พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 17 จาก 365

5 วิธีในการเติมเต็มศักยภาพของคุณ

ในชีวิตที่หลายคนเข้าไม่ถึงศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ เราจมอยู่กับกิจวัตรประจำวันจนเป็นเรื่องปกติ ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิม ๆ แทนที่จะเปลี่ยนแปลง แต่เราทุกคนมีความปรารถนาที่พระเจ้าประทานให้ดำเนินชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ บางทีคุณอาจจำชีวประวัติที่โด่งดังนี้ได้ |‘ซาโลมอน กรันดี้…เกิดในวันจันทร์… |รับเชื่อวันอังคาร…แต่งงานวันพุธ… |ล้มป่วยในวันพฤหัสบดี...แย่ลงในวันศุกร์... |เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์...ฝังเมื่อวันอาทิตย์... |และนั่นคือจุดจบของซาโลมอน กรันดี้’ สำหรับบางคนนี่เป็นเพียงผลรวมชีวิตของพวกเขา แต่ถึงกระนั้นพวกเราทุกคนต่างรู้สึกลึก ๆ ว่า ‘ชีวิตต้องมีอะไรมากกว่านี้สิ’ พระเยซูตรัสว่า ‘ใช่’ มีศักยภาพมากมายสำหรับเราทุกคน พระเยซูต้องการให้คุณมีชีวิตที่เกิดผลมาก พระองค์ต้องการให้คุณเกิดผล ‘เกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง’ (มัทธิว 13:8) ซึ่งขั้นต่ำคือ 30 เท่า กุญแจสู่ศักยภาพนั้นอยู่ที่ความสัมพันธ์ของคุณกับพระเยซู ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเหมือนพี่น้องหรือแม่ (12:50) คุณสามารถใช้ชีวิตตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงซึ่งสร้างความแตกต่างให้กับโลกนี้ด้วยสิ่งที่คุณได้รับจากพระองค์ (13:11,12,16) ศักยภาพของคุณไม่ได้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนด้วยความทะเยอทะยานหรือความสำเร็จ มันเกี่ยวกับการรับรู้ว่าคุณเป็นใครในพระเจ้า เมื่อคุณแสวงหาพระองค์ และดำเนินชีวิตตามวัตถุประสงค์ของพระองค์ คุณจะเกิดผลมากมาย ยิ่งคุณเริ่มเติมเต็มศักยภาพที่พระเจ้ามอบให้มากเท่าไหร่ พระองค์จะยิ่งมอบความไว้วางใจให้คุณมากขึ้นเท่านั้น พระองค์ต้องการให้คุณมีชีวิตที่สมบูรณ์ (ข้อ 12) ศักยภาพของอิสราเอลดีมาก (ปฐมกาล 35:11) พระเจ้าทรงประสงค์ให้อิสราเอลไม่เพียงแต่ได้รับพระพรเท่านั้น แต่ยังเป็นพระพรแก่ชนชาติอื่น ๆ ด้วย คุณมีศักยภาพแห่งชีวิตที่ได้รับพรที่ยิ่งใหญ่กว่าบุคคลในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม พระเยซูตรัสว่า ‘แต่นัยน์ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็นและหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน เราบอกความจริงแก่พวกท่านว่า ผู้เผยพระวจนะและผู้ชอบธรรมจำนวนมาก ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ แต่ก็ไม่เคยได้เห็น และอยากจะได้ยินสิ่งที่พวกท่านได้ยิน แต่ก็ไม่เคยได้ยิน’ (มัทธิว 13:16–17) พระเยซูเตือนว่า แม้ว่าเราแต่ละคนจะมีศักยภาพมาก แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดรออยู่ข้างหน้า คุณจะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและเติมเต็มศักยภาพของคุณได้อย่างไร?

