พระองค์ต้องจ่ายไปนั้นช่างต่างกับสิ่งที่เราต้องเผชิญโดยสิ้นเชิง ทรงแบกความบาปของคนทั้งโลก ดังนั้นจิตวิญญาณของพระองค์จึง ‘ทุกข์แทบจะตาย’ (ข้อ 38) พระเยซูทรงอธิษฐานขอให้ ‘ถ้วยนี้’ พรากไปจากพระองค์ถึงสามครั้ง (ข้อ 39,42,44) ถ้วยหมายถึงความทุกข์ทรมานและความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นเอง

ก่อนที่จะดำเนินไปที่สวนเกทเสมนี พระเยซูตรัสถึงถ้วยในมื้อปัสกาซึ่งเป็นตัวแทนของพระโลหิตของพระองค์ที่ ‘หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก’ (ข้อ 28) ยิ่งไปกว่านั้นเช่นเดียวกับในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ถ้วยนี้ยังรวมถึงการอ้างอิงถึงพระพิโรธของพระเจ้า (เช่น อิสยาห์ 51:22, ฮาบากุก 2:16) บนไม้กางเขนพระเยซูทรงรับถ้วย (แห่งพระพิโรธ) แทนตัวคุณ

เมื่อคุณรู้สึกหดหู่ใจ จมอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจ หรืออยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การรู้ว่าพระเยซูได้เผชิญกับทุกสิ่งที่คุณเผชิญนั้นช่างเป็นอะไรที่หนุนใจอย่างมาก พระองค์รู้ว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไร และคุณสามารถทำตามแบบอย่างของพระองค์ได้ โดยมอบทางของคุณให้กับพระเจ้า

มีความแตกต่างที่น่าทึ่งระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนเกทเสมนีและในสวนเอเดน แก่นแท้ของการตอบสนองของอาดัมและเอวาต่อพระเจ้าในสวนแห่งแรกคือ ‘ไม่ใช่ทางของพระองค์ แต่เป็นทางของเราเอง’ อย่างไรก็ตามในสวนแห่งที่สองนั้น คำอธิษฐานของพระเยซูต่อพระบิดา ‘ไม่ใช่ทางของเรา แต่เป็นทางของพระองค์’ การทำตามวิถีของพระเจ้าหมายถึง ความทุกข์ทรมานและความตาย แต่มันนำมาซึ่งการไถ่บาปของคนทั้งโลก

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ทำตามแบบอย่างของพระองค์และอธิษฐานว่า ‘ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์ แต่อย่างไรก็ดี อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์’

อพยพ 4:1-6:12

ทางของพระเจ้า

ผมพบการปลอบโยนและการหนุนจิตชูใจที่ดีเยี่ยมในพระธรรมตอนนี้ ผมเป็นคนค่อนข้างขี้อายและเก็บตัวพอสมควร และโดยธรรมชาติแล้วผมมักไม่เต็มใจที่จะเป็นผู้นำซักเท่าไหร่ ซึ่งผมพบว่าสิ่งนี้หนุนใจผมอย่างมากที่แม้แต่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่างโมเสสก็ยังไม่ค่อยเต็มใจเป็นผู้นำซักเท่าไหร่และเขาได้พยายามแก้ตัวว่าทำไมเขาไม่ควรทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้เขาทำ

เนื้อหาของเมื่อวานและวันนี้ เราจะพบข้อแก้ตัว 5 ข้อของโมเสส (ที่ผมพอจะสรุปออกมาได้)

1. ‘ทรงเลือกผิดคนแล้ว’

โมเสสพูดว่า ‘ข้าพระองค์เป็นใคร?’ (3:11) เขารู้สึกไม่มีค่าพอ โดยได้ทูลกับพระเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์ไม่ดีพอ’ ‘ข้าพระองค์ไม่บริสุทธิ์พอ’ ทรงเลือกผิดคนแล้ว ทำไมต้องเป็นข้าพระองค์?

แต่คำตอบของพระเจ้าคือ ‘เราจะอยู่กับเจ้า’ (ข้อ 12ก) และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

2. ‘ข้าพระองค์ยังไม่พร้อม’

โมเสสทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะตอบพวกเขาอย่างไร?’ (ข้อ 13) เขารู้สึกเป็นคนสื่อสารไม่ดี เขาไม่คิดว่าตนเองจะสามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด และคิดว่า ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

แต่พระเจ้าตรัสว่า ‘ไปบอกชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า’ (ข้อ 14) พระเจ้าจะประทานคำพูดแก่คุณในเวลาที่เหมาะสม

3. ‘ข้าพระองค์อาจทำพลาดไป’

โมเสสทูลต่อว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกอย่างผิดพลาด?’ ‘มันอาจไม่ได้ผล’ ‘แต่ดูสิ พวกเขาจะไม่เชื่อข้าพระองค์หรือฟังเสียงของข้าพระองค์ เพราะเขาจะกล่าวว่า “พระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงปรากฏแก่ท่านเลย”?’ (4:1)

พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์เดชแก่โมเสสเป็นคำตอบ (ข้อ 2–9)

4. ‘ข้าพระองค์ไม่มีความสามารถ’

