พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 66 จาก 365

พระเจ้าทรงช่วยข้าพระองค์

โทนี่ บัลลิมอร์ อายุ 56 ปี หนึ่งในนักแล่นเรือยอร์ชข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีประสบการณ์มากที่สุดของอังกฤษ เขาได้เผชิญกับความกลัวแทบตายหลังจากที่เรือยอร์ช เอ็กไซล์ ชาเลนเจอร์ (Exile Challenger) ล่มท่ามกลางความกว้างใหญ่ของมหาสมุทรใต้หรือมหาสมุทรแอนตาร์กติกที่เย็นยะเยือก ในการแข่งขันรอบโลกสองเดือนที่เรียกว่าเวนเด โกลบ (Vendée Globe) ส่วนของเรือที่เรียกว่ากระดูกงูได้หลุดออกเมื่อปะทะกับคลื่นสูงห้าสิบฟุตทำให้เรือพลิกคว่ำ ในหนังสือ รอดแล้ว (Saved) ที่เขียนโดยคุณบัลลิมอร์ บรรยายว่ามันเหมือนกับน้ำตกไนแองการาที่กลับหัวกลับหาง เป็นเวลาสี่วันที่เขาเหมือนถูกฝังอยู่ในโลกที่กลับหัวกลับหางที่ช่างมืดมิด เสียงดัง เปียก และเย็นยะเยือก โดยคลื่นที่ยกตัวสูงห้าสิบฟุตและอุณหภูมิที่หนาวเย็นอยู่รอบตัว เขาทรมานกับอาการเมาคลื่นและการพยายามสูดอากาศหายใจจากช่องเพียงไม่กี่ฟุตระหว่างอากาศกับน้ำ และครั้งหนึ่งเคยตกลงไปที่ด้านล่างของเรือ เขาอยู่ห่างจากแผ่นดินที่ใกล้ที่สุดมากกว่าหนึ่งพันไมล์ เมื่อปริมาณอากาศลดน้อยลงเขาจึงอธิษฐานว่าเขาจะได้รับการช่วยกู้ และกองทัพเรือออสเตรเลียได้เข้ามาช่วยเหลือ ด้วยเทคโนโลยีดาวเทียมและการเฝ้าระวังที่ทันสมัยของรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ทำการจับตำแหน่งการแล่นของเรือยอร์ชทั้งหมด และได้ส่งทีมกู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลือ ผ่านไปสี่วัน บัลลิมอร์ ได้ยินเสียงกระแทกที่ด้านข้างของเรือ ภายหลังเขาได้กล่าวว่า ‘ผมไม่สามารถขอบคุณกองทัพเรือออสเตรเลียได้มากพอกับสิ่งที่พวกเขาทำ เพราะพวกเขา*ช่วยชีวิตผม*อย่างแท้จริงโดยปราศจากคำถามใด’ คำพูดแรกเมื่อเขาปรากฏตัวคือ ‘ขอบคุณพระเจ้า มันคือการอัศจรรย์’ เขากล่าวว่า ‘ผมรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ ผมรู้สึกว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง’ ตามที่นักข่าวท่านหนึ่งกล่าวไว้ในตอนนั้นว่า ‘การ*ช่วยเหลือ*ที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านและทุกความคาดหวังคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องราวทั้งหมดนี้ เป็นความสุขบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้น พระเยซูผู้ยิ่งใหญ่ ‘พระเยซูทรงสละพระองค์เองเพราะบาปของเรา เพื่อช่วยเรา’ (กาลาเทีย 1:4ก) เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของผม ผมสามารถมองเห็นหลายครั้งที่พระเจ้าช่วยผมให้รอดพ้น เมื่อคุณเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก คุณสามารถวางใจในพระเจ้า พระองค์จะทรงช่วยคุณ

สดุดี 31:1-8

วางใจให้พระเจ้าช่วยคุณ

บางครั้งเป็นเรื่องยากมากที่จะรักษาความวางใจในพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสิ่งต่าง ๆ ดูเลวร้ายในชีวิตของคุณ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ การงาน การเงิน สุขภาพ หรือสถานการณ์อื่น ๆ คำอธิษฐานของดาวิดในพระธรรมตอนนี้เป็นการให้กำลังใจในการร้องทูลต่อพระเจ้า ขอพระองค์ช่วยเหลือคุณและเพื่อคุณจะวางใจในพระองค์

