พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
![พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimageproxy.youversionapistaging.com%2Fhttps%3A%2F%2Fs3.amazonaws.com%2Fyvplans-staging%2F53317%2F1280x720.jpg&w=3840&q=75)
ความรัก ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
ในเพลงสุดท้ายของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี นักร้องนำของวงร็อคชื่อดัง ควีน ตั้งคำถามว่า ‘มีใครรู้บ้างไหมว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?’ แม้ว่าในความเป็นจริงเขาได้สะสม*ความมั่งคั่งรุ่งเรืองมหาศาล*และดึงดูด*แฟนเพลงนับหลายพันคน* เฟรดดี้ เมอร์คิวรี ได้ยอมรับผ่านการสัมภาษณ์สั้น ๆ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1991 ว่าเขา*โดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก* เขากล่าวว่า ‘คุณสามารถมีทุกอย่างในโลกใบนี้ และยังคงเป็นคนที่โดดเดี่ยวที่สุด และนั่นเป็นความโดดเดี่ยวที่ขมขื่นที่สุด ความสำเร็จทำให้ผมเป็นคนที่มี*ชื่อเสียงระดับโลก*และ*ทำเงินได้หลายล้านปอนด์* แต่มันทำให้ผมไม่สามารถมีสิ่งเดียวที่เราทุกคนต้องการได้นั่นคือ *ความรัก ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง’* มีเพียงความสัมพันธ์เดียวที่เป็นความรักโดยสมบูรณ์และต่อเนื่องและที่ทำให้เราถูกสร้างขึ้นมา ถ้าปราศจากความสัมพันธ์นี้แล้วจะเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว และขาดความหมาย และเป้าหมายเสมอไป หัวใจสำคัญของความเชื่อของคริสเตียนคือความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ซึ่งเราได้พบว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร คุณและผมจะสามารถมีความสัมพันธ์กับพระผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งนี้ได้อย่างไร? ในทางปฏิบัติเราจะเริ่มสื่อสารกับพระเจ้าได้อย่างไร? พื้นฐานของความสัมพันธ์นี้คืออะไร?สดุดี 28:1-9
พัฒนารูปแบบการอธิษฐาน
การอธิษฐานเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าโดยการพูดคุยกับพระองค์ ไม่มีรูปแบบในการอธิษฐาน มีการอธิษฐานหลายร้อยแบบในพระคริสตธรรมคัมภีร์บางครั้งการทำตามรูปแบบก็เป็นประโยชน์ (เช่น คำอธิษฐานของพระเจ้า) อีกรูปแบบหนึ่งที่ผมพบว่าก็เป็นประโยชน์คือการใช้วลี ‘ACTS’ เพื่อช่วยจดจำ องค์ประกอบเหล่านี้มักจะพบในการอธิษฐานที่เราเห็นในพระคริสตธรรมคัมภีร์
บริบทของสดุดีบทนี้คือความกลัว อาจจะกลัวความตายก่อนเวลาอันควรดาวิดอาจกำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยหรือความสิ้นหวังอย่างมาก เขากลัวว่าเขาอาจจะตายด้วยความอับอายและลงไปยัง ‘หลุมมรณา’ (ข้อ 1)
คำอธิษฐานของเขาต่อพระเจ้ามีดังนี้
1.\tA: Adore (เทิดทูน) ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เทิดทูนพระองค์
‘สาธุการแด่พระยาห์เวห์’ (ข้อ 6ก) แม้ในท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดาวิดเลือกที่จะสรรเสริญพระเจ้า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จงสรรเสริญพระเจ้าในผู้ที่พระองค์ทรงเป็น และในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ เราจะเห็นอีกตัวอย่างหนึ่งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ขณะที่ผู้คนนมัสการพระเยซู (มาระโก 11:9-10)
2.\tC: Confess (สารภาพ) ข้าพระองค์ขอสารภาพ
‘ขอทรงฟังเสียงวิงวอนของข้าพระองค์’ (สดุดี 28:2ก) ทูลขอการอภัยจากพระเจ้าในสิ่งที่คุณทำพลาดไป นี่ยังเป็นช่วงเวลาที่จะให้อภัยใครก็ตามที่คุณจำเป็นต้องให้อภัย ดังที่พระเยซูตรัสไว้ในพันธสัญญาใหม่ในวันนี้ ‘และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย’ (มาระโก 11:25)
3.\tT: Thanks (ขอบพระคุณ) ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์
‘จิตใจของข้าพเจ้าก็ปีติยินดียิ่ง ข้าพเจ้าจะขอบพระคุณพระองค์ด้วยบทเพลงของข้าพเจ้า’ (สดุดี 28:7ค) ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสุขภาพ ครอบครัว เพื่อน และอื่น ๆ ความสำคัญของการขอบพระ คุณก็สามารถเห็น ได้ในการอ่านพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมด้วยเช่นกัน (ดูใน เลวีนิติ 7:12-15)
4.\tS: Supplication (คำร้องทูล) ฟังคำร้องทูลของข้าพระองค์
‘...ขณะเมื่อข้าพระองค์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์’ (สดุดี 28:2ก) อธิษฐานเพื่อตัวเอง เพื่อเพื่อนๆ และเพื่อคนอื่น น่าสนใจที่ดาวิดกล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ชูมือทั้งคู่’ (ข้อ 2ข) สิ่งนี้ดูเหมือนจะตรงกันกับคำอธิษฐาน การชูมือขึ้นในการนมัสการนั้นไม่ใช่แนวคิดสมัยใหม่ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นรูปแบบในการอธิษฐานอย่างหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุด
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เทิดทูนพระองค์ ข้าพระองค์นมัสการพระองค์ในกาลวันนี้ สาธุการแด่พระองค์ ข้าพระองค์ขอสารภาพความผิดบาปต่อพระองค์... ขอฟังคำร้องทูลขอความเมตตาและอภัยในความผิดบาปของข้าพระองค์ ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับ... ขอทรงฟังคำร้องทูลของข้าพระองค์ วันนี้ข้าพระองค์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์...