โมเสสพูดว่า ‘ข้าพระองค์ไม่มีความสามารถ’ ‘ข้าพระองค์ไม่ใช่นักพูด ... ข้าพระองค์เป็นคนพูดไม่คล่อง’ (ข้อ 10) ดูเหมือนว่าโมเสสอาจพูดติดอ่างหรือมีอุปสรรคในการพูดอยู่บ้าง (‘ข้าพระองค์เป็นคนพูดไม่เก่ง’ 6:12)

พระเจ้าตรัสว่า ‘เราจะช่วยเจ้าให้พูด และจะสอนคำซึ่งควรจะพูด’ (4:12) พระกำลังของพระเจ้านั้นสมบูรณ์ท่ามกลางความอ่อนแอของเรา

5. ‘ให้คนอื่นทำเถิด’

โมเสสกล่าวว่า ‘โปรดใช้คนอื่นไปเถิด’ (ข้อ 13) เป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่า ‘ให้คนอื่นทำจะดีกว่า’

พระเจ้าไม่พอใจโมเสสเป็นที่สุด แต่พระองค์ทรงตรัสว่าจะส่งอาโรนไปอยู่กับเขา ‘เราจะช่วยเจ้าและเขาในการพูด และจะสั่งสอนเจ้าทั้งสองให้รู้ว่าควรทำอย่างไร’ (ข้อ 15ข)

ในที่สุดโมเสสก็ตัดสินใจที่จะทำตามทรงนำและการทรงเรียกของพระเจ้า หลังจากนั้นการต่อต้านทั้งหมดก็เริ่มขึ้นและสิ่งต่าง ๆ ก็แย่ลงแทนที่จะดีขึ้น ‘หนทาง’ของฟาโรห์ (5:15) ไม่ใช่ทางของพระเจ้าอย่างแน่นอน ประชากรของพระเจ้าต้องทำอิฐโดยไม่ใช้ฟาง โมเสสและอาโรนเผชิญการวิพากษ์วิจารณ์และการต่อต้านจากประชาชนของพวกเขาเอง (ข้อ 21) โมเสสร้องทูลต่อพระเจ้าว่าพระองค์ก็ไม่ได้ทรงช่วยประชากรของพระองค์เลย (ข้อ 23)

พระเจ้าตอบสนองต่อคำร้องทูลของโมเสสโดยทำให้เขามีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนขึ้นว่าพระองค์เป็นใคร พระเจ้าตรัสว่า ‘เราคือยาห์เวห์ เราปรากฏแก่อับราฮัม แก่อิสอัค และแก่ยาโคบด้วยนามว่าพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ แต่เราไม่ได้สำแดงให้พวกเขารู้จักในนามยาห์เวห์’ (6:2–3)

ในสองสามประโยค พระเจ้าเปิดเผยพระลักษณะของพระองค์ให้โมเสสมากขึ้น ทรงสัตย์ซื่อและมั่นคงต่อพระสัญญาของพระองค์ (ข้อ 4–5) ทรงเจ็บปวดและทนทุกข์ร่วมกับเรา (ข้อ 5) ทรงสัญญาว่าจะกู้เราให้เป็นอิสรภาพ (ข้อ 6) นำคุณเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์ (ข้อ 7) พระองค์นำคุณไปแผ่นดินกรรมสิทธิ์และนำคุณกลับบ้าน (ข้อ 8)

โมเสสแจ้งแก่ผู้คนถึงสิ่งทั้งสิ้นนี้ แต่ ‘พวกเขาไม่ฟังโมเสสเพราะหมดอาลัยตายอยากและทนงานทาสแทบไม่ไหวและเพราะพันธนาการอันโหดร้าย’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) โมเสสบ่นว่าต่อพระเจ้าเพราะสิ่งที่เขากลัวได้เกิดขึ้น เขาทูลต่อพระองค์ว่า ‘แม้แต่ชนชาติอิสราเอลก็ไม่ได้ฟังข้าพระองค์ แล้วฟาโรห์จะฟังข้าพระองค์ได้อย่างไร? ข้าพระองค์เป็นคนพูดไม่เก่ง!’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Living Translation โดยผู้แปล)

สิ่งนี้มักเป็นแบบแผนในพระคัมภีร์ เริ่มต้นด้วยการทรงเรียกและนิมิตของพระเจ้า จากนั้นตามด้วยความท้าทายและความยากลำบากก่อนที่คุณจะได้เห็นพระสัญญาที่ได้รับการเติมเต็ม ทางของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป กลับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดก็จะสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงตรัสว่า ‘เราจะอยู่กับเจ้า’ (3:12) ขอบคุณสำหรับสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ในการได้ยินการทรงเรียกและเดินตามทางของพระองค์ และช่วยให้ข้าพระองค์ยังดำเนินตามทางของพระองค์ต่อไป แม้ว่าบางครั้งสิ่งต่าง ๆ จะดูแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น

Pippa Adds

มัทธิว 26:31–46

เปโตรกล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย’ (ข้อ 35ข) เช่นเดียวกับเปโตร เราทุกคนมีเจตนาที่ดี แต่เราทุกคนมีข้อบกพร่อง และไม่สามารถทำตามได้หากปราศจากฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เหล่าสาวกหลับไปแทนที่พวกเขาควรจะอธิษฐาน ฉันเผลอหลับไปหลายครั้งเมื่ออธิษฐาน ถือเป็นการปิดตาที่ฉันพบว่าอันตรายมากทีเดียว

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 39วันที่ 41

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th