พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
ใช้คำพูดของคุณอย่างไรให้ดี
หากคุณรวบรวมคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ จะมีมากกว่า 1,000,000 คำในภาษาอังกฤษ คนทั่วไปรู้คำศัพท์ประมาณ 20,000 คำ และใช้คำศัพท์ 2,000 คำต่อสัปดาห์ และทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะพูดประมาณ 16,000 คำต่อวันโดยเฉลี่ย คำพูดของคุณมีความสำคัญ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่จำนวนคำที่คุณพูด แต่เป็นประเภทของคำที่คุณเลือกและจุดประสงค์ที่คุณใช้ อัครสาวกยากอบ บอกเราว่า แม้ว่า “ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็ก ๆ แต่คุยอวดในเรื่องใหญ่โต” (ยากอบ 3:5) ในข้อความสำหรับวันนี้เราจะเห็นว่าคุณสามารถใช้คำพูดของคุณได้อย่างไรเช่นเดียวกับที่อัครสาวกยากอบได้อธิบาย ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ในแต่ละวันคุณมีศักยภาพมากที่อาจจะทำลายหรือเสริมสร้าง ในข้อความของเราสำหรับวันนี้เราเห็น*กุญแจหกประการ*ในการใช้คำพูดของคุณให้เป็นประโยชน์สุภาษิต 4:1-9
1. ฟังคำพูดที่ชาญฉลาด
ผมไม่อยากถึงจุดจบของชีวิตและมองย้อนกลับไปด้วยความเสียใจกับการตัดสินใจที่ทำไป สติปัญญาช่วยให้คุณตัดสินใจในตอนนี้เพื่อที่คุณจะมีความสุขในภายหลัง
ในข้อนี้เราเห็นคุณค่าของการเรียนรู้จากคำพูดที่ชาญฉลาดและการสอนของผู้อื่น “จงยึดถ้อยคำของพ่อไว้ให้มั่น จงรักษาบัญญัติของพ่อ จงเอาปัญญาและจงเอาความรอบรู้ อย่าลืมและอย่าหันจากถ้อยคำแห่งปากของพ่อ” (ข้อ 4–5) ความเต็มใจที่จะเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญของปัญญา แม้ว่าจะต้องเรียนรู้อย่างหนัก แต่ก็มีค่ามหาศาล “ปัญญาเป็นสิ่งสูงสุด ดังนั้นจงเอาปัญญา ไม่ว่าเจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความรอบรู้ไว้” (ข้อ 7ข)
ณ จุดนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ของคนหนุ่มจากคนแก่ บิดาสอนบุตรชายของตนว่า “จงฟังคำสั่งสอนของพ่อ (ข้อ 1) เด็ก ๆ จะได้รับการสนับสนุนให้เรียนรู้จากพ่อแม่ให้มากที่สุด พ่อแม่มีความรับผิดชอบที่จะส่งต่อสติปัญญาให้กับลูก ๆ ให้มากที่สุด
ตลอดชีวิตของคุณเรียนรู้คุณค่า เห็นคุณค่า และยอมรับมัน (ข้อ 8) อย่างที่ยายของผมเคยพูดว่า “วันที่ฉันหยุดเรียน ฉันขอตายดีกว่า”
ไม่เพียงพอที่จะฟังคำพูดที่ชาญฉลาด และมีชีวิตอยู่ ข้อ 2,4,5ข) การนำถ้อยคำของพระเจ้าไปปฏิบัติและคุณจะได้รับสติปัญญา
หากคุณได้รับปัญญาและความเข้าใจนี้ “เธอจะทำให้ชีวิตของคุณรุ่งโรจน์ เธอจะประดับชีวิตของคุณด้วยความสง่างาม เธอจะเติมเต็มวันของคุณด้วยความงาม” (ข้อ 8–9 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เติบโตในสติปัญญาและความเข้าใจ โดยการอ่านและฟังคำพูดที่ชาญฉลาด และนำคำสอนของพระองค์ไปปฏิบัติในชีวิตของข้าพระองค์
มัทธิว 24:1-31
2. ยึดมั่นในถ้อยคำของพระเยซู
โลกจะสิ้นสุดเมื่อใด? จะลงเอยอย่างไร? คำตรัสของพระเยซูที่มีต่อเหล่าสาวกเกี่ยวกับอนาคต พระองค์ทรงตอบคำถามของพวกเขาเกี่ยวกับการล่มสลายของกรุงเยรูซาเล็ม (ซึ่งเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 70) และเกี่ยวกับเวลาสิ้นสุด (คำถามอยู่ในมัทธิว 24:2) ข้อความอาจดูสับสนเนื่องจากเป็นการยากที่จะแยกประเด็นทั้งสองออกจากกัน จุดประสงค์ของพระเยซูไม่ได้มีไว้เพื่อกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอนาคต แต่เพื่อช่วยให้สาวกของพระองค์ไม่ต้องกังวลหรือฟุ้งซ่านกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