สดุดี 10:1-11

1. อ่อนน้อมถ่อมตน

ในหนังสือชื่อ การค้นหาความสุข ขั้นตอนความสันโดษเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เจ้าอาวาสคริสโตเฟอร์ เจมิสัน ให้คำจำกัดความของความเย่อหยิ่งว่าเป็น ‘ความสำคัญในตนเอง’ เขาเขียนว่า ‘ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นแนวทางที่ซื่อสัตย์ต่อความเป็นจริงในชีวิตของเราเองและยอมรับว่าเราไม่สำคัญไปกว่าคนอื่น’

ผู้เขียนพระธรรมสดุดีได้เดินทางจากความรู้สึกว่าพระเจ้าทรง ‘ห่างไกล...ในยามลำบาก’ (ตั้งแต่ข้อ 1) ไปสู่การตระหนักรู้ (ตามที่เราจะอ่านในวันพรุ่งนี้) ว่าพระเจ้าทรง ‘พิเคราะห์ดูความลำบาก’ อย่างแน่นอน พระองค์ ‘เงี่ยพระกรรณฟัง’ ‘เสียงร้อง’ ของ ‘คนอนาถา’ และทรงอุปถัมภ์ ‘แก่ลูกกำพร้าและคนที่ถูกบีบบังคับ’ (ตั้งแต่ข้อ 14 เป็นต้นไป)

ในความเป็นจริงคือ ‘คนอธรรม’ (ข้อ 2) ที่พยายามทำตัวห่างเหิน ‘การพิพากษาของพระองค์อยู่สูงพ้นสายตาของเขา’ (ข้อ 5) พวกเขาคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนยากจนซึ่งพวกเขา ‘ดึงเข้าไปในตาข่ายและบดขยี้’ (ข้อ 9–10 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ข้อพระคำเหล่านี้บอกเราเกี่ยวกับหลุมพรางของ ‘ความหยิ่งยโส’ (ข้อ 4)

เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี มันอาจดึงดูดให้เราพูดว่า ‘ข้าจะไม่หวั่นไหว ทุกชั่วชาติพันธุ์ ข้าจะไม่พบความลำบากเลย’ (ข้อ 6) เราอาจถูกล่อลวงให้รู้สึกว่าเราไม่ต้องการพระเจ้า ‘ด้วยความหยิ่งยโส คนอธรรมมิได้แสวงหาพระองค์ ความคิดทั้งสิ้นของเขาคือ “ไม่มีพระเจ้า”’ (ข้อ 4) เป็นเรื่องง่ายที่จะหยิ่งยโส (ข้อ 2) และโอ้อวด (ข้อ 3) พระธรรมสดุดีตักเตือนเราไม่ให้ทำเช่นนั้น และย้ำถึงความจำเป็นที่เราต้องมีพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าให้ข้าพระองค์เย่อหยิ่งจองหองและให้ความสำคัญกับตนเอง ข้าพระองค์ขอทูลต่อพระองค์อย่างสุดหัวใจว่า ข้าพระองค์ต้องการพระองค์และพระองค์ไม่มีวันทอดทิ้งข้าพระองค์

มัทธิว 12:46-13:17

2. ติดตามอย่างใกล้ชิด

ลัทธิเทียมเท็จบางกลุ่มได้บิดเบือนพระวจนะของพระเยซู (12:50) สอนว่าการเป็นคริสเตียนหมายถึงการตัดสัมพันธ์กับครอบครัวของคุณ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นอันตราย แต่ยังไม่เป็นไปตามพระคัมภีร์ด้วย บัญญัติประการที่ห้าคือ ‘จงให้เกียรติบิดาและมารดาของเจ้า’ (อพยพ 20:12) ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เราได้รับคำบอกเล่าว่า ‘ใครก็ตามที่ไม่เลี้ยงดูญาติพี่น้อง และโดยเฉพาะคนในครอบครัวแล้ว คนนั้นก็ปฏิเสธความเชื่อ และชั่วยิ่งกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก’ (1 ทิโมธี 5:8)

แต่พระเยซูแสดงให้เห็นว่ามีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่าความสัมพันธ์ของคุณกับครอบครัว การทรงเรียกสูงสุดของคุณคือ การมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเยซูโดยทำตาม ‘พระประสงค์ของพระบิดา’ (มัทธิว 12:50)

