พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง
ปราศจากความกลัว
ในระดับหนึ่ง ความกลัวจัดเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อเรา ‘ความกลัว’ คือ อารมณ์ที่เกิดจากการรับรู้ถึงภัยคุกคาม เป็นอารมณ์ตามธรรมชาติของมนุษย์ เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ มันเป็นกลไกการอยู่รอดขั้นพื้นฐาน ทำให้เรามีชีวิตอยู่ ช่วยปกป้องเราให้พ้นจากอันตราย อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งที่เป็นความกลัวที่ไม่เป็นผลดีต่อเรา ภาษากรีกที่ใช้กันโดยทั่วไปในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ คือ *โฟโบส* ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ‘โฟเบีย’ (โรคกลัว – ผู้แปล) สิ่งนี้คือความกลัวที่ไม่เป็นผลดีต่อเรา มันไม่มีความสอดคล้องกับอันตรายที่เกิดขึ้น แต่เป็น ‘หลักฐานเท็จที่ดูเสมือนจริง’ เป็นช่วงที่เราประสบภัยพิบัติ อยู่ในสภาวะการประเมินภยันตรายที่สูงเกินไปและการประเมินความสามารถในการรับมือของเราที่ต่ำเกินไป โรคกลัวที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคกลัวที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การเงิน ความล้มเหลว ความชรา ความตาย ความเหงา การถูกปฏิเสธ ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย การพูดในที่สาธารณะ การบิน ความสูง งู และแมงมุม นอกจากนี้ยังรวมถึงสิ่งต่าง ๆ เช่น สิ่งที่ตอนนี้เรียกว่า โฟโม โรคกลัวที่จะพลาดสิ่งที่คนฮิต หรือตกข่าวที่เป็นกระแสสังคม ในชีวิตของผมนั้น ผมเคยเผชิญกับความกลัวมากมาย ตั้งแต่กลัวความสูงไปจนถึงการกลัวจนเสียขวัญ และความกลัวที่ไร้เหตุผลอื่น ๆ ทั้งความกลัวเกี่ยวกับการเทศนา และความกลัวที่จะทำสิ่งใดที่อาจทำให้พระนามของพระเยซูเสื่อมเสียพระเกียรติ ในขณะที่พระวิญญาณของพระเจ้าไม่ได้สร้างความกลัวในแง่ลบ แต่ก็เป็นความกลัวแบบหนึ่งที่ส่งผลดี นั่นคือ *ความเกรงกลัวพระเจ้า* นี่ไม่ได้หมายถึงการหวาดกลัวพระเจ้า แต่แท้จริงแล้วมีความหมายตรงกันข้าม คือ เป็นความเข้าใจว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ใดในความสัมพันธ์กับเรา หมายถึงความเคารพนับถือ ความเคารพ ความยำเกรง การให้เกียรติ ความชื่นชม และการบูชา มันอาจแปลได้อีกว่า *ความรักต่อพระเจ้า* เป็นการรับรู้ถึงพลัง ความยิ่งใหญ่ และความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ สิ่งนี้นำไปสู่ความเคารพยำเกรงต่อพระเจ้า และเป็นยาแก้พิษของความกลัว ซึ่งรวมถึงความหวาดกลัวอื่น ๆ ที่เราพบในชีวิต จงยำเกรงพระเจ้าแล้วคุณจะไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งอื่นใด หรือผู้ใด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พบว่าเมื่อความยำเกรงพระเจ้าจะลดลงในสังคมของเรา ความกลัวอื่น ๆ ต่างก็เพิ่มขึ้น เราจำเป็นอย่างยิ่งต้องกลับไปมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า คำว่า *‘อย่ากลัวเลย’* เป็นหนึ่งในคำสั่งที่พบได้บ่อยที่สุดในพระคัมภีร์ สำหรับวันนี้ ข้อความของเราจะกล่าวถึงเรื่อง ราว 4 เหตุการณ์สุภาษิต 1:20-33