พระเยซูตรัสในตอนท้ายของหัวข้อนี้ (ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้และจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้) ว่า “ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่บรรดาถ้อยคำของเราจะไม่สูญหายเลย” (ข้อ 35) มีความไม่แน่นอนมากเกี่ยวกับเวลาสิ้นสุด อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่ชัดเจน
- จะมีการกล่าวข้ออ้างคำเท็จมากมาย (ข้อ 4–5,23–26)
- จะมีการเปลี่ยนแปลงการประหัตประหาร การแบ่งแยกและแม้กระทั่งการล้มหายตายจากไป (ข้อ 6–12)
- ความรักในร่างกายที่ยิ่งใหญ่ของผู้คนจะเย็นชา (ข้อ 12 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
- เมื่อเกิดขึ้นจริง ทุกคนจะเห็นได้ชัด (ข้อ 27–31)
ครั้งแรกพระเยซูมาด้วยความอ่อนแอ ครั้งที่สองที่พระองค์มาพระองค์ทรงจะกลับมาด้วยฤทธานุภาพ (ข้อ 27,30–31)
ในขณะที่คุณรอพระเยซูเสด็จกลับมา จงยึดมั่นในถ้อยคำของพระองค์และอย่ายอมให้ความรักของคุณ “เย็นชาลง” (ข้อ 12) เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องทำให้หัวใจของคุณลุกเป็นไฟด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ จดจำรักแรกของคุณ (วิวรณ์ 2:4) ดังที่ จอยส์ ไมเออร์ เขียนว่า “กระตุ้นความรักในชีวิตของคุณ ต่อคู่สมรสและต่อครอบครัวเพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงาน เข้าถึงผู้อื่นที่กำลังทำร้ายและต้องการความช่วยเหลือ อธิษฐานเผื่อผู้คนและอวยพรพวกเขา จงเติบโตจนถึงจุดที่หนึ่งในความคิดแรกของคุณทุกเช้า คือเกี่ยวกับวิธีที่คุณจะอวยพรคนอื่นในวันนั้น”
3. มองเห็นคำทำนาย
“คำทำนาย” เป็นของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตั้งใจฟังถ้อยคำของ “ศาสดาพยากรณ์” ข้อความนี้เตือนเราถึงความสำคัญของคำพยากรณ์ที่แท้จริง (แม้ว่าจะไม่มีคำพยากรณ์ในยุคปัจจุบันที่จะมีอำนาจในระดับเดียวกับคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์ก็ตาม)
เราจำเป็นต้องแยกความแตกต่างระหว่างคำทำนายจริงและเท็จ พระเยซูทรงเตือนผู้เผยพระวจนะเท็จที่ “จะปรากฎตัวและล่อลวงผู้คนจำนวนมาก” (มัทธิว 24:11) พระองค์ทรงเตือนว่าผู้เผยพระวจนะเท็จจะพยายามหลอกลวงผู้คนโดยอ้างว่า “เราคือพระคริสต์” (ข้อ 4-5) ผู้คนจะพูดว่า “นี่แน่ะ พระคริสต์อยู่ที่นี่ หรือ อยู่ที่โน่น” (ข้อ 23) พระเยซูทรงเตือนเราว่าอย่าเชื่อพวกเขา พวกเขาคือ “พระเมสสิยาห์ปลอมและนักเทศน์ที่โกหก [ที่] จะปรากฎขึ้นทุกที่” (ข้อ 24 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ในทางกลับกันพระเยซูทรงรับรองถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะที่แท้จริง พระองค์ประกาศว่าถ้อยคำที่ “ตามพระวจนะที่กล่าวโดยดาเนียล” (ข้อ 15) จะสำเร็จ (ดูดาเนียล 9:27; 11:31; 12:11) พระองค์อ้างจากผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ (ดูอิสยาห์ 13:10; 34:4) “ดวงอาทิตย์จะมืดไปและดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง ดวงดาวทั้งหลายจะตกจากฟ้าสวรรค์และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจในฟ้าสวรรค์จะถูกทำให้หวั่นไหว” (มัทธิว 24:29)
ในความเป็นจริง คำอธิบายของพระองค์เกี่ยวกับการเสด็จกลับมาของพระองค์ (ข้อ 27 เป็นต้นไปดูโดยเฉพาะข้อ 30) พระองค์กำลังอ้างโดยปริยายว่าเป็นบุตรมนุษย์ที่เป็นพระเมสสิยาห์ตามที่ดาเนียลพยากรณ์ไว้ (ดูดาเนียล 7:13)
4. พูดคำที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
ถ้อยคำของพระเยซูเปลี่ยนชีวิตของผมโดยสิ้นเชิงเมื่ออายุผมสิบแปดปี ตั้งแต่นั้นมาผมก็เฝ้าดูด้วยความสุขและมักจะประหลาดใจในฤทธิ์เดชของถ้อยคำของพระองค์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่น
ระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกของพระเยซูและการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ เราได้รับมอบหมายให้นำข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงชีวิตโดยพระกิตติคุณไปสู่คนทั้งโลก “ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลกให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:14)
ถ้อยคำของพระกิตติคุณมีพลังและเปลี่ยนแปลงชีวิต อัครสาวกเปาโลเขียนว่า “ข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อ” (โรม 1:16) อย่ายอมแพ้กับการประกาศพระกิตติคุณ คุณมีสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่จะได้รับความไว้วางใจด้วยคำพูดที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในรูปแบบที่จริงจัง สำหรับชีวิตนี้และไปสู่นิรันดร์
ข้าแต่พระเจ้าขอบคุณพระองค์ที่ถ้อยคำของพระองค์เป็นนิรันดร์ ขอบคุณสำหรับสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ที่ข้าพระองค์สามารถใช้คำพูดที่ทรงพลังที่สุดในโลกเพื่อดูชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงโดยพระเยซู ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ใช้ทุกโอกาส เพื่อส่งข้อความนี้ไปยังผู้คนให้ได้มากที่สุด
โยบ 35:1-37:24
5. หลีกเลี่ยงการพูดที่ไม่มีสาระ
การโจมตีทางวาจาของเอลีฮูยังคงดำเนินต่อไปโดยมีส่วนผสมของความเท็จและความจริงครึ่งเดียว เขากล่าวว่า 'ข้าพเจ้ามิใช่คำเท็จ' (36:4) จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็น เขาแนะนำว่าบาปของเราไม่ส่งผลกระทบต่อพระเจ้า (35:6) ในความเป็นจริงบาปของเรามีผลต่อพระเจ้า ดังที่เราเห็นอย่างยิ่งใหญ่ที่กางเขนของพระคริสต์
ช่างน่าขัน เขากล่าวบางอย่างที่ดูเหมือนจะเข้าตัวเขาเอง แต่ไม่เป็นจริงในตัวโยบ เขากล่าวว่า “เพราะฉะนั้น โยบจึงอ้าปากพูดคำลม ๆ แล้ง ๆ และทวีคำพูดโดยปราศจากความรู้“ (ข้อ 16) (“โยบ คุณพูดเรื่องไร้สาระอย่างแท้จริง เรื่องไร้สาระไม่หยุดหย่อน” ข้อ 16 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับวาจาของเอลีฮู เป็นการพูดเปล่า ๆ โดยปราศจากความรู้และ 'มากความ' ที่เอลีฮูวิพากษ์วิจารณ์โยบ
ความจริงแล้ว เราทุกคนสามารถพูดเรื่องไร้สาระได้ ไม่ใช่พูดไม่ได้ แต่เราควรตระหนักถึงผลกระทบต่อชีวิตของผู้อื่นทางลิ้น คุณอาจมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ คุณอาจมีชื่อเสียงหรือตำแหน่งที่ใหญ่โตหรือไม่มี แต่คุณมีอำนาจและศักยภาพที่มาจากความสามารถในการสื่อสารด้วยคำพูด
6. นำถ้อยคำของพระเจ้าไปปฏิบัติ
เอลีฮูพูดหลายอย่างในข้อนี้เกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า (37:4–13) ขอบคุณที่พระเจ้าทรงตรัสด้วยตัวของพระองค์เอง โล่งใจที่สุด! ที่เรามีบทต่อจากบทปลอบโยนจอมปลอมและถ้อยคำที่ว่างเปล่า เราอยู่ในโลกเช่นนี้ เป็นความโล่งใจเมื่อพระเจ้าตรัส ซึ่งพระวจนะของพระเจ้าเป็นเหมือนมานาจากสวรรค์และน้ำในทะเลทราย
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงให้คำพูดที่ข้าพระองค์พูดในวันนี้ได้รับการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ข้าทรงโปรดปกป้องริมฝีปากของข้าพระองค์และปกป้องลิ้นของข้าพระองค์ ขอบคุณที่พระองค์ทรงตรัสกับข้าพระองค์และถ้อยคำของพระองค์มีพลังและเปลี่ยนแปลงชีวิตได้เป็นอย่างมาก ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ได้ยินถ้อยคำของพระองค์ ที่ข้าพระองค์จะนำไปพูดและนำไปปฏิบัติได้
Pippa Adds
ฉันพบว่า เอลีฮูเป็นคนน่าเบื่อ!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th