พระเยซูตรัสว่า ‘ใครก็ตามที่ทำตามพระทัยพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา’ (ข้อ 50) คำพูดของพระองค์กล่าวถึงความใกล้ชิด ความคงทนและการยอมรับซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในระดับลึกที่สุด คุณสามารถมีความใกล้ชิดที่น่าอัศจรรย์นี้กับพระเยซู อยู่ใกล้พระองค์ทุกวันแล้วศักยภาพของคุณจะได้รับการเติมเต็ม

3. ลงรากลึก

ประสบการณ์ล้ำลึกในฝ่ายวิญญาณมีความสำคัญมาก แต่หากไม่ลงลึกกับรากฝ่ายจิตวิญญาณ อันตรายจากความคิดตื้นเขินนี้อาจนำไปสู่หายนะ จงระวังข้อผิดพลาดนี้ เราทุกคนสามารถตกอยู่ในความคิดฟุ้งซ่านได้แม้ในขณะที่เรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง

พระเยซูตรัสถึงเมล็ดพืชที่ตกลงบนพื้นดินตื้น ๆ มันผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหี่ยวเฉาเพราะมันไม่มีราก (13:6) พระองค์อธิบายว่าคนที่ไม่มีรากนั้นอยู่ได้ไม่นานเพราะพวกเขาล้มหายตายจากไปเมื่อเกิดปัญหาหรือการข่มเหง (ข้อ 21)

รากฝ่ายจิตวิญญาณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณที่ไม่มีใครมองเห็น นั่นคือชีวิตที่เป็นความลับของคุณกับพระเจ้าซึ่งรวมถึงคำอธิษฐาน การถวายและท่าทีภายในของคุณ หากคุณต้องการเติมเต็มศักยภาพของคุณ ขอให้แน่ใจว่าคุณได้พัฒนารากที่ลึกอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพดีในความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า

4. ปกป้องหัวใจของคุณ

เป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะฟุ้งซ่านไปกับความวุ่นวายในชีวิต หลายสิ่งสามารถเติมเต็มชีวิตของคุณและผลักดันเวลาของคุณให้ห่างจากพระเจ้า คริสตจักร และวิธีอื่น ๆ ที่จะพัฒนารากฝ่ายจิตวิญญาณของคุณได้ นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายกับเราทุกคน

พระเยซูทรงเตือนเรื่องหนามที่ทำให้ต้นอ่อนหายใจไม่ออก (ข้อ 7) ต่อมาพระองค์อธิบายว่า หนามคือ ‘ความกังวลของโลก’ และ ‘การล่อลวงของทรัพย์สมบัติ’ (ข้อ 22)

พระบิดา ขอบคุณพระองค์ที่ทรงเรียกข้าพระองค์เข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเยซู ช่วยให้ข้าพระองค์หยั่งรากลึกลงไปและจับจ้องไปที่พระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ปกป้องความสัมพันธ์นี้ และอย่ายอมให้สิ่งอื่น ๆ แม้แต่สิ่งดี ๆ เข้ามาเบียดเบียนชีวิตของข้าพระองค์

ปฐมกาล 34:1-35:29

5. ชำระตนให้บริสุทธิ์

พระคำที่เราได้อ่านนี้เป็นคำเตือนถึงอันตรายของการแก้แค้นที่ทวีความรุนแรงขึ้น (ดู 1 โครินธ์ 10:11) อาชญากรรมที่น่ากลัวอย่างหนึ่ง (การข่มขืนดีนาห์ ปฐมกาล 34:2) นำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง การแก้แค้นเป็นสิ่งที่ไม่คู่ควร คนของพระเจ้า ‘ก็ถือดาบเข้าไปในเมืองที่ไม่มีการป้องกัน ฆ่าผู้ชายในเมืองทุกคน...พวกเขาฆ่า...จับบุตรภรรยาของคนเหล่านั้นทั้งหมดไปเป็นเชลย’ (ข้อ 25–29)

