พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 13 จาก 365

เร่งให้สุดแรงแบบพระเจ้า

ไม่กี่ปีก่อนพิพพาและผมถูกขอให้พูดในการประชุมที่เมืองซัมเมอร์เซ็ต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ การเดินทางจากลอนดอนใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง อย่างไรก็ตามมันเป็นวันที่อากาศร้อนจัดและข้างหน้าเรามีรถบรรทุกฟางแห้งเกิดติดไฟ เศษฟางที่ลุกไหม้ไฟได้ร่วงหล่นบนถนนมอเตอร์เวย์ เราจึงติดอยู่บนถนนจนแทบจะจอดสนิทเป็นเวลาถึงห้าชั่วโมง มันเป็นความรู้สึกโล่งใจเมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ และในที่สุดก็*ถึงเวลาเร่งให้สุดแรง*เสียที มีหลายครั้งเมื่อเรารู้สึกว่าติดขัดและไม่สามารถก้าวไปต่อได้ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้กับชีวิตส่วนตัวของเรา ในคริสตจักรของเรา และการรับใช้ของเรา ในบางครั้งความรู้สึกนี้จะเริ่มปรากฏขึ้นและถึงเวลาที่ต้อง 'เร่งให้สุดแรง'เสียที พระเจ้าสามารถกระตุ้นทุกสิ่งทุกอย่างให้เร็วขึ้นเกินกว่าที่มนุษย์จะสามารถทำได้

สดุดี 9:1-6

เตรียมพร้อมรับการข่มเหง

การเร่งให้สุดแรงอาจต้องพบกับแรงต้านที่เพิ่มขึ้น ยิ่งคุณตกเป็นเป้าสายตามากเท่าไหร่ คุณจะได้รับคำวิจารณ์มากขึ้นเท่านั้น คนของพระเจ้าเผชิญการข่มเหงมาโดยตลอด ดาวิดเผชิญหน้ากับ ‘ศัตรู’ มากมาย (สดุดี 9:3-6) ความเป็นปฏิปักษ์และการเป็นศัตรูกันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและยากลำบากอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามในพระเยซูคริสต์คุณได้รับพระสัญญาว่าในที่สุดคุณจะเอาชนะได้

เราเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้านี้ในเพลงสดุดี ดาวิดสรรเสริญพระเจ้าสำหรับชัยชนะ ‘ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ด้วยสุดใจ ข้าพระองค์จะเล่าถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์ ข้าพระองค์จะยินดีและปรีดาปราโมทย์ในพระองค์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระนามของพระองค์ เมื่อพวกศัตรูของข้าพระองค์หันกลับ…’ (ข้อ 1-3)

เรายังคงอยู่ในโลกที่เป็นศัตรูกัน พระเยซูเตือนว่า ‘อย่าคิดว่าเรามาเพื่อทำให้ชีวิตสบาย ๆ’ (มัทธิว 10:34 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล ) พระเยซูตรัสว่า ‘อย่าแปลกใจกับการถูกข่มเหง’

จงเป็นผู้สร้างสันติ (5:9, 38-48) คุณถูกเรียกให้ทำลายวงจรของการแก้แค้น อย่างไรก็ตามการข่มเหงอาจมาจากคนที่อยู่ใกล้ชิดคุณ (10:34–36)

ในปัจจุบันผู้ติดตามพระเยซูหลายล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับการถูกทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะสิ่งที่พวกเขาเชื่อ บางคนเผชิญกับการถูกคุมขัง และการเลือกปฏิบัติจากรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ

คุณอาจไม่ได้เผชิญกับการข่มเหงเช่นนี้ในชีวิตของคุณ แต่คุณควรเตรียมพร้อมรับการข่มเหงทุกด้าน ไม่ว่าจะมาจากสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อนและครอบครัวที่ไม่เข้าใจในความเชื่อของคุณ หรือเพื่อนร่วมงานที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณเชื่อ

ข้าแต่พระเจ้า เมื่อข้าพระองค์เผชิญกับการข่มเหง ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระยาห์เวห์ด้วยสุดใจ ข้าพระองค์จะเล่าถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์ ข้าพระองค์จะยินดีและปรีดาปราโมทย์ในพระองค์ (สดุดี 9:1–2ก)

มัทธิว 10:32:-11:15

โอบกอดด้วยใจที่เสียสละ

พระเยซูเรียกร้องให้สาวกเต็มใจสละทุกสิ่งเพื่อเห็นแก่พระองค์ ‘ใครที่รักบิดามารดายิ่งกว่ารักเรา ก็ไม่มีค่าควรกับเรา และใครที่รักบุตรชายหญิงยิ่งกว่ารักเราคนนั้นก็ไม่มีค่าควรกับเรา’ (10:37) ความรักของคุณที่มีต่อพระเยซูควรจะมากกว่าความรักที่คุณมีต่อคนใกล้ชิดที่สุด