ตามที่ โทนี่ บัลลิมอร์ อธิษฐานขอการช่วยเหลือ เช่นเดียวกับคำอธิษฐานของดาวิด ‘ขอเงี่ยพระกรรณมายังข้าพระองค์ ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์โดยเร็วเถิด’ (ข้อ 2ก) ‘ข้าพระองค์วางใจในพระองค์, พึ่งพาพระองค์ และพึ่งพิงด้วยความมั่นใจ’ (ข้อ 6ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

ดาวิดกล่าวว่า ‘ข้าพระองค์มอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์’ (ข้อ 5) ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ พระเยซูทรงสะท้อนถ้อยคำเหล่านี้ พระองค์ทรงร้องเสียงดังว่า ‘ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์’ (ลูกา 23:46) นี่เป็นคำพูดของการไว้วางใจอย่างสูงสุด

ในพระธรรมสดุดี เราเห็นผลแห่งความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณที่ได้แสดงให้เห็นอย่างยิ่งใหญ่ผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็น:

1.\tที่ลี้ภัยของคุณ

พระธรรมสดุดีเริ่มต้นด้วยคำว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์’ (สดุดี 31:1ก) ต่อมากล่าวว่า ‘ขอทรงปลดข้าพระองค์ออกจากข่ายที่ดักข้าพระองค์อยู่ เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์’ (ข้อ 4) ชีวิตนี้มีการทดลอง การทดสอบกับดัก และการล่อลวงมากมาย ทั้งหมดนี้พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของคุณ

2.\tพระศิลาของคุณ

ดาวิดเขียนว่า พระเจ้า ‘ขอทรงเป็นศิลา’ (ข้อ 2ข) และ ‘พระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ ขอทรงนำทางข้าพระองค์ด้วยเห็นแก่พระนามของพระองค์’ (ข้อ 3) คุณสามารถสัมผัสการทรงนำทางและการทรงนำโดยพระวิญญาณของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความปลอดภัยที่คุณสามารถพึ่งพาได้

3.\tพระผู้ช่วยของคุณ

ดาวิดอธิษฐาน ‘ขอเงี่ยพระกรรณมายังข้าพระองค์ ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์โดยเร็วเถิด’ (ข้อ 2ก) ดาวิดอธิบายต่อไปว่าพระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็น ‘ความทุกข์ใจ...ความทุกข์ยาก (ของเขา)’ (ข้อ 7ข) และพระองค์มิได้ทรงมอบเขาไว้ในมือศัตรู (ข้อ 8ก) พระองค์ทรง ‘วางเท้าของ (ท่าน) ไว้ในที่กว้างขวาง’ (ข้อ 8ข) ในพระเยซูคุณได้รับการช่วยเหลือขั้นสูงสุด พระองค์จะทรงวางเท้าของคุณไว้ในที่กว้างขวาง

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยข้าพระองค์ในทุกการทดลองของชีวิต ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รักษาความไว้วางใจในพระองค์

มาระโก 13:32-14:16

รักองค์พระผู้ช่วยของคุณด้วยสุดใจ

ความรักต่อพระเยซูสำคัญยิ่งกว่าความรักต่อคนยากจน อันที่จริงความรักที่เรามีต่อพระเยซูอย่างมากล้นนั้นจะไหลล้นไปสู่ผู้อื่นโดยเฉพาะคนยากจน

ความรักเช่นนี้อยู่เบื้องหลังการเจิมของพระกายของพระเยซู ผู้หญิงคนนี้แสดงความกตัญญูและความรักต่อพระเยซู ด้วยเหตุนี้ผอบน้ำมันหอมราคาแพงอันเป็นของล้ำค่าของเธอ (อาจเทียบได้กับค่าจ้างตลอดทั้งปี) จะไม่เป็นการ ‘เสียไปเปล่า ๆ’ (14:4) แน่นอน พระเยซูไม่ได้ละเลยความต้องการของคนยากจน อย่างไรก็ตามพระองค์ตรัสว่าเงินที่เธอได้ให้นั้นไม่เป็นการสูญเปล่า ‘นางมาชโลมกายของเราล่วงหน้าก่อนที่จะมีการฝังศพของเรา’ (ข้อ 8)