มาระโก 11:1-25
อธิษฐานด้วยความเชื่อ
สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่คือเรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าโดยความเชื่อ เราไม่มีสิทธิ์ในการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่มันเป็นของประทานที่ได้รับโดยความเชื่อ ในพระคัมภีร์ตอนนี้เราจะเห็นว่าพระเยซูทรงให้ความสำคัญกับความเชื่อ พระเยซูตรัสว่า ‘จงมีความเชื่อในพระเจ้า’ (ข้อ 22) พระองค์ตรัสว่าด้วยความเชื่อคุณสามารถสั่งภูเขาให้เคลื่อนได้ ถ้าใจไม่สงสัยแต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามนั้น (ข้อ 23)
ความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระเจ้าโดยผ่านทางการอธิษฐาน เป็นหัวใจสำคัญของแต่ละเหตุการณ์ที่เราได้อ่านในวันนี้ เมื่อพระเยซูมาใกล้กรุงเยรูซาเล็มผู้คนต่างก็นมัสการพระองค์ พวกเขาโห่ร้องว่า ‘โฮซันนา’ (ข้อ 9-10) ซึ่งเป็นทั้งเสียงโห่ร้องแห่งความสุขและเสียงโห่ร้องขอความช่วยเหลือ หมายถึง ‘โปรดทรงช่วย ข้าพระองค์อธิษฐานร้องทูล’ หรือ ‘โปรดทรงช่วยเดี๋ยวนี้’
เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม พระเยซูทรงขับไล่คนรับแลกเงินเพราะพระประสงค์ของพระองค์ที่จะให้พระนิเวศของพระเจ้าเป็นสถานที่บริสุทธิ์ พระองค์ตรัสสอนว่า ‘มีพระวจนะเขียนไว้ไม่ใช่หรือว่า “นิเวศของเราจะได้ชื่อว่า นิเวศอธิษฐานสำหรับประชาชาติทั้งหลาย”’ (ข้อ 17)
พระธรรมตอนนี้จบลงด้วยการที่พระเยซูทรงสอนเหล่าสาวกของพระองค์ว่า การไม่ให้อภัยอาจเป็นอุปสรรคต่อการอธิษฐานและต่อความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า ‘และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย’ (ข้อ 25)
พระเยซูตรัสว่า เราต้องไม่ ‘มีเรื่องกับใคร’ ไม่มีข้อจำกัดในการให้อภัย การไม่ให้อภัยนั้นทำลายความสัมพันธ์
บางครั้งการให้อภัยต้องใช้ความกล้าเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำให้ความสัมพันธ์กลับคืนมาและนำความสุขมาให้ มีคำพูดที่กล่าวไว้ว่า ‘คนแรกที่เอ่ยคำขอโทษคือคนที่กล้าหาญที่สุด คนแรกที่ให้อภัยคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด คนแรกที่ลืมคือคนที่มีความสุขที่สุด’
ในเหตุการณ์เหล่านี้ พระเยซูได้แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการอธิษฐานในคำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อ จากเรื่องนี้พระองค์ทรงสอนเหล่าสาวกเกี่ยวกับความสำคัญของความเชื่อและผลของความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า
ต้นมะเดื่อมีใบแต่ไม่ออกผล พระองค์จึงตรัสแก่ต้นนั้นว่า ‘ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีใครได้กินผลจากเจ้าอีก’ (ข้อ 14) ผมชอบวิธีที่ จอยซ์ ไมเยอร์ ใช้ประโยชน์จากคำสอนนี้ ‘ถ้าชีวิตของเราหมุนเวียนรอบ ๆ คริสตจักรแต่เราไม่เกิดผล เราก็ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อ’ เราอ่านพระคัมภีร์ ฟังเทศนา และไปประชุมอธิษฐาน แต่ ‘ถ้าเรา ไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือผู้อื่น หรือแม้แต่แสดงความมีน้ำใจ เราก็เป็นเหมือนกับต้นมะเดื่อที่มีใบแต่ไม่เกิดผล... ถ้าเรามีใบเราก็ต้องมีผลด้วย’
พระเยซูทรงอธิบายเชิงคติพจน์ว่าเราต้องมั่นใจอย่างยิ่งถึงความพร้อมของพระเจ้าที่จะทรงตอบสนองต่อความเชื่อ ในหนังสือ Rabbinic บางครั้งใช้คำว่า ‘ภูเขา’ เพื่อเปรียบเปรยถึงอุปสรรค พระเยซูตรัสว่าพระเจ้าจะทรงตอบสนองต่อความเชื่อเพื่อที่จะขจัดอุปสรรคที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ พระองค์ตรัสว่า ‘เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เมื่อพวกท่านอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ แล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น’ (ข้อ 24)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดบอกข้าพระองค์ว่าในวันนี้มีใครบ้างที่ข้าพระองค์ต้องให้อภัย ช่วยให้ข้าพระองค์ให้อภัย ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระสัญญาอันอัศจรรย์ว่า ‘เมื่อพวกท่านอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ แล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น’ (ข้อ 24) ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทูลขอ....