ไม่ต้องกลัวอันตราย
ข้อความนี้กล่าวถึงกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยง ‘ความหวาดกลัวและความตื่นตระหนก’ (ข้อ 26 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) และการใช้ชีวิตแบบ ‘ไม่กลัวสิ่งร้ายใด ๆ’ (ข้อ 33 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
แนวความคิดเรื่อง ‘ความยำเกรงพระเจ้า’ เป็นหนึ่งในแก่นสำคัญของพระธรรมสุภาษิตและถูกกล่าวถึงยี่สิบเอ็ดครั้งตลอดทั้งเล่ม เป็นทางเลือกที่คุณตัดสินใจด้วยตนเอง หากคุณฉลาดคุณจะ ‘เลือกที่จะยำเกรงพระเจ้า’ (ข้อ 29) และ ‘ฟัง’ พระองค์ พระองค์สัญญาว่าคุณ ‘จะอยู่อย่างปลอดภัยและอยู่อย่างสงบสุข ไม่กลัวสิ่งร้ายใด ๆ’ (ข้อ 33)
ในพระธรรมสุภาษิต ปัญญาเป็นบุคคล (ข้อ 20) เมื่อเราอ่านผ่านเลนส์ของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ เราก็จะรู้ว่าพระเยซูคือ ‘พระปัญญาของพระเจ้า’ (1 โครินธ์ 1:24)
พระธรรมบทนี้ (สุภาษิต 1: 20–32) เป็นคำเตือนเรา ไม่ให้เพิกเฉยต่อพระสุรเสียงของพระเจ้า แล้วไปติดตามวิถีแห่ง ‘ความเอาแต่ใจ และ ‘ความพึงพอใจ’ (ข้อ 32)
แต่ จงเลือกที่จะยำเกรงพระเจ้า ฟังพระองค์ และกลับใจเมื่อพระองค์ทรงปรับปรุงแก้ไขคุณ ถ้าคุณเลือกเช่นนั้น พระเจ้าจะเปิดเผยให้คุณมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ ‘ข้า [ปัญญา] จะเทความคิดของข้าให้เจ้าทั้งหลาย ข้าจะให้ถ้อยคำของข้าแจ้งแก่พวกเจ้า’ (ข้อ 23 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ปัญญาจะเปิดเผยขุมทรัพย์แห่งปัญญาที่ซ่อนอยู่ในพระคัมภีร์แก่คุณ จงเลือกยำเกรงพระเจ้า แล้วคุณจะ ‘อยู่ในพระหัตถ์ที่แสนดี’ (ข้อ 33 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และปราศจากความกลัวในอันตรายใด ๆ
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เลือกที่จะเกรงกลัวพระองค์ ดำเนินชีวิตด้วยความเคารพยำเกรงและเกรงกลัวในอำนาจ ความสง่าผ่าเผย และความบริสุทธิ์ของพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะใช้ชีวิตเกรงกลัวพระองค์เพียงผู้เดียว
มัทธิว 10:1-31
ไม่กลัวผู้คน
พระเยซูตรัสถึงสามครั้งในพระธรรมบทนี้ ว่า 'อย่ากลัวเลย' (ข้อ 26, 28, 31)
บริบทของเรื่อง คือ พระเยซูทรงส่งสาวกออกไปประกาศพระกิตติคุณและรักษาผู้คนที่เจ็บป่วย ในขณะที่พระเยซูเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์ พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปทำพันธกิจ (การฝึกอบรมทางศาสนศาสตร์ควรจะนำไปปฏิบัติได้จริง!)