การแสดงออกถึงใจที่กว้างขวางนั้นจะถูกจดจำตลอดกาล (ข้อ 9) ในสายพระเนตรของพระเยซู ไม่มีสิ่งใดที่คุณมอบถวายด้วยความรักต่อพระองค์จะสูญเปล่า (ข้อ 7-8) แต่พระองค์ทรงเห็นว่าทุกสิ่งที่คุณมอบให้พระองค์ด้วยความรักเป็นส่วนที่สวยงาม (ข้อ 6) มีบางสิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับการแสดงออกถึงใจที่กว้างขวาง

พระเยซูอ้างถึงการฝังพระศพของพระองค์ นำความสนใจไปสู่ความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตของพระเยซูที่กำลังมาถึงจุดสูงสุด เป็นที่ชัดเจนว่าเทศกาลปัสกาเป็นฉากที่พระเยซูทรงเลือกไว้สำหรับเหตุการณ์สุดท้ายของชีวิตพระองค์

ในพระธรรมตอนนี้ได้กล่าวถึงเทศกาลปัสกาถึง 5 ครั้งด้วยกัน (ข้อ 1, 12, 14, 16) พระเยซูทรงเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการสิ้นพระชนม์ของพระองค์นั้นเปรียบเสมือนลูกแกะสำหรับปัสกาที่นำไปฆ่า (ข้อ 12) เนื่องด้วยพระโลหิตของลูกแกะปัสกาที่ช่วยคนของพระเจ้าจากการพิพากษาและความตาย ‘เพราะพระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว’ (1 โครินธ์ 5:7ข)

เราเห็นหลักฐานเพิ่มเติมที่นี่ว่าพระเยซูทรงทราบว่าพระองค์เองทรงเป็นบุตรของพระเจ้าเพียงองค์เดียว ขณะที่พระองค์กล่าวถึงการเสด็จกลับมาอีกครั้งของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า ‘แต่ไม่มีใครรู้เรื่องวันหรือเวลานั้น แม้แต่พวกทูตในฟ้าสวรรค์หรือพระบุตร มีแต่พระบิดาเท่านั้น’ (มาระโก 13:32)

โทนี่ บัลลิมอร์ รู้สึกขอบคุณจริง ๆ สำหรับผู้ที่ช่วยชีวิตเขา! เขาบอกว่าเขาไม่สามารถขอบคุณพวกเขาได้มากพอ ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดที่เราควรขอบคุณและรักบุคคลผู้นั้นที่ทรงประทานชีวิตและช่วยเราให้หลุดพ้นจากความตายนิรันดร์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานชีวิตของพระองค์เพื่อเป็นเครื่องบูชาปัสกาเพื่อช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากการถูกพิพากษาและความตาย ขอบพระคุณพระองค์ทุกครั้งที่ข้าพระองค์ร่วมรับประทาน ‘อาหารมื้อสุดท้าย’ ข้าพระองค์ระลึกถึงการเสียสละและการช่วยกู้ของพระองค์

เลวีนิติ 15:1-16:34

ตื่นตาตื่นใจกับแผนการช่วยกู้อันอัศจรรย์ของพระเจ้า

เพราะความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อคุณ พระองค์จึงทรงวางแผนการช่วยกู้คุณอย่างพิถีพิถัน การช่วยเหลือ โทนี่ บัลลิมอร์ ใช้เวลาหลายวันในการวางแผนและเตรียมการ แน่ทีเดียวแผนการช่วยกู้อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าสำหรับมวลมนุษยชาติใช้เวลาในการวางแผน การเตรียมการและการคาดการณ์ล่วงหน้าที่มากกว่านั้น

กฎเกณฑ์เกี่ยวกับ ‘การเป็นมลทิน’ ฟังดูแปลกมากสำหรับคนสมัยใหม่ของเรา เนื่องจากไม่มีผลกับเราอีกต่อไป พวกเราได้รับการเติมเต็มและแทนที่โดยพระเยซู

