พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
ล้นหัวใจ
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมอยากพบกับบิลลี่ เกรแฮม นักประกาศผู้ยิ่งใหญ่ (ปี ค.ศ. 1918–2018) ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเมื่อพบว่าเขาติดตามผมทางทวิตเตอร์ แน่นอนว่าผมติดตามเขาทางทวิตเตอร์กลับเช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในวีรบุรุษแห่งความเชื่อของผม เขากล่าวต่อฝูงชนเกี่ยวกับพระเยซูมากกว่าใครอื่นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ผมได้ฟังคำเทศนาของบิลลี่ เกรแฮม หลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งที่ผมได้ฟัง ผมรู้สึกมีแรงบันดาลใจ บิลลี่กล่าวว่าเขาชอบที่จะเติมเต็มหัวใจของเขาก่อนที่จะเทศนา เขาจะเตรียมข้อมูลให้เพียงพอสำหรับเทศนาห้ากัณฑ์เพื่อที่เขาจะเทศนาได้อย่าง *'เต็มล้นหัวใจ'* พระเยซูได้กล่าวไว้ว่า ใจความสำคัญจริง ๆ *‘...ด้วยว่าปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ’* (มัทธิว 12:34) คุณเก็บสิ่งดี ๆ ไว้ในใจอย่างไร?สุภาษิต 2:1-11
เก็บสะสมพระวจนะของพระเจ้าไว้ในใจคุณ
คุณปรารถนาอยากรู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้นไหม? คุณอยากจะเฉลียวฉลาดมากขึ้น มีทักษะความรู้และความเข้าใจมากขึ้นหรือไม่?
ผมขอสนับสนุนให้คุณสร้างอุปนิสัยในการอ่านพระวจนะของพระเจ้าตลอดชีวิตในทุก ๆ วัน ผู้เขียนสุภาษิตเรียกร้องให้ ‘สะสมบัญญัติของข้าไว้กับเจ้า จงเงี่ยหูของเจ้าฟังปัญญาจงเอียงใจของเจ้าเข้าหาความเข้าใจ เพราะปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า’ (ข้อ 1-2, 10)
1. ต้องทำอย่างไรบ้าง?
‘สะสม’ พระคำของพระเจ้าไว้ในตัวคุณ (ข้อ 1) คุณต้อง ‘รับ’ (ข้อ 1) ฟัง และนำไปใช้ (ข้อ 2) ‘ร้องหา’ (ข้อ 3) และ ‘แสวงหา’ (ข้อ 4) ‘แสวงหาปัญญาเหมือนหาเงินและเสาะหาเธออย่างหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่’ (ข้อ 4 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สิ่งนี้ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่เพียงแค่จัดลำดับความสำคัญของตารางเวลาของคุณ แต่เป็นการกำหนดลงในตารางเวลาตามลำดับความสำคัญ ให้คุณจัดเวลาอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำในเวลาเดิมทุก ๆ วัน และกำหนดให้เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
2. พระเจ้าทรงสัญญาอะไรบ้าง หากคุณทำสิ่งนี้?