พระเยซูตรัสอีกว่า ‘และใครที่ไม่รับกางเขนของตนและตามเราไป คนนั้นก็ไม่มีค่าควรกับเรา ผู้ที่จะเอาชีวิตของตนรอด จะกลับเสียชีวิต แต่ผู้ที่เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราจะได้ชีวิตรอด’ (ข้อ 38–39) บางทีนี่อาจเป็นความหมายที่อัครทูตเปาโลเรียกร้องให้เรา ‘ถวายร่างกาย (ของเรา) เป็นเครื่องบูชาบริสุทธิ์ที่มีชีวิต’ (โรม 12:1)

นี่คือวิธีที่คุณจะค้นพบพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ ‘พระประสงค์ที่ดีของพระองค์เป็นความปรารถนาที่น่าพึงพอใจและสมบูรณ์แบบ’ (ข้อ 2) ถ้าคุณต้องการให้พระเจ้าใช้คุณมากขึ้น และถ้าคุณต้องการเร่งให้สุดแรง คุณต้องเต็มใจที่จะเสียสละเช่นนี้

ไม่มีอะไรที่คุณทำในการรับใช้พระเยซูจะสูญเปล่า พระเยซูตรัสว่า ‘ยกตัวอย่างเช่น การให้น้ำเย็นถ้วยหนึ่งแก่คนที่กระหายน้ำ การให้หรือรับสิ่งที่เล็กน้อยที่สุดนี้จะฝึกคุณให้เป็นคนเล็กน้อยที่เชื่อถือได้ คุณจะไม่เสียบำเหน็จเลย’ (มัทธิว 10:42 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

มาร์ตินแห่งตูร์ (ค.ศ. 316–397) เป็นบิชอปแห่งเมืองตูร์ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ ค.ศ. 371 ในคืนหนึ่งที่อากาศหนาวเย็นมาก เขาขี่ม้าผ่านขอทาน มาร์ตินลงจากหลังม้าฉีกเสื้อคลุมของเขาเป็นสองตัวและมอบครึ่งหนึ่งให้กับขอทาน คืนนั้นมาร์ตินฝันว่าเขาเห็นพระเยซูสวมเสื้อคลุมที่ขาดเป็นสองท่อนบนไหล่ของเขา เมื่อถูกถามว่ามาจากไหนพระเยซูตอบว่า ‘มาร์ตินผู้รับใช้ของเราให้กับเรา’

ในพระธรรมมัทธิวก็เช่นกัน การเสียสละที่พระเยซูกล่าวถึงอาจเป็นเพียงการบ่งบอกถึงพระองค์ในโลกที่เป็นศัตรูกัน พระองค์ตรัสว่า ‘เพราะฉะนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ แต่ผู้ใดจะไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะไม่ยอมรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ด้วย’ (ข้อ 32–33)

‘การยอมรับ’ พระเยซูอาจนำไปสู่การข่มเหงและความยากลำบาก แต่สำหรับสาวกรุ่นแรกจำนวนมากหมายถึงการแบกกางเขนและติดตามพระองค์อย่างแท้จริง (ข้อ 38) แม้กระทั่งถึงความตาย สำหรับเราการจ่ายราคาอาจแตกต่างกัน แต่เราได้รับการเรียกร้องให้มีพันธสัญญาที่มั่นคงกับพระเยซูเช่นเดียวกัน

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เกิดความเต็มใจรับกางเขนของข้าพระองค์และติดตามพระองค์ วันนี้ข้าพระองค์ขอมอบร่างกายของข้าพระองค์เป็นเครื่องถวายบูชาที่มีชีวิต

ปฐมกาล 27:1-28:22

สนุกกับความท้าทาย

เห็นได้ชัดว่านักแข่งรถฟอร์มูล่าวันต้องมีความพร้อมทั้งสมรรถนะและร่างกายที่แข็งแรงเป็นพิเศษเนื่องจากร่างกายต้องพร้อมรับแรงปะทะในขณะแข่งขัน

หากเราต้องการเห็นการเร่งในการพัฒนาอาณาจักรของพระเจ้า พระเยซูตรัสว่าจำเป็นต้องมีคนที่เข้มแข็ง (มัทธิว 11:12) (คำแปลบางฉบับใช้คำว่า ‘ดุเดือด’ แทนที่จะเป็น ‘เข้มแข็ง’ อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชอบคำแปลนี้และการตีความเชิงบวก) คนเหล่านี้ไม่ล้มเลิกเมื่อพบการข่มเหงหรือมีความจำเป็นต้องสละบางสิ่ง ในความเป็นจริงพวกเขาสนุกกับความท้าทาย

เมื่อเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ คริสตจักรมีตัวอย่างของบุรุษและสตรีมากมายที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราด้วยชีวิตที่กระตือรือร้น มีชีวิตชีวาและขับเคลื่อนเชิงรุก พวกเขาถูกใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก ตลอดประวัติศาสตร์อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยผู้คนที่เข้มแข็ง เต็มล้นด้วยพระวิญญาณยึดมั่นเอาไว้