วันแห่งการลบมลทิน (บทที่ 16) วางพื้นหลังที่นำไปถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู อัครทูตเปาโลเขียนว่า ‘พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป’ (โรม 3:25) ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูกล่าวไว้ว่าพระเยซู ‘จึงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องทุกอย่าง เพื่อจะได้เป็นมหาปุโรหิต ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและความซื่อสัตย์ ในการกระทำกิจต่อพระเจ้าเพื่อลบล้างบาปของประชาชน’ (ฮีบรู 2:17)

ข้อเท็จจริงที่ว่าแม้แต่มหาปุโรหิตยังจำเป็นที่จะต้องอาศัยการถวายเครื่องเผาบูชาเพื่อจะได้สิทธิ์เข้าไปในห้องชั้นในก็เป็นหลักฐานชัดเจนแล้วว่า พวกเขาเองก็ไม่ได้มีความบริสุทธิ์เพียงพอ (ฮีบรู 5:3; 7:27; 9:7; 9:11-15)

การถวายเครื่องบูชาไถ่บาป ในวันแห่งการลบมลทิน เราเห็นเงาสะท้อนล่วงหน้าของกางเขนที่น่าอัศจรรย์ ‘เขาเอามือทั้งสองวางบนหัวแพะที่มีชีวิตนั้น สารภาพบาปต่าง ๆ ของคนอิสราเอล การล่วงละเมิดของพวกเขาทั้งหมด และให้บาปทั้งสิ้นของพวกเขาตกลงบนหัวแพะนั้น จากนั้นจงปล่อยมันเข้าไปในถิ่นทุรกันดารโดยมือของคนที่เลือกไว้ แพะนั้นจะบรรทุกความผิดทั้งหมด’ (เลวีนิติ 16:21-22ก นี่เป็นจุดกำเนิดของคำในภาษาอังกฤษ ‘scapegoat’ (‘แพะรับบาป’ ข้อ 8)

นี่เป็นการบอกล่วงหน้าถึงความบาปของคุณและผมที่ถูก ‘วาง’ ไว้ที่พระเยซู (ดู อิสยาห์ 53:4-6) อัครสาวกเปโตรเขียนถึงพระเยซูว่า ‘พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปทั้งหลายของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น’ (1 เปโตร 2:24ก) ‘ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด’ (สดุดี 103:12) พระองค์ทรงเป็นผู้ปลดความบาปของเราออกไปเท่านั้น เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมาเห็นพระเยซูจึงกล่าวว่า ‘จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับบาปของโลกไป!’ (ยอห์น 1:29)

นี่เป็นผลให้ความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ โดยทางพระเยซู บัดนี้คุณสามารถเข้าไปยังสถานศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน (ฮีบรู 10:19-20) คุณสามารถเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า (4:16) และรู้ว่าคุณจะได้รับการต้อนรับเสมอ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์โดยพระโลหิตของพระองค์ และพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เป็นค่าไถ่บูชาเพื่อทำให้ข้าพระองค์เป็นไท ขอบพระคุณที่บัดนี้ข้าพระองค์สามารถเข้าไปสู่การสถิตของพระองค์ได้ทุกวัน

Pippa Adds

สดุดี 31:1-8

ฉันรักภาพของพระเจ้าที่พระองค์ทรงเป็น ‘ป้อมปราการ’ ของเรา (ข้อ 2) ย้อนกลับไปในอังกฤษยุคกลาง เมื่อผู้บุกรุกเข้ามาโจมตีหมู่บ้าน ชาวบ้านจะวิ่งเพื่อความปลอดภัยไปยังป้อมปราการและเมื่อเขาเข้าไปข้างในทั้งหมดแล้ว พวกเขาจะดึงสะพานชักขึ้น วิธีนี้จะตัดการเข้าถึงของศัตรูและทำให้ทุกคนปลอดภัย เมื่อเวลายากลำบากเราสามารถลี้ภัยในพระเจ้า ผู้ทรงเป็นป้อมปราการที่เข้มแข็งของเรา

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 65วันที่ 67

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th