คุณจะได้พบ ‘ความรู้ของพระเจ้า’ (ข้อ 5) ‘พระยาห์เวห์ประทานปัญญาโดยไม่คิดมูลค่า’ (ข้อ 6 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เนื่องจากเป็นพระลักษณะของพระเจ้า พระองค์จึง ‘ประทานปัญญา’ และ ‘ความเข้าใจ’ (ข้อ 6) ‘ชัยชนะ’ (ข้อ 7) การปกป้อง (ข้อ 8) และ ‘ความเฉลียวฉลาด’ (ข้อ 11) พระองค์ทรงสัญญาว่าจะ ‘เฝ้าดูคุณ’ (ข้อ 8 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และ ‘ปกป้องและเฝ้าเจ้าไว้’ (ข้อ 8, 11)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ใช้เวลากับพระองค์ในแต่ละวัน และนำคำสอนในพระคัมภีร์มาใช้กับชีวิตของข้าพระองค์
มัทธิว 12:22-45
เติมเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ถ้อยคำที่คุณพูดนั้นมีความหมายจริง ๆ จอยซ์ ไมเออร์ เขียนไว้ว่า ‘ทุกถ้อยคำที่เราพูด อาจเป็นอิฐที่ใช้สร้าง หรือเป็นรถปราบไถดินที่ใช้ทำลายล้างก็ได้’ สิ่งใดก็ตามที่เก็บสะสมในใจของคุณ ไม่ช้าก็เร็วจะแสดงออกมาเป็นคำพูดของคุณ จงระวังสิ่งที่คุณมอง สิ่งที่คุณอ่าน และสิ่งที่คุณคิด จงเติมหัวใจด้วยสิ่งดี ๆ แล้วคุณจะคิดดี พูดถ้อยคำที่ดี และเกิดผลดี (ข้อ 33)
พระเยซูตรัสว่า ‘ด้วยว่าปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ คนดีก็เอาของดีมาจากคลังแห่งความดีในตัวของเขา คนชั่วก็เอาของชั่วมาจากคลังแห่งความชั่วในตัวของเขา’ (ข้อ 34–35)
คุณไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบความคิดของคุณได้ด้วยตัวคุณเอง คุณต้องการความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงเติมหัวใจของคุณให้เต็มด้วยความรักและผลดีของพระองค์
พระเยซูตรัสว่าบาปทุกอย่างจะได้รับการอภัยยกเว้นการดูหมิ่นพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 30–32) บางครั้งคนเรากังวลว่าตนได้ทำบาปที่ไม่อาจให้อภัยได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณกังวลในเรื่องนี้ ก็แทบจะมั่นใจได้ว่าคุณไม่ได้กระทำความผิดบาป ไม่มีบาปใดที่ให้อภัยไม่ได้หากคุณกลับใจและขอการให้อภัยจากพระเจ้า เพราะ ‘บาปที่ให้อภัยไม่ได้’ เพียงอย่างเดียว นั่นคือการปฏิเสธที่จะกลับใจและหันไปหาพระคริสต์ และต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ตลอดชีวิตของคุณ
บรรดาฟาริสีและธรรมาจารย์อาจตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากพวกเขาอ้างเหตุผลว่า อำนาจในการรักษาโรคของพระเยซูมาจากซาตาน (ข้อ 22–24) พวกเขาได้เห็นการอัศจรรย์มากมายจากพระเยซูแล้ว แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าอำนาจของพระเยซูคือการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อพวกเขาพูดกับพระเยซูว่า ‘เราอยากจะเห็นหมายสำคัญจากท่าน’ (ข้อ 38 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เสมือนกับว่าพวกเขากำลังพิจารณาตรวจสอบองค์พระเยซู
อย่างไรก็ตามคำตอบของพระเยซูแสดงให้พวกเขาเห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับโยนาห์ศาสดาพยากรณ์ ในพระคัมภีร์เดิมพระเยซูกำลังอ้างถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านั้นคือ การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ในสามวันต่อมา (ข้อ 39–40) การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นสัญญาณบ่งบอกตัวตนของพระองค์