ผลที่ตามมาคือหายนะ ยาโคบพูดว่า ‘เจ้าทำให้พ่อเดือดร้อน โดยทำให้พ่อเป็นที่เกลียดชังของคนดินแดนนี้ พ่อมีผู้คนน้อยนัก ถ้าพวกนั้นรุมโจมตีพ่อ ก็จะทำให้พ่อและครอบครัวถูกทำลาย’ (ข้อ 30) การกระทำของสิเมโอนและเลวีถูกประณามโดยรอบเนื่องจากความรุนแรงความดุร้ายและความโหดร้าย (ดู 49:5–7)

การแก้แค้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความผิดพลาดของสิเมโอนและเลวีเท่านั้น มันเป็นการทดลองใจสำหรับเราทุกคน เมื่อผมขุ่นเคือง ผมต้องการแก้แค้น ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมการแก้แค้นถูกกำหนดอย่างชัดเจน ‘ชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน’ เป็นต้น (อพยพ 21:23–24) พระเยซูทรงกำหนด (โดยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ทำให้เป็นไปได้) มาตรฐานที่สูงขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณในวันนี้ด้วยการให้อภัยและรักศัตรูของคุณ

จอยซ์ ไมเออร์ ซึ่งมักพูดถึงการทารุณกรรมอันเลวร้ายที่เธอต้องทนทุกข์เมื่อตอนเป็นเด็กเขียนว่า ‘คุณเคยตกเป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์เหมือนกับดีนาห์ไหม? ฉันมั่นใจได้ว่าแม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดพระเจ้าก็ประทานพระคุณที่จะให้อภัยเราเพื่อให้เราดำเนินชีวิตต่อไปได้’

ยาโคบพูดกับครอบครัวของเขาว่า ‘จงทิ้งพวกพระต่างด้าวที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้าเสีย ชำระตัว และเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่ม’ (ปฐมกาล 35:2) พระเจ้าทรงปรากฏต่อยาโคบ (เปลี่ยนชื่อเป็นอิสราเอลข้อ 10) และกล่าวว่า ‘เราเป็นพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ เจ้าจงเกิดผู้คนทวีมากขึ้น ประชาชาติหนึ่งและหลายประชาชาติจะเกิดมาจากเจ้า’ (ข้อ 11)

ศักยภาพเป็นสิ่งทิ่ยิ่งใหญ่มาก ดังที่ ริค วอร์เรน กล่าวว่า ‘ในการทำพันธกิจ ความบริสุทธิ์ในชีวิตส่วนตัวเป็นแหล่งพลังของส่วนรวม’ สิ่งนี้เป็นจริงสำหรับเราทุกคนไม่ว่าเราจะปฏิบัติงานในครอบครัวที่ทำงานชุมชน หรือคริสตจักร หากเราต้องการสร้างผลกระทบอันทรงพลังเพื่อพระคริสต์ในโลกเราต้องเป็นคนที่บริสุทธิ์

พระเจ้าขอบคุณที่ศักยภาพสำหรับชีวิตของข้าพระองค์มีมากมาย ขอให้ข้าพระองค์เกิดผล 30 เท่า 60 เท่า หรือ 100 เท่าของที่หว่าน

Pippa Adds

‘ไฉนจึงซ่อนพระองค์เสียในยามลำบาก’ (สดุดี 10:1) พระเจ้ามักจะดูเหมือนห่างไกลและห่างไกลในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในปฐมกาล 35:3 ยาโคบกล่าวว่า ‘พระเจ้าผู้ทรงตอบข้าในวันที่ข้ามีความทุกข์ใจ และทรงอยู่กับข้าในทางที่ข้าไปนั้น’ แม้ว่าบางครั้งเรารู้สึกว่าพระองค์ไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่พระองค์ก็อยู่ และอยู่กับเราทุกที่ที่เราไป

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 16วันที่ 18

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th