พระองค์ส่งพวกเขา (และพวกเราด้วย) ให้ทำตามอย่างที่พระองค์ทรงกระทำให้ดู:
เพื่อประกาศว่า: ‘แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว’ (ข้อ 7)
เพื่อสำแดงให้เห็นจริง: ‘การรักษาคนป่วย’ (ข้อ 8)
ขณะที่พระเยซูส่งเราออกไป พระองค์เตือนเราว่าเราจะต้องเผชิญกับการต่อต้านมากมาย ‘เราใช้ท่านทั้งหลายไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางพวกหมาป่า’ (10:16) เราจำเป็นต้องมีสติปัญญาที่บริสุทธิ์ (‘เฉลียวฉลาดเหมือนงู และไม่มีพิษมีภัยเหมือนนกพิราบ’ (ข้อ 16)
เราอาจถูกต่อต้านโดย ‘สภาในท้องถิ่น’ (ข้อ 17) เผชิญกับความเกลียดชัง (ข้อ 22) ถูกข่มเหง (ข้อ 23) และถูกเรียกว่าปีศาจ (ข้อ 25) ในบริบทนี้พระเยซูตรัสถึงสามครั้งว่า ‘อย่ากลัวเลย’ (ข้อ 26, 28, 31)
1.อย่ากลัวว่าจะพูดอะไร
พระเยซูตรัสว่า ‘อย่ากลัวเขา’ (ข้อ 26) คุณไม่จำเป็นต้องกลัวคนอื่น ไม่ว่าพวกเขาจะมีอำนาจมากเพียงใด (ตัวอย่างเช่น สภาท้องถิ่น ผู้ว่าการ และกษัตริย์ ในข้อ 17–18) 'โดยที่คนเหล่านั้นไม่รู้ตัว พวกเขาได้ทำให้คุณและผมเป็นที่โปรดปราน และให้คุณมีเวทีสำหรับการประกาศข่าวเรื่องแผ่นดินสวรรค์! และไม่ต้องกังวลว่าคุณจะพูดอะไรหรือจะพูดอย่างไร เพราะคุณจะได้รับถ้อยคำที่เหมาะสมในเวลานั้น โดยพระวิญญาณของพระบิดาของท่านจะเป็นผู้ประทานให้ (ข้อ 17–18 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
2.อย่ากลัวว่าคนอื่นจะทำอะไรกับคุณ
พระเยซูตรัสว่าแทนที่จะกลัวผู้ที่สามารถ ‘อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่สามารถฆ่าจิตวิญญาณ’ คุณควรกลัวพระเจ้า ‘ผู้ทรงสามารถทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้’ (ข้อ 28) จงมีความยำเกรงต่อองค์พระผู้เจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด และขณะเดียวกันทรงเป็นผู้เปี่ยมด้วยความรักอย่างที่สุด ‘แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงสามารถทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้’ (ข้อ 28 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
3.อย่ากลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณ
พระเยซูตรัสว่าถ้าคุณเกรงกลัวพระเจ้า คุณก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวใครและอะไรอื่นอีก พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมสูงสุด ‘นกกระจาบสองตัวเขาขายหนึ่งอาส์ซาริอัน ไม่ใช่หรือ? แต่ถ้าพระบิดาของท่านไม่โปรด นกเหล่านั้นจะไม่ตกลงถึงดินแม้แต่ตัวเดียว (ข้อ 29) พระองค์ไม่เพียงแต่ทรงควบคุมทุกสิ่งได้ แต่พระองค์ยังรักคุณอย่างสุดซึ้ง ‘แม้ผมของท่านทั้งหลาย ก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น เพราะฉะนั้นอย่ากลัวเลย พวกท่านก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว (ข้อ 30–31 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) พระเยซูใส่พระทัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณมากกว่าที่คุณเป็น (ข้อ 30 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงเห็นคุณค่าในข้าพระองค์ และทรงรักข้าพระองค์อย่างมากมาย โปรดช่วยให้ข้าพระองค์รู้จักความรักของพระองค์ ที่จะเชื่อวางใจในพระองค์ และไม่กลัวสิ่งใด
ปฐมกาล 25:1-26:35
ไม่กลัวความตาย
\t\t ชีวิตไม่เคยง่ายดายเลย และไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายสำหรับอิสอัค เพราะท่ามกลางความยากลำบากอื่น ๆ เขารอคอยการกำเนิดของบุตรชายเป็นระยะเวลาถึงยี่สิบปี (25:20–26) จากนั้น เมื่อฝาแฝดเกิดก็มีการต่อสู้แข่งขันกันเองระหว่างพี่น้อง อิสอัคอาศัยอยู่ท่ามกลางชาวฟีลิสเตียซึ่งไม่เป็นมิตร และบุตรชายคนหนึ่งของเขากลายเป็น ‘แหล่งแห่งความเศร้าโศก’ (26:35) เป็น ‘หนามยอกอกของอิสอัคและเรเบคาห์’ (ข้อ 35 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