พระเยซูให้กรณีศึกษาสองเหตุการณ์จากพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม เพื่อแสดงให้เห็นว่าบรรดาฟาริสีมีหลักฐานเพียงพอแล้ว เหตุการณ์แรก เมื่อโยนาห์เทศนาสั่งสอนชาวนีนะเวห์ให้พวกเขากลับใจใหม่นั้น พระเยซูทรงยิ่งใหญ่กว่าโยนาห์ เหตุการณ์ที่สอง ราชินีแห่งเชบาตระหนักถึงปัญญาของกษัตริย์ซาโลมอน สติปัญญาของพระเยซูก็ยิ่งใหญ่กว่าสติปัญญาของซาโลมอน บรรดาฟาริสีและเราจึงไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานอื่นเพิ่มเติม
พระเยซูทรงใช้คำอธิบายถึงการทำงานของวิญญาณชั่วเพื่อเตือนถึงอันตรายจากการหันกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าของเราหลังจากทำความสะอาด ‘บ้าน’ พระเยซูทรงเตือนว่าเมื่อผู้คนหันกลับไปสู่บาปเก่า พวกเขามักจะทำสิ่งที่เลวร้ายหนักกว่าเดิม (ข้อ 43 เป็นต้นไป) และ ‘สภาพที่เลวร้ายกว่าตอนแรก’ (ข้อ 45)
พระวิญญาณบริสุทธิ์คือผู้ที่ขับไล่อำนาจวิญญาณชั่วออกไป (ข้อ 28) ให้คุณสู้รบในสงครามแต่ละวันเพื่อต่อต้านความชั่วร้ายและขอพระเจ้าให้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ การทดสอบว่าหัวใจของคุณดีหรือไม่ ก็ด้วยการดูว่าสิ่งที่ออกมาจากปากของคุณเป็นอย่างไร เพราะเป็นสิ่งที่ล้นออกมาจากภายใน ‘ปากนั้นพูดสิ่งที่มาจากใจ’ (ข้อ 34)
พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า ‘โอ พวกชาติงูร้าย ท่านทั้งหลายเป็นคนชั่วแล้วจะพูดความดีได้อย่างไร? ไม่ใช่พจนานุกรม แต่เป็นหัวใจของท่านต่างหาก ที่หยิบยื่นความหมายกับคำพูดของท่าน’ (ข้อ 34 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) วิธีที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณจะพูดสิ่งที่ถูกต้อง คือ การแน่ใจว่าหัวใจของคุณเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์เติมเต็มหัวใจตลอดเวลาด้วยสิ่งดี ๆ และปกป้องข้าพระองค์จากความชั่วร้าย ข้าพระองค์อธิษฐานในวันนี้ขอทรงโปรดเติมเต็มข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ปฐมกาล 32:1-33:20
ปล้ำสู้กับพระเจ้าในคำอธิษฐาน
คุณกำลังเผชิญกับความกลัว หรือ ความกังวลครั้งใหญ่ในชีวิตของคุณหรือไม่?
ยาโคบเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลอย่างมาก เขาตัดขาดจากเอซาวพี่ชายของเขา และกลัวว่าเอซาวอาจจะมาจัดการตัวเขา ยาโคบอยู่ใน ‘ความกลัวและทุกข์ใจยิ่งนัก’ (32:7)
ยาโคบเป็นนักอธิษฐานแม้ว่าจะทำบาป แต่เขาก็รู้จักพระเจ้า เขารับรู้ถึงความไม่คู่ควรของตัวเอง ‘ข้าพระองค์ไม่สมควรจะรับความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์แม้เล็กน้อยที่สุด ที่พระองค์ประทานแก่ผู้รับใช้ของพระองค์’ (ข้อ 10)
ยาโคบอธิษฐาน เชื่อวางใจ และอ้างพระสัญญาของพระเจ้า ‘ขอพระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากเงื้อมมือพี่ชายข้าพระองค์ แต่พระองค์ตรัสไว้แล้วว่า “เราจะทำดีแก่เจ้าแน่นอนและจะช่วยให้เชื้อสายของเจ้าดุจเม็ดทรายที่ทะเลซึ่งมีมากจนนับไม่ถ้วน”’ (ข้อ 11–12) คำอธิษฐานของเขาได้รับคำตอบเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ด้วยซ้ำ