พระเยซูตรัสว่า ‘และตั้งแต่สมัยยอห์นผู้ให้บัพติศมาถึงทุกวันนี้ แผ่นดินสวรรค์ก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรง และพวกที่รุนแรงพยายามชิงเอาให้ได้’ (มัทธิว 11:12) บริบทของคำเหล่านี้คือยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งอยู่ในคุกกำลังถามว่าพระเยซูเป็นผู้ที่พยากรณ์ไว้หรือไม่ ที่จริงพระเยซูตรัสตอบว่า ‘ดูที่หลักฐาน’ (ข้อ 4–5)

พระเยซูกล่าวต่อไปว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีชีวิตอยู่ต่อหน้าพระเยซูและคริสตจักรของเขา (ข้อ 11) ยอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นศาสดาพยากรณ์คนสุดท้ายของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (ข้อ 13) เราเห็นตัวอย่างมากมายในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมของบุรุษและสตรีที่ 'เข้มแข็ง' เหล่านี้ (ข้อ 12)

ยาโคบเป็นคนที่เข้มแข็ง หลังจากนั้นเราจะอ่านว่าเขามีความเข้มแข็งในทางที่ดีอย่างไร โดยตั้งใจที่จะแสวงหาพระพรของพระเจ้า (ปฐมกาล 32:22–32) อย่างไรก็ตามในข้อนี้เราเห็นว่าธรรมชาติที่เข้มแข็งของเขาทำให้เขาทำผิดได้อย่างไร เขาตั้งใจอย่างยิ่งที่จะได้รับพรจากพ่อ เขารู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ใช้การหลอกลวงเพื่อให้ได้มา (บทที่ 27)

เรเบคาห์มารดาของยาโคบก็เป็นสตรีที่เข้มแข็งเช่นกัน เธอไม่เพียงแต่แสดงความลำเอียงต่อยาโคบ แต่เธอยังเกี่ยวข้องกับการสมรู้ร่วมคิดเพื่อหลอกลวงอิสอัคด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือความบาดหมางในครอบครัวอย่างน่าตกตะลึงซึ่งยาวนานหลายศตวรรษ

มันเป็นเรื่องที่ดูไม่ยุติธรรมและเราอาจจะสงสัยว่าควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ตัวอย่างที่ถูกที่ควรทำ

แม้จะมีทุกอย่าง แผนการและจุดประสงค์ของพระเจ้าก็ยังคงดำเนินต่อไป พระสัญญาของพระเจ้าต่ออับราฮัมและลูกหลานของเขายังคงดำเนินต่อไป พระสัญญานี้ถูกส่งต่อไปถึงยาโคบ (28:13–15) ตรงตามที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ก่อนที่พี่น้องคู่นี้จะเกิด (25:23) หากทุกคนแสดงความเศร้าโศกและความเสียใจอย่างเปิดเผยและให้เกียรติกัน ความบาดหมางนี้ก็อาจหลีกเลี่ยงได้

เกือบทุกสิ่งในเหตุการณ์เหล่านี้และคนเหล่านี้มีข้อบกพร่อง แต่พระเจ้าก็ยังคงทำงานผ่านสถานการณ์เหล่านี้ ผมรู้สึกโล่งใจมากที่รู้ว่าพระเจ้าผู้สมบูรณ์แบบสามารถใช้คนที่ไม่สมบูรณ์แบบได้

พระเจ้าทรงอวยพรยาโคบ อิสอัคบิดาของเขาให้พรแก่เขา (28:3–4) ต่อมาพระเจ้าตรัสกับยาโคบในความฝัน เขาเห็นบันไดที่ทอดยาวจากพื้นโลกสู่สวรรค์พร้อมกับทูตสวรรค์ของพระเจ้าที่กำลังขึ้นและลงอยู่บนนั้น (ข้อ 12) มีทางเปิดระหว่างสวรรค์และโลกสำหรับเราทุกคน พระเจ้าตรัสกับยาโคบว่า ‘พงศ์พันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจะได้รับพรเพราะเจ้าและเพราะเชื้อสายของเจ้า เราอยู่กับเจ้า และจะพิทักษ์รักษาเจ้าทุกแห่งหนที่เจ้าไป’ (ข้อ 14ก–15ข)

พระเจ้าทรงใช้บุรุษและสตรีที่เข้มแข็งเหล่านี้ อับราฮัมและซาราห์ อิสอัคและเรเบคาห์ ยาโคบและราเชล แต่พระเยซูตรัสว่าไม่มีผู้ใดที่ยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ให้บัพติศมา และยอห์นผู้ให้บัพติศมาไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าผู้ติดตามที่เล็กน้อยที่สุดของพระเยซูในยุคสมัยของอาณาจักรสวรรค์ รวมถึงคุณด้วย

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงอยู่กับข้าพระองค์และคอยดูแลข้าพระองค์ทุกที่ที่ข้าพระองค์ไป ช่วยให้ข้าพระองค์ถูกนับรวมอยู่กับผู้คนที่มีพลังเข้มแข็งเหล่านั้นที่ชื่นชมยินดีไปกับความเบิกบานใจ ความตื่นเต้นและความท้าทายของชีวิตที่ติดตามพระเยซู

Pippa Adds

ปฐมกาล 27

การหลอกลวงและการโกหกไม่ได้สร้างความสามัคคีในครอบครัวมากนัก

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)
วันที่ 12วันที่ 14

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th