อิสอัคทำบาปเช่นเดียวกับบิดาของเขา คือการเสแสร้งทำทีว่าภรรยาของเขานั้นเป็นน้องสาว (ข้อ 7–11) อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าอิสอัคได้เรียนรู้จากความผิดพลาดบางอย่างของอับราฮัมผู้เป็นพ่อ เมื่อเรเบคาห์ไม่สามารถมีบุตรได้ เขาตอบสนองไม่เหมือนกับอัมราฮัมที่พยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองด้วยการมีความสัมพันธ์กับนางฮาการ์ อิสอัคตอบสนองด้วยการอธิษฐานอ้อนวอนขอการอัศจรรย์ต่อพระเจ้า (25:21)
พระเจ้าทรงปรากฏต่ออิสอัคและทรงสัญญาว่า ‘เราจะอยู่กับเจ้าและอวยพรเจ้า…ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้รับพรก็เพราะเชื้อสายของเจ้า’ (26: 3–4)
ถึงอย่างนั้น อิสอัคก็รู้สึกกลัว เขากลัวว่าตัวเองอาจจะตาย ‘คนเมืองนี้จะฆ่าฉันเพื่อแย่งเอาเรเบคาห์’ เพราะว่านางสวยงาม... เพราะข้าพระบาทคิดว่า ‘ไม่อย่างนั้นข้าพระบาทจะตายเพราะนาง’ (ข้อ 7, 9ข)
พระเจ้าตรัสกับอิสอัคว่า ‘อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า’ (ข้อ 24) อิสอัคกลัวผู้คนมากกว่าที่กลัวพระเจ้า แต่เขาก็ได้รับการเตือนใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวคนอื่นเพราะว่าพระเจ้าอยู่กับเขา จงจดจำความจริงเดียวกันนี้ เมื่อคุณถูกล่อลวงให้กลัว พระเจ้าประทับอยู่กับคุณ และถ้าพระเจ้าอยู่กับคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครหรือสิ่งใดเลย
แม้ว่าอิสอัคจะกลัวคนอื่น แต่พระเจ้าก็ทรงอวยพรเขา พระเจ้าตรัสว่า ‘จะอวยพรเจ้า และทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น...’ (ข้อ 24) พระพรของพระเจ้า หมายความถึงการเติบโต การเก็บเกี่ยวผล หลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คือสิ่งที่พระองค์ประสงค์สำหรับชีวิตคุณด้วย
‘อิสอัคขุดบ่อน้ำซึ่งขุดไว้ในสมัยของอับราฮัมบิดาของท่านอีก เพราะหลังจากอับราฮัมตายแล้ว ชาวฟีลิสเตียก็ถมเสีย’ (ข้อ 18) (บางทีเหตุการณ์ที่เปรียบได้กับสำหรับเรา คือ การเปิดคริสตจักรที่เคยปิดไปแล้ว ให้กลับมาเป็นแหล่งน้ำที่มีชีวิตอีกครั้ง!) เมื่ออิสอัคเผชิญกับการต่อต้านและถูกห้ามไว้ เขาก็เดินต่อไปอีกจนกว่าจะพบบ่อน้ำอีกแห่งที่เขาสามารถขุดบ่อน้ำที่ปิดไปแล้วได้อีกครั้ง ด้วยวิธีนี้เอง พระเจ้าทรงประทานความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เขา (ข้อ 22)
สิ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย แต่ขอให้จดจำสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับคุณ ‘อย่ากลัวเลยเพราะเราอยู่กับเจ้า’ (ข้อ 24)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับพระสัญญาว่าทรงอยู่กับข้าพระองค์ ขอบคุณที่ทรงตรัสซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ถ้ากลัวพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรหรือใครอื่น
Pippa Adds
ปฐมกาล 26:34
ดูเหมือนอิสอัคและเอซาวจะมีความแตกต่างกันอย่างมากในวิธีเลือกภรรยา สำหรับอิสอัคแล้ว การอธิษฐานและหมายสำคัญต่าง ๆ จำนวนมาก ทำให้ได้พบกับสตรีแห่งความเชื่อผู้นี้ ในขณะที่เอซาวดูเหมือนจะเลือกอย่างไม่ฉลาด และนี่เป็น ‘แหล่งแห่งความเศร้าโศกขมขื่นของอิสอัคและเรเบคาห์’
เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องเลือกสามีหรือภรรยาที่เหมาะสมและที่จะอธิษฐานเพื่อตัวเราเอง ลูกๆ และเพื่อนๆ ของเรา ที่จะให้พระเจ้าจะนำพวกเขาไปพบคนที่เหมาะสมและพวกเขาจะแต่งงานกันในความเชื่อ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ
พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง
More
เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th