การอธิษฐานไม่ได้ตรงไปตรงมาเสมอไป ในบางครั้งเราก็เป็นเหมือนยาโคบที่ต้องปล้ำสู้กับพระเจ้า (32:22–32, โคโลสี 4:12) อาจต้องจ่ายราคาแพงในแง่ของเวลาและพลังงาน สิ่งนี้ต้องการความมุ่งมั่น ยาโคบกล่าวกับพระเจ้าว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ท่านไป นอกจากท่านจะอวยพรแก่ข้าพเจ้า’ (ปฐมกาล 32:26) และเราได้ทราบว่านับจากนั้นเขาก็เดินกะเผลก (ข้อ 31)
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ สิ่งที่เทียบเคียงมากที่สุดอาจเป็น ‘หนามในเนื้อ’ ของอัครทูตเปาโล (2 โครินธ์ 12:7) ซึ่งเขาขอให้พระเจ้าให้มันหลุดไปถึงสามครั้ง ความอ่อนแอและความเปราะบางของคุณไม่ได้หยุดที่พระเจ้าจะใช้คุณ อันที่จริงแล้วพระเจ้ามักใช้จุดอ่อนของเรามากกว่าจุดแข็งของเรา พระเจ้าไม่ได้กำจัดหนามในเนื้อของเปาโล แต่พระองค์ตรัสว่า ‘ความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น’ (ข้อ 9)
บางทีคุณอาจรู้สึกว่ามี ‘หนามในเนื้อ’ หรือดูเหมือนว่าคุณกำลัง ‘เดินขากะเผลก’ คุณมีความเปราะบางหรือมีข้อบกพร่องทางกายที่ชัดเจน แจคกี้ พูลลิงเกอร์ กล่าวว่าเธอไม่เคยไว้ใจใครที่ไม่ได้เดินกะเผลก การผ่านความยากลำบาก ความผิดหวัง และการต่อสู้มักจะทำให้หัวใจของเราเปลี่ยนแปลงไป เราเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงในตัวยาโคบหลังจากที่เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า ทัศนคติของเขาที่มีต่อพี่ชายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง (ปฐมกาล 33)
หลังจากที่ได้รับชัยชนะด้วยคำอธิษฐานแล้ว ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทาง พี่น้องได้พบปะกันอีก และมีการคืนดีอันแสนยอดเยี่ยม ‘เอซาววิ่งออกไปต้อนรับ กอดและซบหน้าลงที่คอจูบเขา ต่างก็ร้องไห้’ (ข้อ 4)
ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อกันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เอซาวพูดว่า ‘น้องเอ๋ย ข้ามีมากมายอยู่แล้ว เก็บของของเจ้าไว้เองเถิด’ (ข้อ 9)
ยาโคบตอบว่า ‘ไม่ได้ขอได้โปรดเถิด ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้าแล้ว ขอรับของกำนัลจากมือข้าพเจ้า เพราะแท้จริงเมื่อข้าพเจ้าเห็นหน้าท่านก็เหมือนเห็นพระพักตร์ของพระเจ้า เพราะท่านต้อนรับข้าพเจ้าอย่างดี ข้าพเจ้าขอท่านรับของขวัญที่นำมาให้ท่าน เพราะพระเจ้าทรงกรุณาข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็มีพอเพียงแล้ว’ (ข้อ 10–11)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ตอบคำอธิษฐาน โปรดช่วยข้าพระองค์ทุกคนที่ปล้ำสู้ในการอธิษฐานเหมือนยาโคบ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขออธิษฐานให้พระองค์นำการคืนดีในความสัมพันธ์ทั้งหมดของข้าพระองค์กับพี่น้องในพระคริสต์ ขอให้ปากของข้าพระองค์พูดออกมาจากหัวใจที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด
Pippa Adds
ปฐมกาล 32:1-33:20
ความสัมพันธ์ของยาโคบกับบิดามารดา พ่อตา และพี่ชายยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบมากนัก ถึงอย่างนั้น เราก็ยังเห็นถึงความรักและการจัดเตรียมของพระเจ้าสำหรับพวกเขา หลังจากที่ยาโคบปล้ำสู้กับพระเจ้าในการอธิษฐาน เราเห็นความถ่อมใจที่เกิดขึ้นมาใหม่ในตัวยาโคบ นี่เป็นครั้งแรกที่เราอ่านเจอว่ายาโคบอยากจะเป็นผู้ให้แทนที่จะเป็นแต่ผู้รับ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th