เลวีนิติ 7:11-8:36
เข้าใกล้พระเจ้าผ่านทางพระเยซู
วิธีที่จะสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมนั้นคือผ่านทางปุโรหิต แต่เพราะความบาป มนุษย์จึงไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้โดยตรง พวกเขาต้องกระทำผ่านทางปุโรหิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต้องการมหาปุโรหิต
ในพระธรรมตอนนี้ เราจะเห็นว่าอาโรนได้รับการเจิมอย่างไร โมเสส ‘เทน้ำมันเจิมบางส่วนลงบนศีรษะของอาโรน แล้วเจิมเขาไว้เพื่อชำระให้บริสุทธิ์’ (8:12) อาโรนเป็นดั่งผู้มาก่อนของพระเยซูคริสต์ คำว่าคริสต์หมายถึง ‘ผู้ได้รับการเจิม’ การเป็นปุโรหิตของอาโรนนั้นอาจจะทำผิดพลาดได้ เพราะเขาต้องถวายเครื่องบูชาลบล้างบาปของตนเองและของผู้คนด้วย แต่พระเยซูเป็นมหาปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่ โดยทางพระเยซู คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้อย่างมั่นใจ และมีความสัมพันธ์โดยตรงกับพระองค์
ดังนั้นผู้เขียนพระธรรมฮีบรูกล่าวไว้ว่า ‘เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีมหาปุโรหิตยิ่งใหญ่ผู้เสด็จผ่านฟ้าสวรรค์แล้ว คือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า ขอให้เรายึดมั่นในหลักความเชื่อที่ประกาศรับไว้ เพราะว่าเราไม่ได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ทรงเคยถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่าง ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้องการ’ (ฮีบรู 4:14-16)
อันที่จริงเพราะพระเยซูทรงสละพระองค์เองเพื่อไถ่บาปของคุณ คุณจึงอยู่ในฐานะที่ดีกว่าปุโรหิตในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (เปรียบเทียบ ฮีบรู 10:22 กับเลวีนิติ 8:30) โดยการกลับใจและการให้อภัย ความสัมพันธ์ ของคุณกับพระเจ้าจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และคุณสามารถเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าได้โดยตรงเหมือนกับที่ปุโรหิตในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมทำเมื่อพวกเขาเข้าไปในเต็นท์นัดพบ ‘ก็ให้เราเข้าไปใกล้ด้วยใจจริง ด้วยความไว้ใจเต็มที่ มีใจที่ได้รับการประพรมให้พ้นจากมโนธรรมที่ไม่ดีและมีกายที่ล้างชำระด้วยน้ำสะอาด’ (ฮีบรู 10:22)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่โดยพระเยซูข้าพระองค์สามารถเข้าใกล้บัลลังก์แห่งพระคุณด้วยความมั่นใจ และได้รับพระเมตตาและพระคุณ ขอโปรดช่วยข้าพระองค์ให้อยู่ใกล้ชิดและเดินไปกับพระองค์ด้วย*ความรัก ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง*กับพระองค์
Pippa Adds
สดุดี 28:6-9
ฉันรักที่พระเจ้าทรงเป็นหลายสิ่งสำหรับเรา พระองค์ทรงเป็นกำลังและโล่ของเรา ทรงเป็นป้อมปราการแห่ง ความรอด และทรงเป็นผู้เลี้ยงดูเราดุจเลี้ยงแกะ และอุ้มชูเราเป็นนิจนิรันดร์
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
![พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimageproxy.youversionapistaging.com%2Fhttps%3A%2F%2Fs3.amazonaws.com%2Fyvplans-staging%2F53317%2F1280x720.jpg&w=3840&q=75)
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th